px

เรื่อง : ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ตอนที่ 35 ตลาดใต้ดิน


เอ้า...เท่านี้พอหรือไม่ ?”

 

ปี้หลัวโบกตั๋วเงินจำนวนห้าแผ่นในมือพลางออกปากตั้งคำถาม

 

หญิงชราเจ้าของหอส่งสายตามองตามปึกตั๋วเงินที่กำลังโบกสะบัดยั่วเย้าอารมณ์สุด ๆ พร้อมรอยยิ้มที่ฉีกกว้าง

 

“ไอหย่า… พอสิ พอเกินจะพอแล้วแม่นาง…”

 

ใช่เรื่องเล่นเสียเมื่อไร ผู้ถือตั๋วเงินเทียนย่อมหาใช่คนธรรมดาสามัญทั่วไปอย่างแน่นอน

 

“เอ้า ! ยังไม่รีบพาพวกเราไปอีกกระนั้นรึ ?”

 

“โอ้ ! ไปสิ ไป ตามข้ามาเลย”

 

ผู้ดูแลหอรีบยื่นมือรับตั๋วแลกเงินไปด้วยใบหน้าชื่่นบาน

 

ทั้งสี่ติดตามหญิงชราไป กระทั่งถึงห้องซึ่งอยู่ด้านหลังหอฝันภิรมย์

 

หญิงชราผู้นั้นยกมือขึ้นกดกลไกบนผนัง แผ่นกำแพงพลันเคลื่อนหลุบเข้าด้านใน

 

“แม่นาง พวกเรามาถึงแล้ว…”

 

*****

 

ตามคำบอกเล่าของชิงเหลียน ตลาดใต้ดินเป็นเพียงเส้นทางเดินน้อย ๆ ที่มืดมิด

 

เช่นนั้นตลอดสองข้างทางเดินจึงถูกประดับประดาด้วยไข่มุกราตรีอันล้ำค่า เพื่อส่องประกายให้ความสว่างตลอดแนวทางเดิน

 

เมื่อทั้งสองฝากฝั่งซ้ายและขวาคือชั้นวางของจำนวนมากที่เรียงรายกันนับไม่ถ้วน

 

สิ่งที่ถูกจัดเรียงอยู่บนชั้นวางของล้วนคือสมุนไพร อาวุธ ตลอดถึงสมบัติล้ำค่าหาประมาณมิได้มากมายหลายหลากให้เลือกสรร

 

เฟิ่งฉู่เกอกวาดตามองสมุนไพรหลายหลากที่ถูกนำมาจัดเรียงบนชั้น ขณะสาวเท้าก้าวเดินไปเรื่อย ๆ พืชสมุนไพรที่ถูกนำมาเรียงรายอยู่บนชั้นล้วนคือสมุนไพรล้ำค่าที่หายาก ทว่าน่าเสียดาย สิ่งที่นางต้องการมิใช่พวกมันเหล่านั้น

 

กระทั่งเมื่อเดินมาจนสุดทาง หญิงสาวกลับต้องผิดหวัง เมื่อนางยังคงมิได้พบเจอสิ่งที่ต้องการ

 

“คุณหนู ไม่มีเลยหรือเจ้าคะ ?”

 

จื่อหลานเอ่ยปากไถ่ถามทันที เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของผู้เป็นนาย

 

เฟิ่งฉู่เกอเพียงถอนหายใจยาว

 

“เห็นทีพวกเราคงต้องลองไปดูที่อื่น ช่างเถิด พวกเรากลับกันเถิด…”

 

เพียงกล่าวจบ ทั้งสี่ก็หันหลังกำลังจะจากไป

 

ขณะกำลังจะผละจากที่นั้น หางตาของเฟิ่งฉู่เกอพลันตวัดไปเห็นกรงที่ถูกนำมาวางหลบไว้ที่มุมห้อง

 

มันคือกรงน้อยที่บรรจุเจ้าก้อนเนื้อสีขาวขนปุกปุยนอนม้วนขดอยู่ด้านใน

มันแลดูอ้วนจ้ำม่ำ ทว่ากำลังขดม้วนตัวงุด ๆ ราวลูกชิ้นก้อนโตที่ไม่อาจแน่ชัดได้ว่าคือสิ่งมีชีวิตชนิดใด คงมีเพียงนัยน์ตาสีฟ้าที่ส่งประกายระยิบระยับท่ามกลางแสงสลัวภายในทางเดินใต้ดิน

 

เดิมที เฟิ่งฉู่เกอหาได้สนใจจะอยู่ชม ทว่าแววตาสีฟ้าคู่นั้นกลับดึงดูดความสนใจของนางได้อย่างน่าฉงน

 

นางหันกลับมาจ้องนัยน์ตาสีฟ้าราวอัญมณีคู่นั้น เพียงจ้องประสานตาหญิงสาวกลับคล้ายถูกบางสิ่งดูดกลืนเข้าสู่นัยน์ตาสีฟ้าใสที่ดูราวกับห้วงน้ำวนคู่นั้น กระทั่งหลงลืมตนไปชั่วขณะ

 

“แม่นาง เจ้าสนใจแมวตัวนี้กระนั้นหรือ ?”

 

ข้างกรงคือชายชราในชุดคลุมสีดำ

 

ชายผู้นั้นหรี่ตาจ้องมองนางเล็กน้อย แววตาที่คล้ายกำลังสับสนว้าวุ่นพลันฉายประกายขึ้นวาบหนึ่ง

 

เฟิ่งฉู่เกอส่ายหน้า

 

“มิได้”

 

นางมาหาสมุรไพร เมื่อยามนี้ไม่มีสิ่งที่ต้องการ ย่อมสมควรรีบกลับมิควรยืดเยื้อ

 

ทว่าเพียงกำลังจะขยับฝ่าเท้าออกไป เจ้าแมวน้อยตัวนั้นกลับคล้ายมีแรงดึงดูดอย่างมหาศาลที่ทำให้นางอดมิได้ที่จะหันกลับมาอีกครา

 

“แม่นาง ข้าคิดว่าเจ้ามีชะตาต้องกันกับเจ้าแมวตัวนี้ เช่นนั้นเหตุใดข้าจึงจะไม่มอบมันให้แก่เจ้าเสียเล่า…”

 

จู่ ๆ ชายชราผู้นั้นก็พึมพำออกมา

 

เฟิ่งฉู่เกอเลิกคิ้วสูง

 

มอบให้นาง ?

 

สมควรเป็นเรื่องดีมิใช่หรือ ?

 

ทุกสิ่งที่วางอยู่เหนือชั้นวางสินค้าต่างมีป้ายบอกราคากำกับ ทว่าแมวน้อยตัวนี้หาได้มีป้ายบอกราคาไม่

 

เพียงเฟิ่งฉู่เกอกำลังจะเอ่ยปาก เสียงร้องวี้ดว้ายของสาวน้อยผู้หนึ่งพลันดังขึ้น

 

“ว้าว….น่ารักจัง เจ้าแมวน้อย ข้าอยากได้

 

***จบตอน ตลาดใต้ดิน***

รีวิวผู้อ่าน

jarawee13
1819 วันที่แล้ว

ใครๆอย่ามาแย่งนะ


  แสดงความคิดเห็น