px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 326 : วิชา กระบี่แดนใต้


บทที่ 326 : วิชา กระบี่แดนใต้

อู๋หย่งเฉียนเองก็เป็นถึงศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาว และมันยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 อีกด้วย

นั่นทำให้มันสามารถใช้ความแข็งแกร่งออกได้ถึง 120 ช้างแมมมอธโบราณ!

มาตอนนี้มันยังมีดาบวิญญาณระดับ 6 อย่างสารทธาราอีก

นั่นทำให้เหนือศีรษะของมันปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบรามากถึง 164 ช้างแมมมอธโบราณ! ...

หมายความว่า ดาบวิญญาณระดับ6 อย่างสารทธารา สามารถเพิ่มพูนพลังโจมตีให้กับอู๋หย่งเฉียนได้ 44 ช้างแมมมอธโบราณ!

"หืม? ดาบวิญญาณระดับ ที่สามารถเพิ่มพูนพลังได้แค่ 37% งั้นหรือ” ต้วนหลิงเทียนกล่าวคำออกมาพร้อมร่องรอยของการดูแคลนไม่น้อย  กระบี่วิญญาณระดับ 7 ในมือของเขาเองก็สั่นไหวและเริ่มขยายพลังโจมตีให้เขาเช่นกัน

วู้มมม!!

พริบตานั้นพลังงานต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียนก็แผ่ซ่านโคจรออกมาทั่วร่าง ทั้งพลังงานต้นกำเนิดที่โคจรไปยังดาบยังเริ่มเพิ่มพูนขึ้นมาด้วยเช่นกัน

พริบตาแรก ปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 110 ตัวเหนือศีรษะของต้วนหลิงเทียน ก่อนที่ พลังงานที่ถูกเพิ่มพูนของกระบี่วิญญาณระดับ 7 จะแสดงผล จนทำให้เงาร่างช้างแมมมอธโบราณของเขาเพิ่มเป็น 140 ตัว ...

ความแข็งแกร่ง 140 ช้างแมมมอธโบราณ!

"ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8" หลังที่ต้วนหลิงเทียนเปิดเผยออกมาครั้งนี้ ทำให้อู๋เต้าที่ยืนอยู่ในระยะไกลถึงกับจับจ้องมาตาเขม็ง ใบหน้าของมันเผยความจริงจังครุ่นคิดออกมาในทันใด

มันสามารถรับรู้ได้ทันที ว่าต้วนหลิงเทียนยามใช้กำลังออกได้มากมายถึงขนาดนี้ เพราะว่าระดับบ่มเพาะของต้วนหลิงเทียนมาถึงระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 แล้ว! และอาวุธวิญญาณที่ต้วนหลิงเทียนถือครองอยู่ก็เป็นอาวุธวิญญาณระดับ 7

ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 ตอนอายุเพียง 20 ปี?

"ผลกำเนิดลี้ลับนั่น ทำให้ต้วนหลิงเทียนตัดผ่านจากระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 ไปถึงระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 ในคราเดียวเลยเช่นนั้นหรือ" อู๋เต้ารู้สึกทึ่งกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้า ในใจของมันยังรู้สึกยากจะเชื่อ

แต่จะอย่างไรตอนนี้เรื่องราวก็เผยให้เห็นด้วยสองตา มันก็จำต้องเชื่ออย่างไร้ข้อสงสัย

ตอนนี้มันรู้แล้ว ว่ามันยังประเมินต้วนหลิงเทียนต่ำไป

ตอนนี้ใจของมันดิ่งวูบลงโดยพลัน

ถึงแม้บุตรชายของมันอู๋หย่งเฉียนจะมีสารทธาราอันเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 6 อยู่ในมือ...แต่มันก็บังเกิดความไม่มันใจเพราะมันไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 แล้ว...

มันเองก็ย่อมรู้ว่า การประลองศิษย์สายนอกพึ่งสิ้นสุดไปนั้น...

ต้วนหลิงเทียนได้ใช้ความแข็งแกร่งที่น้อยกว่า ฉีฮ่าวถึง 20 ช้างแมมมอธโบราณ ในการสังหารฉีฮ่าว!

ตอนนี้ความแข็งแกร่งของบุตรชายบุญธรรมของมันยังนับว่าเหนือกว่าต้วนหลิงเทียนเพียงแค่ 24 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น!

