LS ตอนที่ ๕ รับการช่วยเหลือ
แม่บ้านหลี่ถอนหายใจเบา ๆ และเอ่ยขึ้น “คุณชายเจ้าคะ คุณหนูสองอยู่อาศัยในเรือนด้านหลังกับพวกสาวใช้ตั้งแต่ที่นางยังเด็กแล้วเจ้าค่ะ”
ซูชิงถานดูโกรธแค้นมากกว่าเดิม มีความลับดำมืดมากเท่าใดที่ท่านแม่ของเขากับท่านแม่คนที่สองปิดบังเขามาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้กันแน่?
ท่านแม่คนที่สองเป็นน้องสาวคนที่สองของมารดาบังเกิดเกล้าของเขา นางบีบให้น้องสาวคนที่สองมีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้นแบบนั้นได้อย่างไรกัน? น้องสาวคนที่สองผ่ายผอมยิ่งนักจากการขาดสารอาหาร
“ท่านพ่อข้ารู้เรื่องพวกนี้หรือเปล่า?”
“ข้าไม่ทราบเจ้าค่ะคุณชาย”
ซูชิงถานแค่นเสียงเย็นชาและเดินตรงไปยังเรือนฝั่งตะวันออกกับซูเอ้อร์หยาในอ้อมแขน “นับแต่ตอนนี้เป็นต้นไป น้องสองของข้าจะอยู่ในเรือนฝั่งตะวันออก แม่บ้านหลี่ อย่ากลับไปที่เรือนฝั่งตะวันตกด้วยเหมือนกันนะ มาอยู่ดูแลน้องสาวของข้าเถอะ”
ได้ยินดังนี้ แม่บ้านหลี่ก็พลันโล่งอก นางรู้สึกปิติยินดียิ่งนัก “ขอบคุณเจ้าค่ะคุณชาย ข้าจะดูแลคุณหนูสองเป็นอย่างดีและทำให้สุขภาพนางฟื้นคืนเจ้าค่ะ”
ซูฉิงถานพยักหน้าเบา ๆ เขารู้ว่าแม่บ้านหลี่ใจดียิ่งนักและเขาก็โล่งใจที่นางจะช่วยเหลือเขา
ในเรือนฝั่งตะวันออกมีห้องเหลืออยู่มากมาย ซูชิงถานสั่งให้แม่บ้านหลี่ทำความสะอาดห้อง ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับซูเอ้อร์หยาในอ้อมกอด
มองเด็กสาวในอ้อมแขนที่ห่อตัวราวกับลูกแมวน้อย ในใจของเขาก็บังเกิดความรักลึกซึ้ง เขาเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปในเรือน เสียงร้องเสียงหนึ่งก็หยุดเขาไว้
“ชิงถาน รอท่านแม่หนึ่งของเจ้าด้วย!”
ซูชิงถานหันหลังกลับและเห็นฮูหยินหนึ่งจูในเสื้อคลุมขนมิ้งค์เดินมาหาอย่างรีบเร่ง ซูจื่อเผยเดินตามนางเงียบ ๆ พร้อมดวงตาแดงก่ำ
ฮูหยินหนึ่งจูเห็นซูเอ้อร์หยาในอ้อมแขนของซูชิงถานแล้วก็มีสายตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย นางพลันแสร้งทำเป็นห่วงเป็นใยอีกฝ่ายและเอ่ยขึ้น “ชิงถาน ฟังแม่ก่อน ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ให้ข้าพาเอ้อร์หยากลับไปที่เรือนฝั่งตะวันตกเถอะ”
เรื่องเข้าใจผิดงั้นหรือ?
