px

เรื่อง : การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi )
ตอนที่ 10 เปิดงาน


 

เมืองที่ใหญ่ที่สุดทางฝั่งตะวันออกของจักรวรรดิ, เคียร์

 

เมืองนี้คือจุดศูนย์กลางของเทศกาลล่าของอัศวิน ซึ่งตอนนี้มันพลุกพล่านไปด้วยผู้คน

 

พ่อค้าต่างก็ระดมสติปัญญาของพวกเขาและคิดแผงขายของออกมามากมายตามถนนของเคียร์ เพียงแค่เดินดูรอบๆก็จะเจอของแปลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อนขายอยู่ตามท้องถนน

 

หลังจากที่เดินซื้อของไปกินไป, ตอนนี้เขากับลีโอก็มาเจอกันที่กำแพงคฤหาสน์ของเคียร์

 

“คนเยอะจังเลยนะ”

 

“นั่นสินะครับ แต่ก็ดีแล้วหล่ะ, ถึงยังไงชาวเมืองฝั่งตะวันออกก็ตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามของมอนส์เตอร์มาได้พักใหญ่ๆแล้ว, ข้าคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเขานะครับ”

 

“ก็คงจะใช่หล่ะ ดูเหมือนพวกเขาจะคิดว่ามันเป็นความผิดของท่านพ่อที่ไม่รีบคลี่คลายปัญหาโดยเร็ว มันก็เหมือนกับว่าเขาพยามจะใช้เงินปลอบพวกเขาหล่ะนะ คงจะเหมือนประมาณว่า: เชิญเพลิดเพลินกับงานเทศกาลได้เลย, อะไรประมาณนี้”

 

เขาคงจะกะเอาไว้อยู่แล้วว่าความไม่พอใจของผู้คนคงไม่หายไปกับการแค่จัดเทศกาลเฉยๆ

 

ถึงยังไง, ถ้าผู้คนไม่ได้เสียเงินในกระเป๋าเลยการจัดเทศกาลก็คงไม่มีความหมายอะไร เขาแค่ใช้เงินของเขาเพื่อกระตุ้นประชาชนให้ใช้จ่ายเท่านั้นเอง

 

ผู้คนชาวตะวันออกที่ได้รับปัญหาจากมอนส์เตอร์นั้นระวังตัวสูงมาก พวกเขาคงจะไม่ใช้เงินเว้นเสียแต่ว่าพวกราชวงศ์จะใช้ก่อน

 

ถ้ามองในแง่นี้, ก็ถือว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมใช้ได้เลย

 

“อยู่นี่เองสินะ?”

 

ในตอนที่พวกเขาได้ยินเสียงจากข้างหลัง, พวกเขาก็หันกลับไปดูพร้อมกัน

 

จากนั้น, พวกเขาก็เห็นเอลน่ากำลังยืนอยู่ตรงนั้น

 

“อ้าว, เอลน่า เป็นยังไงบ้าง?”

 

“อืม, ก็ปกติดี, แล้วเจ้าหล่ะ?”

 

“ข้าเองก็ปกติดีหล่ะนะ และตอนนี้ก็กำลังรู้สึกอิ่มเอมใจอยู่”

 

“งั้นหรอ? ทำไมหล่ะ?”

 

การที่ลีโอพูดออกมาแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องหายาก

 

ตามนิสัยแล้วถ้าอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ปกติเขามักจะพูดแต่เรื่องความปลอดภัย

 

เขารู้สึกได้ว่ามันกำลังจะมีเรื่องยุ่งยากน่ารำคาญเข้ามาหาเขาอีกแล้ว

 

“ในระหว่าทางมาที่นี่, ข้าได้ไปดูรอบๆหมู่บ้านที่ได้รับความเสียหายจากมอนส์เตอร์มา ข้าคิดว่ามันคือหน้าที่ของพวกเราในฐานคนของราชวงศ์ที่จะต้องช่วงเหลือพวกเขา ถ้าชนะการแข่งในงานเทศกาลนี้ก็จะได้รางวัลด้วยใช่ไหม, ข้าคิดว่าข้าต้องเอาเงินตรงนั้นมาบริจากให้พวกคนที่ประสบปัญหา”

 

“...นี่นายคิดจะทำเรื่องแบบนั้นหรอ.....?”

 

“เห้อ...แล้วระหว่างนั้นเจ้าทำอะไรอยู่หล่ะ, อัล?”

