px

เรื่อง : Peerless White Emperor
ตอนที่ 53 : ชั้นใต้ดินในกระท่อมร้าง


“ไหนๆอาหารก็ถูกทำจนเสร็จแล้ว มันจะน่าเสียดายถ้าเราไม่กินมัน เอาล่ะ! ทุกคนมากินอาหารนี้กันเถอะ จะได้ฟื้นฟูเลือดและเดินทางกันต่อ” เย่ฉางมองทุกคน และพูดอย่างไม่แยแสขณะที่เอามือบีบจมูกไว้

ThornyRose ฟังคำพูดไร้สาระที่เย่ฉางพ่นออกมา เธอจึงมองไปที่สิ่งที่ลอยอยู่ในหม้อเหล็ก ของที่อยู่ในหม้อนั้นไม่สามารถสรรหาคำบรรยายได้ เรียกได้ว่ามันเป็นดั่งเช่นฝันร้ายชัดๆ ก่อนหน้านี้ที่อาหารยังไม่ถูกปรุงเสร็จ เธอยังไม่รู้พิษสงของมันดีพอ เธอก็แค่คิดว่ามันคงเหมือนกับสตูว์ต่างๆที่เธอเคยได้กินมาในก่อนหน้านั้น แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของพวกมนุษย์หมาป่าที่เพียงแค่ได้กลิ่น ก็วิ่งหนีไปแบบหางชี้ตั้ง เธอไม่รู้ว่าจะกล้าพอที่จะกินมันได้หรือไม่

SpyingBlade มองไปที่ค่าสถานะของอาหาร ซึ่งมันไม่เหมือนกับอาหารที่เขาเคยกินตอนล่าพวกมนุษย์ปลาเลย ในฐานะที่เขาเป็นนักล่าสมบัติที่มีชื่อเสียง เขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ขมขื่นและพบเจอกับความยากลำบากที่มากมายกว่านี้เยอะ เขาฝืนใจและเอาชามตักอาหารขึ้นมากิน FrozenBlood มองไปยังร่างกายที่สั่นระริกของเขาด้วยความชื่นชม ตามที่คาดไว้ ชื่อเสียงของผู้ชายคนนี้ที่ถูกขนานนามว่าหมาป่าเดียวดายผู้เด็ดเดี่ยว มันไม่ใช่ชื่อเสียงที่มีไว้โชว์จริงๆ

“ตามที่ฉันคาดคิดไว้เลยว่า พี่ชาย SpyingBlade ต้องเป็นคนแรกที่กินอยู่แล้ว! แล้วพวกเราสี่คนพี่น้องจะทำตัวอ่อนแอได้อย่างไรกัน! อาเฉียง! หลินหลี่! น้องเล็กไดโน! อย่าปล่อยให้คนอื่นมาดูถูกพวกเราได้! กินมันซะ!” เย่ฉางยกชามของเขาและกินมันลงไป จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่พยักหน้าด้วยความรู้สึกเศร้าหมอง โดยเฉพาะสีหน้าของหลินหลี่ที่แสดงออกมาเต็มไปด้วยความความเจ็บปวดรวดร้าวและทุกข์ทรมาน FrozenCloud ลังเลใจ แต่เมื่อเธอนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาว่าเย่ฉางกำลังสงสัยว่ามีสายลับอยู่ในทีม ถ้าเธอไม่ยอมกินอาหาร เธออาจจะถูกสงสัยได้ เธอสูดลมหายใจเฮือกใหญ่และเอาชามตักอาหารขึ้นมากิน

หญิงสาวทั้งสามคนที่ยังเหลืออยู่ขมวดคิ้ว ThornyRose เอาชามตักอาหารในหม้อขึ้นมา เธอจ้องมองดูชามบนมือ ไม่ว่าเจ้าสิ่งนี้จะเป็นอาหารนรกแตกแค่ไหน เธอก็จะกินมันเพราะเธอไม่อยากให้พวกจอมป่วนสามคนนั่นมาดูถูกเธอได้! FrozenBlood และ GreenDew ทำหน้าเหมือนคนกำลังจะตายและเริ่มกินตาม การแสดงออกของแต่ล่ะคนเหมือนกับว่า พวกเขาเจอกับฝันร้ายที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต

ทุกคนต่างตัวสั่น ใบหน้าซีดเซียว เย่ฉางรู้สึกตัวขึ้นก่อน เขาจึงเก็บหม้อเหล็กและพูดขึ้น “ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว พวกเราเดินทางต่อได้”

พวกเขาเดินทางต่อไปเรื่อยๆ และได้มาพบกับพวกมนุษย์หมาป่า 6ตัว ซึ่งหนึ่งในพวกมันเป็นมนุษย์หมาป่าระดับ Elite แต่พวกเขาก็ยังสามารถรับมือได้แบบสบายๆ พวกมนุษย์หมาป่ากลุ่มนี้ดร็อปอุปกรณ์ระดับ Fine บางชิ้น และยังดร็อปกางเกงหนังขาสั้นสีเงินระดับ Excellent ที่มีคุณสมบัติ +2 Dexterity และ+1 Strength เย่ฉางประมูลได้มาในราคา 20 เหรียญเงิน หลังจากที่เขาสวมใส่กางเกงนี้แล้ว ทุกคนต่างก็หัวเราะขึ้น กางแต่งกายของเขาเหมือนกับลูกเสือที่กำลังมาเข้าค่ายอบรม ด้วยกางเกงขาสั้นสีเงินผสมกับเสื้อที่เขาใส่ และที่โดดเด่นที่สุดคือสนับไหล่หนัก[Black-Iron Shoulder Protector] ที่มีขนาดใหญ่และพาดอยู่บนไหล่ทั้งสองข้างของเขา ทำให้ดูเหมือนสัญลักษณ์ของลูกเสือยังไงยังงั้น ThornyRose สงสัยว่า ทำไมแรนเจอร์เช่นเขาจึงสามารถสวมใส่อุปกรณ์ที่ต้องการค่า Constitution และ Strength ที่สูงแบบนี้ได้ ถ้าเป็นเธอที่มีอาชีพไฟท์เตอร์ที่อัพค่าพวกนี้อยู่แล้วก็ว่าไปอย่าง หรือว่าเรนเจอร์เช่นเขาจะเน้นอัพค่า Constitution และ Strength ด้วย? แต่เธอไม่ต้องการถามเขา เพราะทุกคนต่างมีความลับเป็นของตัวเอง

SpyingBlade พาทุกคนเดินผ่านหมอกไปเรื่อยๆ จนในที่สุดพวกเขาได้มาถึงกระท่อมรกร้างหลังหนึ่ง ที่ถูกปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำและวัชพืช เห็นได้ชัดว่ามันถูกทิ้งร้างมานานแล้ว หน้าต่างและประตูก็เก่าและผุพัง กระท่อมนี้มีสองชั้น พวกเขาเดินเข้าไปตรงหน้ากระท่อมและมองเห็นรอยเท้าของมนุษย์หมาป่าอยู่เต็มพื้นหน้าประตู

“ทุกคนระวังตัวด้วย ในบรรดารอยเท้าเหล่านี้ มันมีรอยเท้าที่มีขนาดใหญ่มากอยู่ด้วย ฉันสงสัยว่ามันต้องเป็นบอสแน่” SpyingBlade ที่กำลังก้มลงไปที่พื้นและกำลังปัดตะไคร่น้ำออกจน ปรากฏรอยเท้าขนาดใหญ่ขึ้น

ทุกคนพยักหน้า จางเจิ้งเฉียงใช้ค้อนพังประตูเข้าไป ThornyRose ยืนอยู่ข้างเขาพร้อมที่จะช่วยป้องกันอยู่ตลอดเวลา FrozenCloud ยืนอยู่ที่ด้านหลังของกลุ่มคอยคุ้มกันอยู่ด้านหลัง ในกรณีที่มีศัตรูมาจากทางด้านหลัง ทุกคนเดินเข้าไปในกระท่อมอย่างช้าๆและระมัดระวัง

