px

เรื่อง : Peerless White Emperor
ตอนที่ 12 : ลูกศรอันสง่างาม


“เอาล่ะ อย่าลืมนำมันกลับคืนมาให้เร็วที่สุด ตอนนี้พวกเธอสามารถไปได้แล้ว” มาร์บอกและนั่งลงอ่านเอกสารต่อ

ทั้งสามคนเดินออกไปในห้องโถง และสังเกตเห็นว่าทัศนคติของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากใบหน้าที่ไม่พอใจเมื่อตอนที่พวกเขาเดินเข้ามาเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มขณะที่พวกเขากำลังจะออกไป พวกเขาทั้งสามเดินตัวตั้งตรงด้วยความภาคภูมิใจ

“เพื่อน หลินหลี่ ตอนนี้เราสามารถเดินอย่างสง่าผ่าเผยในหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ...” จางเจิ้งเฉียงกล่าวขึ้น

เย่ฉางหัวเราะเบาๆ “อืม เราต้องลองปรับบุคลิคตัวเองเสียใหม่ ตอนนี้เราเป็นนายทหารผู้ทรงเกียรติแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเราต้องเสาะหาพรรคพวกที่เชื่อใจได้มาช่วยทำเควสลับนี้”

ทั้งสามคนเดินไปตามถนนมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาตัดสินใจที่จะทำความคุ้นเคยกับภูมิประเทศรอบๆเมืองนี้ พวกเขาเดินผ่านผู้เล่นส่วนใหญ่ที่กำลังเก็บเลเวลใกล้เขตชานเมืองและเดินลึกเข้าไปในป่า เส้นทางมีความซับซ้อนและคดเคี้ยว พุ่มไม้หนาและดูอันตรายเป็นพิเศษ

ขณะที่ออกสำรวจในป่า ตอนนี้แฟรอลวูลฟ์และหมูป่าแทบไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา ด้วยมือข้างหนึ่งที่ถือดาบและมืออีกข้างที่ถือโล่ของจางเจิ้งเฉียงทำให้ดูแข็งแกร่งและกล้าหาญเป็นอย่างมาก หลังจากการต่อสู้ พวกเขาได้ใช้สกิล [Minor Healing Light] แค่ไม่กี่ครั้ง สกิลนี้เป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้พวกเขาไม่ต้องกินสตูว์หมาป่าสีเขียวอีก เย่ฉางพบ Medical Grasses, Edible Plants และ Blood Restoring Grasses เป็นจำนวนมาก ซึ่งพบได้อยู่ตามพุ่มไม้ต่างๆที่เต็มไปด้วยอันตราย มันมีพวกงูและสัตว์มีพิษอื่นๆแอบซ่อนอยู่

เพื่อความปลอดภัย จางเจิ้งเฉียงจึงแหวกพุ่มไม้ต่างๆด้วยโล่ของเขา และเมื่อเห็นว่าไม่มีสัตว์อันตรายอื่นซ่อนอยู่ เย่ฉางจึงทำการเก็บหญ้าพวกนี้และผลไม้ป่าบางอย่างลงในกระเป๋า

“พี่ใหญ่ขาว พี่ใหญ่เฉียง มีบางคนต่อสู้กับมอนเตอร์และดูเหมือนจะเป็นบอสอยู่ตรงนั้น” หลินหลี่วิ่งกลับมารายงานจากอีกด้านหนึ่ง

“ไปดูกันเถอะ” เย่ฉางพูดขึ้น ทั้งสามคนเดินไปตรงเนินเขาและมองทิศทางที่หลินหลี่ชี้ไป พวกเขาเห็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยพุ่มไม้และโขดหินเป็นกำแพงต่างๆ มีผู้เล่นหญิง 4 คนรุมล้อมโจมตีนกยักษ์สีขาวที่สูงเกือบ3เมตร บนพื้นเต็มไปด้วยหลุมเล็กๆเป็นจำนวนมากซึ่งเกิดจากกรงเล็บและจงอยปากของนกตัวนี้ ผู้นำทีมเป็นผู้หญิงผมสั้น เธอสูงและแขนขาเรียวยาวเหมือนนางแบบ มือขวาถือดาบที่มีลักษณะเหมือนของเย่ฉาง มือซ้ายถือโล่ไม้กลม ส่วนอีกสามคน คนหนึ่งเป็นแอสซาซิน ผู้หญิงผมสีบลอนด์ที่โจมตีด้วยเวทมนต์บางอย่างน่าจะเป็นนักเวทย์ ส่วนคนสุดท้ายไม่สามารถระบุได้ซึ่งนอนเป็นศพอยู่ในสภาพที่เละ

