px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 325 : อู๋เต้าผู้หยิ่งยโส


บทที่ 325 : อู๋เต้าผู้หยิ่งยโส

ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงเลือกที่จะไม่สนใจอะไร แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอู๋หย่งเฉียนที่แลดูกำลังบ้าคลั่งขึ้นมา...เขาทำราวกับว่าอู๋หย่งเฉียนไม่เคยอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ...

อันที่จริงแล้ว เข้าก็ไม่เคยสนใจมันเลยจริงๆนั่นล่ะ...

การละเลยเมินเฉยอย่างสิ้นเชิงของต้วนหลิงเทียนนี้  นับว่าทำให้เพลิงโทสะของอู๋หย่งเฉียนยิ่งมายิ่งยากระงับ!

ในฐานะบุตรบุญธรรมของปรมาจารย์ขุนเขาเทียนเฉวียน ซ้ำตัวมันก็เป็นศิษย์สายในคนหนึ่ง แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มันถูกผู้คนไม่เห็นอยู่ในสายตาเช่นนี้?

ใบหน้าของอู๋เต้าเองก็ลดต่ำลงเล็กน้อย เมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวคำปฏิเสธออกมาตรงๆ  ประกายตาของมันเรืองวูบขึ้นมาพร้อมจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนเขม็ง "ต้วนหลิงเทียน เจ้าปฏิเสธข้าดื้อๆเช่นนี้ทันทีเลยหรือ  กระทั่งคิดทบทวนสักนิดก็มิมี?"

ในฐานะที่เป็นถึงปรมาจารย์ขุนเขา แน่นอนว่าอู๋เต้าเองก็ย่อมมีความภาคภูมิใจและหยิ่งยโสไม่น้อย

แต่ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกลับกล้าหักหน้ามันโดยการปฏิเสธตรงๆ ไม่ไว้หน้ามันแม้เพียงนิด!  นี่ทำให้ในใจของมันเริ่มบังเกิดเพลิงโทสะขึ้นมาแล้ว!!

"ปรมาจารย์ เรื่องนี้ ข้าต้องขออภัยด้วย"เมื่อเผชิญหน้ากับอู๋เต้าที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ต้วนหลิงเทียนเพียงจับจ้องไปอย่างสงบ ซ้ำเขายังเลือกกล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ 

หลู่ชิวที่ยืนอยู่ข้างต้วนหลิงเทียน อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มขื่นขมออกมา  มันถึงกับต้องลอบถอนหายใจในอก ‘สหายน้อยนี่นับว่ามีคุณสมบัติสูงล้ำกระทั่งปรมาจารย์ขุนเขายังอยากรับไว้เป็นศิษย์...แต่เขากลับกล้าปฏิเสธออกมาอย่างไม่ใยดีเช่นนี้’

หลูชิ่วย่อมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าต้วนหลิวเทียน จะถึงขั้นปฏิเสธคำเชิญเป็นศิษย์ของปรมาจารย์อู๋เต้าดื้อๆเช่นนี้

ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ตามธรรมชาติในเชิงยุทธ์ของต้วนหลิงเทียน อาจได้รับการพิจารณาว่าเป็นอะไรที่ท้าทายสวรรค์  แต่นั่นก็นับว่ายังไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จ  หากเขามีอาจารย์ที่ดีภายในนิกาย 7 ดาวล่ะก็ แน่นอนเขาย่อมได้รับการสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นจะเป็นประโยชน์แก่เขามหาศาล

ทั้งยังมีผลพลอยได้ในอีกรูปแบบหนึ่ง ...หากต้วนหลิงเทียนมีพื้นหลังเป็นปรมาจารย์ล่ะก็ อย่างน้อยๆ ผู้ที่ไม่หวังดีและประสงค์ร้ายต่อเขา ย่อมต้องบังเกิดความครั่นคร้ามและไม่กล้าลงมือ

ทว่าต้วนหลิงเทียนกลับตัดสินใจเช่นนี้!  นี่นับว่าอยู่เหนือความคาดคิดของมันยิ่งนัก!!

