px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 288 : ความกังวลอันร้อนรุ่ม!


บทที่ 288 : ความกังวลอันร้อนรุ่ม!

นับตั้งแต่อสรพิษน้อยทั้ง 2 หายตัวไปวันนั้น หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนกลับมาจากการค้นหา เขาก็บ่มเพาะพลังในถ้ำหินย้อยตลอดเวลา และไม่ได้ออกจากยอดเขาเทียนเฉวียนนี้แม้แต่ก้าวเดียว

แน่นอนสิ่งที่เขากังวลก็คือ ...เขากลัวอสรพิษน้อยทั้ง 2 กลับมาแล้วไม่เจอเขา

โชคดีที่ครั้งที่แล้วเขาซื้อเนื้อสัตว์อสูรจากหอแลกเปลี่ยนไว้เป็นจำนวนมาก และมันเพียงพอให้เขากินได้ไปหลายเดือน

วันเวลาผันผ่านรวดเร็วดั่งกระพริบตา..

เพียงพริบตาเดียว มันก็ล่วงเลยไปแล้วถึง 2 เดือน

บนก้อนศิลาในถ้ำหินย้อย

ต้วนหลิงเทียนนั่งขัดสมาธิบ่มเพาะพลังอย่างสงบ ...

ไม่รู้ว่านานเท่าไร...

แต่ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนพลันลืมตาขึ้นมา ในดวงตาเขาทอประกายราวกับมีเพลิงลุกโชน

"อีกแค่นิดเดียวข้าก็ทะลวงผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 5 ได้แล้ว!" รอยยิ้มเริ่มปรากฏที่มุมปากของต้วนหลิงเทียน

หลังจากที่เขารู้สึกตัวเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความกังวล "เจ้าตัวน้อยทั้ง 2 คงไม่ได้คิดไปตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่ในป่าแรกเริ่มหรอกนะ?  นี่มันก็ 2 เดือนเข้าไปแล้ว ทำไมพวกมันยังไม่กลับมาอีก ...ดูเหมือนว่าข้าต้องใช้เวลา ออกไปตามหามันดูบ้างแล้ว"

ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ก้มลงไปมองมือเขา

ตอนนี้ถึงแม้ว่ามือของต้วนหลิงเทียนจะยังคงเรียบเนียนเหมือนหยก ทว่าสีผิวนั้นไม่ได้ขาวกระจ่างอมชมพูราวทารกอีกต่อไป นี่เป็นผลจากการที่เขาออกไปอดทนตากแดดบนยอดเขาตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่าน!

สีผิวของเขากลับมาเป็นปกติ เหมือนตอนแรกแล้ว!!

ทั้งตอนนี้ต้วนหลิงเทียนยังแลดูเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม นั่นเพราะเขาอายุได้ 20 ปีกว่าแล้ว

"อ่า ผ่านไปตั้ง 2 เดือนแล้ว ... ต้องไปเยี่ยมสาวน้อยทั้ง 2 ของข้าบ้างแล้ว" ใบหน้าต้วนหลิงเทียนเผยรอยยิ้มอ่อนออกมา  เมื่อคิดถึงลี่เฟยและเค่อเอ๋อ เขาลุกขึ้นยืนและออกจากถ้ำหินย้อยไป

ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ลงเขามาจนถึงบริเวณใกล้ๆหอแลกเปลี่ยน

"ต้วนหลิงเทียน!" ทันใดนั้นเอง  ต้วนหลิงเทียนก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนที่ฟังดูร้อนรนไม่น้อย

เมื่อเขาหันไปดูก็พบว่าเป็นศิษย์ขุนเขาเทียนเฉวียนคนหนึ่ง ที่กำลังเดินมาจากที่ไกลๆ

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วและก้มหน้าลงเล็กน้อย  เป็นไปได้หรือไม่... ที่มันจะเป็นคนที่จ้าวหลินส่งมาอีกครั้ง?

"ต้วนหลิงเทียน ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวออกมาเสียที" ต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่าคนๆนี้ไม่น่าใช่ฝีมือของจ้าวหลินที่ส่งมา ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนยามที่มันเห็นเขามันจะระบายลมหายใจอย่างโล่งอกอีกด้วย

"แล้วเจ้าคือ?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกไปด้วยความสงสัย เขาไม่รู้จักคนๆ นี้

ศิษย์ขุนเขาเทียนเฉวียนตรงหน้า ที่เป็นชายหนุ่มรูปร่างผอมบาง แลดูอ่อนแอ มันจ้องต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะกล่าวตอบคำ “ข้าเป็นสหายของหูลี่”

หูลี่?

