px

เรื่อง : ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ตอนที่ 3 มีคน ? เฉดหัวมันออกไป


หญิงรับใช้ที่เหลืออีกสามนางซึ่งยืนอยู่ด้านหลังต่างหน้าเสีย

 

ในสายตาของคุณหนูผู้นี้ ชีวิตของหญิงรับใช้ผู้หนึ่งมิอาจเทียบได้กับเสาเรือน ! !

 

“คุณหนู พวกเราจะพักอาศัยที่ใดกัน ? คงมิใช่จำต้องเข้าไปมุดหัวอยู่ในรูหนูแห่งนั้นใช่หรือไม่เจ้าคะ ?”

 

เฟิ่งฉู่เกอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

 

“ตามข้ามา”

 

หลังเดินลัดเลาะตามทางมาอีกเพียงไม่กี่โค้ง พวกนางก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ทุกคนต่างหยุดนิ่งชะงักมองภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า

 

เรือนน้อยเบื้องหน้าสายตาของพวกนางในยามนี้มีสายน้ำโอบล้อมรอบด้าน ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นประสานความหรูหราสง่างาม

 

เฟิ่งฉู่เกอชี้ไปยังตัวอักษรสามคำที่จารึกไว้ด้านบน

 

‘เรือนน้อยสายนที’

 

“พวกเราจักพำนักกันที่นั่น”

 

“ทว่าที่นั่นมีคนอยู่…”

 

“มีคน ? เช่นนั้นก็เฉดหัวมันออกไป ! ไม่มีผู้ใดสามารถฉกฉวยของ ๆ ข้าไปได้ !”

 

แววตาคู่นั้นเผยอายเย็นยะเยือกอย่างเห็นได้ชัด

 

เดิมที เรือนน้อยสายนทีแห่งนี้คือสินเดิมเจ้าสาวขององค์หญิงเจี้ยนเต๋อ ผู้เป็นมารดาของเฟิ่งฉู่เกอ ครั้งที่นางแต่งเข้าตระกูลเฟิ่ง องค์ฮ่องเต้ทรงรับสั่งให้คนสร้างเรือนน้อยแห่งนี้ขึ้นเป็นของขวัญในวันมงคลของเสด็จแม่ของนาง หากทว่าครั้นองค์หญิงเจี้ยนเต๋อสิ้นพระชนม์ เรือนน้อยสายนทีแห่งนี้กลับถูกฮูหยินรองช่วงชิงไป

 

ในครานั้น เฟิ่งฉู่เกอเพิ่งมีวัยแค่เพียงเจ็ดขวบปี

 

นับแต่องค์หญิงเจี้ยนเต๋อสิ้นพระชนม์ เฟิ่งเฉาหยางผู้เป็นบิดาของนางกลับทำตาบอดไม่รู้ไม่เห็นพฤติกรรมของฮูหยินรอง

 

เฟิ่งฉู่เกอจึงถูกแม่เลี้ยงตลอดถึงบุตรสาวทั้งสองของแม่เลี้ยง ทำร้ายรังควานมาตลอดช่วงเวลาอันโหดร้ายนับแต่นางมีอายุได้เพียงเจ็ดปี

 

กระทั่งเมื่อถึงวัยครบสิบปี นางจึงถูกขับไล่ไสส่งออกจากตระกูลเฟิ่ง----

 

เฟิ่งฉู่เกอยืนนิ่งอยู่กับที่ ภาพแห่งความทรงจำค่อย ๆ ไหลแทรกเข้ามาในหัว

 

นับแต่วันที่นางได้ครอบครองร่างนี้ เฟิ่งฉู่เกอให้สัตย์สาบานกับตนว่า นางจะต้องทวงคืนสมบัติทุกชิ้น ของทุกอย่างที่เป็นของเจ้าของร่างนี้กลับคืนมาให้หมด !

 

ริมฝีปากเย้ายวนกระตุกเล็กน้อย ก่อนเสียงสั่งคำจะดังก้อง

 

“เข้าไป !”

 

เฟิ่งชิงหว่านกับเฟิ่งเฉียนเสวี่ยกำลังนั่งเล่นอยู่ในเรือนน้อยสายนที

 

“ท่านพี่ไม่ต้องห่วง ท่านพ่อกล่าวว่า ท่านจะเอาเจ้าคนไร้ค่านั่นไปแต่งให้คุณชายโง่เง่าแห่งตระกูลอวิ๋นผู้นั้นแทนท่าน ป่านนี้ นังนั่นน่าที่จะกลับมาถึงเรือนแล้วกระมัง”

 

สาวน้อยรูปงามผู้ตบแต่งอาภรณ์สีเหลืองสดใสกล่าวกลั้วยิ้ม

 

สตรีผู้อยู่ในอาภรณ์สีชมพูเหลือบฟ้าผู้นั่งพักผ่อนอยู่ด้วยกันส่งเสียงหัวเราะคิกคัก เมื่อได้ยินอีกฝ่ายกล่าวเช่นนั้น รอยยิ้มที่ประดับบนดวงหน้าส่งให้ใบหน้านวลเนียนของนางยิ่งงดงามจนยากจะละสายตา นางยกยิ้มกล่าวตอบ

