1371 วันที่แล้ว
อัพเยอะๆได้ไหมคะมันน้อยมากค้าง
1371 วันที่แล้ว
ค้างมากมมาย...มาต่ออีกเมื่อไหร่..ใจจะขาดอยากอ่านเร็วๆเยอะๆ
อวิ๋นเชียนเช่อมิได้ด้อยไปกว่าผู้อยู่ในรายชื่อบุรุษงามลำดับที่สอง
หายนะที่ตระกูลเฟิ่งเผชิญล้วนเกิดแต่อิทธิพลของพวกเขา
ทั้งข้อร้องขอจากตระกูลอวิ๋นหาได้สูงส่ง เพียงตระกูลเฟิ่งส่งบุตรีผู้หนึ่งเข้าพิธีสมรสกับบุตรชายคนรอง เพื่อขับไล่อายปีศาจ พวกเขาจะถือเสมือนเรื่องทั้งหมดมิเคยเกิดขึ้น
ทว่าผู้มองการณ์ไกลย่อมกระจ่างชัดว่า เมื่อใดบุรุษเขลาแห่งตระกูลอวิ๋นสิ้นใจ บุตรสาวผู้ยอมออกเรือนสมรสด้วยย่อมกลับกลายเป็นหญิงหม้ายในทันที
ผู้ใดไหนเลยจะยินยอมให้บุตรสาวของตนออกเรือนไปเผชิญอนาคตอันมืดมนที่ประจักษ์ชัดเช่นนั้น ?
ยิ่งมิต้องกล่าวถึงว่าคุณหนูทั้งสองคือสมบัติล้ำค่าที่ตระกูลเฟิ่งประคบประหงมราวไข่ในหิน
ทันทีที่เฟิ่งเฉียนเสวี่ยล่วงผ่านบานประตูเข้ามาก็แลเห็นเฟิ่งเฉาหยางผู้เป็นบิดาจับจ้องนางด้วยอาการใจจดใจจ่อ
“เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้าสามารถช่วยตระกูลเฟิ่งของเราได้”
“ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ ?”
“ยามนี้ เราไม่อาจบีบบังคับให้หญิงไร้ค่าผู้นั้นออกเรือนไปกับเจ้างั่งผู้นั้น ทั้งหว่านเอ๋อร์น้องสาวของเจ้ายามนี้กลับต้องเสียโฉมไปเสียแล้ว คงเหลือเพียงเจ้าผู้เหมาะสมจะออกเรือนไปกับตระกูลอวิ๋น…”
เฟิ่งเฉียนเสวี่ยล่าถอยไกลห่างด้วยความตื่นตระหนก เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นบิดาเอ่ยกล่าว
“ท่านพ่อ ท่านเคยบอกว่าท่านจะไม่มีวันแต่งข้าให้ตระกูลอวิ๋น”
“ทว่ายามนี้พวกเราไม่เหลือทางเลือกอื่นใด…เพียงผู้เดียวที่เหมาะสมก็คือเจ้า ยังอีกทั้ง เจ้าคงได้ข่าวแล้วกระมังว่าเจ้างั่งผู้นั้นต้องการจัดงานสมรสในวันพรุ่ง”
นัยน์ตาของเฟิ่งเฉาหยาง ยามนี้มีเพียงความเศร้าสลด
“พวกเราอับจนหนทางจริง ๆ ตระกูลเฟิ่งของเราไร้สามารถจะต่อกรกับตระกูลอวิ๋น”
“ไม่ ข้าไม่แต่ง”
เฟิ่งเฉียนเสวี่ยส่ายหน้ารัว
“ท่านพ่อ ให้นางสวะผู้นั้นแต่งกับมันเถิด นางคู่ควรแล้วมิใช่หรือ ? เหตุใดท่านมิให้หญิงไร้ค่าผู้นั้นแต่งออกไปเล่า ?”
“นางสวะผู้นั้นย่อมต้องต่อสู้ขัดขืนอย่างแน่นอน มันจะยอมทำตามคำสั่งของพวกเราได้อย่างไรเล่า ?”