อู๋เต้าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะสงบสติอารมณ์ที่พุ่งพล่านและความสลัดความกังวลออกไป  ก่อนที่จะจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยประกายตาเรืองวูบไปด้วยความคาดหวัง  ‘ให้ข้าชมดูหน่อยเถิด ว่าเจ้าจักเอาชนะผู้ที่มีพลังเหนือกว่าทั้งๆ ที่มีพลังด้อยกว่าแบบที่เจ้ากระทำในการประลองไม่กี่วันก่อนได้อย่างไร?!  แสดงให้ข้าเห็นมันในขณะที่เอาชนะบุตรชายบุญธรรมอันไร้ประโยชน์ของข้า!’

บุตรชายบุญธรรมอันไร้ประโยชน์!

นี่คือค่าของอู๋หย่งเฉียนในใจของอู๋เต้า

ในปีนั้นเหตุผลเดียวที่เขารับอู๋หย่งเฉียนเป็นบุตรชาญบุญธรรม และพากลับมายังนิกายกระบี่ 7 ดาว  เป็นเพราะว่าพรสวรรค์ตามธรรมชาติที่อู๋หย่งเฉียนเผยออกมายามที่อายุยังน้อย

แต่ไม่คิดเลยหลังจากนั้นไม่กี่ปี พรสวรรค์ของอู๋หย่งเฉียนกลับไม่ได้มากมายอย่างที่คิด มันแลดูธรรมดาไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายนัก นั่นทำให้เขารู้สึกผิดหวังไม่น้อย

มาคราวนี้เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวการกระทำของต้วนหลิงเทียน  เขาก็คิดว่าเขาจะนำต้วนหลิงเทียนมาเป็นศิษย์ส่วนตัวให้ได้ เพราะต่อไปอีกไม่นานต้วนหลิงเทียนต้องกลายเป็นตัวตนที่สะท้านไปทั่วทั้งอาณาจักรพนาครามแน่นอน...

แต่ไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนกลับยืนกรานที่จะปฏิเสธเขา!

หลู่ชิวที่ยืนดูอยู่ห่างๆ ไม่ค่อยแปลกใจอะไรกับความแข็งแกร่งที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกมา

เพราะวันนี้บนสะพานโซ่ก่อนที่จะมาถึงขุนเขาเทียนชู  เขาก็ได้เห็นความแข็งแกร่งระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 ของต้วนหลิงเทียนก่อนแล้ว

"ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8" อู๋หย่งเฉียน จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแหบทุ้ม “ต้วนหลิงเทียน วันนี้ข้าจักใช้สารทธาราของบิดาบุญธรรมเอาชนะ และสั่งสอนเจ้า ... ข้าจักแสดงให้เจ้าได้รับรู้ถึงความต่างชั้นระหว่างศิษย์สายในและศิษย์สายนอก ที่เจ้าไม่อาจก้าวข้ามได้!”

ถึงแม้อู๋หย่งเฉียนจะได้รู้ว่าต้วนหลิงเทียนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 แต่มันก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย

ข่าวลือเรื่องการประลองศิษย์สายนอกของนิกายกระบี่ 7 ดาวที่ผ่านมา มันคิดว่าเป็นเพียงคำพูดเกินจริงไปเท่านั้น

มันไม่เชื่อว่าต้วนหลิงเทียนจะมีความสามารถสูงส่งอะไรขนาดนั้น

มันสงสัยว่าในตอนนั้นต้วนหลิงเทียนเองก็คงมีระดับบ่มเพาะอยู่ที่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 อยู่แล้ว ...แต่เลือกที่จะปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด!

ต่อมาเมื่อต้วนหลิงเทียนปะทะกับฉีฮ่าว มันก็อาศัยความประมาทของอีกฝ่าย และเผยความแข็งแกร่งระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 ออกมาในช่วงเวลาสำคัญ และเอาชนะฉีฮ่าวลงได้ ...

ตอนนี้เมื่อมันได้เห็นว่าระดับบ่มเพาะของต้วนหลิงเทียนอยู่ที่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 แล้ว มันก็ย่อมคิดว่า สิ่งที่มันคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ถูกต้องทั้งหมด!

เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ผลกำเนิดลี้ลับเพียงผลเดียว จะทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6  ตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 ในคราวเดียว!

หากต้วนหลิงเทียนได้รับรู้ความคิดของอู๋หย่งเฉียนยามนี้ เขาเองก็คงไม่ได้แปลกใจอะไร

เพราะผลกำเนิดลี้ลับไม่อาจทำให้เขาตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 ได้จริงๆ และปัจจุบันเขาก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 ด้วยซ้ำ

เขายังเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 เท่านั้น!

แต่ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของวิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม ทำให้เขามีความแข็งแกร่งระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 เช่นนี้

"ข้าน่ะหรือ ไม่อาจก้าวข้ามความต่างระหว่างศิษย์สายในและศิษย์สายนอกได้?" ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มออกมาอย่างไม่แยแสเมื่อได้ยินคำกล่าวยั่วยุของอู๋หย่งเฉียน  เขาหรี่ตาลงพร้อมกล่าวคำ "ข้าก็ไม่รู้หรอกนะว่าศิษย์สายในคนอื่นๆ เป็นยังไง ...แต่คนอย่างเจ้า อู๋หย่งเฉียน ข้าไม่เคยเก็บมาใส่ใจสักนิด”

หากใครร้ายมา เขาจะร้ายตอบนับ 10 เท่า!

ก่อนหน้านี้อู่หย่งเฉียนนี่มันกล้ามีความคิดกำจัดเขา ถึงเขาจะไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจ

ศิษย์ชั้นใน?

แล้วยังไง!

ข้าจะทุบตีเจ้าให้พิการ!

ประกายตาเย็นชาเรืองวูบขึ้นมาในดวงตาต้วนหลิงเทียน

"รนหาที่ตาย!" เมื่อคำของต้วนหลิงเทียนเข้าหูอู๋หย่งเฉียน ทำให้มันโกรธอย่างมาก ร่างของมันเคลื่อนที่พุ่งมาทางต้วนหลิงเทียนอย่างกับลมพายุ

"วิชากระบี่แดนใต้!" ทันใดนั้นเองอู๋หย่งเฉียนก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแหบทุ้ม เจือไปด้วยจิตสังหาร

สารทธาราในมือของมันกระพริบวูบวาบ บัดเดี๋ยวอยู่บัดเดี๋ยวหาย ...

วิชากระบี่แดนใต้?

ด้วยพลังวิญญาณของต้วนหลิงเทียน และความรู้ชั่วชีวิตของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด เขาย่อมมองถึงวิชากระบี่นี้ออกได้ในทันที

วิชากระบี่นี้ แก่นแท้ของมันคือ การจู่โจมอย่างกะทันหัน จากในแง่มุมที่ไม่คาดคิด

อันที่จริงก็ส่วนนี้นับว่าคล้ายคลึงกับวิชาวาดกระบี่ของเขาอยู่บ้าง

แต่ในแง่ของความเร็วแล้วมันด้อยกว่าวิชาวาดกระบี่หลายขุม

วิชากระบี่แดนใต้นี้ จะหลอมผสานระหว่าง ความเร็วและความเชื่องช้า ...

ในยามที่มันเร็ว มันก็ประดุจดั่งเส้นสายอัสนียากที่ตาจะมองเห็น

ยามเชื่องช้ามันก็ไม่ต่างอันใดกับสายลมโชยพลิ้วแผ่วๆหยอกเย้าก้อนเมฆ ทำให้สายตาของอีกฝ่ายบังเกิดความสับสน

ฟุ่บ!

ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงลมที่พัดมาปะทะผิวหน้าของเขาดี  แต่อู๋หย่งเฉียนผู้ทำให้เกิดแรงลมกลับหายตัวไปต่อหน้าต่อตา และด้วยวิชากระบี่แดนใต้ ทำให้ยากนักที่จะมองเห็นว่ามันจะจู่โจมเข้ามาอย่างไร  พริบตาต่อมาอู๋หย่งเฉียนที่หายไปราวกับเงา ก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

แน่นอนว่าหากใช้ตามอง ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่อาจรับรู้ได้ว่าดาบของอู่หย่งเฉียนจะฟาดมาในทิศทางใด  แต่จิตสัมผัสของเขายังคงจับสัมผัสอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

"ตาย!" ทันใดนั้นอู๋หย่งเฉียนก็คำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของมันแดงก่ำราวกับสีเลือด มันโจมตีต้วนหลิงเทียนด้วยกำลังสูงสุด

ด้วยจิตสัมผัส ต้วนหลิงเทียนย่อมรับรู้ได้ในเสี้ยวพริบตา ว่าสารทธาราในมืออู๋หย่งเฉียนมันฟาดมาที่บริเวณท้องของเขา มันคงคิดที่จะทำร้ายเขาจนอาการสาหัสเท่านั้น!