สายตาที่ต้วนหลิงเทียนจ้องอีกฝ่ายอ่อนลงโดยพลัน เมื่อได้ยินคำกล่าวของชายหนุ่ม ความรู้สึกของเขาก็เริ่มคลายลง เขายิ้มบางๆพร้อมพูดกับอีกฝ่าย “สหายของหูลี่ก็นับได้ว่าเป็นสหายของข้าเช่นกัน  แล้วเจ้าชื่ออะไรรึ?”

หูลี่เป็นสหาย 1 ใน 2 คนที่เขาได้พบเจอจนรู้จักในวันที่เข้าป่าแรกเริ่มครั้งแรก

เป็นชายหนุ่มที่ตรงไปตรงมาคนหนึ่ง

วันนั้นภายในป่า เขาก็ได้รับประสบการณ์อันดี ทำให้เขานับว่าหูลี่เนสหายทีดีคนหนึ่ง

"ข้าเรียกว่า เฮ่อชวน ... ต้วนหลิงเทียนเจ้าไปพบหูลี่กับข้าก่อน ... ข้าและหูลี่เฝ้ารอเจ้ากว่าครึ่งเดือน แต่เจ้าก็ไม่ปรากฏตัวเสียที พอครบครึ่งเดือนหูลี่ก็กลับขุนเขาเทียนจีไป เพราะรอเจ้าไม่ไหว "เฮ่อชุนถอนหายใจออกมา ใบหน้าเผยร่องรอยเศร้าสลดประการหนึ่ง

ใจของต้วนหลิงเทียนพลันระส่ำทันทีเมื่อเห็นใบหน้าท่าทางของเฮ่อชวน "อะไรนะ หรือว่าเกิดเรื่องกับหูลี่?"

ความคิดแรกในหัวของต้วนหลิงเทียน เขาก็ย้อนคิดไปถึง เช่าเฟย อันเป็นอดีตคนในกลุ่มเดียวกันกับหูลี่และชีหลัน ที่เข้าป่าแรกเริ่มไปตอนนั้น

เป็นไปได้หรือไม่ที่เช่าเฟยมาล้างแค้น?

เฮ่อชวนพยักหน้าอย่างเศร้าสลด ความไม่ยินยอมเผยออกมาในแววตา

"บัดซบ รีบพาข้าไปหาหูลี่เร็ว! แล้วมันเกิดเรื่องบัดซบอันใดกันแน่?" ต้วนหลิงเทียนเร่งเร้าให้เฮ่อชวนรีบนำทางโดยพลัน  ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความร้อนรนและกังวล

เมื่อสองเดือนก่อนในป่าแรกเริ่ม หูลี่ยินดีสละชีวิต เพื่อสร้างโอกาสให้เขารอดชีวิต ...

นับแต่วันนั้นเขาก็ถือหูลี่เป็นสหายร่วมเป็นร่วมตายคนหนึ่งในใจ!

ตอนนี้เมื่อได้ยินว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นกับหูลี่เขาก็ร้อนใจและกังวลอย่างหนัก

และในเวลาเดียวกันเขาก็อยากรู้ว่าเป็นตัวบัดซบคนไหน ที่กล้าทำร้ายหูลี่ ...

ฟุ่บ!

แต่ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนและเฮ่อชวนที่กำลังรีบร้อนและจะข้ามสะพานโซ่นั้นเอง ก็บังเกิดเงาร่างที่พุ่งมาราวสายลมกรรโชกหอบหนึ่ง สกัดขัดขวางทางเดินพวกเขาเอาไว้

มันเป็นชายหนุ่มที่อายุราวๆ 25 ปีใบหน้าหล่อเหลาไม่น้อยและดูสุภาพ ทว่าแววตาของมันกลับดุร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ

"ศิษย์พี่ ถังไป๋!" เฮ่อชวนอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ

ในตอนนี้เองศิษย์ขุนเขาเทียนเฉวียนหน้าหอแลกเปลี่ยนจำนวนมากก็เห็นภาพนี้ พวกมันรีบมามุงล้อม...อีกครั้ง

"อ่า นั่นต้วนหลิงเทียนอีกแล้ว!"

"ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวเสียที!"

“ข้าก็นึกว่าเขาคิดหลบซ่อนตัว เพราะรู้ว่าศิษย์พี่ถังไป๋ตามหาเขาอยู่ซะอีก”

"ศิษย์พี่ถังไป๋ตามหาเขาให้ขวักตั้งแต่เดือนที่แล้ว ในที่สุดเขาก็โผล่ออกมาเสียที"

...

เหล่าศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนก็กล่าวกันสนุกสนานตามประสา

"ไสหัวไป!" แววตาของต้วนหลิงเทียนเริ่มเปลี่ยนเป็นแดงฉาน เขาจ้องชายที่ขวางทางด้วยสายตาเอาเรื่อง พร้อมกล่าวตะโกนออกมาอย่างเย็นชา

ตอนนี้เรื่องเดียวที่สำคัญสำหรับต้วนหลิงเทียนคือหูลี่! เขากังวลเรื่องหูลี่ไม่น้อย และอยากรีบไปดูให้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!

"ช่างน่ากลัวนัก!"

"ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ ช่างดุดันยิ่งนัก  เขากล้ากล่าวคำ ไสหัวไป ใส่หน้าศิษย์พี่ถังไป๋เช่นนี้!"

"หรือเขาไม่รู้ว่าศิษย์พี่ถังไป๋ หาได้เป็นคนขี้ขลาด เหมือนหลิวอี่ที่ขวางเขา เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว"

"พวกเจ้าดูสิ สีหน้าศิษย์พี่ถังไป๋เริ่มบังเกิดความขุ่นเคืองแล้ว  ครานี้ต้วนหลิงเทียนคงประสบเคราะห์กรรมครั้งใหญ่แล้วล่ะ"

"ข้าสงสัยยิ่งนัก เขาไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน ถึงเขาจะฆ่าคนระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ได้2 คนพร้อมกันก็เถอะ แต่จะอย่างไรตัวตนศิษย์พี่ถังไป่หาได้ง่ายดาย เขานับเป็นศิษย์โดดเด่นคนหนึ่งของขุนเขาเรา ซ้ำยังมีระดับบ่มเพาะอยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 เข้าไปแล้ว "

...

เหล่าศิษย์มุงของขุนเขาเทียนเฉวียนทำได้เพียงมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสงสาร

ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะทำให้พวกเขาตกตะลึงในเรื่องเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว  แต่สำหรับพวกเขาแล้วถึงต้วนหลิงเทียนจะแข็งแกร่งและท้าทายสวรรค์มากเท่าไร แต่จะอย่างไรเขาก็ยังเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 เท่านั้น จะให้มีความสามารถท้าทายสวรรค์ถึงเพียงใด แต่ก็คงรับมือได้แค่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 5

เผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์ที่มีระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 เขาคงต้องถูกทุบตีฝ่ายเดียวจนตาย!

ท่าทางของถังไป๋เริ่มมืดลง

ในขุนเขาเทียนเฉวียนนี้ไม่มีศิษย์คนใดกล้าโอหังต่อหน้าเขามานานแล้ว...

"ต้วนหลิงเทียนเจ้าคงไม่คิดว่าข้าเป็นเช่นเดียวกับไอสวะหลิวอวี่ใช่หรือไม่?" ถังไป๋มองไปยังต้วนหลิงเทียนพร้อมแสยะยิ้ม แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

ต้วนหลิงเทียนไม่กลัวแม้แต่น้อยเขาจ้องถังไป๋กลับไปพร้อมกล่าวถามด้วยเสียงต่ำ“ใช่เจ้าหาข้า ด้วยเหตุผลเดียวกันกับหลิวอวี่หรือไม่?”

ถังไป๋ยิ้มเย้ยหยันออกมา “เจ้ารู้ก็ดีแล้ว..หากเจ้ายังพอรู้เรื่องราวอยู่บ้าง ก็ให้ความร่วมมือข้าแต่โดยดี! ข้าหาใช่ตัวสวะไร้ราคาดั่งเช่นหลิวอวี่!”

ต้วนหลิงเทียนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เมื่อได้ยินคำถังไป๋ ใบหน้าของเขาเย็นชาลงราวกับเคลือบด้วยชั้นน้ำแข็ง "ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าคิดว่าเจ้าคงมีความกล้ามากพอ ที่จะรับคำท้าประลองเป็นตายของข้าใช่หรือไม่?"