ดวงตาของซูชิงถานฉายวาวโรจน์ขึ้นขณะที่เขาเอ่ยเสียงเย็น “งั้นอธิบายเรื่องเข้าใจผิดกับท่านพ่อเองเถิดขอรับท่านแม่หนึ่ง น้องสาวของข้าอ่อนแอและไม่อาจทนต่ออากาศเย็นได้ ข้าต้องเข้าไปในห้องแล้ว”
โดยไม่รอให้ฮูหยินหนึ่งได้ทำอะไร เขาก็หันหลังกลับและก้าวเดินเข้าไปในห้อง
เมื่อฮูหยินจูเห็นการกระทำของเขาแล้ว ใบหน้าของนางก็ฉายแววโกรธเกรี้ยว
แม้ซูชิงถานจะเป็นบุตรชายของฮูหยินสอง แต่เขาก็กตัญญูต่อนางเสมอมา ตอนนี้เขากลับโต้เถียงนางแบบนี้เพื่อนังสารเลวนั่น!
“ท่านแม่ เราจะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะ?”
เมื่อซูจื่อเผยได้ยินว่าซูชิงถานต้องการบอกบิดาของนาง นางก็ปล่อยโฮออกมา
ฮูหยินจูรู้สึกผิดหวังจนไม่อาจเก็บอารมณ์ไว้ได้อีกและเอ่ยดุออกมาด้วยเสียงต่ำ “เจ้ามันไร้ประโยชน์นัก เจ้าหลุดปากเรื่องนี้ออกไปได้อย่างไร? กลับถึงห้องแล้วเราค่อยพูดเรื่องนี้แล้วกัน!”
ซูจื่อเผยรู้สึกโศกเศร้าอย่างมาก นางไม่เคยถูกมารดาของนางดุด่าแบบนี้ เมื่อนางคิดเช่นนี้แล้ว นางก็ยิ่งเกลียดซูหลี่มากขึ้น
ฮูหยินจูมองเรือนนั้นเป็นหลายครั้งโดยไม่ได้ยินเสียงใด ๆ จากนั้นนางก็ผละจากไปด้วยใจที่สงบลง นังสารเลวนั่น นางควรรู้ว่าอะไรควรพูดและอะไรไม่ควรพูด
ซูชิงถานปล่อยให้สาวใช้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับซูเอ้อร์หยาก่อน จากนั้นก็สั่งให้ทางโรงครัวต้มยาสมุนไพรและทำอาหารมื้อเบาบางจาน เขาป้อนยาและอาหารให้กับซูเอ้อร์หยาก่อนจะออกจากห้องไป
ในเวลากลางดึก ซูเอ้อร์หยาก็ลืมตาตื่น นางเห็นว่าแสงในห้องเรียนตำรายังคงสว่างอยู่ แล้วนางก็อยู่บนเตียงของพี่ชายคนโต ดูเหมือนว่าคืนนั้นเขาไม่ได้ตั้งใจจะนอนที่นี่เลย
นางอยู่อาการกึ่งหลับกึ่งตื่นมาตลอดทั้งวัน นางไม่ได้นอนหลับจนกระทั่งพี่ชายคนโตปฏิเสธที่จะส่งนางให้กับหมอ แม้นางจะยังมีไข้อยู่ นางก็ไม่รู้สึกว่ามันเลวร้ายนัก
ในตอนนี้ท่ามกลางยามดึกสงัด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ถือกำเนิดใหม่ที่นางมีเวลาในการครุ่นคิด
มันเป็นเรื่องง่ายกว่าในการกลับสู่ตระกูลซูในชีวิตนี้มากกว่าชีวิตที่ผ่านมา
นางกลับมาในฐานะคนชั่วช้าในชีวิตก่อนหน้า แต่ในชีวิตนี้นางไม่ใช่คนชั่วช้า อย่างน้อยที่สุดในใจของพี่ชายคนโต ส่วนคนอื่น ๆ นางไม่สนใจ
เมืองต้าซูที่ตระกูลซูอาศัยอยู่นั้นอยู่ใต้กฏหมายของจังหวัดชิงเหอซึ่งเป็นหนึ่งในยี่สิบจังหวัดของราชวงศ์ต้าฮั่น ซึ่งกินเขตแดนกว้างใหญ่ไพศาล องค์จักรพรรดิปกครองประเทศเป็นอย่างดีและไม่มีศึกสงครามมานานนับหลายทศวรรษ