 

“เดินซื้อของตามแผง”

 

ในตอนที่เขาเอาสินสงครามของเขา, จิ้งเหลนพสุธาย่างให้เธอดู, เธอก็เอามือกุมขมับแล้วถอนหายใจออกมา

 

ไม่เห็นต้องถอนหายใจแรงขนาดนั้นก็ได้นี่หน่า

 

“ถ้าอัลได้ส่วนดีๆของลีโอมาอย่างน้อยซักหนึ่งอย่างหล่ะก็นะข้าคงจะรู้สึกสบายใจกว่านี้ที่มีเจ้าเป็นเพื่อนสมัยเด็ก......”

 

“ท่านพี่เองก็มีข้อดีเหมือนกันนะครับไม่รู้หรอ? คนอื่นแค่ไม่ทันสังเกตเห็นเท่านั้นเอง”

 

“พูดได้ดี สมกับเป็นน้องชายข้าจริงๆ, ลีโอ เอานี่รางวัล, ข้าจะให้เจ้ากินซักคำนึง”

 

“ขอบคุณครับ หืม? อร่อยเกินคาดนะครับเนี่ย”

 

“ใช่ไหมหล่ะ? ข้านะมีพรสวรรค์ในเรื่องการหาของดีๆจากแผงขายของอยู่แล้ว”

 

“พรสวรรค์แบบนั้น, ข้าคิดว่ามันไม่จำเป็นสำหรับเจ้าชายหรอกนะ....เอาเถอะ, ไปกันได้แล้ว ลีโอก็ด้วย, เทศกาลจะเริ่มอยู่แล้วเจ้าเองก็ควรจะรีบกลับเหมือนกันนะ”

 

พอถูกเอลน่าเร่ง, เขาก็รีบยัดจิ้งเหลนพสุธาย่างเข้าปาก

 

เทศกาลล่าของอัศวินจะเริ่มต้นขึ้นในเร็วๆนี้

 

———–

 

“จักรวรรดิของเราคือประเทศที่ไม่ค่อยประสบกับความเสียหายจากมอนส์เตอร์ ด้วยเหตุนี้เอง, การตอบสนองของเราจึงค่อนข้างล่าช้า ครั้งนี้ผู้คนชาวตะวันออกต้องทุกทรมานเพราะข้านั้นบกพร่องเอง ข้าขอโทษจริงๆ ข้าอยากให้พวกเจ้ายกโทษให้จักพรรดิผู้โง่เขลาคนนี้ด้วยเถอะ”

 

พ่อของเขากำลังพูดสุนทรพจน์อยู่เบื้องหน้าฝูงชน

 

ถัดจากนั้นมันก็จะถึงตาที่พวกเขาได้ออกโรง

 

ตอนนี้อาร์โนลด์กำลังใช้ห้องๆนึงในคฤหาสน์ของลอร์ดเป็นห้องพัก, ในตอนนั้นเองก็มีแขกคนนึงมาหา

 

เขาคิดว่ามันคงเป็นเอลน่าหรือฟีเน่แต่คนที่ปรากฎตัวนั้นทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย

 

“คริสต้า...? มีอะไรหรอ?”

 

“ท่านพี่.....”

 

เธอคนนี้มีนามว่าคริสต้า เลคส์ แอดเลอร์, เธอมีอายุ 12 ปีและเป็นเจ้าหญิงลำดับสามของจักรวรรดิ

 

น้องสาวคนนี้ของเขานั้นมีผมสีบลอนด์เป็นเงาวาวและมีดวงตาสีม่วง ในอนาคต, ความสวยงามของเธอน่าจะแข่งกับฟีเน่ได้เลย ผู้คนมักจะพูดกันว่าเธอสวยเหมือนกับตุ๊กตา ซึ่งนี่ก็เป็นเพราะคริสต้านั้นเป็นเด็กที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า

 

ในขณะที่ถือตุ๊กตากระต่ายตัวโปรด, เธอก็จ้องมาที่เขาอย่างเฉยเมย ถ้าสังเกตจากลักษณะของเธอแล้ว, เธอเหมือนกับตุ๊กตาจริงๆ อย่างไรก็ตาม, ดวงตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อย นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าเธอกำลังรู้สึกไม่สบายใจ

 

“เข้ามาสิ เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรสร้างปัญหาให้เจ้ารึเปล่า?”

