1367 วันที่แล้ว
รอ
ทว่า…ตี้เจวี๋ยเฉินมิได้อยู่ที่เทียนตี้ฝู่กระนั้นหรือ ? เหตุใดเขาจึงมาโผล่ที่นี่ได้ ?...ทั้งยังปรากฏกายในเรือนตระกูลเฟิ่งอีกด้วย
จันทราเริ่มสาดส่องแสงสว่างกระจ่างพร่างพราย
ขณะที่เฟิ่งฉู่เกอเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่าย นัยน์ตาทั้งคู่ของนางทอประกายแวววาวสดใส
“ท่านคือตี้เจวี๋ยเฉินกระนั้นหรือ ? มิทราบอยากรบกวนท่านช่วยข้าสักเรื่องจะได้หรือไม่ ?”
อีกฝ่ายคลี่ยิ้มน้อมรับ นี่คือครั้งแรกที่สาวน้อยผู้นี้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเขา ไหนเลยเขาจะไม่รีบตอบรับคำ
“แน่นอน”
“รบกวนท่านช่วยตามข้ามา---”
กล่าวจบ เฟิ่งฉู่เกอก็เหาะเหินกลับมายังที่พำนัก…
ยามนี้ พวกจื่อหลานต่างรั้งรอนางอยู่ในเรือนน้อยสายนทีด้วยท่าทีกระวนกระวาย ทุกคนล้วนตระหนักดีว่าหากตนหุนหันไปตามหาคุณหนู ย่อมกลับกลายเป็นภาระ เช่นนั้น ในสถานการณ์เยี่ยงนี้ พวกนางจำต้องรั้งรอฟังข่าวด้วยความอดทน
เพียงเสียงฝีเท้าคนดังขึ้นที่ด้านนอก
ดรุณีน้อยทั้งสามก็รีบกระวีกระวาดออกไปในทันที
“คุณหนู…เป็นท่านจริง ๆ คุณหนูไม่เป็นไรใช่หรือไม่เจ้าคะ วิเศษไปเลย !”
เพียงเห็นหน้าเฟิ่งฉู่เกอ จื่อหลานก็ส่งเสียงร้องรับเป็นคนแรกด้วยความตื่นเต้นยินดี
เฟิ่งฉู่เกอช่วยลูบหลังปลอบใจ
“ข้าไม่เป็นไรแล้ว ไม่มีอันใด ดูเถิดว่าข้าพาผู้ใดมาด้วย ?”
“ผู้ใดหรือเจ้าคะ ?”
สิ้นคำกล่าวตี้เจวี๋ยเฉินก็ก้าวผ่านบานประตูเข้ามาพอดี
เขาคาดเดาไม่ถูกจริง ๆ ว่าเฟิ่งฉู่เกอประสงค์ให้เขากระทำสิ่งใด เช่นนั้นภายใต้สถานการณ์เยี่ยงนี้เขาจึงกระทำตนไม่ถูก
เพียงตี้เจวี๋ยเฉินปรากฏกายเบื้องหน้าพวกจื่อหลาน สาวน้อยทั้งสามพลันตกอยู่ในอาการตกตะลึงพรึงเพริดตัวแข็งค้าง
บุรุษผู้นี้…รูปงามเหนือคำบรรยายอย่างแท้จริง ! !
“คุณหนู…เขา…เขา…คือ… ?”
“ตี้เจวี๋ยเฉิน มิใช่เขาคือบุรุษที่เจ้าใฝ่ฝันถึงกระนั้นหรือ ?””
เฟิ่งฉู่เกอสรรพยอกหยอกเย้า
ได้ยินคำกล่าวของอีกฝ่าย สีหน้าของตี้เจวี๋ยเฉินพลันหม่นมัวลงทันใด…
ที่สุดในคืนพระจันทร์เต็มดวงแห่งราตรีนี้ เขาก็สามารถเผยโฉมหน้าที่แท้จริงภายใต้พิษร้ายที่แทรกซึมในร่าง เดิมทีเขาคิดว่านางย่อมต้องตื่นเต้นประหลาดใจ ไหนเลยจะคาดคิดว่านางกลับมีปฏิกิริยาเช่นนี้
“อ้าว ? แล้วอาเฉินเล่า ?”