“เฮ้เพื่อน! พวกเธอแข็งแกร่งมาก... พวกเธอยังมีเวทมนต์บางอย่างที่ทรงพลัง” จางเจิ้งเฉียงประเมิน

เย่ฉางพยักหน้าเห็นด้วย “พวกเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด หากพวกเราเผชิญหน้ากับพวกเธอ พวกเราอาจจะชนะได้เพราะมีขวดกรดระดับต่ำและอุปกรณ์ส่วมใส่ที่ดีกว่า ดูจากประสบการณ์การต่อสู้ของพวกเธอ พวกเธอน่าจะเป็นพวกมืออาชีพในเกมเสมือนจริง โดยเฉพาะตรงก้นเธอนั้น... อืม~ มันสุดยอดมาก”

“ไปช่วยพวกเธอกันและเราสามารถชวนพวกเธอมาช่วยทำเควส์ได้ด้วย พอสนิทสนทกันมากขึ้นก็ขอเบอร์ หลังจากนั้นพวกเธอก็จะมาแย่งกันซบอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของฉัน...” จางเจิ้งเฉียงพูดขึ้น

“ตุ๊บ~!” เย่ฉางตบหลังจางเจิ้งเฉียงและพูดอย่างไม่แยแสว่า “เพ้อฝันมากไปหรือป่าวเพื่อน แต่เราก็จำเป็นต้องทำความรู้จักกับพวกเธอไว้เพื่อมาช่วยทำเควส์ แต่สิ่งที่สำคัญสุดคือ ฉันจองสาวผมสั้น”

“...” จางเจิ้งเฉียงพูดไม่ออก หลินหลี่เห็นว่าพวกเขาจะมีเพื่อนใหม่จึงรู้สึกตื่นเต้น “แล้วตอนนี้เราควรทำยังไงดี? วิ่งลงเนินไปตรงๆเพื่อช่วยพวกเธอ?”

เย่ฉางขมวดคิ้วขึ้นและคิดสักครู่หนึ่ง

“เราจำเป็นต้องทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อสร้างความประทับใจแรกพบต่อพวกเธอ โดยฉันจะระดมยิงธนูไปที่ตาของบอสหลายๆดอก ตาของบอสจะเหมือนถูกยิงด้วยลูกศรนับพันนับหมื่น ในเวลานั้นสาวๆก็จะหันมองมาทางเรา เนื่องจากมีแสงจากดวงอาทิตย์ส่องทางด้านหลังเราเสมือนเป็นแบ็คกราวน์ที่สมบูรณ์แบบ มันจะทำให้เราดูลึกลับมากขึ้นเช่นเดียวกับวีรบุรุษ ความประทับใจของพวกเธอจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน จากนั้นอาเฉียง นายต้องรีบวิ่งขึ้นไปแท้งค์บอสและใช้สกิลเติมเลือดของโล่ให้สาวสมสั้น ส่วนหลินหลี่ที่มีขวานยักษ์พลังโจมตีสูง นายต้องฟันบอสอย่างรุนแรงที่สุดเพื่อโชว์ค่าพลังโจมตี...” เย่ฉางเริ่มวางแผนบทภาพยนตร์ของเขา จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ตั้งใจฟังและพยักหน้าอย่างเงียบๆ

“พี่สาวโรส! เลือดของบอสใกล้หมดแล้ว!” สาวผมบลอนด์บอกกับสาวผมสั้น เธอถือไม้เท้าคอยยิงเวทจากระยะไกล การตอบสนองของบอสนั้นเริ่มช้าลงกว่าปกติ

“อย่าประมาท! พวกเราก็มาถึงขีดจำกัดแล้วเหมือนกัน เราไม่มีเลือดเยอะพอที่จะทำให้เกิดความผิดพลาดได้!” ผู้ที่ถูกเรียกว่าพี่สาวโรสเป็นหัวหน้ากิลด์ Thorns and Roses มีชื่อในเกมว่า ThornyRose ฉายา Miss Rose ส่วนแอสซาซินที่โจมตีบอสอย่างคล่องแคล่วมีชื่อว่า FrozenBlood ฉายา NightEmpress ที่มีชื่อเสียง

นอกจากนี้ สาวผมบลอนด์เป็นสมาชิกหลักที่กิลด์คอยปลุกปั้นอยู่ เธอมีชื่อว่า GreenDew

พวกเย่ฉางพึ่งมาถึงหลังพุ่มไม้

“เอาล่ะ เริ่มทำตามแผนของฉันได้...” เย่ฉางกล่าว จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่พยักหน้าด้วยท่าทางที่จริงจังมาก

