px

เรื่อง : การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上]
LS ตอนที่ ๑๐ พลังแห่งบ๊ะจ่าง


LS ตอนที่ ๑๐ พลังแห่งบ๊ะจ่าง

 

“เจ้าคือเอ้อร์หยาเรอะ?”

 

ซูฮ่วนหลีดูตกใจ เขาดูเหมือนไม่อาจจำเด็กสาวงดงามตรงหน้ากับตุ๊กตาตัวน้อยน่าเกลียดที่เคยผ่ายผอมราวกับต้นถั่วงอกได้

 

หลังฟื้นตัวได้สามเดือน ซูเอ้อร์หยาที่มีรูปร่างน่าเกลียดก็เปลี่ยนไป เสื้อสีแดงกำมะหยี่อบอุ่นขับใบหน้ารูปไข่สีกุหลาบให้เด่นชัด จมูกของนางโด่งเล็ก ริมฝีปากสีชมพูเป็นประกายวาวราวกับหยาดน้ำผึ้ง ผมยาวสีดำแผ่สยายเบื้องหลังราวกับย้อมด้วยหมึกดำ ดวงตาดูราวกับดวงดาว เป็นประกายสีบริสุทธิ์ที่สุดในโลกนี้

 

พ่อบ้านเก่าแก่อดไม่ได้ที่จะอุทาน “ข้าไม่คิดเลยว่าหลังจากฟื้นตัวแล้ว คุณหนูสองจะดูราวกับว่านางได้เกิดใหม่ ท่านเป็นเด็กที่สวยมากจริง ๆ ขอรับ! ผ่านไปไม่กี่ปี ท่านคงจะเป็นเด็กสาวที่งดงามที่สุดในเมืองต้าซูแล้ว!”

 

ซูฮ่วนหลีตอนนี้ถึงกับเสียใจกับทัศนคติที่ผ่านมาของเขา หากเขารู้ว่าเอ้อร์หยาจะเป็นแบบนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้เอ้อร์หยารับคำกล่าวหาแทนจื่อเผย แต่มันสายไปแล้วที่จะเอ่ยอะไรก็ตาม

 

เมื่อซูฮ่วนหลีคิดเรื่องนี้ เขาก็ยิ่งโมโหมากขึ้น เขาอยากจะขังซูจื่อเผยไว้อีกครึ่งปีเสียจริง

 

“โปรดอย่าพูดเช่นนั้น พ่อบ้าน ข้าจะสมควรได้รับคำเรียกเช่นนี้ได้อย่างไร?”

 

ซูเอ้อร์หยาตะลึงไปราวกับว่าได้รับคำชม ขณะที่นางกำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง ดวงตาของนางก็ดูราวกับจันทร์เสี้ยว นางดันถาดของว่างบนโต๊ะน้ำชาต่อหน้าพวกเขาอย่างนิ่มนวล “ท่านพ่อเจ้าคะ มันยังอุ่นอยู่เลย แม่บ้านบอกว่ามันอร่อยมาก ข้าอยากให้ท่านได้ลองชิมเจ้าค่ะ”

 

ซูฮ่วนหลี่ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าเมื่อได้ยินสิ่งที่นางเอ่ย แต่เขากลับรู้สึกอุ่นซ่านในหัวใจ เขาเกือบลืมการมีอยู่ของเด็กสาวคนนี้มาหลายปีแล้ว แต่นางก็อยู่ที่นี่ ยังคิดถึงเขาและแบ่งอาหารอร่อยให้กับเขา

 

เมื่อคิดดังนี้แล้ว ซูฮ่วนหลี่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย จากสีหน้าอ่อนโยนบนใบหน้า เขายิ้มและเอ่ยตอบ “เอาสิ ข้าจะลองชิมดูนะ”

 

พ่อบ้านเก่าแก่มองด้วยความอัศจรรย์ใจ นายท่านไม่เคยยิ้มให้เด็ก ๆ ของเขาเลย และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงท่าทางใจดีเช่นนี้ออกมา ตำแหน่งของคุณหนูสองในใจของพ่อบ้านถูกยกระดับขึ้นมาในทันที

 

“หือออ? นี่มันของว่างอะไรนี่? กลิ่นหอมพิเศษจริง”

 

กลิ่นหอมจากใบไผ่รูปทรงปิระมิดโชยเตะจมูกของเขาและซูฮ่วนหลี่ก็หยิบของว่างบนโต๊ะน้ำชาขึ้น ของว่างรูปทรงปิระมิดถูกห่ออยู่ในใบไม้สีน้ำตาล นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอาหารเช่นนี้

 

“ท่านพ่อ ข้าทำมันเองเจ้าค่ะ ข้าเรียกมันว่าบ๊ะจ่าง”

 

ซูเอ้อร์หยาแกะห่อบ๊ะจ่างอย่างช่ำชอง และกลิ่นหอมของมันก็หอมแรงมากกว่าเดิม ตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง

 

“เจ้าทำมันเองหรือ?”

 

ซูฮ่วนหลี่ย่นคิ้ว ในตอนแรกเขาคิดว่าซูเอ้อร์หยาโกหก

 

แต่ตอนนี้เขากำลังน้ำลายสอกับกลิ่นหอมจึงไม่ถือสากับเรื่องนี้ เขากลับหยิบบ๊ะจ่างที่แกะห่อแล้วจากมือของซูเอ้อร์หยาและกัดมันคำหนึ่ง รสชาติอันโอชะกระจายไปทั่วทั้งปาก!

