หลังจากถูกเหตุการณ์เมื่อครู่ขัดจังหวะไปเล็กน้อย ตอนนี้ทุกคนต่างหันกลับไปแลกเปลี่ยนสินค้าของตน
ต่างคนต่างก็ซื้อขายกันด้วยความระมัดระวัง ดูราบรื่น และเป็นระเบียบ เป็นบรรยากาศที่อบอุ่น บางคนก็เฝ้ารอคอยของที่ตนต้องการอย่างใจจดใจจ่อ จากนั้นการซื้อขายแลกเปลี่ยนก็ดำเนินไปตามปกติ
ขณะที่ผู้คนกำลังหมกหมุ่นอยู่กับการค้าขายของตน ฝางซิงก็เดินไปที่ด้านหน้าของฝูงชน แล้วพูดด้วยเสียงที่ชัดเจนว่า "ข้ามีของบางอย่างที่ต้องการขาย แต่ราคาถูกกำหนดไว้ที่ 150 หินจิตวิญญาณ ฟังดูไม่น้อยเลยใช่ไหม แต่ดูก่อน...ความจริงแล้วต่อให้หินจิตวิญญาณ 150 ก้อน ข้าก็ยังขาดทุน ก่อนที่ข้าจะเข้าร่วมสำนักนี้ ข้าได้ขอให้ท่านพ่อของข้าซื้อให้ด้วยราคาถึง 30000 เหรียญทองเชียว... "
ทันทีที่เขาเริ่มนำเสนอสินค้าของเขา ก็สามารถดึงดูดทุกคนโดยรอบได้ทันที
ชายหนุ่มคนเดิมที่สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนก่อนหน้านี้ด้วยอาวุธเวทดาบบินระดับกลางซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 100ก้อนหินจิตวิญญาณ ผู้คนก็ยังตะลึง แล้วตอนนี้กลับมีบางอย่างที่มีมูลค่ามากกว่า ต้องใช้หินจิตวิญญาณถึง 150 ก้อนงั้นรึ ? แล้วเข1ายังอ้างว่าขาดทุนสำหรับมูลค่าขนาดนี้อีกด้วยงั้นรึ ? สมบัติที่หายากเช่นนี้ใครบ้างจะไม่อยากเห็น ? เช่นนั้นทุกคนจึงเข้าไปล้อมรอบฝางซิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนมีหนวดคนก่อนหน้านี้ นัยน์ตาของเขาหรี่มอง พร้อมกับโน้มตัวมาข้างหน้า
"อุปกรณ์เวทใดกันที่มีมูลค่าถึงสามหมื่นทองคำ ? เอามาแสดงให้พวกเราดูหน่อย ! "
ฝางซิงกล่าวอย่างสุภาพว่า "ศิษย์พี่ ดูเหมือนว่าท่านจะรู้จักอุปกรณ์เวทเป็นอย่างดี ท่านช่วยดูให้ข้าหน่อยได้ไหม ? ว่ามันควรมีค่าเพียง 150 หินจิตวิญญาณหรือควรจะมากกว่านั้น ? "
ทันทีที่พูดจบ ฝางซิงก็แบมือออกเผยให้เห็นขวดยานัตถุ์แปลก ๆ ที่ดูสวยงาม ส่องประกายล้อแสงจันทราบนท้องฟ้า
"อืมมม ?"
ชายหน้าหนูผีมองปราดเดียวก็รู้ว่า มันเป็นอุปกรณ์เวทจริง ๆ แต่มีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เขามั่นใจว่า มันไม่น่าจะมีมูลค่ามากเท่ากับที่ฝางซิงประกาศไว้ แต่ครั้นได้ยินคำพูดที่มั่นใจของฝางซิง เขาก็ยิ่งต้องเข้าไปดูใกล้ ๆ เพื่อยืนยันความคิดของตน
คนอื่น ๆ ก็คิดเช่นเดียวกัน ต่างรวมตัวกันเข้ามาใกล้ขึ้น ๆ จนหัวชนกันเพื่อดูของสิ่งนั้น
"มันเป็นอุปกรณ์เวทก็จริง แต่ดูอย่างไรก็มีมูลค่าไม่ถึงสามหมื่นเหรียญทอง เจ้าแน่ใจหรือว่าพ่อของเจ้าไม่ได้ถูกพ่อค้าโกง ?"
