LS ตอนที่ ๘ อุปสรรคมากมายในการเรียนรู้ที่จะอ่าน
หมึกเป็นของแพงอย่างยิ่ง ซูเอ้อร์หยาจึงไม่อาจใช้มันได้ ในห้องเรียนมีโต๊ะทรายที่ใช้วางกลยุทธ์ในการรบอยู่ ซูชิงถานจึงใช้ของสิ่งนั้นในการสอนให้นางเขียน
ซูชิงถานประหลาดใจที่พบว่าน้องสาวคนที่สองของเขาฉลาดเฉลียวนัก นางสามารถเข้าใจคำง่ายๆ ได้หลังจากที่เขาสอนนางเพียงครั้งเดียว ทำให้เขาใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามในการสอนคำกลอนพื้นฐานทั้งหมดกับนาง
ซูชิงถานจึงปล่อยให้ซูเอ้อร์หยาฝึกคัดอักษรง่ายๆ ที่ได้เรียนมา หนึ่งในนั้นอ่านหนังสือที่ด้านหน้าโต๊ะ ขณะที่อีกฝ่ายวาดลงบนผืนทรายบนโต๊ะ การเรียนเป็นไปอย่างเงียบเชียบ แทนที่จะเสียสมาธิ เสียงลากผ่านผืนทรายกลับทำให้เขามีสมาธิมากขึ้น
สาวรับใช้นามจูเอ๋อร์ที่รับใช้ซูชิงถานอยู่ได้เห็นซูเอ้อร์หยานั่งเรียนตำราอยู่กับคุณชายใหญ่ทุกวัน นางกระทืบเท้าอย่างโกรธเคืองและเอ่ยพึมพำ
“นางกล้ามารบกวนการเรียนตำราของคุณชายใหญ่ได้อย่างไรกัน! ข้าจะไปบอกฮูหยินสอง!”
เมื่อฮูหยินสองได้ยินคำพูดของจูเอ๋อร์ นางก็เร่งรุดไปที่เรือนฝั่งตะวันออกทันที
“คุณชายเจ้าคะ ฮูหยินสองมาหาท่านเจ้าค่ะ”
ได้ยินสารจากสาวใช้ด้านนอกเรือนแล้ว ซูเอ้อร์หยาก็รีบลบคำทั้งหลายบนผืนทรายทันทีและปั้นหน้ายิ้มขณะซ่อนงานคัดอักษรไว้ใต้โต๊ะทราย ซูชิงถานเปิดประตูและเห็นว่าเป็นมารดาของเขา เขาเดินออกจากเรือนและเอ่ยถาม
“ท่านแม่ ท่านมาทำอะไรที่นี่ขอรับ? “
“ข้าแค่มาดูเจ้าน่ะ”
ฮูหยินสองมองบุตรชายด้วยความรักฉายบนใบหน้า นางหันหน้าไปและเห็นว่าซูเอ้อร์หยาอยู่ในห้องเรียนด้วย ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “เอ้อร์หยา ทำไมเจ้าช่างหลงลืมแบบนี้? พี่ชายเจ้ากำลังจะถูกเรียกตัวอีกไม่นานแล้ว ตอนนี้เจ้าก็สุขภาพแข็งแรงดี รีบกลับไปที่เรือนฝั่งตะวันตกซะ”
ซูเอ้อร์หยาเดินตรงมา ดวงตาสีดำกลมโตของนางดูใสซื่อ นางค้อมศีรษะเคารพอย่างสง่างามพลางกระซิบ “ท่านแม่สอง ท่านอย่าโกรธเคืองเลยเจ้าค่ะ ข้าจะไปแล้วในเดี๋ยวนี้”
ฮูหยินสองประหลาดใจ นางเคยได้ยินมาว่าเอ้อร์หยาเป็นคนแหกคอกและหยาบคาย แต่ตอนนี้เหมือนข่าวลือพวกนั้นจะไม่ตรงกับความจริงเสียแล้ว
ก่อนที่ซูชิงถานจะได้ทำอะไร ซูเอ้อร์หยาก็ได้หายออกไปจากห้องเรียนเสียแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะบ่น “ท่านแม่ ทำไมต้องไล่น้องสองออกไปด้วยขอรับ? นางทำตัวดีมากแค่เล่นทรายบนโต๊ะและไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น มีนางแล้วข้าสามารถอ่านหนังได้ดีขึ้นนะขอรับ”
ฮูหยินสองหน้าหงิกและโมโหขึ้นมา “อะไรกัน? เจ้าไม่เคยหละหลวมขนาดนี้ก่อนจะเข้าโรงเรียนของจังหวัดนะ ข้าทำสิ่งเหล่านี้เพื่อเจ้า แต่เจ้ากลับตำหนิข้าเพราะเอ้อร์หยางั้นหรือ?”
