px

เรื่อง : The Strongest System จบแล้ว!!!
บทที่ 195 ตั้งทีมใหม่ เตรียมลุย!!


คาราวานและทหารคุ้มกันเกราะดำของตระกูลกงจากไปอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร แต่ยังดีที่บุคคลลึกลับผู้นั้นไม่สนใจสัตว์อสูรทั้ง 6 ตัว มิฉะนั้นต้องนับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของตระกูลกงแล้ว

นับว่ามันเป็นโชคร้ายของพวกเขาเองที่ได้พานพบกับชายผู้นั้นบนทะเลทรายแห่งความตาย แต่จะอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็กล่าวได้ว่าโชคดีอย่างถึงที่สุดที่เจอกับตัวตนแข็งแกร่งเชนนี้แล้วยังเอาชีวิตรอดมาได้ และมายามนี้พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าชายคนนั้นจะจัดการเหล่ากลุ่มโจร 14 จ้าวทะเลทรายอย่างไร หากเขากำจัดพวกมันให้ตกตายไปสิ้นเสีย นั่นจะเป็นการดีที่สุด

เพราะหาก 14 โจรจ้าวทะเลทรายตกตายไปเสียให้พ้นๆ ในอนาคตทะเลทรายแห่งความตายนี้จะปลอดภัยขึ้นมาก

เมื่อเห็นคาราวานของตระกูลกงจากไป หลินฟ่านค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมา ‘เฮ่อ! พูดไปได้นะเรา หยินหยางแปรผันไร้แตกต่าง ชายหญิงล้วนเท่าเทียม...เท่ห์จริงวะเราเนี่ย!’ .... คำกล่าวของหลินฟ่านนั้นหากมองให้ชัดแล้ว มันดูจะเป็นเรื่องเหลวไหลยิ่งนัก เพราะหากชายหญิงเท่าเทียมไม่แตกต่าง แล้วเขาจะจ้องสองเต้าของกงปิงเยว่ไม่วางตาทำอะไร?

แต่พอย้อนมาคิดจะให้โทษเขาก็ไม่ได้ เพราะกงปิงเยว่พยายามยั่วยวนเขาเอง ในฐานะมหาบุรุษในอนาคตเขาจะมาถูกสตรีผู้หนึ่งยั่วยวนได้อย่างไร? ต่อไปวันหนึ่งที่เขาได้ยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของใต้หล้าแห่งนี้ล่ะ ใช่ว่าเรื่องที่ถูสตรีหลอกล่อ จะกลายเป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตเขาหรอกหรือ

14 โจรจ้าวทะเลทรายเดินมาตรงหน้าหลินฟ่าน ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยวาจะตะกุกตะกัก "ได้... ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยท่านผู้อาวุโส!"

หากพวกเขาต้องต่อสู้กับตัวตนที่ทรงพลังเพราะสถานการณ์บีบบังคับ ถึงแม้จะต้องถูกบดขยี้ตกตายง่ายดายราวกับมดปลวกพวกเขาก็พร้อมจะยินยอมรับ! ถือซะว่าเป็นชะตากรรม แต่หากเป็นลักษณะที่ไร้เรื่องราวเช่นนี้ ชาตู่หลงเลือกหนทางยอมสยบเพื่อขอให้ชายคนนี้ละเว้นชีวิตพี่น้องเสียจะดีกว่า

เมื่อมองไปยังกลุ่มโจร 14 คนหลินฟ่านเพียงยิ้มแย้มออกมา ทว่าเหล่าโจร 14 จ้าวทะเลทรายเมื่อเห็นรอยยิ้มนี้ของหลินฟ่านหัวใจของพวกมันก็พรั่นพรึงอย่างมาก ชายคนนี้คิดสังหารพวกเขาแล้วหรือไม่?

"พี่ใหญ่ พวกเราสู้ผนึกกำลังกันสู้เถอะ อย่างมากก็แค่ตายด้วยกัน?" ชาเมี่ยเฉวียงกล่าวออกมากับชาตู่หลง ถึงแม้ว่าเขาจะตัวอ้วนเตี้ย แต่เขาไม่ชอบความรู้สึกเหมือนชีวิตของเขาอยู่ในกำมือ และเป็นของเล่นของผู้อื่นจะบีบก็ตายจะคลายก็รอดดั่งลูกไก่ในกำมือเช่นนี้