ต้วนหลิงเทียนไม่คิดเลยว่า จ้าวหลินจะยังคงดื้อรัน กระทำเช่นนี้ไม่จบไม่สิ้น

ก่อนหน้าหลิวอวี่ก็ทีนึงแล้ว คราวนี้ยังส่งถังไป๋มาอีก

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาต้องการพบหูลี่ให้เร็วที่สุด และไม่คิดมาเสียเวลากล่าววาจาไร้สาระกับถังไป๋อะไรนี่ เช่นนั้นเขาจึงกล่าวคำท้าประลองเป็นตายออกไป เพื่อให้ถังไป๋ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องราว แล้วหลบไปให้พ้นทางเขาโดยเร็ว

และถึงแม้ว่าถังไป๋จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 เขาก็ไม่คิดกลัวมัน!

"เจ้าต้องการท้าข้าขึ้นประลองเป็นตาย?" ถังไป๋ตะลึงไม่น้อยเมื่อได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน

ถึงแม้ว่าเขาจะเคยได้ยินเรื่องราวที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวท้าหลิวอี่ขึ้นเวทีประลองเป็นตาย จนหลิวอวี่ล่าถอยออกไป แล้ว แต่จะอย่างไรเขาคิดว่าทั้งหมดนั่น เป็นหลิวอวี่ที่ขี้ขลาดเกินไป

ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะมีความสามารถไม่เบาซ้ำยังแลดูมีความลึกลับมากมาย แถมยังแข็งแกร่งราวตัวประหลาด แต่จะอย่างไรเขาก็ยังเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 เท่านั้น!

ในสายตาของผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากมด!

หากเขาต้องการสังหารต้วนหลิงเทียน มันยังง่ายยิ่งกว่าถอนหญ้าสักต้นเสียอีก!

ซูด!

อะไรก็ตามที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมา นั่นทำให้ศิษย์ขุนเขาเทียนเฉวียนที่ล้อมวง ตื่นตระหนกแล้ว

กว่าพวกเขาจะฟื้นตัวจากการตกตะลึงก็ผ่านไปครู่ใหญ่

"สหาย เมื่อครู่ข้าได้ยินผิดไปหรือไม่ ต้วนหลิงเทียนกลับกล้ากล่าวท้าศิษย์พี่ถังไป๋ ขึ้นเวทีประลองเป็นตาย?"

"เฮ่อ...เขาเบื่อจะมีชีวิตแล้วหรือไรกัน?"

...

แน่นอนว่าศิษย์ขุนเขาเทียนเฉวียนทุกคนที่ได้ยินล้วนตกตะลึงกับเรื่องนี้

เท่าที่พวกเขาคิด ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ที่แข็งแกร่งผิดมนุษย์และมีวิชาเลิศล้ำอะไร มากแค่ไหนก็ตาม  ก็ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6!

เพราะมันมีความต่างในด้านความเร็วและพลังถึง 20 ช้างแมมมอธโบราณ!

ความแข็งแกร่ง 20 ช้างแมมมอธโบราณนี้ คือช่องว่างอันใหญ่หลวงยากกระโดดข้าม ...

"อะไร? กล้าขวางทางข้า แต่ไม่กล้ารับคำท้าขึ้นเวทีประลองเป็นตายจากข้า?" ต้วนหลิงเทียนจ้องไปยังถังไป๋ด้วยแววตาเย็นชาไม่แยแส พร้อมกล่าวคำเย้ยหยันออกมา "หากเจ้าไม่กล้าก็รีบไสหัวไปให้พ้นทาง  ข้ายังรีบไปกระทำธุระ ไม่มีเวลามากล่าววาจาไร้สาระกับเจ้า!"

"เจ้ากล่าวอะไร? เจ้าว่า ... ข้าไม่กล้า?" ถังไป๋รู้สึกขำกับคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน แล้วมันก็หัวเราะออกมาอย่างหยิ่งยโส "ต้วนหลิงเทียน ในเมื่อเจ้าเบื่อชีวิต และคิดอยากตายเร็วนัก! เช่นนั้นก็ได้ ข้ายอมรับคำท้าประลองเป็นตายของเจ้า! เจ้าเลือกวันและเวลามาได้เลย ... ข้าจักอนุญาตให้เจ้ามีเวลาตระเตรียมจัดงานศพของตัวเอง "

"พรุ่งนี้ตอนเที่ยง ข้ากับเจ้าบนเวทีประลองเป็นตาย ไม่ตายไม่เลิกรา!" สายตาต้วนหลิงเทียนจ้องเขม็งไปยังถังไป๋ จิตสังหารเริ่มแผ่ซ่านออกมา "แต่ตอนนี้ ไสหัวไปให้พ้นทางข้า!"