เย่ฉางแหวกพุ่มไม้ คว้าลูกศร วางไว้บนคันธนู ดึงสายธนูจนสุดสาย จดจ่อตั้งสมาธิ แล้วเตรียมยิง

“เฮ้!เพื่อน นายยกสาวผมสั้นให้ฉันได้ไหม? ก้นของเธอช่างเย้ายวนเกินห้ามใจ ไม่มีชายคนใดในโลกสามารถหักห้ามใจก้นนี้ได้...” คำพูดของจางเจิ้งเฉียงทำให้เย่ฉางชะงักเสียสมาธิ เขาไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้ เขาจึงหันมองไปที่ก้นสาวผมสั้น หลินหลี่เห็นว่าปลายลูกศรของเย่ฉางค่อยๆลดลง เขาจึงเคาะไหล่ของเย่ฉางเพื่อเตือนเขาว่า “พี่ใหญ่ขาว! เป้าหมายของพี่คือ...”

เพราะการโดนหลินหลี่เคาะที่ไหล่ เย่ฉางสะดุ้งเผลอปล่อยมือออก “ฟิ้ว~” ลูกศรออกจากคันธนูและพุ่งเสียบเข้าไปในก้นของ ThornyRose อย่างแม่นยำ

“เชี่ย!... แย่แล้ว” หลินหลี่พึมพำขึ้นพร้อมกับมือที่ชี้ไป

“...” เย่ฉาง จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ ตัวแข็งค้างทันที

ThornyRose รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงตรงประตูหลังของเธอ ระบบเตือนเธอว่าเธอถูกโจมตีโดยผู้เล่น เธอรีบหันไปมองทางทิศที่ลูกศรยิงมา หัวใจของเธอเหมือนถูกสุมไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวที่มากมายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่มันสร้างความอับอายและความอัปยศอดสูแก่เธอมาก “ไอ้เหี้ย!นั้นมันคือใคร! ฉันจะฆ่ามัน! ฉันจะฆ่ามัน!” เธอเงยหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธมองไปเห็นภาพเงาที่แตกต่างกันสามภาพ แต่เนื่องจากแสงแดดที่ส่องมา เธอจึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าพวกเขาได้ “พวกแก!!”

“พี่สาวโรส! ระวัง!!” GreenDew ตะโกนขึ้น

ThornyRose ที่สูญเสียสติทั้งหมดไปไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา จงอยปากของนกยักษ์ได้จิกลงที่หัวเธออย่างแม่นยำ ทำให้เลือดของเธอเป็นศูนย์และตายลง สายตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ความเกลียดชังและความไม่เต็มใจ ลูกศรค่อยๆหลุดออกจากก้นของเธอ

FrozenBlood เห็นความตายที่น่าเศร้าของ ThornyRose และตะโกนว่า “หัวหน้า!!” ในเวลานั้น ขณะที่เธอกำลังช็อคจากการตายของหัวหน้าทีม นกยักษ์ก็กวาดเท้าของมันออกไปและฟาดมาที่เธอ เธอตายทันทีด้วยสีหน้าและสายตาที่กำลังช็อคอยู่

สำหรับตอนนี้ เหลือเพียงแค่ GreenDew คนเดียวที่เหลือรอดอยู่ หัวใจของเธอดิ่งลงเมื่อเห็นนกยักษ์ที่โกรธเกรี้ยวมองมาที่เธอ เธอจึงวิ่งหนีไปอย่างทุลักทุเล เธอกัดฟันแน่นในขณะที่มองพวกเขาทั้งสามคนบนเนิน สายตาของเธอเต็มไปด้วยความหนาวเย็น “ไอ้พวกถ่อย! เราจะกลับมาล้างแค้นแน่!!”

“นี่...เพื่อน ถ้าพวกเธอกลับมา เราควรอธิบายให้พวกเธอเข้าใจว่าเราตั้งใจที่จะช่วยพวกเธอ นายคิดว่าพวกเธอจะยกโทษให้เราและยังคบกับเราเป็นเพื่อนไหม?” จางเจิ้งเฉียงพูดขึ้นขณะที่มองนักเวทย์สาวที่กำลังวิ่งหนีบอส

“เอ่อ...” เย่ฉางมองดูนิ้วมือที่สั่นของเขา ที่เพิ่งก่อให้เกิดห่วงโซ่ของการเสียชีวิต จากนั้นเขาก็หันไปพูดหลินหลี่ด้วยสีหน้าปัดความรับผิดชอบ “หลินหลี่! ทั้งหมดเป็นความผิดของนาย! นายทำให้ฉันตกใจ!”

หลินหลี่ทำท่าทางรู้สึกผิด “ผมแค่อยากจะเตือนพี่ว่า...”

รีวิวผู้อ่าน