px

เรื่อง : การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上]
LS ตอนที่ ๒๐ ท่านต้องการเงินเท่าใด?


LS ตอนที่ ๒๐ ท่านต้องการเงินเท่าใด?

 

ฉีเซี่ยนชิงรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซูเอ้อร์หยาไม่สมควรที่จะเปิดเผย เขาจึงต้องระงับความร้อนใจไว้ เขากระเเอมเสียงเบาและเอ่ยขึ้น “วันนี้คุณหนูสองไม่ได้เข้าชั้นเรียน ข้าไม่สอนถ้าศิษย์ไม่อยู่ในห้องเรียนครบทุกคน นี่คือกฎของข้า ฮูหยินหนึ่ง โปรดบอกข้าเถอะว่าคุณหนูสองอยู่ที่ไหน ข้าจะได้ไปเยี่ยมนาง”

 

ฮูหยินหนึ่งมีรอยยิ้มฝืดประดับบนใบหน้า และนางก็สาปเเช่งชายชราผู้อวดรู้ในเรื่องความวิตถารของเขา

 

“ท่านเจ้าคะ เชิญเรามาคุยกันก่อน”

 

ฮูหยินหนึ่งกางมือผายไปตามทาง ฉีเซี่ยนชิงดูเย็นชาไป แต่ก็ยังเดินไปกับนาง

 

“ที่แน่ ๆ ก็คือท่านยังต้องการเงินอยู่! แต่ถ้าเรื่องนี้จัดการได้ด้วยเงินข้าก็จะทำ” ฮูหยินหนึ่งแค่นเสียงเย็นชา ในการติดตามที่มาของหยกทำให้นางใช้จ่ายเงินของนางไปเกือบทั้งหมด นางเพียงหวังว่าเขาจะไม่ได้ต้องการมากเกินไปนัก

 

“อ้า...พวกท่านเป็นคนชั่วช้านัก! ไม่มีใครช่วยพี่สาวสองของข้าเลย ข้าจะไปบอกท่านพ่อ!” ซูชิงฮ่าวเห็นคนทั้งสองเดินจากไปจึงพลันปล่อยโฮออกมา เขาตีมือซูจื่อเผย จากนั้นก็วิ่งออกจากเรือน ฮูหยินหนึ่งประหลาดใจนักจึงหันกลับมาตะโกนอย่างเร่งเร้า “จับเขาไว้!”

 

กลุ่มสาวใช้และแม่บ้านทั้งหลายรีบจับตัวซูชิงฮ่าวไว้และยึดเขาไว้แน่น ไม่ว่าเขาจะร้องไห้อ้อนวอนขนาดไหนก็ไม่มีใครปล่อยตัวเขา ฮูหยินหนึ่งถอนหายใจอย่างโล่งอกและเอ่ยขึ้น “จื่อเผย ดูน้องชายเจ้าไว้ และอย่าปล่อยให้เขาออกจากเรือนนี้ก่อนที่ข้าจะกลับมา”

 

มือทั้งสองของซูจื่อเผยกำลังเจ็บชาหลังจากถูกน้องชายตี แล้วนางก็กำลังโมโหกับเรื่องนั้น พอได้ยินคำพูดของมารดา นางจึงยิ้มและเอ่ยตอบ “ท่านแม่ ไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลน้องชายสี่เป็นอย่างดี”

 

ฮูหยินหนึ่งพยักหน้าเงียบ ๆ และเดินไปพร้อมกับฉีเซี่ยนชิงยังมุมอับของสวน นางแสร้งทำเป็นถอนหายใจและเอ่ยขึ้นมา “ท่านเจ้าคะ มีบางอย่างที่ท่านคงไม่รู้ เอ้อร์หยามาเข้าเรียนไม่ได้อีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะ”

 

ฉีเซี่ยนชิงย่นคิ้วขณะในใจกรุ่นด้วยเพลิงโทสะ แต่เขาก็เอ่ยเสียงเบา “โอ้ ทำไมอย่างนั้นล่ะ?”