ข้างในกระท่อม มันไม่ได้เป็นเหมือนบ้านของมนุษย์เลย มันเหมือนถ้ำของพวกมอนเตอร์มากกว่า บริเวณรอบๆเต็มไปด้วยร่องรอยของกงเล็บที่ขีดข่วนไปทั่ว ตามพื้นห้องมีเศษกระดูกมนุษย์กระจัดกระจายเต็มไปหมด มันคงจะเป็นซากของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของมนุษย์หมาป่า ทั่วทั้งชั้นถูกปกคลุมไปด้วยคราบเลือดจำนวนมาก สภาพแวดล้อมที่มืดและชื้น มีพวกราและมอสเติบโตขึ้นทั่วทุกแห่ง อากาศชื้นและมีกลิ่นเหม็นน่าสะอิดสะเอียน แต่กลิ่นนี้ก็ยังพอทนได้เมื่อเทียบกับกลิ่นของอาหารที่พวกเขากินมาก่อนหน้านี้

เย่ฉางส่งสัญญาณให้จางเจิ้งเฉียงเดินนำขึ้นบันไดไปชั้นสอง จางเจิ้งเฉียงพยักหน้าและเดินนำทุกคนขึ้นไป ทุกคนเดินตามเขาขึ้นมา พวกเขาเดินขึ้นบันไดหินจนมาถึงชั้นสอง ด้านบนนี้มีเพียงแค่สองห้อง แต่ล่ะห้องอยู่คนละด้านกัน ประตูห้องถูกทำลายไปนานแล้วมีเศษไม้กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น ห้องด้านซ้ายเป็นห้องโล่งๆที่ว่างเปล่ามีเพียงเศษกระดูกมนุษย์อยู่นิดหน่อย ส่วนห้องด้านขวาควรเป็นห้องนอน เพราะพวกเขามองเห็นลิ้นชักที่ยังมีสภาพดีอยู่ เมื่อเปิดลิ้นชักก็เจอกับสมุดโน๊ตเล่มหนึ่งที่ขึ้นราอยู่ ฟูกนอนบนเตียงถูกฉีกกระจัดกระจาย มีพวกฝ้ายและนุ่นที่ขึ้นราตกอยู่ทั่วห้อง ส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมา

ThornyRose หยิบสมุดโน๊ตที่ขึ้นรามาดู และเห็นว่ามีข้อความบางอย่างถูกเขียนไว้ แต่มันยากที่จะอ่านออกได้ เธอพยายามจับใจความสำคัญบางอย่างและเอามาปะติดปะต่อกัน จนสามารถพอจับใจความได้ว่า เจ้าของบ้านหลังนี้ชื่อเทย์ และมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงไปของเทพเจ้าหมาป่าที่ชื่อดิน่า มีอยู่วันหนึ่งบรรดาเหล่าสาวกผู้ที่บูชาเทพเจ้าหมาป่าดิน่า ซึ่งรวมถึงเจ้าของบ้านหลังนี้ด้วย พวกเขาสงสัยว่าจู่ๆทำไมเทพเจ้าหมาป่าดิน่าถึงได้เปลี่ยนไป พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปหาเทพเจ้าหมาป่าดิน่า และเห็นว่าเทพเจ้าหมาป่าดิน่าที่มีขนสีขาวและบริสุทธิ์ได้กลายร่างเป็นหมาป่าขนสีดำและมีท่าทางดุร้าย แต่พวกเขาก็ยังเคารพบูชาอยู่เหมือนเดิมและยอมรับพิธีกรรมบางอย่างจากดีน่า จากนั้นดีน่าก็ใช้เครื่องสักการะบางอย่างเพื่อมอบพลังให้กับสาวกของเธอ มาถึงตรงนี้เนื้อหาต่อจากนี้ไปไม่สามารถอ่านได้แล้ว เธอค่อยๆไล่พลิกหน้าต่อไปซึ่งเป็นรายละเอียดที่เทย์ได้จดบันทึกไว้ในแต่ล่ะวัน เมื่อเธออ่านจนหมดเล่มเธอแทบจะบอกได้ว่า เทย์บันทึกเรื่องราวที่เขาสูญเสียความเป็นมนุษย์ในแต่ล่ะวัน เขาเริ่มมีอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวัน เขามักจะสูญเสียสติและพอรู้ตัวอีกที ทั่วทั้งตัวเขาก็เต็มไปด้วยเลือดแล้ว

“ฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ... ฉันค่อยๆสูญเสียตัวตนของฉันไป ฉันบ้าคลั่งและกระหายเลือดมากขึ้นเรื่อยๆ ใครก็ได้โปรดช่วยฉันที!”

