px

เรื่อง : ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ตอนที่ 23 ตี้เจวี๋ยเฉิน


นัยน์ตาสีม่วงคู่นั้นมอบความรู้สึกอันสูงสง่าภูมิฐาน

 

นัยน์ตาสีม่วงที่ทอประกายระยิบระยับคู่นั้น ประหนึ่งกำลังเย้ยหยัน

 

แสงจันทราที่สาดส่องอ่อนสลัว ความสูงส่งสง่างามที่มิมีมนุษย์ผู้ใดหาญกล้าสบตามองโดยตรง !

 

แม้นชายชราผู้นั้นจะอยู่ในตำแหน่งไม่ไกลห่างออกไปนัก ทว่าเพียงเริ่มรู้สึกถึงนัยน์ตาสีม่วงที่กำลังจับจ้องใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ความหวาดผวาพรั่นพรึงพลันท่วมท้นจากเบื้องลึกภายในใจ กระทั่งหลั่งล้นผ่านม่านดวงตาอย่างเห็นได้ชัด

 

“ใช่แล้ว…เป็นท่าน…”

 

เฒ่าชราผู้นั้นยกมือที่สั่นเทาชี้ไปยังร่างของบุรุษหนุ่มเบื้องหน้า ปลายนิ้วของเขาสั่นระริก

 

ภายใต้เงาจันทร์ ชายหนุ่มผู้อยู่ในอาภรณ์สีดำผู้นั้นหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่

 

รูปร่างของเขาสูงโปร่ง ทั้งยังสูงกว่าชายชรา

 

เขายืนเด่นสง่า ขณะกดสายตาลงมองชายชราผู้หุ้มห่อร่างกายด้วยอาภรณ์สีขาวสะอาดตา

 

“ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่า ตั้งแต่เมื่อใดที่เทียนตี้ไป๋ไม่อาจละเว้น กระทั่งหญิงสาวแน่งน้อยผู้หนึ่ง…”

 

ริมฝีปากบางของเขาขยับเคลื่อนขึ้นลง ประหนึ่งต้องการท้าทายหมู่ดารา โครงหน้าได้รูปที่เสมือนหนึ่งถูกสลักเสลาด้วยฝีมืออันปราณีตวิจิตรล้วนจัดสรรทุกสัดส่วนบนรูปหน้าได้อย่างลงตัวสมบูรณ์แบบอย่างมิอาจค้นหาที่ติ

 

ใบหน้าที่หล่อเหลาเหนือคำบรรยาย โดดเด่นภายใต้แสงเดือนที่ทอประกายสีเงินยวงระยิบระยับสามารถสร้างความสับสนมึนงง ราวตกอยู่ในห้วงแห่งภวังค์อันหลงลืมตนแก่ทุกผู้คนที่ได้ยลเห็น

 

เฟิ่งฉู่เกอจ้องบุรุษผู้ปรากฏกายอย่างไม่คาดฝันด้วยความอัศจรรย์ใจ

 

ชายผู้นี้ต้องเป็นมารปีศาจอย่างแน่แท้ ! เขาหล่อเหลาจนเกินไปแล้ว !

 

อาวุโสผู้ถูกเรียกขานว่าเทียนตี้ไป๋ ยามนี้หวาดผวา กระทั่งเนื้อตัวสั่นเทาฝ่าเท้าล่าถอยอย่างมิรู้ตัว

 

แม้ผู้อื่นจะไม่ล่วงรู้ หากทว่าเขาย่อมกระจ่างแจ้งแก่ใจ

 

ว่าบุรุษผู้ยืนตระหง่านเบื้องหน้าเขาในวันนี้ คือชายหนุ่มผู้มีวรยุทธสูงส่งขั้นที่เจ็ด ปราณจักรพรรดิ !*

*วรยุทธมีทั้งหมด 8 ขั้น สูงกว่าปราณจักรพรรดิมีเพียงปราณเซียนเท่านั้น

 

แม้เหล่าชาวยุทธทั่วหล้าจะตั้งใจฝึกฝนวรยุทธอย่างทุ่มเทตลอดชั่วชีวิต ยังไม่อาจแม้เพียงเฉียดใกล้วรยุทธที่สูงส่งถึงเพียงนี้ หากทว่า บุรุษหนุ่มผู้หล่อเหลาดึงดูดความรู้สึกเบื้องหน้าเขานี้ คือผู้สามารถบรรลุถึงปราณขั้นจักรพรรดิได้ด้วยวัยแค่เพียง 18 ปี !

 

“ท่าน…เหตุใดท่านจึงมาปรากฏกายที่นี่ ?”

 

“ข้าย่อมต้องปรากฏกาย เมื่อมีผู้คิดลงมือกับอิสตรีผู้อ่อนแอ…”

 

เพียงสายตาของเขาเคลื่อนขยับ กลับเสมือนหนึ่งความงดงามภายใต้โลกหล้าที่กว้างใหญ่ถูกสูบกลืนรวมลงในแววตาคู่นั้น

 

“นางคือหญิงของท่าน ?”

