px

เรื่อง : ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ตอนที่ 5 เสริมความงาม


บรรยากาศการต่อสู้กำลังดุเดือดเข้มข้น ขณะเมื่อเฟิ่งฉู่เกอกลับออกมาอีกครา

 

จื่อหลานกำลังหยอกล้อเหยื่อสาวทั้งสองอย่างสนุกสนาน คล้ายนางยังไม่ต้องการรีบเผด็จศึกอีกฝ่าย หากเพียงแค่ไล่ต้อนให้จนมุม กระทั่งต้องร่ำร้องหาบิดาโอดครวญหามารดา

 

ยามนี้คุณหนูเฟิ่งเฉียนเสวี่ย และเฟิ่งชิงหว่านผู้สง่างามหายไปแต่ที่ใดเสียแล้ว ?

 

เห็นก็แต่เพียงสองดรุณีน้อยผู้ผ้าผ่อนอาภรณ์ฉีกขาดหลุดรุ่ย ผมเผ้ายุ่งเหยิงเละเทะราวรังวิหค ช่างน่าสมเพชเวทนาอย่างเหลือแสน

 

จื่อหลานไม่คิดเร่งร้อนลงมือ นางเพียงต้องการหยอกเย้าล้อเล่นราวแมวหยอกหนู

 

โดยมีเฟิ่งฉู่เกอเอนกายนั่งในฐานะท่านผู้ชมกิตติมศักดิ์ งิ้วโรงน้อยชุดไล่จับเฟิ่งชิงหว่าน และเฟิ่งเฉียนเสวี่ยครื้นเครงกระทั่งโฉมงามขยับริมฝีปากหัวเราะร่วน

 

เฟิ่งชิงหว่าน เฟิ่งเฉียนเสวี่ย ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นเพียงการเริ่มต้น !

 

สิ่งที่พวกเจ้ากระทำกับเจ้าของร่างนี้ ยังห่างไกลจากที่พวกเจ้ากำลังประสบในเวลานี้มากมายนัก !

 

*****

 

เสียงฝีเท้าซอยถี่ดังขึ้นจากสถานที่ไม่ไกลห่างออกไปนัก

 

เสียงฝีเท้าที่สับสนวุ่นวาย บ่งบอกอย่างแน่ชัดว่าผู้ที่กำลังเร่งรุดเข้ามามีมากกว่าหนึ่ง

 

เฟิ่งฉู่เกอขยับร่างขึ้นนั่งตั้งกายตรง นัยน์ตาฉายประกายขึ้นวูบหนึ่ง ประหนึ่งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นล้วนไม่เกินเลยความคาดหมาย

 

เพียงไม่ช้านาน ร่างของผู้คนจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าสายตา หนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรีคือผู้นำของคนกลุ่มนี้

 

ชายวัยกลางคนผู้อยู่ในชุดคลุมสีน้ำเงิน มีสีหน้าเคร่งเครียด

 

ส่วนสตรีวัยกลางคนผู้สวมใส่อาภรณ์อันวิจิตรที่ยืนอยู่ด้านข้าง แม้จะสูงวัย ทว่าย่อมไม่อาจปกปิดความงดงามสะคราญโฉมของนางเมื่อวัยเยาว์

 

เฟิ่งเฉาหยาง และภรรยาต่างตระหนกตกใจ เมื่อได้เห็นภาพเหตุการณ์ความวุ่นวายเบื้องหน้า

 

“หยุด ! หยุดเดี๋ยวนี้ ! นี่พวกเจ้าทำอันใดกัน ?”

 

ยิ่งได้เห็นสภาพน่าเอน็จอนาถของสองบุตรี เฟิ่งเฉาหยางก็แทบจะสำลักความโกรธเกรี้ยว

 

เพียงทว่า น่าเสียดาย ที่โสตประสาทของจื่อหลานมีไว้รับฟังสุ้มเสียงเดียวนั่นก็คือ…คำสั่งจากเฟิ่งฉู่เกอ

 

ยิ่งต่อสู้กันพัลวันสภาพของเฟิ่งชิงหว่าน และเฟิ่งเฉียนเสวี่ยก็ยิ่งแลดูอุจาดนัยน์ตา

 

เฟิ่งเฉาหยางฉุกคิดถึงสิ่งที่หญิงรับใช้ผู้นั้นรายงานตนเมื่อครู่ได้ เขาจึงกวาดตามองโดยรอบ ที่สุดจึงพบสตรีในอาภรณ์สีขาวผู้กำลังรับชมเหตุการณ์เบื้องหน้าอย่างไม่สะทกสะท้าน

 

“เฟิ่งฉู่เกอ !! เจ้าทำบ้าอันใดลงไป ? เพียงกลับมาก็สร้างเรื่องปวดหัวขึ้นมากมาย ! หากเจ้าไม่คิดอยากกลับมา ก็ไสหัวออกไปจากที่นี่เสีย !”

