px

เรื่อง : Epoch of Twilight จบแล้วอ่านฟรี
ตอนที่ 101  แสงไฟ


ตอนที่ 101  แสงไฟ

ถึงแม้คนพวกนั้นจะมีประสบการณ์การเคลียร์พื้นที่ที่น่าตื่นเต้น  พวกเขาก็ดูเหมือนจะไม่สามารถพักผ่อนได้ในตอนเย็น

หลังจากเพลิดเพลินกับอาหารกลางวันแล้ว  พวกเขาก็เริ่มย้ายเข้าไปในบ้านใหม่ของพวกเขา

ไม่มีใครบ่นเรื่องมีข้าวของมากเกินไปในช่วงเวลาเลวร้ายเช่นนี้  กระทั่งเก้าอี้ที่แตกหักก็ยังมีประโยชน์โดยเอามันไปทำเป็นฟืนได้  อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ได้ตระหนักว่าพวกเขามีข้าวของมากเกินไปในตอนที่เริ่มเคลื่อนย้ายพวกมัน

เตียง, ผ้าปูที่นอน, เฟอร์นิเจอร์, ข้าวสาร, เสื้อผ้า, น้ำมันเบนซิน, เครื่องปั่นไฟ, เครื่องเทศ, กระทะ, ถ้วยชาม......การขนทุกอย่างนั้นกินทั้งเรี่ยวแรงและเวลาของพวกเขา

เมื่อพวกเขาย้ายข้าวของทั้งหมดเข้าไปในบ้านใหม่เสร็จ  มันก็ค่ำแล้ว

ทุกคนดีใจ  แต่ผู้มาใหม่ดีใจยิ่งกว่า  เพราะพวกเขาไม่ต้องเบียดกับคนอื่นๆอีกต่อไปแล้ว  ผู้หญิงยังดีกว่าผู้ชายเพราะพวกเธอไม่ต้องเจอกับความไม่สะดวกสบายและน่าอายอย่างที่ผู้ชายต้องเจอ  ผู้หญิงต้องหลีกเลี่ยงคนอื่นๆเพียงแค่จะไปเข้าห้องน้ำ

บ้านใหม่นั้นใหญ่กว่าบ้านเก่าของพวกเขา  และมีห้องว่างเพียงพอ  ดังนั้นจึงสามารถแชร์ห้องนอนสองคนต่อหนึ่งห้องได้  ขณะที่มีคนโชคดีสองสามคนได้ครองห้องทั้งห้องคนเดียว

ลู่หยวนได้ห้องนอนใหญ่  รูปภาพแต่งงานของเจ้าของคนเก่าถูกโยนลงถังขยะ  ห้องนอนถูกทำความสะอาดและผ้าปูที่นอนเดิมถูกแทนที่ด้วยผ้าปูที่พวกเขานำมาจากบ้านเก่า

ไม่ใช่เพราะผ้าปูผืนเดิมนั้นเคยเป็นของคนตาย  ถึงยังไงทุกคนก็คุ้นเคยกับความตายแล้วในตอนนี้  ถ้าความตายเป็นของต้องห้าม  พวกเขาอาจจะไม่สามารถกินพวกสัตว์กลายพันธุ์ในเมืองได้  เพราะไม่มีพวกมันตัวใดที่ไม่เคยกินคนมาก่อน

ถึงแม้พวกเขาจะย้ายข้าวของเข้าบ้านใหม่เสร็จแล้ว  งานของพวกเขาก็ยังไม่เสร็จอยู่ดี  บ้านพักทั้งหลังถูกรักษาไว้อย่างดีหลังการโจมตีจากสัตว์กลายพันธุ์ฝูงใหญ่  แต่หน้าต่างทุกบานแตกหมด  ดังนั้นบ้านจึงยังไม่ปลอดภัยที่จะใช้อยู่อาศัย  แน่ล่ะว่าลู่หยวนไม่ได้หวังว่าตัวบ้านพักจะปกป้องพวกเขาจากสัตว์กลายพันธุ์ขนาดใหญ่ได้  แต่อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันสัตว์อันตรายที่ตัวเล็กกว่าได้  อย่างเช่นยุงกลายพันธุ์  ไม่ให้พวกมันเข้ามาได้