แน่นอนหลินฟ่านย่อมมีแผนการอยู่ในหัว จุดหมายปลายทางแรก ที่เขากำลังจะเดินทางไปก็คือวังวนนรกมอดไหม้

ตามที่ แผนที่ขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์ กล่าวไว้ วังวนนรกมอดไหม้ไม่ใช่พื้นที่ธรรมดา มันเป็น 1 ในพื้นที่ต้องห้ามที่ถูกบันถึกไว้ในบันทึกของนิกายเม้งก่า ไม่มีนิกายใดที่เลือกพื้นที่ต้องห้ามนี้เป็นการฝึกฝนศิษย์สาวกในนิกายแม้แต่คนเดียว

สถานที่นั้นไร้แสงตะวัน มันมืดราวจมอยู่ในรัตติกาลตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีเปลวเพลิงนิรันดร์ที่ชุกโชนอย่างไม่มีวันดับลุกโหมกระพืออยู่ตลอดเวลา...สถานที่นั้นมันไม่ต่างอะไรกับขุมนรกอเวจีบนดิน

ถึงแม้ว่าวังวนนรกมอดไหม้จะเป็นจุดหมายแรกในแผนที่ และอยู่ไม่ไกลสักเท่าไร ทว่าตอนนี้หลินฟ่านพึ่งเดินทางมาได้ 1 ใน 5 ส่วนเท่านั้น

ส่วนสิ่งที่เขาจะเจอระหว่างทางหรืออะไรพวกนี้เขาไม่รู้จักพวกมันแม้แต่น้อย

นอกจากนั้นตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในนิกาย ไม่มีใครคอยมาปรนนิบัติเขา ไม่ว่าจะอาหารการกินที่นอนเอยอะไรเอย เขาก็ต้องดูแลตัวเองทั้งสิ้น

เมื่อมองไปยังหลินฟ่านที่ยังคงเงียบสงบไม่กล่าววาจาชาตู่หลงเองก็อดร้อนใจขึ้นมาไม่ได้ ดูเหมือนว่าวันนี้พี่น้องทั้ง 14 คนของเขาอาจจะต้องถึงคราวจบสิ้นแล้ว

เมื่อมองไปยังเหล่าพี่น้องทั้ง 14 คนที่ติดตามร่วมเป็นร่วมตายกับเขามากว่าครึ่งชีวิต ชาตู่หลงรู้สึกปวดแปลบขึ้นมาในหัวใจ สำหรับตัวเขานั้นกล่าวได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ของพวกมัน ตอนนี้ในเมื่อเรื่องราวมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็หวังว่าเขาจะได้ดูแลพวกมันครั้งสุดท้ายในฐานะพี่ใหญ่

ทันใดนั้นชาตู่หลงก็โยนอาวุธลงบนพื้นทราย เขาหันไปหาหลินฟ่านก่อนที่จะคุกเข่าลง “ผู้อาวุโส มนุษย์เราเมื่อกระทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น เรื่องนี้ข้าได้เตรียมตัวเตรียมใจมานานแล้ว ... ถึงแม้พวกเราทั้ง 14 คนจะได้เข่นฆ่าสังหารผู้อื่นมามากมาย แต่พวกเราก็ไม่เคยลงมือสังหารผู้บริสุทธิ์! พวกเราเองก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดหาเลี้ยงชีพตัวเองเช่นกัน ข้าน้อยขอความเมตตาและวิงวอนต่อท่าน ได้โปรด...ปล่อยปละละเว้นพี่น้องข้าไปเถิด! ทุกอย่างข้าจะชดใช้ให้ท่านแต่เพียงผู้เดียว!”

"พี่ใหญ่ ... ! ไม่ ... !" โจรคนอื่นๆ ล้วนตกตะลึงในวาจาที่เขาพึ่งกล่าว

"มิเป็นไรหรอก น้องข้า พวกเจ้าอย่าได้กล่าวแล้ว" ชาตู่หลงโบกมือขึ้นมา

พวกเขาทั้งหมดก็บ้างเป็นคนจรจัดที่หลงทางในทะเลทราย บ้างถูกนิกายทอดทิ้ง บางคนก็หนีการตามล่าจากศัตรูบางคนก็ถูกทรยศ ทุกคนล้วนแล้วแต่มีเหตุผลที่ต้องกลับกลายเป็นโจรทั้งสิ้น

