Chapter 30 : วิธีจัดการกับพวกน่ารำคาญ
กลับกลายเป็นว่ามันต้องใช้ความชำนาญในการมัดผมของเด็กผู้หญิง แม็กซ์มองดูผมของเอมี่ที่เขาทำจนยุ่งเหยิงและดึงมือของเขากลับมาด้วยความอับอาย “ลูกปล่อยผมก็ดีเหมือนกันนะ” แม็กซ์บ่นพึมพำ
“แต่ครูลูน่าถักเปียได้น่ารักมาก” เอมี่เงยหน้ามองแม็กซ์แล้วกระพริบตาของเธออย่างน่าสงสาร
“อะแฮ่ม เราเตรียมตัวออกไปข้างนอกกันดีกว่า ไปดูกันว่าเราจะหาซื้อลูกเป็ดขี้เหร่ให้เอมี่ได้มั้ย” แม็กซ์ทำเป็นกระแอมออกมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ
“ลูกเป็ดขี้เหร่ ! หนูอยากได้ลูกเป็ดขี้เหล่ ! พ่อไปกันเถอะ !” เอมี่เร่ง เธอเลิกกังวลเรื่องผมของเธอในทันที
แม็กซ์หวีผมของเอมี่ให้เรียร้อย มันยังมีผมสองเส้นยื่นออกมาแต่เขาก็แกล้งทำเป็นว่าเขาไม่เห็นพวกมัน เวลาเปิดร้านยังไม่หมด ดังนั้นเขาจึงต้องให้เอมี่รอไปก่อน ในระหว่างนั้นเขาก็สอนสูตรคูณให้กับเธอต่อจากเมื่อวาน
“พ่อไม่มั่นใจว่าเราจะหาลูกเป็ดขี้เหร่ได้ ถ้าเราหาไม่ได้ เราค่อยลองไปดูกันครั้งหน้าดีมั้ย ?” แม็กซ์พูดกับเอมี่ในขณะที่เขากำลังปิดประตูร้าน
เอมี่พยักหน้า “ได้เลย หนูรู้แล้ว” เธอมีความสุขมากเพราะเธอกำลังจะได้ไปซื้อลูกเป็ดขี้เหล่ และมันก็นานมากแล้วตั้งแต่ที่พ่อของเธอเคยพาเธอออกไปข้างนอก เธอสามารถจับมือที่มีขนาดใหญ่และอบอุ่นของเขาได้อีกครั้ง
“ไปกันเถอะ” แม็กซ์จับมือเล็กๆของเอมี่เอาไว้ เขาเองก็มีความสุขมากเมื่อเขาได้เห็นรอยยิ้มของเธอ
การแสดงออกที่ไม่มีความสุขของเอมี่ก่อนหน้านี้ทำให้เขารู้สึกปวดใจมากจนอดไม่ได้ที่จะถามระบบว่า “ระบบ นายมีแพ็คประสบการณ์เกี่ยวกับการมัดผมขายมั้ย ? เหมือนกับข้าวผัดหยางโจวน่ะ นายมีขายมั้ย ?”
เขาต้องทำหน้าที่แม่เช่นเดียวกันกับหน้าที่พ่อ ดังนั้นเขาจึงต้องเรียนรู้วิธีการมัดผมเอาไว้
“ให้ระบบเตือนคุณอีกครั้ง ! อย่าดูถูกระบบด้วยคำถามดังกล่าว ! ระบบไม่ขายแพ็คประสบการณ์ใดๆทั้งสิ้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำอาหาร !” ระบบดูเหมือนจะโกรธขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉันจะให้ 10 เหรียญทอง”
ระบบไม่ตอบรับ
“ไม่เหรอ ? แล้ว 30 เหรียญทองล่ะ ?”