เขาค้นหาไปทั่ว  โชคดีที่พบปูนซีเมนต์สองสามถุงในห้องเก็บของเล็กๆในที่จอดรถใต้ดิน  เขา, โฮวตง และคนอื่นๆช่วยกันรวบรวมอิฐ  ผสมปูนด้วยน้ำ  และทำการปิดหน้าต่าง,  รู,  ท่อแอร์  และที่ดูดควัน

พอพวกเขาปิดหน้าต่างบานสุดท้ายเสร็จ  ทั้งบ้านก็พลันมืดมิดราวกับตึกโบราณ  แสงสว่างจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียวมาจากการเปิดประตู

บ้านอาจจะมืด  แต่พวกเขากลับรู้สึกปลอดภัย  สุดท้าย ลู่หยวนก็ขนเครื่องปั่นไฟไปที่ห้องใต้ดินแล้วเปิดเครื่อง  เครื่องปั่นไฟส่งเสียงดังออกมา  และทันใดนั้นทั้งบ้านก็สว่างขึ้น

เขาเปิดเครื่องปั่นไฟที่ห้องใต้ดินเพราะคิดว่าบางทีเจ้าของบ้านคนเก่ามีงานอดิเรกที่ไม่ธรรมดาและได้ออกแบบห้องใต้ดินให้เก็บเสียงได้  อย่างที่คาดไว้  พอเขาปิดประตู  เสียงก็ถูกปิดไว้เกือบหมด

ขณะเดียวกัน  ในห้องนั่งเล่น  พวกเขาพากันร้องออกมาอย่างยินดี  รู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้กลับไปยังวันเก่าๆเมื่อได้เห็นแสงไฟสีขาวส่องสว่างขึ้นมา

ลู่หยวนยิ้มขณะที่มองทุกคนที่กำลังตื่นเต้น  แม้แต่คนที่เคร่งขรึมที่สุดก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้ในช่วงเวลาเช่นนี้  พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะได้เห็นแสงไฟอีกครั้ง  เหมือนกับที่พวกเขาไม่เคยคิดว่าแสงไฟที่พวกเขาได้ช่วยบริจาคในอดีตนั้นจะทำให้พวกเขามีความสุขได้มากมายเช่นนี้

“ฉันอยากชาร์จมือถือหน่อย”  หนิงเสี่ยวหลานเช็ดน้ำตา  ดูเหมือนเธอจะนึกอะไรบางอย่างออก  และเริ่มรื้อกระเป๋าตัวเอง  แต่เธอหามือถือของเธอไม่เจอ  บางทีเธออาจจะทำหายที่ไหนสักแห่ง  หญิงสาวกังวลใจมากและดูใกล้จะร้องไห้แล้ว

“เธอใช้ของฉันก็ได้!”  เชาหลินปลอบใจเธอพร้อมกับเอามือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋า  หาที่ชาร์ตแบตแล้วกดสวิตช์เปิด

“ ได้ ได้! ”  หนิงเสี่ยวหลานบิดมุมเสื้อขณะที่พยักหน้าอย่างขอบคุณ  ดวงตาของเธอจ้องไปยังมือถือที่เปิดขึ้นมาพร้อมเสียงอันไพเราะ

ไม่นาน  คนอื่นๆก็เอามือถือของตัวเองออกมาบ้าง  ชาร์จแบตแล้วเปิดเครื่อง

ทุกคนพากันเงียบ  ความตื่นเต้นของพวกเขาถูกแทนที่ด้วยความกังวลและหดหู่

“ทำไมเธอไม่ไปชาร์จแบตมือถือตัวเองล่ะ?”  ลู่หยวนถามหวงเจียฮุย

“ไม่ล่ะ  ไม่เป็นไร”  หวงเจียฮุยฝืนยิ้มให้เขา  “ที่จริงฉันโทรไม่ติดมานานแล้ว  ตั้งแต่ก่อนแบตจะหมด”