อู๋เต้าคนนี้เป็นถึงปรมาจารย์ขุนเขาเทียนเฉวียน! กวาดมองทั่วนิกายกระบี่ 7ดาว ความแข็งแกร่งของมันสมควรติดอยู่ใน 10 อันดับแรก  บุคคลเช่นนั้นต้องการรับต้วนหลิงเทียนเป็นศิษย์ส่วนตัว... แต่ต้วนหลิงเทียนผู้นี้กลับกล้าปฏิเสธตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อมสักนิด ไม่ได้สนใจความรู้สึกอันใดของอู๋เต้าแม้แต่น้อย

เรื่องเช่นนี้ทำให้หนังศีรษะของมันบังเกิดความชาด้านขึ้นมาแล้ว...

"ต้วนหลิงเทียน"แววตาดุร้ายของอู๋เต้าค่อยๆสงบลง แต่ทว่าสีหน้าท่าทางของมันที่มีต่อต้วนหลิงเทียนยามนี้หาได้สงบเหมือนในตอนแรก ซ้ำน้ำเสียงยังลดต่ำลงมาไม่น้อย “ดูเหมือนเจ้าจักมีความมั่นใจอย่างสูงในความสามารถของเจ้า..เจ้าคิดว่าพรสวรรค์และความสามารถของข้า อู๋เต้า ผู้เป็นปรมาจารย์ขุนเขาเทียนเฉวียนแห่งนี้  มีมิพอที่จักสั่งสอนเจ้าได้เช่นนั้นรึ? "

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วก่อนที่จะกล่าวออกมา  "ปรมาจารย์  ข้าไม่เคยคิดอะไรเช่นนั้น เพียงแต่ตอนนี้ตัวข้ายังไม่ต้องการรับผู้ใดเป็นอาจารย์"

ให้รับมันเป็นอาจารย์เช่นนั้นหรือ?

นับตั้งแต่ต้วนหลิงเทียนรับสืบทอดความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดองค์ความรู้ทั้งหมดของจักรพรรดิก็ถูกส่งมาที่เขา เช่นนั้นมันก็ไม่ต่างจากการมีอาจารย์แม้แต่น้อย  มิหนำซ้ำอาจารย์ที่ว่านี้ยังอยู่ที่กับเขาตลอดเวลาอีกด้วย

ยามนี้อาจารย์ของเขาย่อมเป็นจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด!

จักรพรรดิกลับชาติมาเกิด ผู้ซึ่งเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของทวีปเมฆาล่อง

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนอาจถูกมองว่า เขาเป็นคนที่กล่าวคำปฏิเสธได้อย่างสุภาพ...

แต่ถ้าหากให้เขาพูดคำกล่าวจริงๆที่มาจากใจแล้วล่ะก็ ...เขาคงจะพูดกับอู๋เต้าว่า ‘น้ำหน้าอย่างเจ้า ยังกล้าเป็นอาจารย์ข้าอีกหรือ?’

การปฏิเสธอย่างสุภาพของต้วนหลิงเทียน แน่นอนว่าย่อมฟังรื่นหู พอที่จะลดความขุ่นเคืองของอู๋เต้าลงไปบ้าง "ต้วนหลิงเทียนนับว่าเจ้ามีความมั่นใจสูงนัก ... คนเรานั้นสามารถมีความมั่นใจในตัวเองได้ ทว่าหากผู้ใดที่มีความมั่นใจมากเกินไป...มันจักกลายเป็นความยโสโอหัง!"

"วันนี้ในเมื่อข้าอู๋เต้าลั่นวาจาไปแล้วว่าจักรับเจ้าเป็นศิษย์ส่วนตัว ... เช่นนั้นข้าก็มิอาจกลับคำพูดได้" สายตาของอู๋เต้าจับจ้องไปยังร่างของต้วนหลิงเทียนเขม็ง  ทั้งคำพูดของมันยังเต็มไปด้วยความเอาแต่ใจอันแสนจะยโส

"ปรมาจารย์ ...แตงที่ฝืนเด็ดออกจากต้น ย่อมไม่หวาน..." ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนลดต่ำลงเล็กน้อย เนื่องจากเขาไม่คิดเลยว่า ปรมาจารย์ขุนเขาเทียนเฉวียนผู้นี้จะดื้อรั้นยากรับมือเช่นนี้

ในตอนนี้เขารู้สึกว่าปรมาจารย์เจิ้งฝานนั้นน่ารักอย่างยิ่ง หากต้องนำมาเปรียบกับอู๋เต้า ...

เป็นไปได้ไหม ที่อู๋เต้าคิดบีบบังคับให้เขารับมันเป็นอาจารย์ไม่เลิกรา?

