px

เรื่อง : บุรุษที่ถูกทิ้ง
บทที่ 29 ความประทับใจครั้งที่ 2 ของหนิงฉิงซู


เย่โม่ที่เหน็ดเหนื่อยไม่รู้ว่าหยุนปิงได้ตื่นขึ้นมาแล้วครั้งนึง เขาดึงผ้าขึ้นมาห่มให้หยุนปิงแล้วพูดกับเธอว่า “นี่รู้ไหมวันนี้เธอนี่โชคดีมากเลยนะ! เพราะเธอทำตัวแบบนั้นกับฉัน ฉันเลยไม่อยากจะช่วยเธอเลยจริงๆ แต่วันนี้ฉันอารมณ์ดีเลยช่วย”

เย่โม่ปิดประตูและไปแบกชายวัยกลางคนกับเจิงเหวินเชียวอีกครั้งแล้วออกไป

เขาปล้นเจิงเหวินเชียวกับชายวัยกลางคนจนเหลือแต่ตัวเปล่า จากนั้นก็ทุบตีพวกมันจนบาดเจ็บสาหัส  แล้วเขาก็เตะพวกมันต่อไปจนกระทั่งถึงสถานที่ส่วนบุคคลที่อาจจะถูกจับกุมได้ เขาได้นำพวกมันมาเรียงซ้อนกันไว้แล้วโยนพวกมันใส่เบาะหลังรถและเขาก็ขับ BMW ออกไปจนกระทั่งถึงสี่แยกแล้ว มาจอดรถในสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคน ก่อนที่เขาจะออกไปจากรถเขาก็ไมลืมที่จะเปิดหน้าต่างทุกบานทิ้งไว้

……

เย่โม่ได้ออกไปข้างนอกทั้งวัน ในขณะที่หนิงฉิงซูอยู่ในสนามหญ้ากำลังรู้สึกกังวล เธอวางแผนที่จะจดทะเบียนสมรสวันนี้ แต่เย่โม่ยังไม่กลับมาสักที ราวกับว่าเขาลืมเรื่องที่เขาตกลงกับเธอไปแล้ว

เมื่อตอนเช้าที่ชูเหว่ยและหนิงฉิงซูได้พบกัน มันก็ค่อนข้างรู้สึกอึดอัด ชูเหว่ยไม่รู้ว่าเย่โม่ไปพบเจอสาวสวยสะดุดตาอย่างหนิงฉิงซูได้ยังไง และสิ่งที่สาวสวยคนนี้จะคิดได้แค่ว่า ‘การใช้ชีวิตอยู่กับคนๆ หนึ่งที่แสนยากจนอย่างเย่โม่ก่อนแต่งงาน นั่นก็แสดงให้เห็นว่า เธอไม่สามารถตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกได้’ แม้ว่าในความประทับใจที่ดีของชูเหว่ยต่อเย่โม่เขาค่อนข้างจะเป็นคนดี แต่ดูเหมือนว่าหนิงฉิงซูกับเขาจะไม่เหมาะสมกันเลย ความคิดของหนิงฉิงซูก็เหมือนกับความคิดของชูเหว่ย เธอคิดหาเหตุผลว่าทำไมชูเหว่ยถึงมาใช้ชีวิตอยู่กับเย่โม่ได้ เพราะว่าเขารู้ว่าตัวเองก็มีปัญหาชีวิตรุมเร้าอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ถามเรื่องนี้ออกไป และพวกเธอทั้งสองก็คิดว่าพวกเธออยู่ในจุดที่สมควรจะอยู่แล้ว

พอเห็นว่าชูเหว่ยออกไปทำงาน หนิงฉิงซูก็รู้สึกอึดอัดที่จะอยู่ในสนามหญ้าอันไม่คุ้นเคยต่อไป อย่างไรก็ตามเธอก็รอเย่โม่มานานแล้ว ซึ่งมันก็ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด เธอพบว่ามีดอกไม้หลายชนิดถูกปลูกลงในสนามหญ้าของเย่โม่ ตอนแรกเธอนึกว่าออกไม้พวกนี้เป็นของชูเหว่ยที่ต้องรับผิดชอบ แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะปลูกไว้ตรงด้านข้างของสนามหญ้าเย่โม่ หนิงฉิงซูก็มองไปที่ดอกไม้เหล่านั้นแล้วก็ไปพบเจอกับต้นหญ้าสีเงินต้นนึงในหมู่ดอกไม้ ตรงนั้นไม่มีดอกไม้หรือหญ้าอยู่ข้างๆ และมันมีพื้นที่ปลูกใหญ่กว่าตัวลำต้นของมันซะอีก

