บทที่ 283 : ความต้องการของต้วนหลิงเทียน!
สีหน้าท่าทางของต้วนหลิงเทียนตอนนี้นั้นบิดเบี้ยวไปไม่น้อย ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่อะไร นอกจากพุ่งไปฉีกปาก ไอพวกศิษย์สายนอกที่พล่ามมากทั้งหลายนี่ ...
"ฮึ่ม!" ทันใดนั้นเองกลับมีเสียงสบถด้วยความไม่พอใจแสนเย็นชามากจากที่ไกลๆ เมื่อทุกคนหันมา ก็พบร่างชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังก้าวอาดๆมา ด้วยทีท่าไม่พอใจ
"อาวุโสจ้าวหลิน!"
...
เหล่าศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนที่อยู่รอบๆ พลันเงียบปากเมื่อเห็นอาวุโสจ้าวหลิน หามีผู้ใดกล้ากล่าวคำสืบต่อไป...
"พวกเจ้ามารวมตัวกันที่นี่ทำอะไร?"จ้าวหลินขมวดคิ้วก่อนที่จะกวาดสายตามองไปรอบๆ แน่นอนว่าย่อมสังเกตเห็นต้วนหลิงเทียน นั่นทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย และเขาก็หันมองไปยัง เหวียนหวู่และฮั่วซินที่เผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียน
ต่อมาก็หันไปจับจ้องยังกลุ่มศิษย์ที่กล่าววาจายั่วยุให้เกิดเรื่องราว
แล้วก็วกกลับมาจับจ้องเหวียนหวู่กับฮั่วซินอีกครั้ง
ตอนนี้เองใบหน้าของเหวียนหวู่กับฮั่วซินก็ซีดลงซ้ำยังเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ ...
สำหรับพวกเขาแล้ว หากต้วนหลิงเทียนมีความสัมพันธ์กับอาวุโสจ้าวหลินจริงๆดั่งข่าวลือ พวกเขาต้องประสบเคราะห์กรรมแน่แล้ว
"ดูเหมือนศิษย์พี่ฮั่วซินกับเหวียนหวู่จักถึงคราเคราะห์เสียแล้ว"
"มิผิด ผู้อาวุโสจ้าวหลินย่อมออกตัวช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนเป็นแน่ การประลองเป็นตายคงมิมีแล้ว"
เหล่าศิษย์ส่วนมากล้วนคิดเช่นนี้ พวกมันคิดว่าเหวียนหวู่กับฮั่วซินไม่น่ารอดแน่แล้ว
"เหวียนหวู่ เจ้าคิดที่จะท้าต้วนหลิงเทียนขึ้นเวทีประลองเป็นตายงั้นรึ?"จ้ าวหลินจับจ้องไปยังเหวียนหวู่ก่อนที่จะกล่าวถามออกมา หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวคร่าวๆจากบทสนทนา
ประกายแสงในดวงตาของมันเรืองวูบออกมา หากนี่เป็นจริง นั่นเท่ากับตัวมันได้โอกาส ที่จะหยั่งตื้นลึกหนาบางต้วนหลิงเทียนแล้วั ...
เพราะมันเองก็บังเกิดความสนใจต่อวิชาบ่มเพาะ คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูก อะไรนั่นไม่น้อย
มันต้องการล่วงรู้ว่า ผลของการกำเนิดใหม่จากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูก จะเหมือนกันกับการกำเนิดใหม่ของนมผา 10,000 ปี ที่สามารถยกระดับพรสวรรค์และศักยภาพของผู้ฝึกยุทธ์ให้อยู่ในจุดสูงสุดหรือไม่ ...
หากมันสามารถพิสูจน์ได้ว่าทั้ง 2 มีความละม้ายคล้ายกัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร! มันต้องแย่งชิงคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกจากต้วนหลิงเทียนมาให้ได้!
ตอนนี้เองเหวียนหวู่ก็มีสีหน้าซีดลงเมื่อโดนจ้าวหลินถาม มันคิดว่าจ้าวหลินคิดเล่นงานมันแล้ว "อาวุโสจ้าวหลิน ขออภัยด้วย ข้าน้อยผิดไปแล้ว ... ข้าไม่ล่วงรู้มาก่อนว่า ต้วนหลิงเทียนเป็นบุรุษของท่าน... "
"บัดซบ! ว่ากระไร ต้วนหลิงเทียนเป็นบุรุษของข้า?" ใบหน้าของจ้าวหลินมืดลง พร้อมกล่าวคำด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด "เจ้ายังจักเชื่อข่าวลือบัดซบนั่นด้วยหรือ?"