“พี่ลู่  ขอฉันยืมมือถือพี่ได้ไหม ?  ฉันอยากโทรหาพ่อกับแม่  หวังว่าฉันจะยังติดต่อพวกท่านได้นะ”  หวังซีซีที่ยืนอยู่ข้างพวกเขาขอร้องขึ้นทันที  ใบหน้าเล็กๆของเธอมืดมนราวกับว่าเธอกำลังพยายามสงบนิ่ง

ขณะที่เขามองไปที่เด็กหญิงตัวเล็กซึ่งอายุยังไม่ถึงสิบสี่ปีคนนี้  ลู่หยวนก็รู้สึกตื้นตันขึ้นมา  “ เดี๋ยวนะ  ให้พี่ไปเอามือถือจากข้างบนมาก่อน ”

ลู่หยวนวิ่งไปที่ห้องนอนใหญ่บนชั้นสอง  รื้อค้นไปทั่ว  และเจอมือถือกับที่ชาร์จแบตของเขาในกล่องที่เขาเก็บของจิปาถะ  จากนั้นเขาก็วิ่งลงมาที่ชั้นล่าง  ชาร์จมือถือแล้วเปิดเครื่อง  เขาพยายามปลอบใจหวังซีซี  “อย่าห่วงเลย  ทุกอย่างจะต้องไม่เป็นไร”

“พี่ลู่  พี่ไม่ต้องปลอบฉันหรอก  ยังไงก็ไม่ได้หวังอะไรมากอยู่แล้ว  มันใช้เวลาไม่นานในการตามหาฉันหรอกถ้าหากว่า......”  หวังซีซีไม่พูดต่อให้จบประโยค  เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป  น้ำตาของเด็กหญิงไหลลงมาอย่างไม่อาจควบคุมได้  ประโยคที่เหลือของเธอถูกแทนที่ด้วยเสียงร้องไห้

“ไม่มีสัญญาณแล้ว”  เชาหลินพูดอย่างเคร่งเครียดขณะที่มองโทรศัพท์  ทันใดนั้นสีหน้าของหนิงเสี่ยวหลานก็พลันซีดขาว  เธอนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง  ขณะที่โฮวตงก็วางมือถือของเขาลงพลางถอนใจอย่างผิดหวัง  บรรยากาศกลายเป็นหดหู่

ลู่หยวนมองมือถือของเขาจนกระทั่งมันเปิดขึ้นมาในที่สุด  มันไม่มีสัญญาณเลย  แต่มีข้อความที่ไม่ได้อ่านอยู่หนึ่งอัน  เมื่อพิจารณาว่ามือถือไม่สามารถรับข้อความได้โดยปราศจากสัญญาณ  ก็เห็นได้ชัดว่าข้อความนี้ถูกส่งมาตั้งแต่ตอนที่แบตเตอรี่ยังไม่หมดดี  และมือถือก็ปิดไปแบบอัตโนมัติก่อนที่เขาจะมีเวลาอ่านมัน

น่าประหลาดที่ข้อความนี้มาจากหวงเซียกวง  ลู่หยวนสูดหายใจเข้าลึก  แล้วอ่านข้อความไปทีละตัว  เขาใช้เวลาอ่านอยู่หลายนาทีทั้งๆที่มันค่อนข้างสั้น

“ลู่หยวน  มาหาเราถ้านายยังอยู่ในเมืองเหอตง  พ่อของฉันกับเพื่อนของเขาสร้างสถานีใต้ดินเล็กๆขึ้นมา  ฉันรู้ว่านายไม่ชอบพึ่งคนอื่น  แต่ความปลอดภัยสำคัญกว่าศักดิ์ศรี  ถ้านายหาที่ซ่อนดีๆไม่ได้  นายก็มาหาเราได้นะ  ที่อยู่คือย่านตงกวง  อันเซียโนเบิ้ล เขต18 ”

