px

เรื่อง : ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ตอนที่ 11 อาเฉินน้อย


อาเฉิน

 

เด็กน้อยผู้นั้นกระพริบตาปริบ ๆ

 

ไม่เคยมีผู้ใดกล้าเรียกเขาเช่นนั้น ทั้งไม่เคยมีผู้ใดกล้าทำสิ่งไร้ยางอายเช่นนั้นกับเขา

 

สตรีผู้นี้ เป็นหญิงคนแรกที่กล้าทำกับเขาเช่นนี้ !

 

อาเฉินยืนนิ่งค้างอยู่กับที่

 

“แม่นาง แท้จริงเจ้าเป็นคนดีและอ่อนโยน”

 

อาเฉินถอนหายใจดัง

 

“คราหน้า อย่าลงมือรุนแรงบ้าเลือดเช่นนี้…”

 

เฟิ่งฉู่เกอนิ่งอึ้ง

 

“เจ้าเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่กระนั้นหรือ ?”

 

อาเฉินพยักหน้ารับด้วยท่าทีเคร่งขรึม

 

หญิงสาวกุมหัวโอดครวญ

 

“ข้าผิดเอง~ ~ หวังว่าข้าคงมิได้สร้างภาพติดตาให้แก่เจ้าหรอกนะ อาเฉินน้อย…”

 

อาเฉินน้อย

 

อาเฉินอ้าปากค้าง เส้นเลือดกลางหน้าผากเต้นตุ้บ

 

จื่อหลาน ปี้หลัวและลวี้จูผู้ยืนอยู่ด้านข้างยังถึงกับอึ้งพูดไม่ออก

 

พวกนางไม่เคยเห็นคุณหนูแสดงท่าทีเช่นนี้มาก่อน

 

เหตุใดพวกนางรู้สึกคล้าย

 

ท่าทีของคุณหนูในวันนี้ดูคล้ายถูกใจชอบพอเด็กน้อยผู้มีนามว่าอาเฉินผู้นี้มิใช่หรือ ?

 

ยิ่งได้เห็นเฟิ่งฉู่เกอต่อล้อต่อเถียงเด็กน้อยอย่างสนุกสนานเช่นนั้น จื่อหลานยิ่งอยากจะคำรามออกมา

 

คุณหนู คุณธรรมของท่านหายไปไหนเสีย ?

 

นับแต่เกิดเหตุวันนั้น เฟิ่งฉู่เกอพร้อมคนทั้งสามก็ปักหลักอยู่ในเรือนน้อยสายนทีแห่งนี้

 

ทั้งก็ไม่มีผู้ใดกล้าย่างกรายเข้ามารบกวนพวกนางอีกเลย

 

ฮูหยินรองตลอดถึงบุตรสาวทั้งสอง ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกผู้หนึ่งก็ถูกผงหมามุ่ยป้ายหน้า เช่นนั้นทั้งสามจึงกักตัวรักษาตนอยู่เพียงในห้อง

 

ส่วนเฟิ่งเฉาหยางก็ไม่กล้าสุ่มสี่สุ่มห้าบุกเข้ามา ด้วยยังกริ่งเกรงในวรยุทธของจื่อหลาน

 

บรรดาบ่าวรับใช้ที่เหลือต่างก็หวาดกลัวเฟิ่งฉู่เกอจนหัวหด

 

ด้วยเหตุนี้ เฟิ่งฉู่เกอจึงพักผ่อนในเรือนน้อยสายนทีอย่างสงบสุขมาโดยตลอด

 

ภายในห้องนอนของเฟิ่งฉู่เกอในเรือนน้อยสายนที ถูกจัดแต่งมุมปรุงโอสถไว้เป็นพิเศษ

 

และในวันนี้ นางก็หมกตัววุ่นอยู่กับการปรุงโอสถ

 

อาเฉินก้าวเข้าสู่ด้านในทันทีที่บานประตูถูกผลักเปิด

 

เขาต้องประหลาดใจ เมื่อได้เห็นการตบแต่งภายในห้อง น้ำเสียงน้อย ๆ เต็มตื้นด้วยความยินดี

 

“แม่นาง นี่เจ้าคือปรมาจารย์โอสถขั้นกลางกระนั้นหรือ ?”