"เอาล่ะ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงข้าจะไปรอเจ้าที่ลานประลองเป็นตาย  หวังว่าพอถึงเวลานั้นเจ้าจะไม่ขี้ขลาด และเลือกที่จะไม่ปรากฏตัวออกมา" ถังไป๋ค่อยๆเดินหลบออกไปข้างทาง และเผยรอยยิ้มที่มุมปาก

เขาได้บรรลุเป้าหมายแล้ว และตอนนี้อารมณ์ของเขาก็ดีนัก!

ตราบใดที่เขาบังคับให้ต้วนหลิงเทียนไปประลองเป็นตายกับเขาได้ เขาก็ไม่กลัวว่าจะไม่ได้สิ่งของที่ผู้อาวุโสจ้าวหลินต้องการจากต้วนหลิงเทียน

อีกทั้งตอนนั้นเขายังได้รับรางวัลที่เขาต้องการจากอาวุโสจ้าวหลินอีก

"เป็นข้า...ที่กังวลว่าเจ้าจะไม่กล้ามา" ต้วนหลิงเทียนที่เต็มไปด้วยความกังวลอันร้อนรุ่ม นั้นก็ก้าวอาดๆไปด้านหน้าพร้อมเฮ่อชวนทันทีที่ถังไป๋เปิดทาง... แต่เมื่อเขาได้ยินคำกล่าวตามหลังมาของถังไป๋ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะกล่าวเย้ยหยันกลับไป

"เฮ่อชวน รีบพาข้าไปหาหูลี่เร็วเข้า" น้ำเสียงต้วนหลิงเทียนเต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก เขารีบพุ่งร่างด้วยความเร็วข้ามสะพานโซ่มุ่งหน้าสู่ขุนเขาเทียนชู

"ต้วนหลิงเทียน เมื่อครู่เจ้าวู่วามเกินไปแล้ว  จะอย่างไรถังไป๋ก็เป็นศิษย์ที่นับว่าโดดเด่นของขุนเขาเทียนเฉวียนเรา มันมีระดับบ่มเพาะกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 แล้ว" เฮ่อชวนที่วิ่งอยู่ด้านข้างต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มขมขื่น

มันไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะกล้าท้าประลองเป็นตายกับถังไป๋ และสู้กันจนกว่าอีกฝ่ายจะตกตาย

มันเองก็เหมือนกับศิษย์ขุนเขาเทียนเฉวียนคนอื่นๆ ที่ไม่คิดว่าครั้งนี้ต้วนหลิงเทียนจะมีเปรียบ

และในเวลาเดียวกันนั้นขุนเขาเทียนเฉวียนก็เริ่มเต็มไปด้วยเรื่องราวประเด็นร้อน ข่าวคราวที่ต้วนหลิงเทียนจะขึ้นประลองบนเวทีเป็นตาย และสู้กันจนตกตายไปข้างกับถังไป๋ ได้แพร่กระจายไปทั่วขุนเขา...

นับได้ว่าตอนนี้ขุนเขาเทียนเฉวียนระอุขึ้นมามากที่สุดในรอบปี!

“สองเดือนที่แล้วข้ามัวแต่ปิดด่านบ่มเพาะพลัง จึงได้พลาดชมดูการประลองเป็นตายครั้งนั้นไป  คราวนี้ข้าไม่มีวันพลาดการประลองเป็นตาย พรุ่งนี้อย่างแน่นอน"

"แน่นอน จะอย่างไรก็ต้องไปชมดูให้ได้!  เรื่องสนุกสนานเช่นนี้นานๆทีจะเกิดขึ้นบนขุนเขาเทียนเฉวียนเรา  ซ้ำครานี้ยังเป็นศิษย์ที่โดดเด่นของขุนเขาเรา ที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 ลงประลองกับตัวประหลาดอัจฉริยะนั่นอีกด้วย"

รีวิวผู้อ่าน