 

“ไม่ใช่ค่ะ...คริสต้าไม่มีปัญหาอะไรหรอก....คนที่นี่ต่างหากที่มีปัญหา”

 

ช่างเป็นคำตอบที่ชวนสับสนจริงๆ

 

ผู้คนส่วนใหญ่คงจะแค่ทำเป็นไม่สนใจเธอแต่สำหรับเขานั้น, เขาทำแบบนั้นกับคริสต้าไม่ได้

 

เขาพาคริสต้าไปนั่งบนเก้าอี้ตัวนึงแล้วย่อตัวลงมาให้อยู่ในระดับสายตาของเธอ

 

เด็กคนนี้คือตัวตนพิเศษในราชวงศ์

 

ไม่มีใครสังเกตเห็นมัน ไม่สิ, พวกเขาน่าจะทำเป็นไม่รู้เรื่องมากกว่า แต่ว่าเด็กคนนี้เกิดมาโดยมีเวทมนตร์ติดตัวมาด้วย

 

โดยปกตินั้น, เวทมนตร์คือสิ่งที่ต้องฝึกฝนถึงจะใช้ได้แต่ในโลกนี้ก็มีคนบางจำพวกที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งพวกที่ใช้เวทมนตร์ได้เองนั้นจะถือเป็นคนที่ทรงคุณค่าและแข็งแกร่งอย่างมาก เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะคนๆนั้นจะมีเวทมนตร์ประเภทที่ตัวเองใช้ได้แค่คนเดียว มันคือสิ่งที่คนอื่นไม่มีวันจะทำได้

 

คริสต้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

 

บางทีความสามารถของเธอคงจะเป็นการทำนายอนาคตหรืออะไรเทือกๆนั้น ในวันที่มงกุฎราชกุมารตาย, เธอเองก็มาร้องไห้ต่อหน้าเขาแล้วบอกว่าพี่ชายของพวกเราตายแล้ว

 

ถ้าความจริงที่ว่าเธอสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้หลุดออกไป, คนอย่างซานดร้าจะต้องหาเรื่องใช้ประโยชน์จากเธอแน่ ดังนั้นเขาจึงบอกเธอว่าอย่าพูดเรื่องนี้กับใครและถ้าเห็นอะไร, ให้เธอมาหาเขา ความจริงที่ว่าเธอมาที่นี่ก็หมายความว่ามันจะต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ

 

“ครั้งนี้เห็นอะไรหล่ะ?”

 

“...เมืองนี้ถูกห้อมล้อมด้วยพวกปีศาจค่ะ......”

 

ความสามารถของคริสต้ายังไม่เสถียร

 

บางครั้งเธอจะมองเห็นภาพอนาคตแต่สำหรับคริสต้านั้น, ภาพพวกนี้เป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับฝันร้ายมากกว่า

 

ยิ่งไปกว่านั้น, มันไม่ได้หมายความว่านิมิตของเธอจะเป็นจริงทุกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น, มันก็มีตอนที่นิมิตของเธอตรงด้วย

 

ซึ่งนี่เองก็คือสาเหตุที่เขาไม่สามารถมองข้ามได้

 

“เจ้าไม่ได้เห็นภาพใครตายใช่ไหม?”

 

“ค่ะ.....”

 

“เข้าใจหล่ะ ขอบใจที่มาบอกนะ มันทำให้ข้าเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้นเยอะเลย”

 

“.....ท่านพี่เองก็จะออกไปด้วยหรอคะ?”

 

“ใช่ ครั้งนี้ข้าอยู่กับเจ้าไม่ได้”

 

“..........”

 

คริสต้าทำสีหน้าไม่พอใจ

 

เธอคงไม่ชอบถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในตอนที่รู้สึกกังวล แต่ถึงอย่างนั้น, เขาก็ต้องไปอยู่ดี

 

ถึงยังไง, ถ้าเมืองถูกห้อมล้อมด้วยมอนส์เตอร์จริงๆ, มันก็จะจัดการได้ง่ายกว่าถ้าเขาอยู่ข้างนอก

 

“ขออนุญาตค่ะ, ฟีเน่เองค่ะ”

 

ฟีเน่เข้ามาในห้องได้ถูกจังหวะเวลาพอดี

 

เธอมีขนมอยู่ในมือด้วย

 

เยี่ยมเลย

 

“คริสต้า, ข้าจะแนะนำให้รู้จักนะ นี่เพื่อนของข้า, ฟีเน่”

 