 

“ถูกแล้ว ว่าอย่างไร พี่สาวน่าทึ่งใช่หรือไม่ ?”

 

ครั้นเฟิ่งฉู่เกอหันมาเห็นเด็กชายตัวน้อยยืนอยู่ที่บานประตู นางก็ยักคิ้วส่งยิ้มให้

 

“อ้อ ! ก็ไม่เลว”

 

“ไม่เลว ? วายร้ายตัวน้อย เจ้ารู้จักปรมาจารย์โอสถหรือไม่ ?”

 

“แน่นอน ย่อมต้องรู้”

 

อาเฉินหรี่นัยน์ตาแวววาว

 

“ปรมาจารย์โอสถนับเป็นบุคคลอันทรงคุณค่าที่พบเจอได้ยากยิ่งในดินแดนอวิ๋นเทียน กว่าปรมาจารย์โอสถผู้หนึ่งจะสามารถเลื่อนขึ้นสู่ฝีมือการปรุงโอสถขั้นกลางย่อมต้องใช้ความเพียรในการฝึกฝนร่ำเรียนกว่าห้าสิบปี…”

 

ขณะกล่าว นัยน์ตาคู่นั้นของเขากลับแฝงความมืดมนเล็กน้อย ประหนึ่งภายในใจเกิดข้อกังขา

 

“ใช้ได้นี่ เจ้ามีความรู้ไม่น้อยเลยทีเดียว”

 

เฟิ่งฉู่เกอเพ่งพินิจมองดูอาเฉินอย่างละเอียดลออ

 

หากมิใช่สิ่งที่ประจักษ์ชัดเบื้องหน้าสายตา นางย่อมต้องเข้าใจว่าอาเฉินคือชายหนุ่มผู้น่าจะมีวัยสิบเจ็ดหรืออาจสิบแปดปี

 

ฉับพลัน ความคิดแวบหนึ่งวูบขึ้นในหัว

 

คงมิใช่ว่าเด็กน้อยผู้นี้จะเป็นจิตวิญญาณที่มาจากอีกโลกหนึ่งเช่นเดียวกับนางกระมัง ?

 

“อาเฉิน เจ้าข้ามผ่านมิติมาใช่หรือไม่ ?”

 

“ข้ามมิติ ?”

 

ความงุนงงสะท้อนผ่านนัยน์ตากลมโตของเด็กน้อย

 

สีหน้าเช่นนี้ มิใช่อาการเสแสร้งปั้นแต่งอย่างแน่นอน เฟิ่งฉู่เกอโบกมือปัด

 

“ไม่มีอันใด ข้าเพียงถามไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น”

 

“อ้อ !”

 

อาเฉินผงกศีรษะ เขานิ่งเงียบครู่ใหญ่ก่อนจะค่อย ๆ หลุบตาซ่อนเร้นความไม่ชอบมาพากลที่ซุกซ่อนลึกในแววตา

 

“แม่นาง หากเจ้าคือปรมาจารย์โอสถ ข้าอยากรบกวนเจ้าสักเรื่องจะได้หรือไม่ ?”

 

“เป็นเรื่องใดกระนั้นหรือ ?”

 

“ข้าอยากขอให้เจ้าช่วยปรุงโอสถให้ข้าสักชุด”

 

“เอ๋ ?”

 

“ตัวยาบางชนิดอาจแสวงหาได้ยาก มันคือโหราเดือยไก่ ไหลพันใบ วารีร้อยพลิกผัน เห็ดหลินจือพันปี หนอนไหมโลหิตเยือกแข็ง”

 

“เจ้าปีศาจน้อย เจ้าจะเอาสมุนไพรโอสถเหล่านี้ไปทำอันใด ?”

 

เมื่อเฟิ่งฉู่เกอได้ยินรายการโอสถของอาเฉินยังอดเอ่ยปากถามมิได้

 

***จบตอน อาเฉินน้อย***

รีวิวผู้อ่าน

jarawee13
1831 วันที่แล้ว

ยาววววไปยาววววไป


  แสดงความคิดเห็น
bumbimonarnin
1834 วันที่แล้ว

กรีสสสสส รีบมาต่อเลย ใจร้ายมาก จัดจบตอนกำลัง ค้าง


  แสดงความคิดเห็น