 

จูเหยียนเเสร้งทำท่าทีอับอาย และหยดน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาทั้งคู่ นางเอ่ยเสียงเศร้า “ข้าไม่อยากปิดบังเรื่องนี้กับท่านเลย มันเป็นเรื่องส่วนตัวในตระกูลซู ไม่สมควรที่บุคคลภายนอกจะได้รับรู้เจ้าค่ะ”

 

ฉีเซี่ยนชิงยิ้มบาง “ข้าไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็นน่า”

 

ฮูหยินหนึ่งดูมีความสุขขึ้น และฉีเซี่ยนชิงก็เอ่ยเสริม “แต่เรื่องในวันนี้เกี่ยวข้องกับศิษย์ของข้า ข้าจึงจำเป็นต้องรู้ โปรดบอกข้ามาเถิดต่อให้มันเป็นเรื่องไม่เหมาะสมก็ตาม”

 

ใบหน้าของจูเหยียนเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มในทันทีและนางก็คิดว่าชายชราผู้นี้กำลังเล่นลูกไม้กับนางอยู่

 

เอ้อร์หยา บุคคลไม่สำคัญเช่นนั้นกลับกลายเป็นสมบัติล้ำค่าในสายตาของเขา!

 

คิดดังนี้แล้ว จูเหยียนก็ไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปและกระซิบขึ้นมา “ไม่นานนักหลังจากที่ข้าให้กำเนิดเอ้อร์หยา ข้าก็ตั้งครรภ์บุตรคนที่สอง แต่สาวน้อยคนนั้นคือตัวซวย นางคลานและหกล้มเมื่ออายุได้เพียงสามเดือน แล้วนางก็ทำข้าหกล้มจนทำให้ข้าแท้งลูก! ด้วยเหตุผลนี้นายท่านจึงโมโหอย่างมาก และให้บทลงโทษเล็กน้อยกับนาง”

 

“ท่านพูดมามากนัก แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ซูเอ้อร์หยาร่ำเรียนวิชาอย่างไรหรือ?”

 

ฉีเซี่ยนชิงลอบแค่นแสยะในใจ “พูดง่ายนะว่าเป็นการลงโทษเพียงเล็กน้อย จริงอย่างว่าที่สตรีคือสิ่งโหดร้ายที่สุดในโลก ไม่อย่างนั้นแล้วนางจะทำอย่างนั้นกับบุตรสาวในไส้ได้อย่างไร?”

 

“มันไม่เกี่ยวหรือเจ้าคะ?” จูเหยียนเหมือนจะร้อนรนและพูดเร็วขึ้น “ข้าได้ยินว่าศิษย์ทุกคนของท่านล้วนมีคุณธรรมและความสามารถ ขณะที่เอ้อร์หยาดื้อดึงโง่เง่า ดังนั้นนางจึงไม่เหมาะที่จะเป็นศิษย์ของท่านหรอกเจ้าค่ะ”

 

พูดดังนี้ จูเหยียนก็ยิ้มออกมา “แต่ว่าจื่อเผยน่ารักมาก ฉลาด และกตัญญูต่อบิดามารดา นางเป็นคนที่เหมาะสมจะเป็นศิษย์ของท่านนะเจ้าคะ”

 

เหอะๆๆๆ...

 

ฉีเซี่ยนชิงระเบิดหัวเราะ จูเหยียนไม่รู้ว่าทำไม เพียงแต่ได้ยินเขาเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ “ท่านพูดถูก แต่ไม่ว่าสาวน้อยทั้งสองจะมีคุณสมบัติเป็นศิษย์ของข้าหรือไม่มันเป็นการตัดสินใจของข้า ไม่ใช่ท่าน ท่านพูดมากนัก แต่ข้าไม่เชื่อเรื่องเหล่านั้นแม้ว่าท่านจะพยายามทำให้ข้าเชื่อขนาดไหนก็ตาม”

 

หลังจากที่ท่านหมอฉีเอ่ย บรรยากาศก็เงียบงันในทันที

 

จูเหยียนอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะตระหนักถึงสิ่งที่นางควรพูด นางหัวเราะอย่างโมโหและเอ่ยเสียงเย็น “ท่านเจ้าคะ เรามาพูดกันตรง ๆ เลยดีกว่า ท่านต้องการเงินเท่าใดจึงจะยอมปล่อยเรื่องนี้ไป?”

