px

เรื่อง : บุรุษที่ถูกทิ้ง
บทที่ 4 ลูกค้ารายแรก


เย่โม่ไม่ได้มีโอกาสบอกว่ายันต์ชำระจิตวิญญาณที่เขาขายจริงๆมีราคาถึง 20,000 เหรียญแต่เขาถูกด่าว่าโรคจิตซะก่อน แต่เขาไม่ได้เศร้าใจอย่างใด หลังจากที่ยันต์ของเขาขายออกหมดทุกอันแล้วจะมีใครกันที่ไม่ตระหนักถึงความสามารถของพวกมัน เพียงแค่คนที่มีแววตาดีๆเท่านั้นถึงจะสามารถเห็นเศษเล็กๆของความสามารถพลังลมปราณของเขาได้

 

แต่สิ่งที่เย่โม่ผิดหวังคือเขาได้ตั้งแผงลอยของเขามาเป็นเวลา 5 วันแล้ว แม้จะมีคนจำนวนมากที่เข้ามาถาม แต่เขาก็ขายไม่ออกซักชิ้น ดังนั้นแผงลอยของเขาจึงกลายเป็นที่โด่งดังเรียบร้อยแล้ว สำหรับในตลาดทะเลแห่งสมบัติแห่งนี้ มันเพราะเนื่องจากยันต์ที่เขาขายมีราคาถึง 10,000 เหรียญต่อแผ่น

 

ผู้คนหลายๆคนไม่ได้มาซื้อยันต์ของเขา แต่คนคนเหล่านั้นกลับมามองว่ายันต์ราคา 10,000 เหรียญเป็นอย่างไร แผงลอยของเย่โม่กลายเป็นเรื่องที่น่าตลกที่สุดในตลาดทะเลแห่งสมบัติแห่งนี้ ยันต์ของคนอื่นมีขนาดเท่ากับกระดาษA4 แต่ของเขากลับมีขนาดเท่าฝ่ามือบางอันมีขนาดยันต์เพียงแค่ครึ่งฝ่ามือก็มี แต่ก็ไม่เคยปรากฎร้านแผงลอยขายยันต์ที่ขายมันมากกว่า 10,000 เหรียญและก็ไม่สามารถเจรจาได้แบบนี้ ด้วยสิ่งนี้มันคงยากถ้าเขาจะไม่กลายเป็นที่โด่งดัง

ในวันที่9 เย่โม่เริ่มยอมแพ้ เขาแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครสามารถเห็นคุณค่าของผลงานของเขาได้ มีเพียงเขาที่รู้ว่ายันต์เหล่านี้มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ไม่สิแม้แต่ 100,00 ก็ไม่แพงสำหรับมัน อย่างไรก็ตามมันก็ไร้ประโยชน์เพราะความสามารถของผู้ที่สร้างยันต์ไม่ได้ถูกเปิดเผยและไม่มีใครได้รับรู้

 

เย่โม่ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้าย ถ้าไม่มีใครซื้อยันต์ของเขาในวันนี้ เขาจะไปตลาดแรงงานและหางานทำ ไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่มีอะไรให้กินอีกต่อไป คนที่สนใจแผงลอยของเขานั้นมีไม่ยาวนานนัก แม้ว่ายันต์ 10,000 เหรียญของเย่โม่จะถูกล้อเลียนเป็นเวลาหลายวัน แต่ตอนนี้ความสนใจของพวกเขาได้หายไปแล้ว…

 

“จิงเหวิน สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยโอสถปลอมๆ คนที่ไหนใครจะเชื่อว่าความอาถรรพ์จะมาหา เธอซื้อพระธาตุที่ขลังมากๆมาแล้ว ฉันคิดว่าเธอควรจะหยุดได้แล้วนะ ฉันเคยติดต่อโรงพยาบาลบำบัดจิตในประเทศฝรั่งเศสซึ่งมันมีชื่อเสียงมากๆ ทำไมเราไม่ย้ายแม่ของเธอไปโรงพยาบาลนั้นเพื่อไปรักษาละ?” คนพูดเป็นชายร่างสูงและหล่อเหลา

 

ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างสูง เธอมีใบหน้าที่เย็นชาและเย่อหยิ่ง ผิวของเธอขาว เธอช่างน่าทึ่งจริงๆ เยี่ยนเยี่ยนที่อยู่ในชั้นเรียนเขาก็ไม่เลว แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้สวยแบบจับตัวได้ยาก เย่โม่ไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆว่าเจ้าวิญญาณเขาคนก่อนช่างมีมาตรฐานต่ำเช่นการมีความสนใจในผู้หญิงเช่นเยี่ยนเยี่ยน