เหวียนหวู่รู้สึกตะลึงงัน มันไม่คิดว่าปฏิกิริยาตอบสนองของอาวุโสจ้าวหลินจะร้ายแรงเช่นนี้
"ฮึ่ม!" จ้าวหลินม้องไปยังเหวียนหวู่ด้วยสายตาไม่พอใจ “หากเจ้ายังกังวลเกี่ยวกับข้าล่ะก็เจ้าสบายใจได้ ข้ากับมันหาได้มีสัมพันธ์อันใดทั้งสิ้น ไม่ว่ามันจะอยู่หรือตายล้วนมิเกี่ยวข้องอันใดกับข้า! หากเจ้ากับต้วนหลิงเทียนมีความแค้นที่มิอาจเลิกรากันจริง เช่นนั้นเจ้าก็สามารถท้ามันขึ้นเวทีประลองเป็นตายได้ อันที่จริงเวทีประลองเป็นตายของขุนเขาเทียนเฉวียนนี่ก็มิได้เห็นโลหิตมานานแล้ว ข้าเองก็ยังหวังที่จักเห็นเช่นกัน”
ซูด!
คำกล่าวจ้าวหลินดั่งทุ่ม 1 หินก่อเกิดพันระลอกคลื่น!
กลุ่มศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนล้วนตะลึงอย่างมาก
"อะไร นี่เป็นไปได้หรือไม่ ...ว่าจริงๆแล้ว อาวุโสจ้าวหลิน มิได้มีสัมพันธ์ใดกับต้วนหลิงเทียน?"
“ในเมื่ออาวุโสจ้าวหลินกล่าวออกมาแล้วว่า ต้วนหลิงเทียนจักอยู่หรือตาย ก็มิมีใดเกี่ยวข้องกับเขา แล้วพวกเขายังจักมีสัมพันธ์ใดกันอีกเล่า ... ?”
"มิผิด หากเป็นเจ้า จักยอมให้คนรักขึ้นไปเสี่ยงชีวิตบนเวทีประลองเป็นตายรึ?"
ถึงแม้คำที่จ้าวหลินกล่าวนี้ จะทำให้ต้วนหลิงเทียนรำคาญไม่น้อย เนื่องจากมันแทบจะเป็นการกระตุ้นให้เหวียนหวู่ ท้าทายเขาขึ้นลานประลองเป็นตาย
แต่จะอย่างไรตอนนี้ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจ้าวหลินก็จบสิ้นแล้ว นั่นทำให้เขาโล่งใจไปเปราะหนึ่ง!
มันไม่สำคัญอะไรหากคนอื่นจะเข้าใจเขาผิดๆในเรื่องอื่น!
แต่เรื่องบัดซบนี่…
เขาไม่เต็มใจให้ผู้อื่นเข้าใจผิดอย่างถึงขีดสุด!!
ประกายตาของเหวียนหวู่เรืองวูบขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวของจ้าวหลิน มุมปากของเขาแสยะยิ้มชั่วร้ายในทันใด
ฮั่วซินที่ยืนอยู่ข้างๆก็เผยรอยยิ้มราวปีศาจออกมาเช่นกัน
ดูเหมือนว่าในที่สุดพวกมันก็จักได้ระบายแคค้นตามต้องการแล้ว ...
ต้วนหลิงเทียนที่สังเกตเห็นรอยยิ้มแสยะของเหวียนหวู่และฮั่วซิน เขาเองก็บังเกิดรอยยิ้มเย็นชาราวปีศาจเช่นกัน
หากเหวียนหวู่มันคิดวุ่นวายกับเขาจริงๆ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเขาไร้เมตตาแล้ว!