"นี่ น้องชายเจ้าคงไม่โก่งราคาใช่มั้ย ? เจ้าคิดจะหลอกขายของเกินราคาให้พวกเรางั้นหรือ ? "
"ไม่รู้สิ น้องชาย ว่าแต่ของสิ่งนี้มันมีอะไรพิเศษหรือ แสดงให้พวกเราดูได้หรือเปล่า ? "
การสนทนาของพวกเขาเริ่มเบาเสียงลง ทุกคนต่างก็อยากเห็นความสามารถของมัน
"แน่นอน.. เมื่อข้าบอกว่าอุปกรณ์นี่มีมูลค่าสามหมื่นเหรียญทอง ข้าไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวข้าจะแสดงให้พวกไร้รสนิยมอย่างพวกเจ้าได้ชม ! โดยเฉพาะเจ้า วันนี้ข้าจะสอนให้เจ้ารู้เกี่ยวกับอาวุธเวทที่แท้จริง !" ฝางซิงเสแสร้ง เขาวางฝ่ามือของเขาไว้เหนือขวด แล้วพูดว่า "พวกเจ้าเข้ามาใกล้ ๆ มาตั้งใจดูกันให้ชัด ๆ ... "
ได้ฟังคำเชิญชวนของฝางซิง ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปใกล้ขวดยานัตถุ์นั้นมากขึ้นอีก
“โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ย ! อุปกรณ์เวทสามหมื่นเหรียญทองจงแสดงอิทธิฤทธิ์ของเจ้าออกมา ณ บัดนี้"
‘ฟู่ ...’
ภายในไม่กี่วินาทีหมอกควันสีเขียวอมฟ้าก็พุ่งออกมาจากขวด
หมอกควันสีเขียวอมฟ้าโชยเข้าสู่รูจมูกผ่านไปสู่สมอง
พวกที่ฝึกฝนจนผ่านขั้นหนึ่งเริ่มรู้สึกหนักหัว จากนั้นก็ล้มกลิ้งลงสู่พื้น
ส่วนพวกที่ฝึกฝนจนได้ขั้นที่สองก็รู้สึกตัวสั่นเทาอย่างหนักจากควันนั่น พวกเขาพยายามดิ้นรน แต่ก็กลับยิ่งไร้เรี่ยวแรง สุดท้ายก็ตัวอ่อนแล้วพับลง
ชายหน้าหนูผีเป็นคนเดียวที่อยู่ในขั้นที่สาม เขาสามารถตอบสนองต่อควันได้อย่างแข็งแกร่ง เมื่อรับรู้ถึงความผิดปกติเขาจึงรีบหลบหนีไปยังทางออก แต่เขาเป็นคนที่อยู่ใกล้กับฝางซิง และขวดยานัตถุ์นั่นมากที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าชายหน้าหนูผีจะสูดควันที่มีความเข้มข้นสูงสุด ฝางซิงจึงเอาขวดนั่นจ่อจมูกเขาไว้ขณะปล่อยควัน
" เจ้า..."
ชายหน้าหนูผีจ้องมองฝางซิง พร้อมกับชี้หน้าฝางซิงเหมือนจะตำหนิ แต่แล้วสุดท้ายหัวเขาก็เบาโหวง ก่อนจะค่อย ๆ ล้มลงช้า ๆ
ในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของเขาไม่พึงพอใจเป็นอย่างมาก
ตัวเขาเป็นคนที่มักจะระแวดระวังทุกอย่างเสมอ ก่อนหน้านี้ เขามักจะพยายามป้องกันตัวเองจากพวกศิษย์เก่า ของสำนักชิงหยุนเป็นอย่างดีตลอดมา แต่ใครจะคิดว่า เขาจะมาเสียทีให้กับศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในสำนักผู้ซึ่งกล้าที่จะกระทำเรื่องบังอาจเช่นนี้ได้
***จบบท ปล้น ! (1)***