"นี่พวกเจ้าเล่นอะไรกัน?" หลินฟ่านกำลังคิดถึงหนทางกับอนาคตในวันหน้าอยู่เพลินๆ พอหันมาดูก็พบเหล่าโจรกำลังทำสีหน้าราวกับจะลาจากญาติมิตร ต่างจับมือโอบกอดกันทั้งน้ำตา

"ผู้อาวุโส ละเว้นพี่น้องของข้าด้วย ข้าจะชดใช้ให้ท่านแต่เพียงผู้เดียว" ชาตู่หลงกล่าวออกมาโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

มองไปยังคนทั้ง 14 คนนี้หลินฟ่านก็มีความคิดอะไรเล็กน้อย "ด้วยบาปที่พวกเจ้ากระทำมา อันที่จริงพวกเจ้าสมควรตกตายลงทั้งหมด และนั่นมันคงลำบากแค่เพียงข้าสะบัดมือ...แต่จะอย่างไรข้าก็เป็นคนที่ใจดีมากๆ ข้าจะให้พวกเจ้าติดตามข้าไป จนกว่าพวกเจ้าจะกลับตัวกลับใจ เมื่อข้าคิดว่าพวกเจ้าได้ชำระบาปในใจด้วยการทำความดีในระหว่างเป็นลิ่วล้อ เอ๊ย ผู้ติดตามข้าในระหว่างเดินจนหมดสิ้นแล้ว ข้าจะปลดปล่อยพวกเจ้าเป็นอิสระ พวกเจ้ามีคำถามอันใดหรือไม่? "

หนทางสู่วงวนนรกมอดไหม้ มันไกลไม่ใช่น้อย แน่นอนล่ะว่าหลินฟานต้องการเบ๊รับใช้ที่จะคอยทำงานจิปาถะให้เขา พวกโจรทั้ง 14 คนนี้ก็นับว่ามีระดับบ่มเพาะที่สูงกว่าคนทั่วไปมากมาย ถึงแม้เขาจะฆ่าพวกมันทุกคนค่า EXP ที่ได้ก็คงไม่เยอะเท่าไร สู้เก็บพวกมันเอาไว้ใช้ประโยชน์จะดีกว่า

ชาตู่หลงและโจรคนอื่นๆล้วนหันมองกันอย่างประหลาดใจ พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำตอบลักษณะนี้จากบุรุษคนนี้

"ข้าจะทำตามคำสั่งท่านผู้อาวุโส" ชาตู่หลงขานรับออกมาอย่างไม่ลังเล

เมื่อเห็นพี่ใหญ่ของพวกมันกล่าวรับคำเช่นนั้น คนอื่นๆ ล้วนกระทำตามเช่นเดียวกัน

ชาตู่หลงเริ่มบังเกิดความรู้สึกดีๆขึ้นมาไม่น้อยเมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะรับพวกเขาทั้งกลุ่มไปเป็นผู้ติดตามเช่นนี้ สำหรับเขาแล้วนี่มันโชคลาภขนาดมหึมาที่สวรรค์ประทานชัดๆ!

หากท่านต้องการติดตามผู้ใดสักคน ท่านต้องดูว่าคนที่ท่านติดตามไปนั้นมีพลังและอำนาจหรือไม่ หากมีอำนาจแล้วไซร้ท่านย่อมพลอยได้อานิสงค์ไปด้วย และก่อนหน้านี้ชาตู่หลงและทั้งหมดก็เห็นความแข็งแกร่งของหลินฟ่านแล้ว การติดตามเขาแน่นอนว่าย่อมต้องมีประโยชน์แน่นอน

"อ่า ดีมากๆ" หลินฟ่านพยักหน้าออกมาอย่างพอใจ อย่างน้อยไอพวกนี้ก็เลือกหนทางที่ถูกต้อง เป็นลิ่วล้อเขานี่ดีจะตาย หากต่อต้านเขาล่ะก็ตายแน่นอน!

"เอาล่ะคราวนี้พวกเจ้าบอกข้าประมุขมาว่า รู้จักวังวนนรกมอดไหม้หรือไม่ มันเป็นอย่างไรพวกเจ้าเล่ามาให้หมด" แม้ว่าในบันทึกเม้งก่าเองก็มีเรื่องราวของสถานที่นี้บันทึกเอาไว้ แต่จะอย่างไรมันก็นานเป็นชาติแล้ว บางทีอาจมีอะไรสักอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ไหนๆพวกมันก็มีตั้ง 14 คน น่าจะมีสักคน สองคนที่รู้เรื่องรู้ราวบ้าง