‘ถึงแม้เจ้าอู๋หย่งเฉียนนี่จะพล่ามราวกับไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการสังหารข้า แต่สุดท้ายมันก็เป็นพวกดีแต่ปากสินะ  ใจมันไม่กล้าพอที่จะสังหารข้าด้วยซ้ำ’ต้วนหลิงเทียนคิดในใจหลังจากที่เห็นวิถีดาบของอีกฝ่าย

ครู่ต่อมาแววตาของต้วนหลิงเทียนก็เย็นลงเล็กน้อย

วิชาวาดกระบี่!

มือที่จับกระบี่ของต้วนหลิงเทียนสั่นไหวเล็กน้อย ข้อต่อ ทุกส่วน กล้ามเนื้อทุกมัด ทั้งหมดสอดประสานอย่างลงตัวในเสี้ยวพริบตา ก่อนที่เขาจะตวัดฟาดกระบี่ออกไปด้วยความเร็วสูงสุด

ฟั่บ!

ประกายกระบี่ราวกับเส้นสายอัสนีเรืองวูบสะท้อนเข้าตาของอู๋หย่งเฉียน

ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนจะน้อยกว่าอู๋หย่งเฉียนถึง 24 ช้างแมมมอธโบราณ ...

แต่แก่นแท้ของวิชาวาดกระบี่คือบรรลุขีดขั้นความเร็วสูงสุด

วิชายุทธ์ภายใต้สวรรค์ ความรวดเร็วนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด! ผู้ใดครอบครองความเร็ว ผู้นั้นไร้เทียมทาน!

"กระบี่ที่ว่องไวอะไรเช่นนั้น!" อู๋เต้าและหลู่ชิวที่จับจ้องการประลองจากที่ไกลๆ เมื่อเห็นกระบี่นี้ของต้วนหลิงเทียน พวกมันอดตะลึงขึ้นมาไม่ได้

ความเร็วของกระบี่ วิญญาณระดับ 7 นั้นมองไปไม่ด้อยกว่า ดาบสาทรธาราอันเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 6 แม้เพียงนิด ...กล่าวกันตามตรงยังนับว่ารวดเร็วยิ่งกว่า

แม้ตาต้วนหลิงเทียนอาจจะมองไม่เห็นดาบสารทธาราที่จู่โจมเข้ามา แต่ไม่ได้หมายความว่าจิตสัมผัสของต้วนหลิงเทียนจะไม่เห็นด้วย

ตอนนี้ภายใต้จิตสัมผัสของต้วนหลิงเทียนที่เกิดจากพลังวิญญาณที่มากเกินกว่าผู้ฝึกยุทธ์ในระดับเดียวกัน ทำให้เขาสัมผัสถึงวิถีดาบอู๋หย่งเฉียนได้ชัดราวกับตาเห็น...

กระบี่ของต้วนหลิงเทียนนั้นตวัดออกมาทีหลัง ...ทว่าความว่องไวนั้นเหนือกว่ากันมากนัก!

เคร๊ง!!

เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้น

เป็นกระบี่ระดับ 7 ในมือต้วนหลงเทียนที่วาดมาสกัดกั้นดาบระดับ 6 ได้ในจังหวะที่อันตรายที่สุด! ซ้ำยังเป็นแง่มุมที่ฟาดไปสลายแรงปะทะของอีกฝ่ายได้อย่างแยบยล 

ภาพนี้ทำให้อู๋เต้าต้องหรี่ตามองด้วยความสนใจ

เขาย่อมรู้ดีว่าผลการประลองว่าใครจะแพ้หรือชนะกำลังจะถูกตัดสิน

ไม่ว่าต้นหลิงเทียนหรืออู๋หย่งเฉียน หากฝ่ายใดมีกำลังเหนือชั้นกว่าจนสามารถปัดอาวุธของอีกฝ่ายได้ ย่อมเป็นผู้ชนะ!