 

เมื่อนางเอ่ยแบบนั้นออกมา ก็เป็นคราวที่ฉีเซี่ยนชิงจะอึ้งไปบ้าง เขาจ้องมองนางด้วยดวงตาชราฝ้าฟางและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่นางพูดออกมา

 

ฮูหยินหนึ่งตระกูลซูต้องการใช้เงินมาปิดปากเขาหรือ?

 

เฮอะ!

 

ฉีเซี่ยนชิงสะบัดแขนเสื้อ หมุนตัวกลับเเละเดินตรงไปยังเรือนหลักของตระกูลซู

 

ตกใจกับปฏิกิริยาของท่านหมอฉีแล้ว จูเหยียนก็รีบวิ่งตามและตะโกนไล่หลัง “ท่านเจ้าค่ะ อย่าเพิ่งไป เราสามารถตกลงราคากันได้นะเจ้าคะ โอ๊ย!”

 

จูเหยียนหกล้มโดยบังเอิญจากการสะดุดหินที่ขวางถนนไว้ ใบหน้าของนางเป็นรอยขีดข่วน

 

“บ้าเอ๊ย! ตาเฒ่า! แกวิ่งเร็วอย่างกับกระต่ายเชียว…” จูเหยียนลุกขึ้นและนั่งบนพื้น กอดเข่าพลางถอนหายใจอย่างเจ็บปวดพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า

 

“ไม่ ข้าต้องกลับไปที่เรือนตะวันตกเพื่อจัดการเรื่องนี้...ใครก็ได้ ใครก็ได้มาพยุงข้าที!”


 

ฉีเซี่ยนชิงใช้วรยุทธ์เดินไปยังเรือนหลักของตระกูลซู แต่เขาก็ชะลอความเร็วลงเมื่อใกล้ถึงทางเข้าเรือน เขาจัดเสื้อผ้าและมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าก่อนจะเอ่ยถามอย่างสุภาพ “เจ้าบ้านตระกูลซูอยู่ที่นี่หรือไม่? ข้าคือฉีเซี่ยนชิงเอง”

 

ซูฮ่วนหลี่ได้ยินเสียงด้านนอกห้องก็เขาก็รีบทิ้งสมุดบัญชีและลุกขึ้นเปิดประตูเพื่อมองฉีเซี่ยนชิง เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัย “อาจารย์ฉี ตอนนี้ท่านน่าจะสอนตำราอยู่ที่ห้องเรียนนี่ ทำไมท่านจึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”

 

“ฮ่า ๆ วันนี้เอ้อร์หยาไม่ได้เข้าชั้นเรียน ข้าเลยยังไม่เริ่มสอนน่ะ”

 

ได้ยินเสียงหัวเราะสดใสของฉีเซี่ยนชิงแล้ว ซูฮ่วนหลี่ก็ย่นคิ้วเล็กน้อย “โอ้ เป็นเช่นนั้นหรือ? ท่านขอรับ เด็ก ๆ ตระกูลซูไม่ได้ตั้งใจจะเป็นคนเกียจคร้านหรอก ข้าจะไปที่เรือนของนางแล้วดูว่าเกิดอะไรขึ้นก็แล้วกัน”

 

ฉีเซี่ยนชิงเห็นซูฮ่วนหลี่มุ่งหน้าไปยังเรือนตะวันออก เขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อยและเอ่ยหยุดเขาไว้ “นายท่าน เดี๋ยวก่อน ฮูหยินหนึ่งบอกว่าเอ้อร์หยากลับเรือนตะวันตกไปแล้ว ท่านกำลังไปผิดทางนะ”

รีวิวผู้อ่าน

oilsukkaew
1559 วันที่แล้ว

อัพหน่อย..รออยู่


  แสดงความคิดเห็น
bumbimonarnin
1563 วันที่แล้ว

รอจ้า


  แสดงความคิดเห็น