“ยะ, ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ, องค์หญิงคริสต้า ข้าฟีเน่ ฟ็อน ไคลเนลต์ค่ะ”

 

“ข้ารู้จักท่านค่ะ เจ้าหญิงนกนางนวลสีน้ำเงิน คนที่สวยที่สุดในจักรวรรดินี้”

 

“รู้ดีจังเลยนะคะ”

 

เขากำลังลูบหัวของเธออยู่แต่สีหน้าของคริสต้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลย อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รังเกียจ

 

คริสต้านั้นเชื่อฟังแค่กับเขา, ลีโอและพี่สาวคนโตที่อยู่ชายแดนเท่านั้น เธอไม่เคยลดการ์ดลงเลยแม้ว่าจะกับพ่อแท้ๆของตัวเองก็ตามดังนั้นคนรอบตัวเธอจึงไม่รู้วิธีปฏิบัติกับเธอ

 

แน่นอนว่า, ครั้งนี้เธอต้องอยู่ที่นี่, แต่เขาไม่สามารถทิ้งเธอไว้คนเดียวแบบนี้ได้

 

“ฟีเน่ ขอโทษนะ, แต่ช่วยอยู่เป็นเพื่อนคริสต้าแทนข้าหน่อยได้ไหม?”

 

“อยากให้ท่านพี่อยู่ด้วยมากกว่า.......”

 

“ฟีเน่เป็นคนที่ไว้ใจได้ เอาจริงๆ, ไว้ใจได้มากกว่าข้าอีก ยิ่งไปกว่านั้น, รู้รึเปล่าว่าขนมของเธออร่อยมากเลยนะ? เจ้าชอบกินขนมไม่ใช่หรอ?”

 

พอพูดจบเขาก็เอาขนมออกมาจากถุงลูกกวาดที่ฟีเน่ถืออยู่แล้วเอาให้คริสต้าดู

 

มันคือคุกกี้รูปกระต่าย

 

คริสต้าที่ตอนนี้กำลังปากสั่นอย่างกล้าๆกลัวๆ, จ้องตรงไปที่ฟีเน่ในทันที

 

พอเห็นแบบนี้, เขาก็ยิ้มเจื่อนๆ

 

“ยินดีด้วยนะ ดูเหมือนว่าเธอจะถูกใจเจ้า”

 

“เอ๋? จริงหรอคะ....?”

 

“ถ้าเด็กคนนี้ไม่ได้ถูกใจใคร, เธอจะไม่จ้องแบบนี้หรอก ปกติเธอจะไม่สนใจคนอื่นเลย คริสต้า จนกว่าข้ากับลีโอจะกลับมา, เจ้าต้องอยู่กับฟีเน่นะเข้าใจไหม?”

 

“ค่ะ.....”

 

“จะว่าไงดี เอาเป็นว่าขอโทษจริงๆนะ, แต่ช่วยอยู่กับคริสต้าให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้จะได้ไหม?”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้ามันคือความต้องการของท่านอัลข้าเองก็ยินดีค่ะ”

 

พอพูดจบ, ฟีเน่ก็ยิ้มแล้วเริ่มส่งขนมให้คริสต้าเพิ่มอีก

 

มีอยู่แวบนึง, ที่คำว่า ‘เขมือบ’ ผุดขึ้นมาในหัวของเขาแต่เนื่องจากมันเป็นความไม่สุภาพของเขาเองเขาจึงกลืนคำพูดนั้นกลับไป

 

จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเชียร์ดังมาจากข้างนอก

 

บางทีสุนทรพจน์ของท่านพ่อคงจะจบแล้ว

 

ต่อจากนี้ไป, พวกเราก็ต้องเล่นเป็นตัวเอกแล้วสินะ

 

“เอาหล่ะ, ไปกันเลยดีไหม คริสต้า พวกเราต้องไปโชว์ตัวให้ประชาชนเห็นก่อนนะ”

 

“........”

 

“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ มันช่วยไม่ได้นี่หน่า ถึงยังไงพวกเราก็เป็นราชวงศ์นะ”

 

“......ท่านพี่นั่นแหล่ะที่ชอบโดดตลอด”

 

“ครั้งนี้ข้าไม่โดดนี่, ไม่เห็นหรอ? เถอะหน่า, ไปกันได้แล้ว”

 

เขาจับมือคริสต้าแล้วจูงมือเธอเดินออกจากห้อง ฟีเน่เองก็เดินตามหลังพวกเขามา

 

จากนั้นในเวลาเดียวกันนั้นเอง, ตัวปัญหาคนนึงก็โผล่ออกมาจากห้องของเธอ

 

“อุ้ย? มีเวลาว่างเลี้ยงเด็กด้วยหรออาร์โนลด์ คงเป็นเพราะเจ้าได้จับคู่กับบ้านแอมส์เบิร์กสินะ?”