เฟิ่งเฉียนเสวี่ยยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของตน
รอยแผลเป็นน้อย ๆ ยังคงหลงเหลือ
นับแต่วันที่เกิดเหตุ นางก็รู้สึกคันหน้ายุบยิบอย่างหาสาเหตุมิได้ ยังดีที่นางพยายามฝืนตนมิให้แกะเกา หาไม่ยามนี้ ใบหน้าของนางย่อมต้องเสียโฉมอย่างถาวร
แม้ไม่อาจจะระบุชัดถึงสาเหตุ ทว่านางมั่นใจว่าสิ่งนี้ย่อมต้องเป็นฝีมือของคนไร้ค่าเฟิ่งฉู่เกอผู้นั้น !
คิดได้เช่นนั้น สองตาของเฟิ่งเฉียนเสวี่ยทอประกายแห่งความเหี้ยมโหดขึ้นวูบหนึ่ง
“ท่านพ่อ ผู้ใดบอกว่านางต้องเต็มใจ ตระกูลของเรามีปรมาจารย์โอสถขั้นต้นมิใช่หรือ ? เราไปขอให้เขาช่วยปรุงยากล่อมประพฤติมาให้มันกิน หากมันไม่ยินยอมเข้าพิธีสมรสเราก็จะไม่ให้ยาถอนพิษ… หรือไม่เราก็วางยาให้มันหมดสติยัดใส่เกี้ยวเจ้าสาวส่งให้ตระกูลอวิ๋นไปเสีย เช่นนี้ย่อมพอเป็นไปได้มิใช่หรือท่านพ่อ ?”
เฟิ่งเฉียนเสวี่ยเผยรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย
แม้วิธีการเช่นนี้จะมิใช่วิธีการที่ดีนัก หากทว่าในยามนี้ย่อมไม่มีหนทางใดยอดเยี่ยมไปกว่านี้
เฟิ่งเฉาหยางไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผงกศีรษะรับ
“ดี ลงมือได้”
ด้านนอก ลวี้จูผู้เก็บงำพลังวัตรได้เก็บจำทุกถ้อยคำในบทสนทนาที่ผ่านหูไปเมื่อครู่เรียบร้อยแล้ว
เพียงได้ยินว่าอีกฝ่ายคิดใช้ปรมาจารย์โอสถขั้นต้น ลวี้จูยังอดหัวเราะเยาะหยันในใจมิได้
ฝีมือแค่เพียงปรมาจารย์โอสถขั้นต้นยังคิดริอ่านมาจัดการคุณหนูของนางกระนั้นหรือ ?
ฝันไปเถิด !!
ทันทีที่เฟิ่งเฉียนเสวี่ยเดินออกมาจากห้อง ลวี้จูรีบผละหลบก่อนจะหลีกหายไปในทันที…
คล้อยบ่าย ตระกูลอวิ๋นก็ส่งคนมาตามนัดหมาย
บรรยากาศทั่วเรือนตระกูลเฟิ่งกลับคึกคักขึ้นอีกครา
โคมแดงและผ้าไหมสีแดงสดถูกแขวนประดับประดาเหนือศีรษะ ให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศแห่งการออกเรือนของบุตรีแห่งสกุล
ไม่ว่าจะอย่างไร พวกเขาต้องรักษาหน้า มิให้คนนอกนำไปติฉินนินทาว่าไร้ธรรมเนียมได้
บ่าวไพร่ในเรือนตระกูลเฟิ่งล้วนมากมาย เช่นนั้นเพียงค่อนวัน ก็สามารถตระเตรียมทุกสิ่งได้เสร็จสรรพ
ทั่วท้องนภาค่อย ๆ ถูกความมืดกลืนกิน
ครั้นแสงสุดท้ายแห่งอาทิตย์ยามอัสดงกำลังจะลาลับ เพลิงกองใหญ่ก็ถูกก่อขึ้นด้านนอกเรือนน้อยสายนที
เปลวเพลิงแผ่กระจายราวไฟป่า มันลุกโชติช่วงส่องประกายแปลบปลาบ ประหนึ่งพร้อมจะถูกสายลมหอบพาเอาประกายไฟล่องลอยไปติดต้องเป็นเชื้อเพลิงกองใหม่ได้ทุกเมื่อ
ผู้คนในตระกูลเฟิ่งแตกตื่นอลหม่านราววิหคแตกรังในทันที
***จบตอน เล่ห์กลเฟิ่งเฉียนเสวี่ย***
อัพเยอะๆได้ไหมคะมันน้อยมากค้าง
ค้างมากมมาย...มาต่ออีกเมื่อไหร่..ใจจะขาดอยากอ่านเร็วๆเยอะๆ