px

เรื่อง : ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ตอนที่ 21 อาเฉินเติบใหญ่


อาเฉินต้องการเติบใหญ่…”

 

สองตาของเฟิ่งฉู่เกอหรี่ลงเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มมุมปาก

 

สามดรุณีน้อยทางด้านหลังได้ฟังเช่นนั้นถึงกับตาโตด้วยความตกใจ

 

“คุณหนู เพียงสมุนไพรเหล่านี้ จะสามารถทำให้เด็กน้อยสามารถเจริญวัยเติบใหญ่ได้เชียวหรือเจ้าคะ ?”

 

ทั้งจื่อหลาน ปี้หลัวและลวี้จูต่างหันมองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยท่าทีงุนงง

 

และก็เป็นเช่นนั้นจริง สินค้าทั้งสองมีการแข่งขันประมูลกระทั่งราคาถูกถีบโด่งจนสูงลิบ กระนั้น เฟิ่งฉู่เกอก็ยังคงประมูลซื้อสมุนไพรทั้งสองมาด้วยราคาสูงถึง 1.4 ล้านตำลึงเงิน

 

จำนวนเงิน 1.4 ล้านตำลึงเงินนี้สามารถเทียบเท่ารายได้ทั้งปีของตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง ทั้งยังเป็นรายได้ทั้งไตรมาสจากการค้าภายใต้การดูแลของหอสวรรค์*

*หอสวรรค์ก็คือสถานที่ซึ่งเฟิ่งฉู่เกอพักอาศัยก่อนจะกลับคืนเรือนสกุลเฟิ่ง

 

การประมูลกินเวลากว่าค่อนวัน กว่าทุกคนจะเดินทางกลับเรือน ท้องนภาก็เริ่มมืดสลัวย่ำค่ำ

 

เมื่อรัตติกาลแผ่ครอบครองผืนปฐพี จันทร์กระจ่างเต็มดวงพลันลอยส่องสว่างกลางห้วงเวหา

 

แสงจันทราทอประกายตกต้องสะท้อนก้อนกรวดแผ่นหินที่ปูลาดตามทางก่อให้เกิดประกายแวววาวระยิบระยับ

 

เฟิ่งฉู่เกอคิดจะออกจากเรือนสกุลเฟิ่งก็ต่อเมื่อนางสามารถทวงคืนสมบัติทั้งหมดของตนกลับคืนมาได้ เช่นนั้นนางย่อมต้องรั้งอยู่ในเรือนน้อยสายนทีอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง

 

หากทว่าเพียงก้าวเข้าสู่เรือนตระกูลเฟิ่ง สองคิ้วของเฟิ่งฉู่เกอกลับต้องขมวดมุ่น กระทั่งหน้าผากแทบจะยุ่งย่น

 

ค่ำคืนนี้เงียบสงัดวังเวงจนน่าฉงน

 

ร่างของคนจำนวนสี่คนเหาะเหินกลางเวหาก่อนจะร่อนลงกลางลานเรือนตระกูลเฟิ่ง

 

ทันทีที่พวกเขาทั้งสี่จรดฝ่าเท้านิ่งสนิทลงบนแผ่นพื้น ขุมพลังอันหนาแน่นหลั่งล้นพลันแผ่ออกกดดัน

 

เมื่อหันกลับเหลียวมอง ทุกคนจึงเห็นชายชราในอาภรณ์สีขาวสะอาดตาลอยคว้างอยู่กลางเวหา

“เจ้าคือเฟิ่งฉู่เกอกระนั้นหรือ ?”

 

เสียงของชายผู้นั้นดังอู้อี้ในลำคอ

 

หากทว่าสุ้มเสียงที่ทุ้มต่ำแผ่วเบาของเขากลับแฝงไว้ด้วยคลื่นพลังที่แทรกผ่านอากาศตรงเข้ากระเทือนถึงโสตประสาทของเฟ่งฉู่เกอโดยตรง

 

กระทั่งจื่อหลานผู้มีวรยุทธสูงสุดในบรรดาหญิงรับใช้ทั้งสาม ยังมิอาจทนคลื่นพลังที่กดอัดของชายผู้นี้

 

เฟิ่งฉู่เกอแผ่คลื่นพลังออกห่อหุ้มสตรีทั้งสามทันทีที่เห็นปฏิกิริยาของหญิงรับใช้ข้างกาย

 

“รีบหนีไป !”

 

แม้พวกจื่อหลานจะไม่ต้องการหลีกหนีเอาตัวรอด ทว่าผู้เป็นนายกลับยกมือซัดพลังอัดกระแทกใส่ม่านพลังผลักพวกนางทั้งสามออกจากสถานที่แห่งนั้นในทันที

 

เฟิ่งฉู่เกอคาดคำนวณได้ว่าชายชราผู้นี้มุ่งหมายเอาชีวิตของนาง !

 

หากพวกจื่อหลานยังคงดึงดันอยู่ร่วมต่อสู้กับนาง เกรงว่าสิ่งที่พวกนางต้องเผชิญล้วนมีเพียงความตาย

 

วรยุทธของชายชราผู้นี้สูงส่ง กระทั่งนางยังมิใช่คู่ประมือ

 

“เจ้าคือผู้ใด ?”

 

เฟิ่งฉู่เกอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

ชายชราผู้นั้นเพียงกรอกตากลับมาจ้อง

 

“สาวน้อย การกระทำของเจ้าไม่คู่ควรกับการเป็นคุณหนูตระกูลเฟิ่ง ยามนี้เจ้ากำลังตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อตระกูลเฟิ่ง เจ้าไม่ต้องการชีวิตของตนแล้วกระนั้นหรือ ? จุ๊ จุ๊ จุ๊… ช่างน่าเสียดาย พลังต้าหวูจงในตัวเจ้า”

 

รูม่านตาของเฟิ่งฉู่เกอหดรัดทันทีที่ได้ยินถ้อยคำของอีกฝ่าย

 

นางไม่คาดคิดว่าเฒ่าผู้นี้จะมองวรยุทธของตนได้อย่างทะลุปรุโปร่งถึงเพียงนี้

 

หากทว่า เฟิ่งฉู่เกอย่อมสามารถคาดเดาฐานะของชายชราผู้นี้ได้ในทันทีเช่นกัน

 

เบื้องหลังตระกูลใหญ่ผู้ทรงอิทธิพลบนแผ่นดินเทียนฉี คือสี่ปรมาจารย์ลึกลับผู้ไม่มีผู้ใดหยั่งรู้วรยุทธของพวกเขา

 

บ้างร่ำลือว่าพวกเขาคือยอดปรมาจารย์แห่งเทียนตี้ฝู่ บ้างกล่าวขานกันว่าพวกเขาทั้งสี่คือกลุ่มนักพรตผู้บำเพ็ญเพียร

 

เฟิ่งฉู่เกอจ้องชายชราเบื้องหน้าอย่างไม่วางตา นางมั่นใจว่าเฒ่าผู้นี้คือผู้ค้ำจุนสนับสนุนตระกูลเฟิ่ง

 

เมื่อเฟิ่งเฉาหยางถูกนางบีบคั้นกระทั่งถึงทางตัน จึงจำต้องร้องขอความช่วยเหลือจากยอดฝีมือผู้อยู่เบื้องหลัง

 

***จบตอน อาเฉินเติบใหญ่***

 

รีวิวผู้อ่าน

jarawee13
1380 วันที่แล้ว

แก่แล้วยังมารังแกเด็ก


  แสดงความคิดเห็น