 

เจ้าหญิงลำดับสองซานดร้า

 

คริสต้าเข้ามาซ่อนข้างหลังเขาในทันที ในตอนที่เห็นแบบนี้, สีหน้าของซานดร้าก็บิดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจ

 

“ท่านพี่, บอกว่าเลี้ยงเด็กมันก็แรงไปหน่อยนะ การที่พี่ชายดูแลน้องสาวมันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอครับ?”

 

“เชอะ, ดูเหมือนว่าเจ้าคงมีเรี่ยวแรงเหลือน่าดูนะถึงกล้าตอบแบบนี้”

 

“ท่านพี่ดูหงุดหงิดน้องสาวของเราน่าดูเลยนะครับ เกิดอะไรขึ้นหรอ? มีบางอย่างไม่เป็นไปตามแผนการของท่านพี่รึเปล่า?”

 

พอได้ยินเขาสวนมาแบบนี้, สีหน้าของซานดร้าก็บิดเบี้ยวด้วยความโกรธอยู่แวบนึงแต่มันก็กลับมาเป็นปกติในทันที เธอคงจะรู้สึกตัวว่าการทำอะไรรุนแรงที่นี่นั้นก็เป็นแค่การแสดงความอ่อนแอของเธอออกมาโดยไม่จำเป็น

 

เอาเถอะ, ต่อให้เธอไม่โกรธ, เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังพวกนักฆ่าที่ถูกส่งมา แต่เขาเองก็ต้องไม่พูดเรื่องนั้นเหมือนกัน

 

“ระวังตัวให้ดีเถอะ ข้าจะสอนให้เจ้าได้รู้เองว่าต่อให้มีดาบที่ทรงพลังแค่ไหนมันก็ไร้ความหมายถ้าเจ้าใช้มันไม่ได้”

 

“ฮ่าฮ่า! คนอย่างเจ้าสอนอะไรใครได้ด้วยหรอ?”

 

ในตอนที่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา, กอร์ดอนก็ปรากฎตัวขึ้น

 

เอาจริงๆ, สองคนนี้คงจะนอนไม่หลับถ้าพวกเขาไม่ได้กัดกัน

 

อย่างไรก็ตาม, หลังจากนั้นเองสายตาที่คมกริบของกอร์ดันก็หันมาที่เขา เป็นเวลาครู่นึง, ที่เขารู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจกำลังถูกบีบ

 

สมแล้วหล่ะที่เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในสนามรบ ความกระหายเลือดของเขาไม่ธรรมดาเลย  ถ้าเราใช้เวทมนตร์ไม่ได้หล่ะก็เขาคงจะฆ่าเราได้ในทันที

 

“เอางี้เป็นไง? อาร์โนลด์, เจ้าอยากส่งดาบของเจ้ามาให้ข้ารึเปล่า? มันน่าจะยังทันเวลาอยู่นะ ลองไปขอท่านพ่อ, คุกเข่าร้องไห้บอกเขาว่าเจ้าไม่คู่ควรกับเธอและบอกเขาว่าคนที่คู่ควรคือข้าดูสิ”

 

“น่าเสียดายนะครับท่านพี่ที่ข้าคงทำให้ไม่ได้หรอก ทำแบบนั้นมันก็เหมือนกับว่าข้ามีข้อกังขากับการตัดสินใจของท่านพ่อหน่ะสิ ท่านพี่ก็รู้ดีไม่ใช่หรอว่าท่านพ่อน่ากลัวขนาดไหน”

 

“เฮอะ, แสดงว่าเจ้าไม่อยากแบ่งสมบัติของตัวเองกับคนอื่นสินะ สุดท้ายแล้วสมบัตินั้นก็จะต้องเน่าเสีย เอาเถอะ, ข้าจะขยี้เจ้าไปพร้อมกับยัยผู้หญิงตรงนั้นด้วย”

 

“ล้ำเส้นแล้วนะ”

 

ซานดร้าจ้องกอร์ดอนอย่างคุกคาม

 

ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ใช้โอกาสนั้นหนีมา

 

ถึงยังไง, การเอาตัวไปข้องเกี่ยวกับการต่อสู้แบบนี้มันก็ไม่มีผลดีอะไร

 

“ท่านพี่....ข้ากลัว.....”