เสียงผู้เป็นนายเอ่ยถาม หลังสอดส่ายสายตาหาจนทั่วทว่ากลับไม่พบแม้เพียงเงาของเด็กน้อยผู้นั้น
“พวกเราก็ไม่รู้เจ้าค่ะ…ตอนที่พวกเรากลับมา อาเฉินก็ไม่อยู่แล้วเจ้าค่ะ”
สีหน้าของเฟิ่งฉู่เกอแปรเปลี่ยนในทันที
ค่ำคืนนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย
หากแต่ไม่ว่าอย่างไร อาเฉินจะต้องไม่เป็นไร !!
“ข้าจะออกไปตามหาอาเฉิน !”
นางรีบรุดออกไปโดยทิ้งถ้อยคำสั่งเสียไว้เพียงเท่านั้น
“คุณหนู… พวกเราไปด้วยเจ้าค่ะ”
“พวกเจ้าอยู่เฝ้าเรือนเถิด หากอาเฉินกลับมาแล้วไม่พบผู้ใดจะทำเช่นไร ?”
เพียงสิ้นคำสั่ง ร่างของนางก็หายกลืนเลือนไปกับความมืดมิดอีกครา
ตี้เจวี๋ยเฉินยังคงยืนค้างอยู่ที่บานประตู เขาส่งสายตามองสาวน้อยร่างบางที่รีบรุดพรวดพราดออกไปด้วยความรู้สึกอันเฝื่อนขมระคนหวานชื่น
ความหวานชื่นอันเกิดแต่ความยินดีที่นางห่วงใยอาเฉินผู้ต้องพิษ กระทั่งร่างกลับกลายเป็นเด็กน้อย
ความเฝื่อนขม อันเกิดแต่การที่เขามาปรากฏกายเบื้องหน้านางเช่นนี้ นางกลับจดจำเขามิได้…
ตี้เจวี๋ยเฉินถอนหายใจเบา ๆ คราหนึ่ง ก่อนจะถ่ายถอนหายใจออกมาอีกคราหนึ่ง
เขาแหงนหน้าขึ้นมองดวงจันทราที่ลอยเด่นอยู่เหนือเวหา คล้ายเวลาของเขาใกล้จะสิ้นสุดแล้ว
นัยน์ตาคู่นั้นทอประกายระยิบระยับคราหนึ่ง ก่อนร่างสูงโปร่งจะหันหลังก้าวตรงออกไป…
เฟิ่งฉู่เกอออกติดตามค้นหาอาเฉิน กระทั่งแทบจะพลิกเสาเรือนตระกูลเฟิ่ง ทว่ากลับไม่พบแม้เพียงเงาของเด็กน้อย ยามนี้นางเริ่มกระสับกระส่ายร้อนใจอย่างหนัก
นางถูกใจอาเฉินน้อยผู้นี้ยิ่งนัก เขาเป็นเด็กที่เย็นชา ทั้งยังมีจิตใจที่ด้านชา
เด็กน้อยผู้นี้คล้ายคลึงกับนางเสียเหลือเกิน
ชาติภพในอดีต เฟิ่งฉู่เกอก็ไร้ญาติขาดมิตร ที่สุดเส้นทางชีวิตจึงนำนางมาสู่องค์กรนักฆ่า และกลับกลายเป็นมือสังหารเลือดเย็นที่ไร้หัวใจ
กระทั่งเมื่อนางถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาถึงดินแดนแห่งนี้ ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากบิดาบุญธรรม ได้พบกับพวกจื่อหลาน ชีวิตจิตใจของนางจึงแปรเปลี่ยน
นางไม่อาจทนปล่อยให้เด็กตัวน้อยเยี่ยงอาเฉินต้องแบกรับชะตากรรมอันโหดร้ายจนเกินทน เช่นนั้นนางจึงให้อาเฉินอยู่รั้งข้างกาย ให้เขาติดสอยห้อยตามนาง พร้อมมอบทุกสิ่งที่เขาปรารถนาต้องการ อยากเห็นเขามีความสุข อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่เขา…
***จบตอน บุรุษที่เจ้าใฝ่หา***
รอ