ตอนนี้เขารู้สึกว่าอู๋เต้ามันจะล้ำเส้นเขามากเกินไปแล้ว!

แต่จะย่างไรอู๋เต้าก็เป็นถึงปรมาจารย์ขุนเขาเทียนเฉวียน เขาเป็นเพียงศิษย์สายนอกของขุนเขาเทียนเฉวียนเท่านั้น สถานะของเขากับมันนับว่าห่างชั้นกันมาก ดังนั้นถึงแม้เขาจะไม่พอใจและไม่เห็นด้วยมากแค่ไหน ก็ไม่อาจพูดมันออกมาตามตรงได้

"ต้วนหลิงเทียน วาจาที่ข้าลั่นออกไปแล้ว ข้ามิคิดกลืนน้ำลายตัวเอง" อู๋เต้ากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสงบ

คิ้วของต้วนหลิงเทียนขมวดเป็นปม  อู๋เต้าผู้นี้เสียสติไปแล้วหรือไร?

หากข้าไม่เต็มใจเป็นศิษย์ของมัน  มันยังคิดที่จะบีบคั้นให้ข้าเป็นศิษย์ของมันอีก!

"เอาล่ะ" ทันใดนั้นอู๋เต้าพลันกล่าวออกมาอีกครั้งนึ่ง พร้อมหรี่ตามองไปยังต้วนหลิงเทียน “ข้าสามารถให้โอกาสเจ้าได้ ...ข้าจักให้เจ้าประลองกับบุตรชายบุญธรรมของข้า หากเจ้าสามารถชนะเขาได้ เช่นนั้นเรื่องทั้งหมดนี่ ให้ถือว่าข้ามิเคยกล่าวมาก่อน...แต่หากเจ้าประสบกับความปราชัยต่อบุตรชายบุญธรรมของข้าแล้วล่ะก็  เจ้าจักต้องยอมรับข้าเป็นอาจารย์ และกลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของข้า อู๋เต้า!!”

"เจ้าสามารถเลือกยอมแพ้ต่อการประลองนี้ได้ ... แต่หลังจากที่เจ้ากล่าววาจายอมแพ้แล้ว มิว่าเจ้าจักเต็มใจหรือไม่เต็มใจ แต่เจ้าต้วนหลิงเทียน ต้องเป็นศิษย์ส่วนตัวของข้าอู๋เต้า! และหากเจ้ายังกล้ากล่าววาจาหรือหาหนทางอันใดเพื่อปฏิเสธการเป็นศิษย์ของข้าอู๋เต้าอีกล่ะก็! เช่นนั้นในอนาคตข้าอู๋เต้า! จักเอาเรื่องเจ้าให้ถึงที่สุด แม้แต่ที่ยืนในนิกายกระบี่ 7 ดาวนี้ เจ้าก็จักมิมี!!”

ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนลดต่ำลงโดยพลัน

อู๋เต้านี่ เอาแต่ใจบัดซบ!!

จะไม่ให้ข้ามีที่ยืนในนิกายกระบี่ 7 ดาวอีกต่อไปเช่นนั้นหรือ?

ตัวบัดซบอู๋เต้านี่มันคิดว่ามันเป็นประมุขนิกายกระบี่ 7 ดาวหรืออย่างไร?

หากตอนนี้จะกล่าวถามว่าใครเป็นผู้ที่กำลังมีความสุขมากที่สุดล่ะก็ เห็นทีจะไม่พ้นอู๋หย่งเฉียนที่ยืนอยู่ด้านหลังอู๋เต้า

"ต้วนหลิงเทียน เจ้ากล้ารบกับข้าหรือไม่!?" อู๋หย่งเฉียนจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยประกายตาคมกล้า มุมปากของมันขดขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชาไม่แยแส

เท่าที่มันรู้นี่นับเป็นโอกาสอันดีงามของมัน!

หากมันเอาชนะต้วนหลิงเทียนได้ บิดาบุญธรรมของมันต้องยินดีเป็นอย่างยิ่ง!

และสถานะของมันที่อยู่ในใจของบิดาบุญธรรม ย่อมดีขึ้นไม่น้อย!