 

ข้าวเหนียวนุ่มผสานกับเนื้อติดมัน ทว่าไม่มันเลี่ยน มันกลับนุ่มปากขณะกัดกิน กลิ่นเนื้อกับไข่ผสานรวมกันอย่างลงตัวให้รสสัมผัสนุ่มนวล ซูฮ่วนหลี่มีชีวิตอยู่มาเกือบครึ่งหนึ่งของอายุขัยแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ทานของว่างแสนอร่อยเช่นนี้ เขาเขมือบบ๊ะจ่างที่เหลือลงไปจนหมด

 

พ่อบ้านเก่าแก่กลืนน้ำลายขณะมองภาพ ปกตินายท่านของเขาไม่ได้เจริญอาหารนัก อย่างมากก็ทานข้าวแค่ชามเดียวในมือกลางวัน เขาไม่คิดเลยว่านายท่านจะทานก้อนข้าวก้อนใหญ่ขนาดนี้จนหมดอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้

 

“เยี่ยม อร่อยมากเลย เจ้าช่างเป็นเด็กดีจริง ๆ”

 

ซูฮ่วนหลี่ยิ้มและลูบศีรษะซูเอ้อร์หยา ทุกคนล้วนชอบสิ่งสวยงาม บุตรสาวของเขาช่างกตัญญู งดงามและน่ารัก ยิ่งเขาเห็นนางเขาก็ยิ่งชอบนาง และไม่สนใจความรู้สึกไม่มีความสุขที่เกิดจากคำโกหกของบุตรสาวเมื่อก่อนหน้านี้

 

“พ่อบ้าน เรียกแม่บ้านที่ดูแลเอ้อร์หยามา ข้ามีรางวัลใหญ่จะให้นาง!”

 

ซูเอ้อร์หยาอึ้งไปเมื่อได้ยินเช่นนี้ นางคลี่ยิ้มออกมา ซึ่งในสายตาของซูฮ่วนหลี่แล้วเป็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสายิ่งนัก

 

แม่บ้านหลี่ถูกพ่อบ้านชราเรียกตัวก็เข้าใจผิดว่าซูเอ้อร์หยากระทำความผิด เมื่อนางมาถึงนางก็คุกเข่าด้วยความหวาดกลัวและร้องขอความเมตตา “นายท่านเจ้าคะ คุณหนูสองยังเยาว์วัยอยู่ เห็นแก่ครอบครัวแล้วยกโทษให้นางด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

 

พ่อบ้านชราหัวเราะครู่หนึ่งแล้วอธิบาย “แม่บ้านหลี่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ของว่างของคุณหนูสองอร่อยมาก แล้วนายท่านก็ชอบมาก”

 

หลังได้ยินดังนี้ แม่บ้านหลี่ก็พลันเปลี่ยนอาการจากเศร้าโศกเป็นดีใจในทันทีและรีบคุกเข่าขอโทษ “นายท่านเจ้าคะ ข้าขอโทษจริง ๆ ที่เข้าใจผิดไป”

 

“ไม่เป็นไรหรอก เจ้าดีต่อเอ้อร์หยาแล้ว ข้าอยากถามเจ้าสักคำถาม เจ้าไปได้บ๊ะจ่างนี่มาจากไหนหรือ?” ซูฮ่วนหลี่ถามด้วยรอยยิ้ม

 

อาหารอร่อยเช่นนี้ยากนักที่จะหาเจอแม้กระทั่งในภัตตาคารของจังหวัด เอ้อร์หยายังเด็กนัก นางสามารถทำอาหารอร่อยเช่นนี้ได้อย่างไร?

 

แม่บ้านหลี่ชะงักไปเมื่อได้ยินเช่นนี้และเอ่ยอย่างซื่อ ๆ “นายท่านเจ้าคะ ข้าไม่กล้าโกหกหรอกเจ้าค่ะ บ๊ะจ่างนี้คุณหนูสองเป็นคนทำเองจริง ๆ นางสั่งให้ข้าซื้อวัตถุดิบที่นางต้องการใช้ บางอย่างยังมีเหลืออยู่ในเรือนเลยเจ้าค่ะ ท่านสามารถตรวจดูก็ได้”

 

คำตอบของแม่บ้านหลี่สร้างความประหลาดใจให้ซูฮ่วนหลี่ เขารีบรุดไปยังเรือนพร้อมกับพ่อบ้านชรา เมื่อเขาเห็นข้าวสาร ใบไผ่รูปเรือ เชือก และของอื่น ๆ ในตะกร้าภายในครัวตรงหน้าเขา เขาก็ต้องเชื่อว่าเอ้อร์หยาเป็นคนทำบ๊ะจ่างด้วยตัวเอง

 

“เอ้อร์หยามีพรสวรรค์ด้านการทำอาหารจริง ๆ หรือนี่?”

 

ซูฮ่วนหลี่รู้สึกตกใจและไม่แน่ใจ ริ้วความตื่นเต้นผุดขึ้นในใจทันที เขามองซูเอ้อร์หยาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาร้อนผ่าวราวกับพบสมบัติล้ำค่า

รีวิวผู้อ่าน