 

“ไม่เป็นไรแล้วนะ ฟีเน่เองก็อยู่กับเจ้า ยิ่งไปกว่านั้น, ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ, ข้าจะรีบกลับมาช่วยเจ้าเอง ข้าสัญญา”

 

“จริงนะคะ.....?”

 

“อืม, จริงสิ”

 

พอพูดจบเขาก็บีบมือเล็กๆของคริสต้า

 

บางทีการทำแบบนี้น่าจะช่วยให้เธอสบายใจขึ้น, เธอเผยรอยยิ้มเล็กๆให้เขา

 

จากนั้นหลังจากที่บุตรทุกคนของจักรพรรดิมารวมตัวกันบนระเบียง, จักรพรรดิก็ประกาศออกมาเสียงดังลั่น

 

“สำหรับเทศกาลนี้! อัศวินของภาคีอัศวินหลวงได้สาบานตัวรับใช้ลูกๆของข้า! ลูกๆของข้าจะเคารพอัศวินและอัศวินก็จะให้เกียรติลูกๆของข้า, พวกเขาจะร่วมมือกันและเผชิญหน้ากับพวกมอนส์เตอร์ที่แข็งแกร่ง! พวกเราคือราชวงศ์! ถ้ามีศัตรูของจักรวรรดิอยู่, หน้าที่ของพวกเราก็คือการกำจัดพวกมันซะ! จงไปเถิด! ลูกๆของข้า! เหล่าอัศวินของข้า! นับจากช่วงเวลานี้ไป, ข้าขอประกาศเริ่มเทศกาลล่าของอัศวินอย่างเป็นทางการ!!!”

 

“โอ้ววว!!!!!”

 

“พยายามเข้านะครับ, เจ้าชายเอริค!!”

 

“ไม่หรอก, ครั้งนี้มันถึงเวลาที่เจ้าชายกอร์ดอนจะได้เจิดจรัสแล้วใช่ไหม?”

 

“เจ้าหญิงซานดร้าจะต้องแสดงเทคนิคที่น่าอัศจรรย์ให้พวกเราดูอย่างแน่นอน!”

 

“ข้าจะสนับสนุนเจ้าชายลีโอนาร์ด! มันเป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้เจอกับคนที่ใจดีขนาดนี้!”

 

อัศวินที่ถูกนำโดยลูกๆแต่ละคนออกจากคฤหาสน์และไปที่แนวหน้า

 

ครั้งนี้, มีแค่คริสต้าเท่านั้นที่ยังอยู่ในคฤหาสน์ในขณะที่คนอื่นๆออกไปกับอัศวินของตัวเองเพื่อล่ามอนส์เตอร์

 

พวกลูกๆแต่ละคนนั้นต่างก็ออกไปพร้อมกับตราประจำตัวของตัวเองที่สร้างขึ้นมาเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ

 

ตราของอาร์โนลด์นั้นคือสีขาวไขว้กันบนพื้นหลังสีดำ ส่วนของลีโอก็ตรงข้าม, มันคือสีดำตัดกันบนพื้นหลังสีขาว พวกมันค่อนข้างจะเข้าใจง่าย ถึงยังไงรูปแบบก็ตรงข้ามกันเลย, มันง่ายที่จะบอกว่าเป็นตราประจำตัวใคร

 

อย่างไรก็ตาม, เขาก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดดีไซน์ของมัน

 

“พร้อมนะ?”

 

“แน่นอน, ไปกันเถอะ”

 

พอพูดจบ, เขาก็ควบม้าไปข้างหน้า

 

ข้างหลังเขาคือภาคีอัศวินหน่วยสามที่นำโดยเอลน่า

 

คนๆเดียวที่ได้รับเสียงเชียร์นั้นมีแค่เอลน่าแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร

 

ถึงยังไงเขาก็คือเงาที่คอยทำงานอยู่เบื้องหลังอยู่แล้ว

 

ถ้ามีคนกำลังวางแผนร้ายบางอย่างจากเงามืดเขาก็จะไปซ่อนอยู่ข้างหลังไอ้พวกนั้นแล้วจัดการซะ

 

 

รีวิวผู้อ่าน