“ปรมาจารย์ วาจานี้ของท่านเชื่อถือได้แน่ และมิคิดกลับคำแล้วใช่หรือไม่?” ต้วนหลิงเทียนกระทั่งหางตาก็ยังไม่เหลือบแลอู๋หย่งเฉียน แม้ว่ายามนี้มันกำลังเผยทีท่าดุร้ายราวกับจะทึ้งร่างของเขาก็ตาม  เขายังคงมองไปยังอู๋เต้าและกล่าวถามออกมาอย่างเฉยเมย

น้ำเสียงของเขาสงบราบเรียบ ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

"ข้าอู๋เต้า เป็นถึงปรมาจารย์ขุนเขาเทียนเฉวียน  ข้ายังจักต้องหลอกลวงเด็กน้อยเช่นเจ้าอีกหรือ " อู๋เต้าหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน ยามนี้ในแววตาของมันบังเกิดร่องรอยสว่างวูบขึ้นมา

มันรู้ว่าต้วนหลิงเทียนฮุบเหยื่อแล้ว

แม้ว่ามันเองก็เคยได้ยินเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนสามารถลงมือสังหารฉีฮ่าวได้ ทั้งๆ ที่อยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6  และรับรู้ว่าต้วนหลิงเทียนมีความสามารถท้าทายสวรรค์ จนสามารถต่อกรกับผู้ฝึกยุทธ์ที่มีระดับพลังเหนือกว่าได้ ...

แต่เท่าที่มันกังวล จะอย่างไรยามนี้ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงอยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 เท่านั้น  ยังเป็นไปไม่ได้ที่ต้วนหลิงเทียนจะสามารถรับมือบุตรชายบุญธรรมของมันได้!

ถึงแม้พรสวรรค์ในเชิงยุทธ์ของบุตรชายบุญธรรมของมันจะไม่ได้สูงส่งมากนัก  แต่จะอย่างไรบุตรชายบุญธรรมของมันก็มีระดับบ่มเพาะสูงถึง ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9!!

แม้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนจะสามารถตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 ไปแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องที่ผ่านมาไม่นานมากนัก บางทีรากฐานของต้วนหลิงเทียนอาจจะยังไม่เสถียรมากพอด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้น ...

"เฉียน" มุมปากของอู๋เต้าเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่มีร่องรอยความเหน็บหนาวขณะกล่าวคำ

"ท่านพ่อบุญธรรม" อู๋หย่งเฉียนเลิกถอนสายตาที่จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนอย่างดุร้าย กลับมามองอู๋เต้าด้วยความเคารพ

ในหัวใจของมันพ่อบุญธรรมคนนี้ เปรียบดั่งชั้นฟ้า

ชั้นฟ้าที่ไม่อาจมีผู้ใดเทียบเทียมได้

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว

ตัวบัดซบอู๋เต้านี่ มันคิดอัปปรีย์อันใดอีก?

พริบตาต่อมาต้วนหลิงเทียนก็เห็นดาบ 3 ฉื่อเล่มหนึ่งปรากฏออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าสู่มือของอู๋เต้า  และทันใดนั้นใบหน้าของต้วนหลิงเทียนก็มืดลงเล็กน้อย

"เฉียน ใช้ สารทธารา ของบิดาไปประลองชี้แนะศิษย์สายนอกอันดับ 1 ของนิกายกระบี่ 7 ดาวเราเสียหน่อย" อู๋เต้าส่งดาบคมเดียว ที่มีลักษณะคล้ายดาบซามูไรไปให้อู๋หย่งเฉียน

ดาบ 3 ฉื่อเล่มนี้มี ใบดาบที่เรียบเนียนไร้ร่องรองใดๆ ซ้ำยังโปร่งแสงราวกับหนองน้ำในสารทฤดู ...

"ดาบวิญญาณระดับ 6!" หลู่ชิวที่ยืนอยู่ข้างๆ ต้วนหลิงเทียน ได้เผยสีหน้าท่าทางตกใจออกมา และอดไม่ได้ที่จะเผลอกล่าวคำออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นดาบ 3 ฉื่อในมืออู๋เต้า

สารทธารา

ไม่ใช่ว่ามันคือดาบวิญญาณระดับ 6 ที่เป็นอาวุธคู่กายของปรมาจารย์ขุนเขาอู๋เต้าหรือไร?