 

เทียนตี้ไป๋หันไปจ้องเฟิ่งฉู่เกอด้วยท่าทีประหลาดใจอย่างเหลือแสน เขาสามารถประมวลความเข้าใจทุกอย่างกระจ่างชัดด้วยเวลาเพียงชั่วครู่

 

“ที่แท้ นางคือหญิงของท่าน มิน่าเล่า จึงยโสโอหังยิ่งนัก ! ฮ่าฮ่าฮ่า ! ...”

 

“เทียนตี้ไป๋…ไม่อยากเป็นผู้ลงมือ”

 

ชายผู้นั้นเอนแผ่นหลังพิงด้วยท่าทีผ่อนคลาย สองคิ้วเลิกสูง ริมฝีปากบางเผยอกระซิบคำ

 

ทันทีที่บุรุษผู้นี้ปรากฏกาย ชายชราในอาภรณ์สีขาวย่อมตระหนักดีว่าวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของเขาได้มาถึงแล้ว

 

เฒ่าผู้นั้นหันกลับมาตอบคำด้วยน้ำเสียงหม่นมัว---

 

“ข้าเข้าใจแล้ว…ไม่ขอรบกวนท่าน…”

 

เขายกมือขึ้นพร้อมคำกล่าวนั้น ยินเพียงเสียงดัง ‘ตูม’ ฝ่ามือของชายชราผู้นั้นก็อัดกระแทกใส่จุดรวมพลังสวรรค์ของตนเอง

 

“อั่ก---”

 

โลหิตอุ่นพุ่งทะลักออกจากปากชายชราในชุดขาว เพียงชั่วพริบตา เฒ่าผู้นั้นก็ไร้สิ้นอายพลัง ไร้สิ้นชีวิต

 

ทั่วชั้นบรรยากาศคละเคล้าไปด้วยกลิ่นคาวโลหิต

 

แสงจันทร์สาดส่องทอลอดผ่านหมู่แมกไม้ ส่งผลให้เกิดเงากิ่งใบตกต้องกระทบแผ่นพื้น บุรุษผู้นั้นย่างกรายผ่านเงาจันทร์อย่างเชื่องช้า

 

สายลมเย็นที่พริ้วผ่านช่วยปลดปล่อยปลายผมของเขาให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเสรี ส่งให้ท่วงท่าในยามนี้ของชายหนุ่มยิ่งเผยความก้าวร้าวดุดันสมความเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์

 

กระทั่งที่สุดเรือนกายที่สูงโปร่งจึงตรงเข้าครอบงำเรือนร่างอรชรบอบบางของเฟิ่งฉู่เกอ

 

นัยน์ตาสีม่วงคู่นั้นหรี่ลงเล็กน้อย ขณะจับจ้องมองมาที่นาง

 

“แม่นาง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ?”

 

เฟิ่งฉู่เกอกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความตื่นตะลึงในความหล่อเหลากระชากวิญญาณประดุจมารปีศาจของบุรุษผู้สามารถครอบงำจิตใจของอิสตรีให้ใหลหลง ทว่าเพียงครู่ ที่ความรู้สึกกลับคืน เฟิ่งฉู่เกอรีบหันมาสบตาเขากลับด้วยความขัดเขินเล็กน้อย

 

นางหาใช่ผู้ที่ไม่เคยพบเจอบุรุษผู้หล่อเหลา เพียงทว่า ความหล่อเหลาที่กำลังปรากฏเบื้องหน้าสายตาของนางนี้ คือความงดงามถึงระดับสามารถทำให้จิตใจเลื่อนลอยไม่สมประดี ยากยิ่งจะควบคุมความรู้สึกในใจ

 

หากทว่า เมื่อยามนี้นางสามารถเรียกคืนความรู้สึกทั้งหมดกลับมาได้อย่างสมบูรณ์

 

หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นกล่าวคำ

 

“ขอบคุณในน้ำใจของท่าน มิทราบคุณชายมีนามว่า…”

 

“ตี้เจวี๋ยเฉิน…”

 

ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มอ่อนโยน

 

ขณะที่อีกฝ่ายแทบจะล้มทั้งยืน

 

ตี้เจวี๋ยเฉิน

 

เขาคือตี้เจวี๋ยเฉิน บุรุษผู้อยู่ในรายนามชายงามอันดับหนึ่งบนแผ่นดิน ตี้เจวี๋ยเฉิน ผู้ที่จื่อหลานหลงใหลคลั่งไคล้อย่างเอาเป็นเอาตายกระนั้นหรือ ?”

 

ช่างบังเอิญเสียจริง

 

***จบตอน ตี้เจวี๋ยเฉิน***

รีวิวผู้อ่าน

jarawee13
1819 วันที่แล้ว

แหม๋ๆๆๆๆ


  แสดงความคิดเห็น