ในใจต้วนหลิงเทียนดั่งมีระเบิดเพลิงเผาไหม้ลุกโชนอยู่ มันพร้อมที่จะระเบิดปะทุได้ทุกเวลา
ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็เห็นเหวียนหวู่ย่างสามขุมเข้ามาตรงหน้า พร้อมจ้องเขาตาเขม็ง "ต้วนหลิงเทียน ตกลงเจ้าคิดเสร็จสิ้นแล้วหรือไม่? เจ้าเลือกที่จักขึ้นเวทีประลองเป็นตายกับข้าแล้วจบเรื่องราวนี้ให้พ้นๆไปเสีย หรือเจ้าต้องการให้ข้ากับเหวียนหวู่ค่อยๆทรมานเจ้าอย่างช้าๆ?"รอยยิ้มแห่งชัยชนะบังเกิดขึ้นที่มุมปากเหวียนหวู่ ราวกับต้วนหลิงเทียนยามนี้เป็นเพียงเนื้อบนเขียงรอให้มันสับ
เมื่อเหวียนหวู่กล่าวคำท้าประลองเป็นตายอีกครั้ง ประกายตาของศิษย์ขุนเขาเทียนเฉวียนก็พลันเบนมาตกที่ต้วนหลิงเทียน
พวกมันไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะยอมรับ
เพราะจากทั้งหมดเหวียนหวู่ก็เป็นศิษย์สายนอกที่มีระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ส่วนต้วนหลิงเทียนยังเป็นเพียงศิษย์สายนอกคนใหม่ที่พึ่งเข้าร่วมนิกายเท่านั้น อายุของมันเองก็มีเพียงแค่ราวๆ 20 ปี
เท่าที่พวกเขารู้อายุราวๆนี้สมควรมีระดับบ่มเพาะเพียงกำเนิดแก่นแท้ขั้นแรกเท่านั้น
จ้าวหลินที่ยืนห่างๆ จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาเรียบเฉย
ก็อย่างที่เขากล่าว ว่าต้วนหลิงเทียนจักอยู่หรือตายมิมีใดเกี่ยวข้องกับเขา
สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงการยืนยันว่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกที่ต้วนหลิงเทียนฝึกฝน มันเพิ่มพรสวรรค์และศักยภาพในเชิงยุทธ์ของผู้ฝึกหรือไม่ ...
"ต้วนหลิงเทียน!" ฮั่วซินมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาชั่วร้าย “หากเจ้าปฏิเสธล่ะก็ ครั้งหน้าที่ข้าเจอเจ้า ข้าจะป่นกระดูกทั่วร่างของเจ้า ก่อนที่จะปล่อยให้เจ้ารักษาตัวจนหายดี และข้าจะกลับมาป่นมันอีกครั้ง ...อย่างหวังว่าในอนาคตเจ้าจักได้มีเวลาบ่มเพาะเพิ่มพูนพลังอันใด เพราะเจ้าจักต้องเสียเวลาทั้งชีวิตไปกับการรักษาตัว!!"
ศิษย์สายนอกของขุนเขาเทียนเฉวียนที่อยู่รอบๆ เมื่อได้ฟังวาจานี้ของฮั่วซินก็บังเกิดความหนาวสะท้าน
"ศิษย์พี่ฮั่วซินช่างอำมหิตยิ่งนัก!"
"ดูเหมือนศิษย์พี่ฮั่วซินจักเกลียดชังต้วนหลิงเทียนเข้ากระดูกดำแล้ว"
"ฮาย หากเขาไม่เกลียดต้วนหลิงเทียนเข้ากระดูกดำ เขาจะไปท้ามันประลองทำอะไร?"
คำที่ฮั่วซินกล่าวนั้นแน่นอนว่ามันล้ำเส้นต้วนหลิงเทียนไปแล้ว ระเบิดในใจของเขาพลันถูกจุดชนวนขึ้นมาทันที ยามนี้เขาไม่คิดระงับอะไร เพียงปล่อยให้มันระเบิด!
"ฮั่วซิน!" สายตาของต้วนหลิงเทียนที่จับจ้องไปยังฮั่วซินคราวนี้เต็มไปด้วยความเย็นชา ไร้อารมณ์ "ข้ายินดีรับคำท้าประลองเป็นตายของเหวียนหวู่... แต่ข้าเองก็มีความต้องการประการหนึ่ง!"