เธอเดินรอบสนามหญ้าสักพักก่อนจะกลับเข้าห้องไป  ห้องของเย่โม่นั้นเป็นห้องธรรมดาๆ นอกจากเตียงก็มีเพียงแค่โต๊ะตัวเดียว สิ่งที่เธอไม่เข้าใจเพียงสิ่งเดียวนั่นก็คือมีกล่องเล็กๆ กับหม้อที่ดูเหมือนจะถูกนำมาใช้ต้มยาสมุนไพร สำหรับสิ่งที่อยู่ภายในกล่อง หนิงฉิงซูไม่รู้ว่าเป็นอะไรและไม่อยากจะเปิดมันออกมาสักนิด เธอไม่ชอบจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น สำหรับหม้อแปลกๆ นั่น เธอไม่อยากจะมองมันเลย

เธอรู้สึกทันทีเลยว่าเยโม่แต่ต่างจากสิ่งที่ลีมู่เหม่ยได้กล่าวไว้ แต่ในเวลาเดียวกันนิสัยของเขาก็คล้ายกับเธอ สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงความลึกลับและความแปลกประหลาดจากมัน

เธอไม่รู้ว่าเย่โม่ไปรู้จักซูจิงเหวินได้ยังไง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะชื่นชมเขามากทีเดียว หนิงฉิงซูนึกถึงเมื่อครั้งแรกที่เห็นเย่โม่เต้นกับซูจิงเหวินอย่างเข้าจังหวะที่ไร้ที่ติด และตอนที่เขาเอาของขวัญให้แก่ซูจิงเหวิน มันทำให้เธอประหลาดใจและรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าค่อนข้างจะอิจฉานิดนึง ที่ต้องคอยเฝ้ามองเหตุการณ์แบบนั้นดำเนินต่อไป เธอก็ทำได้แต่หัวเราะเยาะตัวเอง

และตอนนี้เธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่า เย่โม่ใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงข้างห้องและเธอก็รู้สึกสงบมากจนผิดปกติ แต่แล้วเธอก็คิดถึงเรื่องที่เย่โม่รับเงินไป 5 แสนเหรียญโดยไม่ลังเล มันทำให้เธอรู้ว่าเย่โม่เป็นเหมือนกับที่ลีมู่เหม่ยเคยพูดไว้ไม่มีผิด เพราะงั้นความรู้สึกผิดที่มีต่อเย่โม่ก็หายวับไป

ตอนนี้เธอทำได้แค่เพียงรอจนเย่โม่กลับมา แล้วไปจดทะเบียนสมรสกับเขา เธอจะเอาทะเบียนสมรสไปให้ลีมู่เหม่ยคัดลอกและเอารูปถ่ายส่วนตัวของเธอกับเย่โม่ไปปล่อยออกในที่สาธารณะ ถ้าหากทำเรื่องพวกนี้แล้วยังทำให้ตระกูลซงเลิกยุ่งกับไม่ได้ เธอก็ไม่รู้จะทำอะไรอีกแล้ว

.......

เมื่อเย่โม่กลับมาถึง ชูเหว่ยกับหนิงฉิงซูก็หลับไปแล้ว เมื่อเห็นว่าไฟของทั้งสองห้องดับไป เขาก็ไม่ได้เข้าไปแต่กลับไปตรงใต้ต้นไม้ของสนามหญ้าและเริ่มบ่มเพาะแทน

หนิงฉิงซูได้ยินเสียงจากประตู และรู้ว่าเย่โม่กลับมาแล้ว เธอก็สงสัยว่าเขาอาจจะกลับมาตอนดึกทุกคืน และสักพักนึง เธอก็ได้ยินเสียงจากประตูห้องชูเหว่ย

ในระหว่างการบ่มเพาะเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เย่โม่ได้ตื่นขึ้นตอนเช้าและฝึกวรยุทธเสร็จจากนั้นก็ไปล้างหน้าล้างตา และแล้วชูเหว่ยก็ตื่นขึ้นและมาทักทายเย่โม่ อย่างไรก็ตามในขณะที่หน้าเธอดูแปลกๆไป เธอก็รีบกลบเกลื่อนมันในทันที แล้วเธอรีบเตรียมตัวออกไปทำงาน หนิงฉิงซูที่พึ่งตื่นขึ้นก็ได้ยินเสียงเย่โม่และชูเหว่ยที่สวนหญ้า แต่ขัดขืนที่จะออกไปและรอออกไปทันทีที่ชูเหว่ยออกไปทำงานแล้ว

หนิงฉิงซูเห็นเย่โม่กำลังดูแลดอกไม้ และยืนยันถึงสิ่งที่เธอสงสัยว่าดอกไม้พวกนั้นเป็นดอกไม้ที่เขาปลูกใช่มั้ย “สิ่งมีชีวิตอย่างผู้ชายจะมาดูแลถะนุถนอมสิ่งของพวกนี้ได้ไง?” เธอสงสัยว่าจริงๆ แล้วเขาแค่ดูแลดอกไม้หรือเขาสับสนทางเพศกันแน่

“อ้าว เธอตื่นแล้วหรอ...”เย่โม่หันหน้าไปมองหนิงฉิงซู แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก หลังจากนิ่งเงียบไปสักพักเขาก็พูดขึ้นต่อว่า “ทำไมเธอดูแย่นักละ?  เมื่อวานยังไม่ได้กินอะไรหรอ?”

