
1830 วันที่แล้ว
ตามๆๆๆๆๆ

1830 วันที่แล้ว
รออยู่จ้า สนุกมากๆ

1830 วันที่แล้ว
สนุก
ช่วงนี้ ชาวเมืองเทียนฉีต่างมากน้ำใจปันเวลามานั่งสนทนาแลกเปลี่ยนเรื่องบันเทิงเรียกน้ำย่อยในโรงเตี๊ยมกันอย่างครื้นเครง
เมื่อคุณหนูรองแห่งตระกูลเฟิ่ง ออกเรือนไปกับบุรุษไร้สมองจอมขี้โรคแห่งตระกูลอวิ๋น ในห้องหอคืนวันส่งตัว เจ้าสาวกลับตบแต่งใบหน้าได้อย่างสยดสยองเหลือเชื่อ กระทั่งเจ้าบ่าวตื่นตระหนกหวาดกลัวสิ้นใจคาห้องหอในคืนนั้นเอง
แม้คุณชายผู้นี้จะไร้ปัญญา ทว่าเขาก็ได้รับการทะนุถนอมประดุจอัญมณีชิ้นงามแห่งตระกูลอวิ๋น
เดิมทีผู้คนในตระกูลอวิ๋นต่างตื่นเต้นยินดีกระเหี้ยนกระหือรือที่คุณชายประจำตระกูลจะได้สมรสกับบุตรสาวตระกูลเฟิ่งเพื่อปัดเป่าอายปีศาจ ทั้งยังสามารถบันดาลความสุขให้ชีวิตของคุณชายมีสีสันยิ่งขึ้น ทว่าผู้ใดจะคาดคิดว่างานเฉลิมฉลองอันน่ายินดีจะกลับกลายเป็นงานศพอันน่าสลด
เช่นนั้นคนสกุลอวิ๋นย่อมต้องเดือดดาลอย่างหนัก
ตระกูลอวิ๋นคือหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งเทียนฉี ในยามนี้ผู้คนสกุลอวิ๋นต่างโกรธแค้นตระกูลเฟิ่งเข้ากระดูกดำ
เดิมทีพวกเขาเคยคิดอยากเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลด้วยพิธีสมรสระหว่างทายาทตระกูลเฟิ่งและตระกูลอวิ๋น
หากทว่ายามนี้ ตระกูลเฟิ่งคล้ายถูกจับโยนใส่กองเพลิง
เฟิ่งเฉาหยางทรุดลงกับเก้าอี้ ขณะรับฟังรายงานจากคนของตน ที่สุดเขาก็เข้าใจความหมายที่ซ่อนเร้นภายในถ้อยคำของเฟิ่งฉู่เกอ
ยามนี้ใบหน้าของเขาซีดเซียว กระทั่งแทบจะไร้สีโลหิต
ทว่าจู่ ๆ นัยน์ตาที่หม่นมืดมัวพลันทอประกายขึ้นวูบหนึ่งคล้ายนึกบางสิ่งขึ้นได้ เฟิ่งเฉาหยางหยัดกายขยับลุก เพื่อมุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย…
--มารร้ายชั้นสูง : นักฆ่าหน้าหยก--
ทุกวันที่สิบห้าของเดือนคือวันเปิดประมูลสินค้าในหอคลังสมบัติ
และในวันนี้ก็คือวันที่สิบห้าซึ่งเป็นวันประมูลสินค้าชุดใหม่ที่ชิงเหลียนกล่าวถึง
เฟิ่งฉู่เกอพร้อมทุกคนเตรียมตัวไปเปิดหูเปิดตาที่หอคลังสินค้านับแต่รุ่งสาง
อาเฉินน้อยนั่งอยู่ด้านข้าง ครั้นเมื่อเฟิ่งฉู่เกอเฉียดผ่านเด็กน้อย นางจึงเอ่ยปากถามไถ่
“อาเฉิน พวกเรากำลังจะไปหอคลังสมบัติกัน เจ้าอยากติดตามไปด้วยหรือไม่ ?”