เขาไม่คิดเลยว่า เพียงเพื่อจะให้บุตรชายบุญธรรมของมันอย่างอู๋หย่งเฉียน เอาชนะต้วนหลิงเทียน  อู๋เต้าถึงขั้นหยิบยกดาบวิญญาณระดับ 6 คู่กายของมันออกมาให้หยิบยืมเช่นนี้

การกระทำของอู๋เต้านี้ กระทั่งหลู่ชิวยังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง

สำหรับเขาแล้วยามนี้ถึงแม้ว่าอู๋หย่งเฉียนจะชนะต้วนหลิงเทียน  แต่มันก็นับว่าเป็นชัยชนะที่ไม่ได้มาจากความแข็งแกร่งของอู๋หย่งเฉียน

"ย่อมได้ขอรับท่าน พ่อบุญธรรม" ประกายตาของอู๋หย่งเฉียนเรืองวูบขึ้นมาโดยพลัน ตอนนี้มันเผยความจริงจังออกมา มือของมั่นถึงกับสั่นสะท้านไปเล็กน้อย ยามที่ต้องยื่นออกไปรับ สารธารา

ดาบวิญญาณระดับ 6!

ถึงแม้ว่าอู๋หย่งเฉียนจะไม่ได้รับดาบเล่มนี้ และใช้เพียงอาวุธวิญญาณระดับ 7 ตัวมันก็มั่นใจว่าต้วนหลิงเทียนย่อมไม่มีหนทางชนะอยู่แล้ว ทว่าตอนนี้มันได้รับโอกาสทำให้บิดาบุญธรรมพึงพอใจ! กระทั่งได้รับดาบวิญญาณระดับ 6 อันเป็นดาบคู่กายบิดาบุญธรรมมาหยิบยืมใช้งานเช่นนี้ นับว่ามันตื้นตันนัก!!

"อย่าทำให้ข้าผิดหวัง" อู๋เต้ากล่าวกับอู๋หย่งเฉียนด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

"เรื่องนี้ขอให้ท่านพ่อบุญธรรมอย่าได้กังวล" อู๋หย่งเฉียนกล่าวรับออกมาเป็นมั่นเหมาะ น้ำเสียงของมันจริงจังไม่น้อย ประกายตาคมกล้าดุร้ายจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียน มือที่ถือสารทธาราสะบัดไปมาทดลองดาบเล็กน้อย สภาวะทั่วร่างเผยกลิ่นอายกระหายปานจะกลืนกินต้วนหลิงเทียน

แต่กระทั่งตอนนี้ท่าทางของต้วนหลิงเทียนยังคงสงบนิ่งเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน...

มีเพียงสายตาที่ใช้มองอู๋เต้า ที่กลับกลายเป็นต่างออกไป มันเต็มไปด้วยความเย็นชา...

เพื่อสนองความเอาแต่ใจที่อยากได้ข้าไปเป็นศิษย์ส่วนตัว  เจ้าตัวบัดซบน่ารังเกียจอู๋เต้านี่ ถึงขั้นนำดาบวิญญาณระดับ 6 อันเป็นอาวุธคู่กาย ให้อู๋หย่งเฉียนหยิบยืม การกระทำที่น่ารังเกียจอะไร!

เพียงเพื่อให้มันมั่นใจว่าอู๋หย่งเฉียนจะเอาชนะข้าได้แค่นั้น!

หากกล่าวว่าก่อนหน้านี้ต้วนหลิงเทียนก็บังเกิดความรังเกียจและไม่พอใจอู๋เต้าอยู่แล้ว  ยิ่งมาตอนนี้ต้วนหลิงเทียนยิ่งนับอู๋เต้าเป็นคนต่ำช้าที่สุดในใจของเขา!

เท่าที่เขารู้อู๋เต้าผู้นี้ เป็นเพียงตัวบัดซบที่มิอาจรับความพ่ายแพ้ได้!

เพื่อให้ศิษย์สายในคนหนึ่งเอาชนะศิษย์สายนอกอย่างต้วนหลิงเทียนได้อย่างแน่นอน  มันถึงกับคิดพึ่งพาอาวุธวิญญาณระดับ 6 เช่นนี้!  หากชนะนั่นก็นับว่าเป็นชัยชนะที่หาได้เกิดจากฝีมือส่วนบุคคลแต่อย่างไร!

นี่มันยังต่างอะไรกับการโกง?