 

อย่างไรก็ตามหญิงที่น่าสนใจคนนี้ดูเยือกเย็นและดูเหมือนจะมีปัญหาบางอย่างอยู่ เพราะสังเกตที่หว่างคิ้วของเธอ และเมื่อได้ยินคำพูดของชายหน้าหล่อคนนี้ ผู้หญิงที่ชื่อจิงเหวินเลิกคิ้วขึ้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่ต้องการให้แม่ไปโรงพยาบาล แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เธอได้พาแม่บินไปประเทศที่พัฒนาแล้วถึงหกประเทศและเคยไปรักษามานับหมื่นโรงพยาบาล แต่ถึงยังงั้นก็ตามไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาพของมารดาเธอเลย

 

“หวังเฟิง ฉันไม่ได้ขอร้องให้นายมากับฉัน นายมาเอง แม่ของฉันไม่ได้ไปโรงบาลเมื่อเร็วๆนี้รึไง? ถึงนายจะแนะนำมันมา 5 หรือ 6 โรงบาล มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร หากนายไม่มีความอดทน นายสามารถไปได้นะถ้าต้องการ” เสียงของผู้หญิงคนนี้อ่อนล้าและรู้สึกไม่สบาย แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้รู้สึกประทับใจกับชายหน้าหล่อที่อยู่ข้างๆตัวเธอเลย

 

ผู้หญิงอีกคนที่ดูคล้ายทหารมากๆ เธอเพียงแต่เดินตามอย่างใกล้ชิดกับผู้หญิงที่ชื่อว่าจิงเหวินโดยไม่พูดอะไรเลย และด้วยรูปลักษณ์แบบนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นผู้คุ้มกันของเธอแน่นอน เย่โม่รู้สึกขบขันตรงที่ว่าหวังเฟิงดูมีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร เขาสามารถบอกข้อมูลที่ไร้ประโยชน์ได้หลายครั้ง แต่เดี๋ยวนะ…ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าแม่ของเธอหมดสติเป็นเวลา 3 ปี ดังนั้นรูปการสภาพของแม่เธออาจจะอยู่ในสภาวะผัก(เป็นชื่อเรียกของโรคเจ้าชายเจ้าหญิงนิทรา)

 

ตอนนั้น เย่โม่ตระหนักได้ว่ายันต์ชำระจิตของเขาน่าที่จะปลุกเธอได้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาเริ่มโฆษณาทันที “ลดราคาสำหรับยันต์ผีสิง ภาวะผักหรือร่างกายบกพร่อง ยันต์ของฉันมีผลกับมัน คุณทั้งสองสามารถกลับคืนสู่สภาพที่สมบรูณ์ได้….” เย่โม่พูดอย่างนั้นแน่นอนวัตถุประสงค์ของเขาคือเพื่อดูว่าเขาสามารถทำธุระกิจกับสาวสวยคนนี้ได้หรือไม่ ถ้าผู้หญิงคนนี้สามารถที่จะไปเยี่ยมชมประเทศต่างๆได้ นั่นหมายความว่าเธอเป็นคนร่ำรวย เธอคงไม่คิดมากกับ 1 หรือ 2 หมื่นเหรียญ

 

ผู้ซึ่งกำลังมีปัญหาฉูจิงเหวินได้ยินว่ามียันต์ที่สามารถรักษาสภาวะผักได้ เธอราวกับได้ยินเพลงของสวรรค์ เธอไม่แม้แต่จะคิดก่อนที่จะตรงมายังแผงลอยของเย่โม่

 

“ฉันถามได้ไหม ยันต์ของคุณสามารถรักษาคนจากสภาวะผักงั้นหรอ?” เสียงของฉูจิงเหวินสั่น มันเหมือนกับคนจมน้ำกำลังที่จะขว้าท่อนไม้ได้และเธอดูเครียดกับคำถามมากๆ เย่โม่ยิ้มอย่างใจเย็นและคิดว่าถ้ายันต์ของเขาไม่สามารถรักษามนุษย์ที่หมดสติไปได้ละ? แต่ธุรกิจนี้เกิดขึ้นมาเนื่องจากการพูดเชิญชวนของเขา และแน่นอนว่าเขาต้องการทำธุรกิจนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ มิฉะนั้นคำเชิญชวนของเขาคงจะดูไร้เหตุผลเกินไป ดังนั้นเมื่อสาวสวยถามเขาจึงรีบตอบ “แน่นอน ยันต์ของฉันสามารถรักษาคนได้ตราบเท่าที่มีลมหายใจ มันเล็กน้อยมากสำหรับการรักษาคนจากสภาวะผัก พวกมันถูกส่งลงมาจากบรรพบุรุษของฉั- ”

 

เย่โม่กำลังไปสู่ขั้นตอนต่อไปของการพล่ามของเขา แต่สาวสวยตรงหน้าเขาขัดจังหวะเขาก่อนและถามอย่างหมดหวัง  “แม่ของฉันอยู่ในสภาวะผักและฉันต้องการที่จะปลุกเธอขึ้นมา ฉันต้องใช้ยันต์แบบไหน?”