"สิ่งที่เจ้าต้องการคืออันใด?เพียงกล่าวออกมา!" ฮั่วซินไม่แม้แต่จะทันได้ตอบคำหลังจากได้ฟังคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน กลับเป็นเหวียนหวู่ที่กล่าวแทรกออกมาด้วยความกระหายพร้อมประกายตาเรืองวูบ
สำหรับมันตราบใดที่ต้วนหลิงเทียนยินยอมขึ้นเวทีประลองเป็นตาย และประลองกับมันจนตกตายกันไปข้างหนึ่ง มันจะยินยอมตอบสนองทุกความต้องการของเขาหากไม่มากเกินไป
"เจ้าต้องการอันใด ใยมิกล่าวเฉลย?" ฮั่วซินหัวเราะออกมาพร้อมกล่าวถาม
"ข้าเพียงหวังว่าวันนี้ คนที่จะขึ้นเวทีประลองเป็นตายจะมี 3 คน.... หากเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ เช่นนั้นข้าก็ไม่คิดรับคำท้าประลองเป็นตายจากเจ้า!" ต้วนหลิงเทียนหันไปมองฮั่วซินก่อนที่จะกล่าวบอกความต้องการเขาออกไป
"3 คน?"
"มันเป็นไปได้หรือไม่ ที่ต้วนหลิงเทียนคิดให้ผู้ใดช่วยเหลือ?"
"ไฮย่า เวทีประลองเป็นตายนั้น โดยมากแล้วมีเพียงการประลอง ตัวต่อตัว เท่านั้น ต้วนหลิงเทียนนี่ไร้ยางอายถึงกับคิดใช้คนมากกลุ้มรุมเลยหรือ?"
เหล่าศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนระเบิดคำสนทนาออกมาอย่างอื้ออึงหลังฟังความต้องการของต้วนหลิงเทียน พวกมันคิดว่าเรื่องนี้มันมากเกินไป
"เจ้าคิดพึ่งพาความช่วยเหลือเช่นนั้นหรือ?"ฮั่วซินหัวเราะก่อนที่จะเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา "ดูเหมือนเจ้าเองก็สำเหนียกตัวเองดี ว่ามิใช่คู่มือเหวียนหวู่... "
เหวียนหวู่เองก็ขมวดคิ้ว เพราะเขาไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะกล้าขอเรื่องเช่นนี้ นี่มันมากเกินไป!
"ฮั่วซินข้าคิดว่าเจ้ากำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่นะ... ข้าไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือสักนิด" ต้วนหลิงเทียนเองแน่นอนว่าย่อมต้องได้ยินบทสนทนารอบๆ ของเหล่าศิษย์ที่มามุง เมื่อได้ฟังคำกล่าวของฮั่วซินเขาก็รู้ว่า ตอนนี้ พวกมันกำลังเข้าใจเขาผิดไป
"หืม? ในเมื่อเจ้ามิได้ต้องการความช่วยเหลือ ใยต้องกล่าวคำขอเช่นนั้นเล่า?" ฮั่วซินและเหวียนหวู่กล่าวออกมาแทบจะพร้อมเพรียงซ้ำยังประสานเสียงกันอย่างพิกล แววตาพวกมันที่จับจ้องต้วนหลิงเทียนเผยให้เห็นถึงความเย็นชาไร้ปราณี
"เหอะ!" ต้วนหลิงเทียนเองก็กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส "ในเมื่อสมองพวกเจ้ามันทำความเข้าใจอะไรได้ยากนัก เช่นนั้นข้าจะกล่าวให้มันชัด และเข้าใจง่ายๆก็แล้วกัน ... ข้ายินดีรับคำท้าประลองเป็นตายของพวกเจ้า! แต่ข้าไม่คิดจะประลองตัวต่อตัวกับพวกเจ้า ข้าต้องการให้พวกเจ้าทั้ง 2 ขึ้นเวทีมาประลองเป็นตายกับข้าพร้อมๆกัน! "
"ข้าเพียงลำพัง กับพวกเจ้า 2 คน!"
"ประลองกันบนเวทีประลองเป็นตาย หากไม่พินาศจนหมดสิ้นไม่เลิกรา!"
ในขณะที่กล่าวคำนั้น ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดังกังวาน ท่วงท่าทระนงอาจหาญ เต็มไปด้วยความส่างามน่าเกรงขาม
ไม่ใช่พวกเจ้าทั้ง 2 คนกระสันอยากให้ข้าประลองเป็นตายนักหรือไร?
เช่นนั้นข้าก็จัดให้!
ยิ่งไปกวานั้น
ไม่เพียงแต่ข้า ต้วนหลิงเทียน จะขึ้นประลองเป็นตาย ... แต่ข้าจะสู้กับพวกเจ้าทั้ง 2 เพียงลำพัง!
