
1818 วันที่แล้ว
27 ตอน พ่อหมดตัว แล้วหลังจากนี้จะเล่นอะไรอีกละเนีย

1819 วันที่แล้ว
ถึงกับหมดตัวเลย
“ว่าอย่างไร ? น่าเห็นใจจริง ๆ …ข้าคำนวณมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดไว้แล้ว รวม ๆ แล้วทั้งสิ้นก็ 38 ล้านตำลึง”
“38 ล้านตำลึง !”
เฟิ่งเฉาหยางเงยหน้าเปล่งเสียงร้องอุทานออกมาทันที
“หากเจ้าไม่เชื่อ ย่อมสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว อ้อ… นี่ข้าอุตส่าห์หักดอกเบี้ยออกให้แล้วด้วยนะ…เห็นแก่ที่ข้าเคยพำนักอาศัยในเรือนสกุลเฟิ่งมานานพอควร เช่นนั้นข้าจึงช่วยหักดอกเบี้ยออก หากคิดรวมดอกเบี้ยทบต้นย่อมเป็นจำนวน 40 ล้านตำลึง ทว่าช่างเถิด เจ้าชดใช้ข้ามาเพียง 38 ล้านตำลึงก็พอ”
“38 ล้านตำลึง ข้าจะไปหาเงินจำนวนมากมายถึงเพียงนั้นมาจากที่ใดกัน ?”
เมื่อวานเฟิ่งเฉียนเสวี่ยทำให้คุณชายรองตระกูลอวิ๋นตื่นผวากระทั่งสิ้นใจคาห้องหอ ตระกูลอวิ๋นจึงพากันมาเรียกร้องค่าเสียหายจากสกุลเฟิ่งถึงหน้าเรือน
ด้วยสถานภาพของตระกูลอวิ๋น ไหนเลยสกุลเฟิ่งจะกล้าปัดความรับผิดชอบ เช่นนั้น เขาจึงจำต้องกัดฟันชดใช้ค่าเสียหายไปถึง 20 ล้านตำลึง
เงินจำนวนยี่สิบล้านตำลึงนั้นมากมายเทียบเท่ากับตระกูลเฟิ่งถูกปล้นจนหมดตัว ไหนเลยเขาจะสามารถหาเงินมาชดใช้ค่าเสียหายได้แม้เพียงครึ่งของคำร้องขอจากเฟิ่งฉู่เกอ ?
“ไม่มีจะชดใช้ ? ข้าไม่สน เมื่อเจ้าผลาญสมบัติสินเดิมเจ้าสาวของท่านแม่ไม่เหลือถึงเพียงนี้ ย่อมเสมือนเจ้ากำลังดูหมิ่นท่านแม่ของข้า สินเดิมเจ้าสาวของท่านแม่ล้วนเป็นสินพระราชทาน เจ้ารักษาสินพระราชทานได้ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ ย่อมได้รับรางวัลพระราชทานชั้นสูงเป็นแน่ !”
“เฟิ่งฉู่เกอ เจ้าเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร ? เจ้าได้รับความสุขใจมากนักหรือจึงเข้ามาทำลายตระกูลเฟิ่ง กระทั่งถึงความพินาศย่อยยับถึงเพียงนี้ ?”
“นายใหญ่เฟิ่ง ท่านกล่าวหนักไปแล้ว ข้อกล่าวหาว่าข้าจงใจให้ตระกูลเฟิ่งถึงความพินาศย่อยยับนี้ นับเป็นการดูถูกกันอย่างยิ่ง ข้าก็เพียงทวงสมบัติอันพึงเป็นของข้ากลับคืน ส่วนที่เหลือเกินเลยไปกว่านั้น ล้วนหาใช่ปัญหาของข้าไม่ !”
นางเพียงช่วยทวงสิทธิ์ในสมบัติอันสมควรเป็นของร่างนี้ และปลดเปลื้องความทุกข์ระทมที่เจ้าของร่างต้องกล้ำกลืนฝืนรับตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ผิดแปลกประหลาดที่ใดกัน ?