 

เย่โม่พยักหน้าและเขาคิดคำตอบเอาไว้อยู่แล้ว มิฉะนั้นเขาคงจะไม่ร้องเรียกเธอหรอก เขาทำหน้าครุ่นคิดและมีใบหน้าที่จริงจังและกล่าวออกมาว่า “มันเป็นเรื่องง่ายเพียงคุณต้องซื้อยันต์ชำระจิตวิญญาณ ฉันมียันต์ชำระวิญญาณสองแบบ หนึ่งที่มีคุณภาพสูงสุด 20,000 เหรียญ อีกหนึ่งที่พบได้ทั่วไป 10,000 เหรียญ และไม่สามารถเจรจาต่อรองได้!”

 

“อะไรกัน แกต้อองหลอกลวงแน่นอน แกกล้าหลอกลวงคนตามถนนได้ยังไง! ฉันจะโทรหาตำรวจเดี๋ยวนี้!” เมื่อได้ยินว่ายันต์สองชิ้นที่สร้างจากกระดาษสีเหลืองเขียนยันต์ธรรมดาๆ กำลังขายออกในราคา 30,000 เหรียญ ผู้ชายหน้าหล่อที่แต่งตัวประหลาดหวังเฟิง โกธรในทันที เขาชี้ไปที่จมูกเย่โม่และสถบ

 

เย่โม่ตบหน้าหวังเฟิงไปด้านข้างและลอบจิ่มไปที่มือหวังเฟิงเพื่อที่เขาจะไม่สามารถใช้แขนข้างนี้ของเขาได้ในอนาคต มันจะไม่เห็นตอนนี้แต่ต่อมาเมื่อมือของหวังเฟิงรู้สึกเกรงตรึงข้อมือของเขาก็จะแยกออกจากกัน

 

การเคลื่อนไหวของเย่โม่นั้นจบลงอย่างรวดเร็ว คนอื่นไม่สามารถบ่งบอกสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ยกเว้นหญิงที่ดูคล้ายทหารคนนั้นที่กำลังมองมาทางเขา เธอซึ่งเป็นผู้ติดตามของฉูจิงเหวินเธอเห็นมัน ดวงตาของเธอมีประกายแสงของความตกใจวูบวาบผ่านไปมา แต่เธอเลือกเดินกลับไปประจำที่ของเธอด้วยการแสดงออกที่ปกติ

 

เมื่อเตะมือของหวังเฟิงออกไปด้านข้างเสร็จ เย่โม่ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ฉันไม่ได้ทำให้คุณต้องซื้อมัน อะไรที่มันตลก ขายของหลอกลวง? หึ ฉันทำธุรกิจที่นี่ฉะนั้นอย่าจุ้นจ้านกับฉัน!”

 

“กล้าดียังไง-” หวังเฟิงกำลังโกธรเป็นที่สุด แต่ก่อนที่เขาจะมีโอกาสทำอะไร เขากลับหยุดลงเพราะผู้หญิงที่กำลังมองมาที่เขาด้วยความหนาวเย็น

 

“หวังเฟิง โปรดออกไป ฉันไม่ต้องการให้คุณตามฉัน” ฉูจิงเหวินกล่าวอย่างเย็นชากับหวังเฟิงและหันไปหาเย่โม่เพื่อขอโทษ “ขออภัยคุณเจ้าของร้านด้วย ชายคนนี้แค่เดินตามฉันมาเท่านั้นและไม่ได้เป็นตัวแทนการตัดสินใจของฉัน”

 

“จิงเหวิน คนนี้หน้าสงสัยเกินไป การขายกระดาษสีเหลืองขนาดเท่าฝ่ามือนี้ด้วยราคา10,000 เหรียญ ชัดเจนว่ามันโกหก หมื่นเหรียญมันเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของเธอละ?” หวังเฟิงยังต้องการชักชวนเธอ แต่ฉูจิงเหวินท่าทางของเธอเริ่มเย็นชาขึ้น แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอกำลังร้อนรนในใจของเธอ

 

รีวิวผู้อ่าน