ตอนนี้เองจิตฆ่าฟันในใจของต้วนหลิงเทียนก็พวยพุ่งเอ่อล้นออกมาทางแววตา
โลหิตในร่างเขาเดือดพล่าน!
เมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมา ผู้คนโดยรอบถึงกับเงียบงันไร้คำกล่าว
ตอนนี้หากมีใครทำเข็มตกพื้น เสียงตกนั้นคงดังจนทุกคนได้ยิน ...
ศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนตกตะลึงอย่างแท้จริง
ในตอนนี้ ยามที่พวกเขาจับจ้องไปยังร่างต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่อย่างองอาจ พวกเขารู้สึกว่าทั่วร่างของต้วนหลิงเทียนแผ่พุ่งสภาวะสูงส่งออกมาราวกับเทพเจ้าสงคราม และทุกคนบังเกิดความรู้สึกเดียวกันนี้โดยไม่อาจมีคำใดมาอธิบาย
พร้อมกันนั้นพวกมันก็รู้สึกชื่นชมเขาเช่นกัน
หลังจากนี้ไม่ต้องกล่าวใดแล้ว เพียงแค่ความกล้าหาญที่ต้วนหลิงเทียนแสดงออก ก็นับว่าคู่ควรกับความชื่นชมที่พวกมันมีให้เขา
ถึงแม้ว่าวันนี้ต้วนหลิงเทียนจะต้องดับสูญในการประลองเป็นตาย แต่เขาก็ตายไปพร้อมกับความรุ่งโรจน์ในใจของทุกผู้คน
นี่คือศิษย์สายนอกที่พึ่งเข้าร่วมนิกายกระบี่ 7 ดาว ทว่ากล้าหาญพอที่จะท้าศิษย์สายนอกระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ทั้ง 2 คน ให้ขึ้นไปลิขิตชีวิตกันบนเวทีประลองเป็นตาย
แน่นอนว่ายังมีกลุ่มศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียน ที่ไม่ได้มองอะไรง่ายๆ หลังจากได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน
"เจ้าประเมินตนเองสูงไปแล้ว!"
"เพียงศิษย์สายนอกที่พึ่งเข้าร่วม กลับหาญกล้าท้าประลองกับศิษย์พี่ทั้งสองที่มีระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 เหอะ! ช่างโง่เขลานัก! มันแค่รนหาที่ตายเท่านั้น !"
"ข้าว่า เขาคงรู้สึกว่า หากเผชิญหน้ากับศิษย์พี่เหวียนหวู่คนเดียว คงตกตายมิเร็วพอ"
"ข้าเองก็คิดเช่นนั้น เกรงว่าหากศิษย์พี่เหวียนหวู่และศิษย์พี่ฮั่วซินลงมือพร้อมกันเพียงครึ่งกระบวนท่า ต้วนหลิงเทียนก็ตกตายแล้ว!"
ไม่ไกลจากนั้น
คิ้วของจ้าวหลินโค้งขึ้น เขามองต้วนหลิงเทียนที่อยู่ห่างออกไป ก่อนที่จะจมอยู่ในความคิด ในใจเองก็กระตุกไม่น้อย
ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ มันมีความมั่นใจจริงๆ หรือว่ามันแค่กำลังประเมินตนเองสูงไป?
เขาต้องการรู้คำตอบนี้ให้ได้โดยเร็ว
"ฮ่าๆๆ " ฮั่วซินและเหวียนหวู่เพียงหันหน้ามามองกันเอง เมื่อเห็นถึงความตกตะลึงจากอีกฝ่าย พวกมันก็หัวเราะออกมา
"ต้วนหลิงเทียนเจ้าแน่ใจหรือ ที่เจ้าคิดจักขึ้นเวทีประลองเป็นตาย และต่อสู้กับพวกเรา 2 คนพร้อมกัน?" ฮั่วซินพยายามระงับเสียงหัวเราะอย่างยากลำบาก มันมองไปยังต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะโค้งคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตาของมันฉายชัดออกมาถึงความสนุกสนาน "ข้าเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้จัดการเจ้า พร้อมกันกับเหวียนหวู่ ด้วยวิธีนี้ข้าเองก็จักได้ฆ่าเจ้าด้วยมือทั้ง 2 ของข้า เพื่อระบายความคับแค้นใจของข้าเช่นกัน!!
รีวิวของคุณ
คุณจะให้ดาวนิยายเรื่องนี้หรือไม่