“นายใหญ่เฟิ่ง 30 ล้านตำลึง ไร้ข้อต่อรอง ! หากท่านไม่สามารถมอบเม็ดเงินทั้งหมดคืนให้แก่ข้า เช่นนั้น ข้าคงจำต้องเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้…”
เฟิ่งเฉาหยางไม่คาดคิดว่าเฟิ่งฉู่เกอจะไร้น้ำใจถึงเพียงนี้
เขาเงยหน้าขึ้น เพื่อจะได้พบเจอสายตาที่เย็นชาไร้ร่องรอยแห่งอารมณ์ใดของหญิงสาว
แม้เขาจะไม่ยินยอมพร้อมใจ ทว่าเพียงสิ่งเดียวที่สามารภกระทำได้ก็คือหาทางประนีประนอม
หากเรื่องนี้รู้ถึงพระเนตรพระกรรณฮ่องเต้ เขาย่อมต้องอาญาแผ่นดินเป็นแน่
ยังอีกทั้งยามนี้ ตระกูลเฟิ่งอยู่ในสภาพสิ้นไร้ไม้ตอก ไร้ความช่วยเหลือสนับสนุนจากอาวุโสผู้หนุนหลัง สถานภาพยามนี้หาใช่มั่งคั่งมั่นคงเฉกเช่นที่เคยเป็น
ก่อนหน้า ตระกูลเฟิ่งอาจได้รับความเคารพนับถือในฐานะตระกูลผู้มีสายสัมพันธ์กับองค์หญิงแห่งราชวงศ์ ทว่ายามนี้ เฟิ่งเฉาหยางย่อมตระหนักดีว่า ตระกูลเฟิ่งสูญเสียสถานภาพ และความมั่นคงทุกด้านไปเสียแล้ว…
เขากดสายตาลงเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบคำ…
“เรือนใหญ่แห่งนี้มีมูลค่ากว่า 38 ล้านตำลึง เช่นนั้นข้าจะขอจำนองเรือนใหญ่แห่งนี้ไว้ก่อน”
เฟิ่งฉู่เกอหรี่ตามองอีกฝ่ายด้วยไม่คาดคิดว่าเฟิ่งเฉาหยางจะยังเหลือทางรอด
“ได้ ! นายใหญ่เฟิ่ง เช่นนั้นท่านจงลงนามทำข้อตกลงจำนองเรือนแห่งนี้ เบื้องหน้าจะได้มิมีผู้ใดกล้าติฉินเอาได้ว่าข้าคือผู้ใด”
เฟิ่งเฉาหยางหยิบพู่กันแต้มหมึกลงนามทำสัญญาใช้เรือนใหญ่ตระกูลเฟิ่งจำนองเพื่อชดเชยหนี้สินที่ติดค้าง
นั่นคือ นับแต่วันนี้ไป หากเฟิ่งเฉาหยางยังไม่อาจรวบรวมตำลึงเงินมาชดใช้เฟิ่งฉู่เกอด้วยยอดเงิน 38 ล้าน เรือนเฟิ่งแห่งนี้ย่อมไม่อาจนับเป็นสมบัติของเขา
“นายใหญ่เฟิ่ง เมื่อเรือนหลังนี้ได้กลับกลายเป็นของข้าแล้ว…เช่นนั้น ท่านย่อมไม่สมควรอยู่ในที่นี้อีก”
เฟิ่งฉู่เกอคลี่ยิ้มอย่างสดใส หากทว่าถ้อยคำที่เอ่ยกล่าวกลับสร้างความหวาดหวั่นสั่นสะท้านให้แก่เฟิ่งเฉาหยางอย่างถึงที่สุด
น่าเสียดายเมื่อใดที่เฟิ่งฉู่เกอตัดสินใจลงไปแล้ว จะมีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของนางได้
เฟิ่งเฉาหยางจึงทำได้เพียงเดินคอตกกลับไปเก็บข้าวของ ก่อนจะพาฮูหยินรอง และเฟิ่งชิงหว่านผู้ยังคงพันใบหน้ารักษาแผลออกจากเรือนไปด้วยความสิ้นหวัง
ครอบครัวตระกูลเฟิ่งผละจากไปท่ามกลางความเคียดแค้นชิงชังในตัวเฟิ่งฉู่เกอ
ฮูหยินรองจ้องเฟิ่งฉู่เกอตาเขียวปั้ด เมื่อนางต้องอำลาจากเรือน
“ไปเถิด พวกเราไปกันเถิด ที่นี่หาใช่เรือนของพวกเราอีกต่อไปไม่”
เฟิ่งเฉาหยางกล่าวพลางรั้งร่างของฮูหยินรองผู้ยังคงอิดออดละล้าละลัง
***จบตอน ค่าชดเชย 38 ล้านตำลึง***
27 ตอน พ่อหมดตัว แล้วหลังจากนี้จะเล่นอะไรอีกละเนีย
ถึงกับหมดตัวเลย