 

“ถึงคราคับขัน พวกเราก็ยังสามารถใช้เจ้าคนไร้ค่าผู้นั้นให้เกิดประโยชน์ได้…”

 

ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น หญิงรับใช้ผู้หนึ่งกลับวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา

 

“คุณหนูรอง คุณหนูสามเจ้าคะ ด้านนอก…ด้านนอก…นังสวะผู้นั้นอยู่ที่ด้านนอกเจ้าค่ะ”

 

หญิงรับใช้ผู้นั้นเผลอหลุดปากเรียก ‘นังสวะ’ ตามการจิกหัวเรียกของเฟิ่งชิงหว่าน และเฟิ่งเฉียนเสวี่ย

 

เพียงคุณหนูทั้งสองผู้กำลังนั่งเล่นหมากล้อมกันอยู่ได้ยินเช่นนั้น กลับต้องส่งเสียงหัวเราะร่วน

 

“เพียงเอ่ยถึง นางก็มาเลยกระนั้นหรือ ? กระทั่งกล้าขึ้นมาเหยียบถึงหน้าเรือนของพวกเราเชียวหรือ ? ไป ! ออกไปดูน้ำหน้ามันเสียหน่อย”

 

เฟิ่งฉู่เกอถูกฮูหยินรองตลอดถึงบุตรสาวทั้งสองทำร้ายรังแกมาตลอดสามปี ก่อนจะถูกขับออกจากตระกูลเฟิ่งอย่างไม่ไยดี

 

ตลอดช่วงระยะเวลาสามปี เฟิ่งฉู่เกอถูกทรมานเหยียดหยามทุกรูปแบบ กระทั่งแทบไม่หลงเหลือความเป็นคน ทั้งในยามนั้น เฟิ่งฉู่เกอยังเยาว์วัยนัก จึงไม่อาจคาดเดารูปโฉมยามเติบใหญ่ถึงวัยสาวสะพรั่งได้

 

ผู้คนต่างเล่าลือกันว่ารูปโฉมของเฟิ่งฉู่เกอสุดแสนอัปลักษณ์เหนือคำบรรยาย

 

เช่นนั้น เมื่อเฟิ่งชิงหว่าน และเฟิ่งเฉียนเสวี่ยได้เห็นสตรีผู้เลอโฉมเหนือหญิงงามทั้งปวงยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ทั้งคู่ต่างต้องอึ้งตะลึงตาค้าง

 

ผู้คนต่างกล่าวขานกันว่า บุตรสาวสกุลเฟิ่งช่างแตกต่างกันจนเหลือเชื่อ

 

หนึ่งคือคุณหนูสามหญิงงามผู้เปี่ยมพรสวรรค์ เฟิ่งชิงหว่าน อีกหนึ่งก็คือหญิงอัปลักษณ์ไร้ค่า เฟิ่งฉู่เกอ

 

เพียงเฟิ่งชิงหว่านผู้มั่นใจในรูปโฉมอันงดงามของตน ได้เห็นใบหน้าของเฟิ่งฉู่เกอ นางก็กลับโกรธแค้นริษยานัยน์ตาร้อนผ่าว

 

เห็นได้ชัดว่ารูปโฉมของเฟิ่งฉู่เกอนั้นงดงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านาง !!

 

เฟิ่งเฉียนเสวี่ยกวาดตามองเฟิ่งฉู่เกอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าทันทีที่คืนสติขึ้นมาได้ ไม่คาดคิดเลยว่าด้วยระยะเวลาแค่เพียงหกปี รูปโฉมของเฟิ่งฉู่เกอจะแปรเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ !

 

ริษยา ! น่าชัง ! ก้นบึ้งความรู้สึกภายในใจพลันถูกเผยผ่านม่านดวงตาทั้งคู่ ขณะเฟิ่งเฉียนเสวี่ยเปล่งเสียงหัวเราะลั่น

 

งดงามแล้วอย่างไรเล่า ? เมื่อที่สุด มันก็เป็นได้แค่เพียงเศษสวะผู้หนึ่ง !!

 

ใต้ผืนนภาแผ่นดินอวิ๋นเทียน มันผู้ใดไร้สิ้นพลังภายใน ย่อมไม่อาจฝึกวรยุทธ ไม่อาจผงาดขึ้นเหนือผู้คนได้ตลอดกาล !!!

 

***จบตอน มีคน ? เฉดหัวมันออกไป***

รีวิวผู้อ่าน

ajikaya01
1379 วันที่แล้ว

แหม๋ ชอบจริงๆ ไม่ยอมคนเนีย อ่านแล้วไม่ขัดใจ ^^


  แสดงความคิดเห็น
jarawee13
1393 วันที่แล้ว

จัดหนักๆ


  แสดงความคิดเห็น
nongsom171717
1395 วันที่แล้ว

สนุก​มากอัพ​เยอะ​ๆนะคะ


  แสดงความคิดเห็น
w-a-n-n-y
1400 วันที่แล้ว

สั้นมากถึงมาก มากกกกกกกกก


  แสดงความคิดเห็น