หลังจากการพบกันครั้งสุดท้ายของเขากับหวงเซียกวงที่สวนสาธารณะตงหู่  เขาก็ไม่ได้พบเธออีกเลย  หลังจากเขาปฏิเสธความรักของเธอซ้ำๆ  เขาก็ได้ทำร้ายเธออย่างมาก  และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เย็นชาขึ้นทีละน้อยจนในที่สุดก็ไม่ได้ติดต่อกัน  ลู่หยวนค่อยๆลืมเธอไป  ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คาดว่าเธอจะยังคงห่วงใยความปลอดภัยของเขา

หวงเซียกวงเป็นคนที่แจ้งเขาให้รู้ตัว  ดังนั้นเขาจึงสามารถออกจากเมืองตงหู่ไปพร้อมกับคนกลุ่มแรกได้  ถึงแม้ลู่หยวนจะทำตัวเลือดเย็นเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูได้  แต่เขาก็ยังคงมีอารมณ์ความรู้สึก

“อันเซียโนเบิ้ล  เขต 18  ดูเหมือนไม่ไกลไปจากที่นี่นัก”  ลู่หยวนพูดกับตัวเอง

ทุกคนค่อนข้างเงียบระหว่างที่ทานอาหารเย็น  พวกเขาดูเหมือนมีบางสิ่งอยู่ในใจ  และกินได้ไม่เยอะนัก

เพื่อที่จะประหยัดน้ำมันไว้  ลู่หยวนปิดเครื่องปั่นไฟก่อนที่พวกเขาจะเข้านอน  และเปิดไฟฉายในมือถือของเขาแทน

ทันทีที่เขาเดินเข้ามาในห้องนอน  หวงเจียฮุยก็ปิดประตูราวกับขโมย  เมื่อเธอหันมาทางเขา  ใบหน้าของเธอก็เป็นสีแดง  หญิงสาวหายใจเร็ว  ดวงตาชื้น  เธอดูร้อนแรงและเย้ายวน

ไฟในตัวของลู่หยวนถูกจุดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จากสัญญาณที่ชัดเจนนั้น  เขาไม่ได้มีเซ็กซ์มานานแล้วจึงรู้สึกตื่นเต้น  ยิ่งกว่านั้นหลังจากที่เพิ่มค่า AP ให้ร่างกายของเขา  คุณสมบัติทางร่างกายของเขาก็สมดุลกัน  และตอนนี้เขาสามารถควบคุมร่างกายของเขาได้เต็มที่  เขาแทบจะทนรอทดสอบความสามารถบนเตียงของเขาอีกครั้งไม่ไหวแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะหวังซีซีนอนอยู่ห้องเดียวกับพวกเขา  เขาก็คงไม่ทน

พวกเขาไม่พูด  เพียงแค่โอบกอดกันและกัน  และจูบกันอย่างดูดดื่ม  มือของลู่หยวนขยับไปที่หน้าอกของเธออย่างรวดเร็ว  แล้วถูไถนวดเฟ้นอย่างมันมือ  ลมหายใจของพวกเขาเร็วขึ้น  ลู่หยวนไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป  เขากดเธอติดกับผนัง  ปลดเข็มขัดเธอออกอย่างไม่สบอารมณ์  และดึงกางเกงกับชั้นในของเธอลง  จากนั้นเขาก็หมุนตัวเธอแล้วดันเธอติดกำแพง

“เตียง!”  หวงเจียฮุยหันมา  เสียงของเธอสั่นพร่าขณะที่ใบหน้าก็ร้อนฉ่า

“ทำที่นี่เถอะ”  ลู่หยวนยืนกราน

ใต้แสงไฟฉายจากมือถือ  สะโพกของเธอช่างขาวและกลมราวกับพระจันทร์วันเพ็ญ  ลู่หยวนถูไถมันอย่างเพลิดเพลิน  นิ้วของเขาเคลื่อนไหวไปทั่ว  หลังจากกินสัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงมานาน  ผิวของหวงเจียฮุยก็ละเอียดอ่อนและเรียบลื่นราวผ้าไหม

ทั่วร่างของหญิงสาวขึ้นสีแดงและรู้สึกร้อนเป็นอย่างมาก

ลู่หยวนลูบไล้เธออยู่สักพักจนเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป  เขาปลดเข็มขัด  เอาลู่หยวนน้อยออกมา  แล้วสอดใส่มันเข้าไปช้าๆ