 

เฟิ่งเฉาหยางโกรธเกรี้ยวอย่างหนัก กระทั่งหนวดกระตุก ปลายนิ้วที่สั่นเทาชี้แสกหน้าเฟิ่งฉู่เกอ เผยให้เห็นชัดว่ายามนี้เขาบันดาลโทสะมากมายเพียงไร

 

เฟิ่งฉู่เกอผู้กำลังพริ้มตารับฟังถ้อยคำทั้งหมดค่อย ๆ เผยอเปลือกตาออกจากกันทีละน้อย

 

“นายใหญ่แห่งสกุลเฟิ่ง …ถ้อยคำที่ท่านเอ่ยกล่าวมาล้วนถูกต้อง ข้ามิได้ปรารถนาจะกลับมาที่นี่อย่างแท้จริง”

 

นัยน์ตากระจ่างใสคู่นั้้นค่อย ๆ ขยับยกขึ้นประสานจ้องตาเฟิ่งเฉาหยาง

 

ความเย็นยะเยือกแอบแฝงที่เล็ดรอดผ่านม่านตาอันเย็นชาสามารถทำให้เฟิ่งเฉาหยางรู้สึกเหน็บหนาวหวาดกลัวอย่างคาดไม่ถึง !

 

ก่อนหน้า เฟิ่งเฉาหยางยังมิทันมองเฟิ่งฉู่เกอ เช่นนั้นยามนี้เมื่อเขาหันมาเห็นนางอย่างเต็มตา ท่านผู้นำตระกูลถึงกับใจสั่นด้วยความตื่นตะลึง ! เขาไม่คาดคิดเลยว่า หญิงอัปลักษณ์ผู้ไร้ค่าหาใดเปรียบในวันก่อน จะกลับกลายเป็นสตรีผู้เลอโฉมถึงเพียงนี้ !

 

หากเขารู้ว่านางจะเจริญวัยขึ้นเป็นโฉมงามยั่วเมืองถึงเพียงนี้ เขาย่อมไม่มีวันให้คำมั่นกับเฟิ่งชิงหว่านและเฟิ่งเฉียนเสวี่ยว่าจะยกเฟิ่งฉู่เกอให้ไอ้หน้าโง่ผู้นั้น ด้วยรูปโฉมอันล้ำเลิศเยี่ยงนี้ แม้นางจะเป็นคนไร้ค่ามิอาจฝึกวรยุทธเพลงกระบี่ กระนั้นมูลค่าของนางย่อมสูงส่งกว่าการถูกจับยัดให้ไอ้หน้าโง่แห่งตระกูลอวิ๋นผู้นั้น !

 

แม้เฟิ่งฉู่เกอจะไม่อาจหยั่งรู้ถึงความนึกคิดของเฟิ่งเฉาหยาง หากทว่านัยน์ตาที่ลุกวาวของคนผู้นี้บ่งบอกชัดว่าเขามิได้มีเจตนาดีอย่างแน่แท้

 

การต่อสู้ที่ด้านข้างยังคงดำเนินไปอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน เฟิ่งฉู่เกอขยับริมฝีปากเอ่ยกล่าวเพียงเบาบางราวสายลม

 

“หยุด”

 

แม้จื่อหลานจะยังครื้นเครงกับการได้ยืดเส้นยืดสาย ทว่าเพียงได้ยินเสียงสั่งจากผู้เป็นนาย สองมือของนางสามารถหยุดชะงักได้ทันที

 

“ท่านพ่อ ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเรา !! นางสวะผู้นี้กล้าสั่งคนลงมือกับพวกเรา ! ทั้งยังขับไล่พวกเราออกจากเรือนน้อยสายนทีแห่งนี้ ! ท่านแม่ ท่านพ่อ ท่านต้องสั่งสอนนางสวะผู้นี้ให้หลาบจำนะเจ้าคะ ฮือ ฮือ ฮือ”

 

เฟิ่งชิงหว่านบีบน้ำตาด้วยกิริยาอันแช่มช้อยงดงาม เพียงน่าเสียดายที่การต่อสู้เมื่อครู่ส่งให้ทั้งใบหน้าของนางบวมแดงปูดเป่ง

 

และแน่นอนที่สุด นั่นคือความมุ่งหมายของจื่อหลาน !

 

เมื่อเฟิ่งฉู่เกอกำชับแต่แรกว่าไม่ต้องการให้นางลงมือกระทั่งถึงแก่ชีวิต เช่นนั้นจื่อหลานจึงช่วยฟาดตบนวดหน้าให้เฟิ่งเฉียนเสวี่ยกับเฟิ่งชิงหว่านมีพวงแก้มที่แดงระเรื่อได้อย่างงดงามโดยมิต้องพึ่งพาเครื่องสำอาง

 

ยอดฝีมือทั้งหลายล้วนไม่เสียมือฟาดตีใส่ใบหน้าอีกฝ่าย ทว่านางเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวางจึงคิดช่วยเสริมแต่งความงามให้คุณหนูทั้งสองโดยไม่คิดมูลค่า !

 

***จบตอน เสริมความงาม***

รีวิวผู้อ่าน

ajikaya01
1818 วันที่แล้ว

จัดว่าดี


  แสดงความคิดเห็น
jarawee13
1831 วันที่แล้ว

ไม่ต้องจ้างเมคอัพ​ให้เปลือง​เลย


  แสดงความคิดเห็น
tasaneefaksaeng
1832 วันที่แล้ว

แต่งหน้าสูตรพิเศษ 555


  แสดงความคิดเห็น
sunida.pop@gmail.com
1835 วันที่แล้ว

วิธีแต่งหน้าแบบใหม่555


  แสดงความคิดเห็น