“ฉันกินภรรยาและลูกสาวของฉันไปแล้ว ... ฮ่าๆๆ~ ฉันกินพวกเธอไปแล้วจริงๆ! ฮ่าๆ~! ฉัน ... ฉัน ... !”

ไม่มีอะไรหลังจากนี้ ดูเหมือนว่าเทพเจ้าหมาป่าผู้ชั่วร้ายกำลังควบคุมเหล่าสาวกของเธอให้ทำแต่เรื่องชั่วร้าย

พวกเขาค้นทั่วทั้งห้องและไม่พบสิ่งใดอีก ดังนั้นพวกเขาจึงกลับมาที่ชั้นแรก เย่ฉางมองไปในมุมมืดของห้องและเขาเห็นบางอย่าง “มีทางลงไปชั้นใต้ดินอยู่ตรงนั้น ...”

จางเจิ้งเฉียงจึงเดินนำทุกคนลงบันไดไปชั้นใต้ดิน ในชั้นนี้เป็นพื้นที่กว้างขวางมากประมาณ 20 ตารางเมตร พวกเขาเจอบรรดาอัญมณีส่องประกายระยิบระยับ อัญมณีเหล่านี้น่าจะถูกขโมยมาจากนายกเทศมนตรีมาร์ มันเต็มไปด้วยพวกสร้อยคอและแหวนที่มีอัญมณีล้ำค่าฝังอยู่ เย่ฉางเก็บพวกของเหล่านี้ลงในกระเป๋าและถอนหายใจ ถ้าหลินหลี่ไม่ปากโป้งไปบอกพวก ThornyRose แล้ว ความตั้งใจจริงของเย่ฉางก็คือเขาจะกวาดเอาอัญมณีเหล่านี้ไปขาย แต่ในเมื่อพวก ThornyRose รู้ว่ามันเป็นไอเทมเควสแล้ว เขาจึงทำตามที่คิดไว้ไม่ได้ คงต้องนำเอาอัญมณีเหล่านี้ไปส่งคืนนายกเทศมนตรีมาร์

“ดูเหมือนว่ามนุษย์หมาป่าที่ขโมยพวกอัญมณีเหล่านี้ควรเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ที่ชื่อเทย์ แต่ฉันคิดว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเขาไม่ใช่พวกอัญมณีเหล่านี้หรอก เขาน่าจะไปออกล่าพวกมนุษย์เป็นอาหาร และมนุษย์คนนั้นน่าจะพกอัญมณีเหล่านี้ติดตัวไว้” SpyingBlade พูดบอกขณะที่มองไปบริเวณรอบๆ เขาเห็นกระดูกกระจัดกระจายอยู่ และที่ไม่ไกลออกไปยังมีซากมนุษย์ที่ยังสดใหม่อยู่อีกด้วย เนื้อที่เหลือติดอยู่บนกระดูกและยังไม่แห้งจนเกินไป ห้องนี้อาจเป็นสถานที่กินอาหารของเขา

“เมื่อเราได้รับอัญมณีแล้ว เราควรกลับไปที่หมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะได้แล้ว” ThornyRose พูดเตือนขึ้น

“แกร๊กๆ~!” เย่ฉางได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง เขาส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ พวกเขาได้ยินเสียงกรงเล็บขูดพื้นไม้ดังมาจากบนเพดาน เสียงมันกำลังใกล้เข้ามาทางบันไดที่พวกเขาลงมา เสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ดังขึ้น...และดังขึ้น ...

รีวิวผู้อ่าน