อาเฉินยังคงนั่งนิ่ง สีหน้าของเขายังคงไร้อารมณ์ความรู้สึก
“ไม่ไป”
“ที่นั่นมีลูกกวาดให้เจ้ากินด้วยนะ มิต้องมานั่งทำเก่งอยู่หรอก”
ดวงหน้าน้อย ๆ แสนอ่อนเยาว์ของอาเฉินกลับแผ่อายแห่งความเย็นยะเยียบด้านชาราวผู้ใหญ่
“แม่นาง ข้าจะขอย้ำเจ้าอีกคราว่าอย่าทำราวกับข้าคือเด็กน้อย อ้อ ! อีกอย่าง ข้ามิใช่แค่เพียงเก่งเท่านั้นนะ ทว่าข้ายังเก่งเอามาก ๆ เสียด้วย ! !”
หญิงสาวอดคลี่ยิ้มออกมามิได้
“เอาล่ะ ๆ ไม่ไปก็ไม่ไป เช่นนั้นก็อยู่บ้าน รอพี่สาวกลับมา อย่าไปเที่ยวซุกซนที่ใดเล่า…”
อาเฉินเงยหน้าขึ้นจ้องอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตาที่สุกใสแวววาวและหนักแน่น ประหนึ่งจะตอกย้ำความมั่นใจในถ้อยคำของเขา
“แม่นาง เจ้ามิใช่พี่สาว หากแต่เจ้าจะมาเป็นภรรยาของข้า”
มุมปากทั้งสองของเฟิ่งฉู่เกอยิ่งยกเป็นแนวโค้งอย่างชัดเจน
“ก็ได้ ๆ เช่นนั้นก็จงอยู่ที่นี่ จงจำไว้ว่าอย่าแอบไปเที่ยวเล่นซุกซนที่ใด”
“อืม !”
อาเฉินผงกศีรษะรับสองคราพร้อมด้วยนัยน์ตาที่เปล่งประกาย ประหนึ่งตอกย้ำรับคำเฟิ่งฉู่เกอ
เฟิ่งฉู่เกอเรียกหาจื่อหลาน ปี้หลัว และลวี้จู หลังจากสั่งคำอาเฉินเรียบร้อยแล้ว
“ไปกันได้แล้ว”
หอคลังสมบัติ คือหอประมูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนฉี สินค้าทุกชนิดจะถูกรวบรวมตลอดช่วงหนึ่งเดือนก่อนการเปิดค้าประมูลจะเริ่มขึ้น
ทั้งยังมีข่าวลือหนาหูว่า โอสถสมุนไพรล้ำค่าจำนวนมากจะถูกนำออกเปิดประมูลในรอบนี้ด้วย
หากแต่สมุนไพรโอสถหาใช่สิ่งที่ผู้คนทั่วไปต้องการจับจอง สมุนไพรโอสถย่อมเป็นสิ่งที่ปรมาจารย์โอสถเท่านั้นปรารถนาครอบครอง เช่นนั้นการประมูลรอบนี้จึงมีผู้เข้าร่วมประมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แม้ในวันนี้ หอคลังสมบัติจะเงียบเหงากว่าปกติ หากทว่าย่อมไม่สงผลใดต่อการเปิดประมูลสินค้า
และเป็นดังที่ชิงเหลียนรายงาน ตัวยาสมุนไพรที่อาเฉินต้องการถึงสองชนิดถูกนำออกประมูลในครานี้เช่นกัน
สมุนไพรทั้งสองก็คือ ไหลพันใบและวารีร้อยพลิกผัน
สินค้าทั้งสอง คือสิ่งประมูลสองลำดับสุดท้าย
“คุณหนูเจ้าคะ สินค้าประมูลชิ้นใดที่ถูกจัดไว้ในลำดับสุดท้ายย่อมหมายความว่าสินค้าชิ้นนั้นเป็นที่หมายตาของผู้คน ราคาประมูลย่อมต้องห้ำหั่นกันกระทั่งสูงลิบนะเจ้าคะ”
“ก็แล้วอย่างไร ? ข้าต้องการสินค้าประมูลสองชิ้นสุดท้ายนั่น---”
“คุณหนูจะเอาสมุนไพรพวกนั้นไปทำอันใดหรือเจ้าคะ ? คุณหนูจะใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงโอสถหรือเจ้าคะ ?”
***จบตอน ข้าเก่งเอามาก ๆ ***
ตามๆๆๆๆๆ
รออยู่จ้า สนุกมากๆ
สนุก