‘ตัวบัดซบ สันดารต่ำช้ากระทำการอุบาทว์เช่นนี้  ยังมีน้ำหน้ากล้าคิดฝันเป็นอาจารย์ข้า?’ ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนยามนี้เริ่มไร้อารมณ์ลงราวกับมีชั้นน้ำแข็งฉาบไว้  เขาหันมองไปยังอู๋หย่งเฉียนที่กำลังจับจ้องมาทางเขาด้วยสายตาร้อนแรง

เขาย่อมสังเกตเห็นถึงความมั่นใจอย่างถึงที่สุดในแววตาอู๋หย่งเฉียน

ตัวโง่งมปัญญาอ่อนอย่างอู๋หย่งเฉียน มันคิดจริงๆหรือว่าจะสามารถเอาชนะเขาได้ เพียงเพราะแค่มันมีดาบวิญญาณระดับ 6?

มุมปากของต้วนหลิงเทียนพลันยกขึ้นเผยรอยยิ้มดูหมิ่นเหยียดหยาม ซึ่งยากนักที่จะได้เห็น!

ในตอนนี้เองอู๋เต้าก็ถอยออกไปเล็กน้อย หลู่ชิวเองที่ยืนอยู่ข้างๆ ต้วนหลิงเทียนก็หันมามองต้วนหลิงเทียนอย่างกังวล ก่อนที่จะถอยออกไปเฝ้าดูเรื่องราวจากด้านข้างเช่นกัน

เพียงพริบตาภายในโถงรับรองนี้ ก็มีพื้นทีเพียงพอให้คน 2 คนรบกัน!

ต้วนหลิงเทียนและอู๋หย่งเฉียนยืนเผชิญหน้ากัน  ระยะห่างของทั้งคู่นับว่าไม่มากมายนัก

วูบ!

ในมือของต้วนหลิงเทียนปรากฏกระบี่วิญญาณระดับ 7 เล่มหนึ่งจากอากาศที่ว่างเปล่า มันเป็นกระบี่วิญญาณระดับ 7 ที่เขาสุ่มเลือกออกมาจากแหวนมิติ

ถึงแม้ว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนจะกลายเป็นผู้หลอมศาสตราระดับ 7 แล้ว และกระทั่งสามารถหลอมสร้างศาสตราที่มีความสามารถในการเพิ่มพูนพลังผู้ใช้ได้ถึง 31% แต่เขาก็ยังไม่ได้หลอมสร้างปรับแต่งกระบี่อ่อนดาราม่วงของเขา....

กระบี่เล่มนี้เป็นสินสงครามที่เขาเคยได้มาเท่านั้น  ซึ่งได้มันมาตอนไหนเขาเองก็จำไม่ได้แล้ว

ความสามารถในการเพิ่มพูนพลังของมันก็นับว่าธรรมดาสามัญ

“ต้วนหลิงเทียน...ท่านพ่อบุญธรรมของข้าถึงกับประเมินเจ้าไว้สูง ถึงขั้นที่ท่านมอบโอกาสอันเลิศล้ำในการได้เป็นศิษย์ส่วนตัวของท่าน ... แต่เจ้ามิเพียงมิขอบคุณในความหวังดีของท่าน  ยังกล้าปฏิเสธท่านอย่างหยิ่งยโส! เช่นนั้นวันนี้ข้าอู๋หย่งเฉียนจักสั่งสอนบทเรียนสำคัญประการหนึ่งต่อเจ้าแทนท่านพ่อบุญธรรม!  ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า!  มิว่าเจ้าจักแข็งแกร่งเพียงใด  ยังคงมีคนแข็งแกร่งกว่าเจ้าเสมอ!” ในเวลาเดียวกันกับที่น้ำเสียงเย็นชาของอู๋หย่งเฉียนดังขึ้น พลังงานต้นกำเนิดของมันก็เริ่มแผ่ซ่านออกมา  พร้อมทั้งควบรวมไปที่ สารทธาราในมือจนใบดาบเริ่มสั่นสะท้าน

ตอนนี้พลังงานต้นกำเนิดของมันพลันพุ่งสูงทั้ง เพิ่มพูนขึ้นในพริบตา

วู้มมมม

เงาร่างช้างแมมมอธโบราณทีเริมก่อร่างขึ้นทีละร่างๆ เหนือศีรษะอู๋หย่งเฉียน...ตอนนี้มันพร้อมที่จะพุ่งทะยานออกมาได้ทุกเวลา!!

รีวิวผู้อ่าน