เขาสูดหายใจเข้าลึกและหายใจออกช้าๆ

ไม่ใช่แค่ผิวของหวงเจียฮุยเท่านั้นที่กำลังร้อน  ข้างในตัวเธอก็ร้อนด้วย  เห็นชัดว่าหญิงสาวไม่ได้ทำมานาน  พอเขาเข้าไปในตัวเธอ  หวงเจียฮุยก็เริ่มครางออกมาอย่างพอใจ

ลู่หยวนเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเรื่อยๆ  หวงเจียฮุยไม่สามารถยันตัวเองไว้ได้อีกต่อไป  มือของเธอที่เกาะผนังอยู่เริ่มเลื่อนไหลลงมา

“ไม่  ไม่ไหวแล้ว......”  ผมของหวงเจียฮุยยุ่งเหยิง  และหน้าผากก็เต็มไปด้วยเหงื่อ

ลู่หยวนลืมตากว้าง  กอดหญิงสาวเอาไว้แน่น  และประคองสะโพกสีขาวนุ่มนิ่มของเธอไว้  ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้น  ท้องของเขากระแทกกับสะโพกของเธออย่างรุนแรง

หวงเจียฮุยรู้ว่าลู่หยวนเกือบจะเสร็จแล้ว  เธอจึงพูดว่า  “ช่วงนี้ปลอดภัย!”

ลู่หยวนคำราม  กอดหวงเจียฮุยไว้แน่น  ยังคงประคองสะโพกของเธอเอาไว้

ขณะที่พวกเขากำลังเพลิดเพลินดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุข  ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

“พี่ลู่  พี่หวง  ฉันนอนไม่หลับ  ฉันอยากนอนกับพี่ๆด้วย”

ลู่หยวนรู้สึกรำคาญใจ  และสงสัยว่าทำไมเขาไม่นึกได้ก่อนหน้านี้ว่าการที่พวกเขาทั้งหมดนอนด้วยกันนั้นมันไม่เหมาะสมแค่ไหน

ในตอนที่เขาพบหวังซีซีครั้งแรกนั้น  เธอยังเป็นเด็ก  ดังนั้นเขาจึงมองเธอเช่นนั้นมาตลอด  สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนทำให้เขาตระหนักว่าหวังซีซีไม่ใช่เด็กอีกต่อไป  เธอโตแล้ว  อย่างน้อยก็ทางด้านจิตใจ  มันไม่ถูกต้องสำหรับพวกเขาที่จะนอนด้วยกันอีก

ที่สำคัญที่สุด  มันเป็นสิ่งที่หวงเจียฮุยต้องการ  เขาจึงพยายามให้คำแนะนำเธออย่างเต็มที่  “เธอไม่เคยนอนคนเดียวมาก่อนเหรอ?  สักสองสามวันเดี๋ยวก็ชินน่า”

“แต่ถ้าฉันไม่ได้กอดพี่ตอนนอน  ฉันจะฝันร้ายนะ!”  หวังซีซีพูดอย่างอ่อนไหวขณะที่เม้มปาก  เสียงของเธอฟังดูไม่สบายใจเหมือนมีอะไรผิดปกติ

ลู่หยวนเกือบใจอ่อน  แต่เขาต้องเข้มงวดกับเธอ  “อย่าหาข้ออ้าง  เป็นเด็กดีแล้วกลับไปนอนซะ”

“ฉันคิดถึงพ่อกับแม่”  ในที่สุดหวังซีซีก็ตัดสินใจใช้ไม้ตาย

ลู่หยวนและหวงเจียฮุยมองหน้ากัน  แล้วหวงเจียฮุยก็ถอนหายใจและพูดว่า  “ให้เธอเข้ามาเถอะ!”

จากนั้นเธอก็เอาทิชชู่มาเช็ดส่วนลับของเธอ  หลังจากทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว  เธอก็เดินไปเปิดประตู

รีวิวผู้อ่าน