ซูชิงถานรีบส่ายหน้าและรีบแก้ต่าง “ท่านแม่ ท่านก็รู้ว่าข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
สีหน้าของฮูหยินสองดูดีขึ้นมาก “งั้นข้าจะให้จูเอ๋อร์จับตามองเรื่องนี้ไว้ ขณะที่เจ้ากำลังอ่านตำราจะไม่มีใครสามารถเข้ามารบกวนเจ้าได้ แม้แต่อาฮ่าวก็ไม่เว้น เข้าใจหรือไม่?”
“ขอรับท่านแม่”
ซูชิงถานยิ้มขื่น เขาเพิ่งจะสัญญากับน้องสาวคนที่สองไปว่าจะสอนให้นางอ่าน แต่ตอนนี้เขากำลังจะผิดสัญญานั้น
“อีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้เอ้อร์หยาเป็นอย่างไรบ้าง?” ฮูหยินสองหรือฮูหยินฉุยถามด้วยอาการเเสร้งเป็นห่วงเป็นใย
“ท่านแม่ บาดแผลบนตัวของน้องสองคงอยู่มาเป็นปีๆ และนางก็ไม่อาจหายดีภายในเดือนเดียวได้หรอกขอรับ แม้นางจะลุกจากเตียงได้แล้ว มันก็ต้องใช้เวลาเป็นหลายเดือนกว่านางจะฟื้นตัว”
ถึงจุดนี้ ซูชิงถานก็แสดงอาการอึกอักออกมา
ฮูหยินฉุยจะล่วงรู้ความคิดของบุตรชายได้อย่างไร? นางเอ่ยอย่างง่ายๆ “เจ้าต้องการจะถามอะไร? เจ้าไม่จำเป็นต้องลังเลต่อหน้าแม่เจ้าหรอกนะ”
ซูชิงถานหน้าแดงและเอ่ยขึ้น “ท่านแม่ ข้าอยากจะถามว่า ท่านรู้หรือไม่ขอรับ…ถึงสาเหตุอาการบาดเจ็บของน้องสอง?”
เพลิงโทสะลุกไหม้ในใจของฮูหยินสองในทันที ซูเอ้อร์หยาไม่ได้งดงามเท่าซูจื่อเผย แต่นางสามารถทำให้บุตรชายของนางหลงใหลนางได้อย่างไรในเวลาเพียงเดือนเดียว?”
ฮูหยินฉุยตอนนี้ยิ่งเกลียดซูเอ้อร์หยามากกว่าเดิม แต่นางไม่ได้แสดงความโกรธออกมา นางกลับหัวเราะและเอ่ยขึ้น “ทำไม่ล่ะ? เจ้าเป็นห่วงนางหรืออย่างไร? เจ้าสงสัยว่าข้าจะเพิกเฉยแล้วปล่อยให้นางตายงั้นหรือ?”
“ไม่ใช่ขอรับ” ซูชิงถานพูด “ทำไมข้าต้องคิดเช่นนั้นด้วยล่ะขอรับ? ข้าแค่อยากถามว่าใครทำร้ายนางเท่านั้นเอง”
ฮูหยินสองถอนหายใจ แสร้งทำเป็นจนปัญญา “ท่านแม่หนึ่งของเจ้าควบคุมทุกอย่างในเรือนด้านหลัง ข้าไม่เคยเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอ้อร์หยาเลย ข้าไม่รู้เลยว่านางตกระกำลำบากเช่นนี้”
“น้องสองเป็นบุตรสาวคนโตของท่านแม่หนึ่งไม่ใช่หรือขอรับ? ทำไมนางถึงโหดร้ายขนาดนี้? ทำไมท่านพ่อไม่ทำอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะขอรับ?” ซูชิงถานเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ เขาไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าตระกูลซูจะเป็นตระกูลที่โหดร้ายเช่นนี้
“ข้าไม่รู้รายละเอียดหรอก ข้าได้ยินว่าเพราะเอ้อร์หยาทำความผิดใหญ่หลวงตอนที่นางยังเล็ก เอาล่ะ ลืมเรื่องเก่าๆ กันเถอะ ที่เจ้าต้องทำตอนนี้คือเรียนให้หนักและทำตามที่ข้าคาดหวัง”
“อย่ากังวลเลยขอรับท่านแม่ ข้าจะทำตาม”
ซูชิงถานเชื่อคำพูดของมารดาและระบายลมหายใจอย่างโล่งอก
ฮูหยินฉุยปล่อยหน้าที่การเรียนให้เป็นของจูเอ๋อร์หลังให้คำสั่งสอน หลังจากที่นางเดินจากไป ดวงตาร้อนผ่าวของนางก็เขม่น นังเด็กคนนั้น ถึงนางจะไม่ได้หน้าตาดีนัก แต่กลับยั่วผู้ชายเก่งเหมือนแม่ไม่มีผิด
“จับตาดูเอ้อร์หยาไว้! อย่าปล่อยให้นางเข้าใกล้อาถาน”
“เจ้าค่ะ ฮูหยิน”