ผู้ปกครองท้องถิ่นของประเทศจะแนะนำผู้มีพรสวรรค์ให้กับทางวังหลวงในทุกปี จากนั้นจะมีการสอบคัดเลือกเข้าวัง พวกเขาจะได้รับการเลื่อนขั้นอยู่ในฐานะใหญ่โตและมีอนาคตที่ดีเยี่ยม
ระบบเฉพาะตัวในการเลือกผู้มีพรสวรรค์เป็นกุญแจสำคัญสู่ความรุ่งเรืองของราชวงค์ต้าฮั่น ชายที่มีทั้งความสามารถและคุณธรรมล้วนฝันที่จะมาเป็นผู้น้อยเปี่ยมพรสวรรค์ในสายตาของเหล่าผู้ปกครองท้องถิ่นเสมอ
อย่างเช่นพี่ใหญ่ซูชิงถาน และลูกพี่ลูกน้องหยางเว่ย
ในปีที่แล้ว ตระกูลซูได้ทำหลายอย่างเพื่อซูชิงถานและชื่อของเขาก็ปรากฏอยู่บนรายชื่อแนะนำของผู้ปกครองท้องถิ่น มันเป็นเรื่องแน่ชัดอยู่แล้ว แต่ซูจื่อเผยกลับขโมยไข่มุกราตรีอันล้ำค่าที่สุดของตระกูลซูไปและส่งมันให้กับผู้พิพากษาของเมือง หลี่ซานเป่า ผู้หลงรักในอัญมณี ในชื่อของลูกพี่ลูกน้องหยางผู้เป็นญาติของตระกูลซู
จากนั้นผู้พิพากษาก็คิดว่าตระกูลซูทำทุกอย่างเพื่อหยางเว่ย เขาจึงแนะนำหยางเว่ยให้กับทางการปกครองโดยตรง
หลังจากที่ผลลัพธ์ออกมาแล้ว ตระกูลซูก็ตระหนักได้ว่าพวกเขาทำผิดพลาดและต้องการตัดขาดจากตระกูลหยางในตอนที่ซูจื่อเผยปรากฏตัวอย่างกะทันหันและบอกว่านางเห็นซูเอ้อร์หยามอบไข่มุกราตรีให้กับหยางเว่ยด้วยตัวเองและใส่ไคล้ว่าซูเอ้อร์หยาหลงรักกับหยางเว่ยอยู่ลับ ๆ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้นางทำเรื่องนี้ลงไป
หลังจากนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรอีก ซูเอ้อร์หยาถูกกล่าวหาว่าทำลายความหวังครึ่งหนึ่งของตระกูลซูไปและยังทำลายเกียรติศักดิ์ศรีของคุณชายใหญ่ นางกลายเป็นคนชั่วช้าของตระกูลซูทันที
นางถูกหักหลังในชีวิตก่อนหน้านี้ และนางรู้ว่าซูจื่อเผยขโมยไข่มุกราตรีหลังจากนั้นในตอนที่ซูจื่อเผยโพล่งบอกความจริงกับนางไป
ในวันนี้นางแค่ต้องการแสร้งทำตัวน่าสงสารและปล่อยให้พี่ชายคนโตพานางกลับ หลังจากที่นางกลับสู่จวนตระกูลซูได้นางก็จะดำเนินการแก้แค้นต่อ แต่นางไม่คิดเลยว่าซูจื่อเผยจะปรากฏตัวอย่างฉับพลัน ไม่ต้องพูดถึงในเรื่องที่นางให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีอีกด้วย
ดวงตาของซูเอ้อร์หยาดูมืดครึ้มเย็นเยือก ไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไรอยู่
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็ห่อตัวอยู่ในผ้านวมและนอนหลับไหลไป