"ความเร็วของวิชากระบี่เจ้านับว่ามิเลว แต่น่าเสียดายที่กำลังของเจ้าน้อยกว่าข้ามาก!!" เสียงแหบต่ำของอู๋หย่งเฉียนดังขึ้น ซ้ำยังเผยให้เห็นถึงร่องรอยความเย้ยหยัน กล่าวจบมันก็เร่งเร้าพลังงานต้นกำเนิดขึ้นมาทั่วร่างทันที พร้อมโคจรไปยังสารทธารา ...

ความแข็งแกร่ง 164 ช้างแมมมอธโบราณล้วนถูกถ่ายทอดไปที่ดาบทั้งหมด!

มันต้องการซัดทำลายกระบี่ระดับ 7 ในมือต้วนหลิงเทียนให้กระเด็น พร้อมถังฟันร่างต้วนหลิงเทียนไปด้วยพร้อมๆกัน!

"มันจะเป็นเช่นนั้นแน่หรือ?" รอยยิ้มสดใสพลันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาของต้วนหลิงเทียน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายเรืองวูบ  เมื่อได้ฟังคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของอู๋หย่งเฉียนเขาอดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มออกมาเช่นนี้

ภาพนี้ทำให้อู๋เต้างงงวย

ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ไปเอาความมั่นใจในความแข็งแกร่งมากมายเช่นนี้มาจากที่ใด?

หลู่ชิวที่อยู่ไม่ไกลจาก พลันหรี่ตามองจับจ้องอย่างตั้งใจ มันมิมีทางคลาดสายตาแน่นอน

มันนับว่าเสียใจไม่น้อยที่พลาดไปชมดูต้วนหลิงเทียนประลองกับฉีฮ่าว

 ...

วันนี้มันจึงต้องการชมดูว่า ตว้นหลิงเทียนทำเช่นไรถึงเอาชนะผู้ที่แข็งแกร่งกว่าได้ ทั้งๆ ที่มีความแข็งแกร่งด้อยกว่าอีกฝ่าย

มันค่อนข้างมั่นใจในตัวต้วนหลิงเทียน

เมื่อเห็นแววตาไม่ครั่นคร้ามของต้วนหลิงเทียนที่จับจ้องมา อู๋หย่งเฉียนพลันสัมผัสได้ถึงพลังลึกลับบางอย่างที่ถ่ายเทผ่าน ดาบสารทธารามาสู่มือของมัน ทำให้ประกายตาของมันเรืองวูบขึ้นมาเช่นกัน

พลังสั่นสะเทือน!

ในขณะที่ปะทะกับดาบวิญญาณระดับ 6 และความแข็งแกร่งที่มากมายกว่าเช่นนี้ แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมไม่รอช้า รีบใช้ความสามารถพิเศษของวิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม รูปแบบนาคาพิโรธ ออกมาทันที

พลังงานต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียนที่ถ่ายทอดไปยังกระบี่วิญญาณระดับ 7 เริ่มสั่นสะเทือนในลักษณะที่ยากจะมีใครมองเห็น ...

ความถี่ของการสั่นสะเทือนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆด้วยความรวดเร็ว!

กึงงงง!!

อาวุธวิญญาณทั้ง 2 เล่มดันกันไปอย่างไม่มีฝ่ายใดยินยอม

ในขณะที่อู๋เต้าคิดว่ากระบี่วิญญาณระดับ 7 ในมือของต้วนหลิงเทียนจะถูก สารทธาราอันเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 6 ในมือของอู๋หย่งเฉียนปัดกระเด็นนั้นเอง

"เหอะ!" เสียงสบถเย็นชาพลันดังขึ้น

อู๋หย่งเฉียนพลันมีสีหน้าบิดเบี้ยวลงในทันใด และมือที่จับดาบของมันดูเหมือนจะเริ่มสั่นสะเทือนอย่างแรงจนบังเกิดความเจ็บปวด มันทำได้เพียงกัดฟันอดทนเอาไว้

หลังจากนั้นไม่นานมือของมันก็เริ่มปริแตก โลหิตเริ่มทะลักพวยพุ่งออกมา

รีวิวผู้อ่าน