ระบบก็ยังไม่พูดอะไร
“100 เหรียญทองเป็นข้อเสนอสุดท้ายของฉันแล้ว ลองคิดดูก็แล้วกัน” แม็กซ์พูดอย่างใจเย็น
ระบบเงียบไปซักพัก ทันใดนั้นก็มีใบเสนอราคาปรากฏขึ้นมาในหัวของแม็กซ์ แพ็คประสบการณ์สำหรับการมัดผม ราคา 120 เหรียญทอง
“โทษทีนะ ไม่ใช่ตอนนี้หรอก ฉันยังมีเงินไม่พอ” แม็กซ์พูดขึ้นด้วยความรู้สึกผิดเมื่อมองไปที่แพ็คประสบการณ์นั้น ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าระบบมีมันและฉันจะสามารถหาเงินได้ในไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะทำทรงผมที่ทำให้เอมี่กรี๊ดด้วยความตื่นเต้น แม็กซ์รู้สึกดีขึ้นมากเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้
“...” แม็กซ์ไม่สนใจความรู้สึกของระบบเลย ระบบสนใจแต่เรื่องเงินเท่านั้น
ลานเอเด็นนั้นเป็นศูนย์กลางธุรกิจของเมืองเคออสและยังเป็นศูนย์กลางของเมืองอีกด้วย อาคารในในลานรูปพระจันทร์เสี้ยวนี้โค้งไปรอบๆลาน ร้านอาหารห่างจากขอบอีกฝั่งประมาณ 2,000-3,000 กม. มันมีร้านแปลกๆทุกประเภทอยู่ที่นี่
ดังนั้นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองจึงมักจะพูดว่า ใครๆก็สามารถหาซื้ออะไรก็ตามจากที่นี่ได้ถ้ามันมีอยู่ในทวีปและพวกเขามีเงินมากพอ
แน่นอนว่ามันฟังดูเกินจริงไปสักหน่อย แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าเอเดนสแควร์มีความเจริญรุ่งเรืองมากแค่ไหน
พวกเขาไม่ได้เดินไปไกลนักเมื่อเอมี่พยายามซ่อนตัวอยู่ข้างหลังแม็กซ์ “พ่อ นกสีดำตัวนั้นน่ารำคาญมาก” เธอพูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่กรงนกสองกรงที่แขวนเอาไว้ที่ด้านนอกร้านขายยาวิเศษ
“โอ้ ?” แม็กซ์มองไปในทิศทางนั้นด้วยความแปลกใจ ร้านยาวิเศษนี้อยู่ห่างจากร้านอาหารของเขาแค่ 5-6 ร้านเท่านั้น เจ้าของร้านในความทรงจำของเขาคือนักเวทย์มนุษย์แก่ๆสูงและผอม หลังที่ค่อมนิดๆ เขาไม่ค่อยได้คุยกับคนอื่นมากนักและสนใจแค่การเล่นกับนกทั้งสองและสอนให้มันพูดคำแปลกๆออกมา
นกตัวหนึ่งคืออีกาดำ อีกตัวคือนกแก้วที่มีขนสีเขียวและจะงอยสีแดง พวกมันโดดไปมาอยู่ในกรง เมื่อพวกมันเห็นแม็กซ์กับเอมี่ หลังจากนั้นพวกมันก็หยุดและคอยจับตาดูพวกเขา
“โอ้...เจ้าตัวน้อยที่น่าเกลียด ตอนนี้แกกำลังเดินเข้าอยู่หน้าหน้าวังที่วิเศษของฉันอีกแล้ว ครั้งนี้ฉันจะให้แกคุกเข่าและคำนับฉันสามครั้งแล้วฉันจะภาวนาให้แกดูเหมือนเอลฟ์กว่าเดิมในอนาคต” อีกาดำพูดขึ้นมาเบาๆ มันมองมาที่เอมี่ด้วยความไม่พอใจและเชิดหน้าของมันขึ้น
“แกนั่นแหละที่น่าเกลียด เจ้านกดำ” เอมี่พูดด้วยความโกรธ เธอกำหมัดน้อยๆของเธอแน่น หลังจากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองแม็กซ์ด้วยความไม่มั่นใจ “พ่อ เอมี่น่าเกลียดงั้นเหรอ ?”