เย่โม่สังเกตเห็นบรรยากาศที่เงียบงันระหว่างพวกเขาทั้งสอง ดังนั้นเขาเลยเริ่มชวนคุย อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าหนิงฉิงซูจะส่ายหน้าและพูดว่า “ฉันยังไม่หิวและเมื่อวานก็ยังไม่ได้กินอะไร”

เมื่อเย่โม่ได้ยินว่าเมื่อวานเธอไม่ได้กินอะไร เขาก็พูดอะไรไม่ออก ถ้าหากเขาไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน เขาก็ยังสบายดีเพราะมีลมปราณช่วยไว้แต่หนิงฉิงซูไม่เหมือนกัน เธอไม่ใช่ผู้บ่มเพาะ ไม่แปลกใจเลยทำไมผิวเธอดูแย่มาก

“ไปอาบน้ำ เราจะไปหาอะไรกัน” เย่โม่พูดไม่กี่คำและกลับไปดูแลหญ้าหัวใจสีเงินอันสำคัญของเขาต่อ เพราะมันคือทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เขามี

หลังจากที่หนิงฉิงซูพร้อมแล้ว เย่โม่ก็พาเธอไปร้านอาหารข้างทางใกล้ๆและสั่งโจ๊กกับขนมปัง

พอเห็นความอยากอาหารของเย่โม่กับโจ๊ก 2 ชามและขนมปัง 2 ชิ้น หนิงฉิงซูก็อิ่มไป หลังจากกินไปแค่โจ๊กครึ่งชามกับขนมครึ่งชิ้น แม้ว่าเมื่อวานเธอจะไม่ได้กินอะไรเลย

“ทำไมเธอต้องมาแต่งงานกับฉั….” ก่อนที่เย่โม่จะพูดจบ หนิงซูก็มาขัดเย่โม่ไว้

“นายไม่จำเป็นต้องถามอะไรมากมาย นายรู้แค่ว่ามันคือข้อตกลงระหว่างเราแค่นั้นก็พอ” แม้ว่าเย่โม่จะรับบัตรเครดิตจากเธอโดยไม่ลังเลและเธอก็เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับชูเหว่ย แต่เธอรู้สึกว่าอารมณ์ของเธอแย่ลงมาก เธอเอะใจได้ว่าเย่โม่ที่เย็นชาที่เธอพบในงานวันเกิดซูจิงเหวินก็แค่เสแสร้ง

ถ้าเย่โม่ถามคำถามนี้เมื่อตอนที่พบกันครั้งแรก บางทีเธออาจจะบอกเย่โม่ว่าอยากให้เขาทำให้ตระกูลซงเลิกยุ่งกับชีวิตเธอ แต่ตอนนี้เธอไม่อยากจะพูดอะไรกับเย่โม่อีกแล้ว เธอได้จ่ายเงินไปและเย่โม่ก็ต้องทำตามส่วนของเขา นี่ก็คือข้อตกลงปกติ หลังจากตกลงกัน พวกเขาก็กลายเป็นพวกเดียวกันแล้ว และพวกเขาก็ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันไปมากกว่านี้

เมื่อสังเกตเห็นน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของหนิงฉิงซู เย่โม่ก็ได้แต่ยิ้มอ่อนและโยนบทสนทนานี้ทิ้งไป เขาไม่อยากจะยุ่งกับอารมณ์ของผู้หญิงคนนี้ แม้ว่ามันจะเป็นการแต่งงาน มันก็ไม่มีผลกระทบกับเขา การจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่อง่าย ก็แค่พวกเขาต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรและถ่ายรูปคู่ เย่โม่ถอนหายใจกับการแต่งงานที่ซับซ้อนในชีวิตที่แล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ อย่างไรก็ตามเขาก็สังเกตว่าดูเหมือนการหย่าจะง่ายกว่าเยอะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนไม่ค่อยมาหย่ากัน

เย่โม่ไม่มีเวลาให้หายใจ พวกเขาก็ได้เก็บทะเบียนสมรสไปทันที และลีมู่เหม่ยจะมาช่วยถ่ายรูปส่วนตัวให้เย่โม่กับหนิงฉิงซูเอง

 

รีวิวผู้อ่าน