"ท่านผู้อาวุโส เช่นนี้หมายความว่าท่านคิดเดินทางไปยัง วังวนนรกมอดไหม้?!?" ชาตู่หลงกล่าวถามออกมาด้วยความประหลาดใจ

"ใช่แล้ว ข้าประมุขมีธุระที่จะต้องไปทำอะไรที่นั่นสักเล็กน้อย ทำไมหรือ? มันมีปัญหาอะไรรึเปล่า?" หลินฟ่านมองไปยังชาตู่หลงแล้วพบว่าตอนนี้มันหวาดกลัวอย่างหนัก ดูเหมือนสถานที่นั้นจะมีปัญหา

"ผู้อาวุโสขอรับ ตอนนี้หามีผู้ใดคิดอยากเข้าในยังสถานที่แห่งนั้นหรอกขอรับ! มันมีข่าวลือมาหลายปีแล้วว่า มีสัตว์อสูรตนหนึ่งที่ร่างกายเต็มไปด้วยเปลวเพลิงได้เดินทางเข้าไปยังที่แห่งนั้น หลังจากนั้นไม่ว่าสัตว์อสูรตนใดหรือมนุษย์คนใดก็ตามที่เข้าไปยังที่แห่งนั้น ล้วนตกตายกลายเป็นขี้เถ้าทั้งสิ้น ทางนิกายต่างๆได้พยายามส่งศิษย์ยาวกเข้าไปจัดการเรื่องราวรวมทั้งตามล่าสัตว์อสูรตัวนั้น แต่ส่วนมากพวกมันไม่ตกตายก็สาหัส หามีผู้ใดรู้ไม่ว่ายามนี้ ในวังวนนรกมอดไหม้เจ้าสัตว์อสูรตนนั้นจะยังอยู่หรือไม่!"

"เอาล่ะๆ ดีมาก ไหนๆ มีอะไรอีก บอกข้ามาให้หมด" หลินฟ่านพยักหน้า ข่าวนี้เองก็นับว่ามีประโยชน์ต่อเขาไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้เขาโมโหเล็กน้อย ‘ไรวะที่แรกที่จะไปก็แลดูอันตรายแล้ว!’

‘สัตว์อสูรที่ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยเปลวเพลิง! แล้วมันเป็นตัวเชี่ยไรล่ะวะเนี่ย ? ในบันทึกรวมสัตว์อสูรของนิกายเม้งก่าก็ไม่มีบอกเอาไว้อีก โอ๊ย ไม่ใช่หัวมันเป็นกระโหลกติดไฟ แล้วขี่มอไซต์ใช้โซ่หรอกนะ ชิหาย!’

ในระหว่างทางชาตู่หลงยังคงเล่าเรื่องราวใหม่ๆ ที่ไม่มีในบันทึกเกี่ยวกับ วังวนนรกมอดไหม้ ให้หลินฟ่านฟัง ถึงแม้ว่าบางเรื่องตัวมันเองก็ยังไม่รู้แน่ชัด แต่ทั้งหมดก็ล้วนมีประโยชน์กับหลินฟ่านทั้งสิ้น

และหลินฟ่านเองยังรู้เรื่องราวของหัวหน้าตระกูลกงจากปากชาตู่หลงอีกด้วย ถึงเหตุการณ์ที่พวกมันต้องมาจบสิ้นในทะเลทรายแห่งความตายผืนนี้

ระดับบ่มเพาะของหัวหน้าตระกูลกงนั้นมากกว่าชาตู่หลงและเหล่าโจร แต่เพราะมันวู่วามและใช้พลังออกมารุนแรงมากเกินไปจึงกระทำการดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูรที่น่าหวาดหวั่นในทะเลทราย และสุดท้ายก็ต้องพบกับจุดจบเพราะถูกสัตว์อสูรสังหาร

และเหตุการณ์นี้เองก็ทำให้ชาตู่หลงพลาดท่าถูกสัตว์อสูรจู่โจมจนต้องสูญเสียดวงตาไปด้วยเช่นกัน ยังดีที่เขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด

ทว่าสำหรับพวกเขา จำเป็นที่จะต้องเล่าเรื่องให้ผู้อื่นรู้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะฝีมือของพวกเขา เพื่อจะได้รับชื่อเสียง และอาศัยสภาวะดุร้ายนี้ข่มขวัญผู้คน พวกเขาจึงประกาศออกไปว่าตัวเองเป็นผู้วางแผนสังหารผู้นำตระกูลกง

รีวิวผู้อ่าน