แม็กซ์ส่ายหน้าและยิ้มออกมา “ไม่เลย ! เอมี่น่ะสวยมาก พี่สาวเอลฟ์คนนั้นก็พูดเหมือนกันเลยเมื่อวานนี้ จำไม่ได้เหรอ ?” จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่อีกาแล้วพูดว่า “ดูสิ นกโง่นั่นต่างหากคือคนที่ที่น่าเกลียด”
ใบหน้าของแม็กซ์นั้นมีรอยยิ้มแต่สายตาของเขานั้นกลับไม่ใช่ อีกาโง่ แกกล้าพูดแบบนั้นกับเอมี่ได้ยังไง ? ฉันพยายามเพิ่มความมั่นใจให้กับเธออยู่แท้ๆ ! ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่มันล้อเลียนเอมี่
นกแก้วพยักหน้าตอบรับ “ใช่ เขาน่ะน่าเกลียดมาก แต่เขากลับเอาแต่พูดว่าตัวเองดูดีทุกวันเลย น่ารำคาญมาก” เธอพูดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เสียงของเธอฟังดูเหมือนกับสาวใช้
“มนุษย์ อย่าชี้นิ้วที่ต่ำต้อยแบบนั้นมาที่ฉัน อย่าคิดว่าฉันจะกลัวแกเพียงเพราะแกหายจากการเป็นคนพิการและกลายเป็นคนครึ่งพิการแล้ว...” อีกาหันไปหาแม็กซ์แล้วพูดขึ้น
แม็กซ์มองเอมี่ด้วยรอยยิ้ม “เอมี่ ลูกยังจำลูกไฟที่ลูกใช้เมื่อวานได้มั้ย ?”
เอมี่พยักหน้า “หนูจำได้” เอมี่มองแม็กซ์ด้วยความสับสนเล็กน้อย
“วิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดการกับพวกปากมากนั่นก็คือทำให้พวกเขาหุบปากซะ ให้เขาได้ลองชิมลูกไฟของลูกหน่อย” แม็กซ์พูดด้วยรอยยิ้ม
อย่างไรก็ตามอีกานั้นยังคงหยิ่งผยองยิ่งกว่าเดิม “มีอะไรที่จะทำให้ฉันกลัวได้ ? กรงนี้น่ะได้รับการป้องกันด้วยเวทมนต์ของชายชรา นอกจากนี้ฉันเองก็ยังจำคาถาของลูกไฟได้...”
แต่ก่อนที่อีกาจะพูดจบ ลูกไฟสีม่วงก็ปรากฏขึ้นมาในมือของเอมี่
“ไม่ต้องท่องคาถาเลยเหรอ ?” อีกาถูกทำให้ประหลาดใจขึ้นมา
เอมี่โยนลูกไฟออกไปแล้วมันก็ห่อหุ้มกรงไว้ทั้งหมด
“ฉันไม่...ช่วย...ช่วยด้วย !” การป้องกันเวทมนต์ที่ด้านนอกกรงนั้นถูกเผาทันทีและต่อจากนั้นซี่เหล็กก็เริ่มละลาย ไฟสีม่วงเผาตัวอีกาในทันทีและทำให้มันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
แม็กซ์รู้สึกทึ่งเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เอมี่ใช้ลูกไฟเวทมนต์ลูกไฟของเธอกับคนอื่นและเธอทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ลูกไฟยังมีพลังมากกว่าที่เคยคิดเอาไว้ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน
เขายิ้มแล้วจับมือของเอมี่แล้วเดินต่อไป “จำไว้นะเอมี่ สำหรับคนแบบนี้ให้โยนลูกไฟใส่ได้เลย”
เอมี่พยักหน้าตอบรับ “ได้เลยค่ะพ่อ” เธอจับนิ้วของแม็กซ์เอาไว้แล้วส่ายมันไปมาอย่างร่าเริงและมีความสุข เพราะเธอได้แก้แค้นอีกาโง่ที่เอาแต่ว่าเธอมาหลายครั้ง ฉันไม่ต้องกังวลว่าจะโดนว่าอีกเมื่อฉันออกมากับพ่อ
“ไฟ ! ช่วยด้วย !” นกแก้วร้องออกมาอย่างลนลาน
ชายแก่ตัวผอมรีบเดินออกมาอย่างเร่งรีบ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อเห็นกรงนกที่ถูกไฟไหม้ จากนั้นเขาก็รีบท่องคาถาและโยนบอลน้ำเข้าใส่มัน
ไม่นานไฟก็ดับลง กลิ่นหอมๆของเนื้อย่างลอยคลุ้งไปทั่ว อีกาไร้ขนถึงกับต้องยืนตัวสั่นอยู่บนกิ่งในกรงซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ด้านใน มันเอาปีกกุมเป้าเอาไว้พร้อมกับมีควันดำลอยออกมาจากตัว “พระเจ้า ! ชุดคลุมที่ล้ำค่าของฉันพังหมดแล้ว...” มันร้องออกมา