บทที่ 336 : ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน
"จากคุณสมบัติแล้วดูเหมือนตอนนี้ ...เจ้าจะไม่มีน้ำหน้าพอที่จะกล่าววาจาอะไรออกมาได้นะ ... " ต้วนหลิงเทียนเหลือบไปมองหูเฉวี่ยฟงด้วยสายตาไม่แยแสราวกับมองไรฝุ่น มุมปากเผยร่องรอยดูแคลน ก่อนที่จะอ้าปากกล่าวออกมาช้าๆ "สวะ ขี้ขลาด! "
สวะ ขี้ขลาด!
ต้วนหลิงเทียนกล้าหยามหูเฉวี่ยฟงว่าขยะขี้ขลาดอีกครั้ง ต่อหน้าฝูงชน!
คราวนี้อาวุโสคุมสอบเจียงหวยกับศิษย์สายในล้วนหันไปมองหูเฉวี่ยฟงด้วยสายตาประหลาดใจ...ถึงขั้นนี้แล้วมันยังไม่อดทนอยู่ได้
สีหน้าท่าทางของหูเฉวี่ยฟงบิดเบี้ยว อัปลักษณ์ยากไม่มีใดน่าดูราวกับมันกำลังอดกลั้นจนถึงขีดจำกัด ทว่ามันยังคงไม่ตอบโต้อะไรออกมา
ตอนนี้ตัวมันเองก็สัมผัสได้ถึงสายตาเย้ยหยันดูแคลนจากทั่วทุกสารทิศ และมันบังเกิดความรู้สึกอับอายสุดประมาน แทบจะไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าแหวกธรณีแล้วกระโดดลงไปเพื่อหลบลี้หนีหน้าผู้คน!!
ภายใต้สายตาที่จับจ้องมาอย่างตกตะลึงของผู้คน ต้วนหลิงเทียนเพียงชักสายตาไม่แยแสจากหูเฉวี่ยฟงกลับมา ก่อนที่จะเบนสายตาไปยังวานรโหดทั้ง 2 ที่อยู่ในกรงไกลๆ พร้อมขยับเท้าก้าวอาดๆ ตรงไปอย่างไม่หวาดหวั่น
ทุกๆคนตอนนี้ก็กำลังเฝ้ามองภาพเรื่อราวตรงหน้าด้วยใจจดจ่อ... พวกมันทั้งหมดล้วนสนใจการกระทำของต้วนหลิงเทียน!
ทั้งหมดล้วนบังเกิดความอยากรู้ว่า...วานรโหดตัวใดที่ต้วนหลิงเทียนจะเลือก ...!
ความฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดของวานรโหดที่เหอตงเข้าไปปะทะก่อนหน้านี้เริ่มสงบลงแล้ว และระดับต้วนหลิงเทียนก็คงเอาตัวรอดได้ 10 ลมหายใจอย่างไม่ยากเย็นอะไรหากเลือกมัน
ทว่าวานรโหดอีกกรงยามนี้มันคลั่งไปแล้วอย่างแท้จริง อารมณ์ของมันกล่าวได้ว่าพุ่งมาถึงจุดเดือด เพราะนอกจากมันจะถูกสั่วฉิงล่อหลอกจนหัวปั่นแล้ว มันยังมาต้องเจอหูเฉวี่ยฟงที่ดิ้นรนรอดเงื้อมมือมันไปได้ มันทำเพียงตีอกชกตัวด้วยเสียงดังสนั่นตลอดเวลา
ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!
...
เสียงของวานรโหดบ่งบอกให้รู้ว่ามันเกรี้ยวกราดมากแค่ไหน และไม่มีทีท่าว่าอารมณ์ของมันจะสงบลงโดยง่าย เสียงทุบอกดังก้องไปทั่วทั้งลานทดสอบราวกับกล้องศึกระรัวอยู่กลางสนามรบ
“อ๋าววววว”กล้ามเนื้อทั่วร่างของมันปูดพอง แขนแกร่งทุบลงหน้าอกอย่างไม่หยุดยั้ง แลดูมันกระหายที่จะอาละวาดให้แหลกลาญกันไปข้าง...
ต้วนหลิงเทียนตอนนี้เดินมาหยุดอยู่ระหว่างกรงขังทั้ง 2
"ต้วนหลิงเทียนจักเลือกกรงใดกัน?" ในใจของคนทุกผู้ ไม่เว้นผู้อาวุโสคุมสอบล้วนมีเพียงหนึ่งคำถามในใจ
ทุกคนใคร่รู้อย่างถึงที่สุด ว่าสุดท้ายตัวเลือกของต้วนหลิงเทียนคืออันใด
"ต้วนหลิงเทียน" เหอตงและสั่วฉิงเอง ก็มองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเป็นประกาย แววตาแฝงความอยากรู้อยากเห็นเต็มเปี่ยม
"ฮึ่ม!" หูเฉวี่ยฟงที่อยู่ไกลๆ เองก็จับจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาบิดเบี้ยว สีหน้าไม่น่าดู
สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็เคลื่อนไหว
เขาเพียงก้าวขาออกไปข้างหน้า ก่อนที่ร่างจะพุ่งวูบราวกับอสรพิษตัวหนึ่งเข้าไปในกรง!
เขาได้เลือกแล้ว!
"สวรรค์ เป็นวานรโหดที่หูเฉวี่ยฟงปะทะด้วยก่อนหน้านี้!"
"ถึงเช่นนี้แล้ว... ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน ยังคงเลือกวานรโหดที่คลั่งถึงขีดสุด ... "
"ด้วยความแข็งแกร่งของศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน เรื่องเอาตัวรอดในกรงวานรโหดที่มิได้คลั่งอันใดน่าจักเป็นเรื่องง่ายดายไม่ยากเย็น แต่มาเลือกตัวนี้...เกรงว่าสภาพคงสะบักสะบอมน่าเวทนามิต่างหูเฉวี่ยฟงแล้ว"
ศิษย์สายนอกมองชมดูเรื่องราวตรงหน้าอย่างเหนือคาด
ทุกสายตาจับจ้องไปยังด้านในกรงขัง ที่มีร่างต้วนหลิงเทียนกำลังเผชิญหน้ากับวานรโหดอย่างไม่ครั่นคร้าม
หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเข้ามาในกรง ทุกคนยังไม่ทันได้หายตกตะลึง การกระทำต่อมาของเขาก็ทำให้ทุกคนยิ่งตะลึงมากขึ้นอีกครั้ง "ศิษย์พี่...ท่านออกไปก่อนเถอะ"
ศิษย์สายในคนนั้นถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง หลังจากได้ยินเสียงต้วนหลิงเทียน
"อะไร! ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน เขากล่าวให้ศิษย์พี่สายในคนนั้นออกจากกรง?"
“ยากแล้ว! วานรโหดนั่นเป็นถึง สัตว์อสูรระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 ซ้ำมันยังคลั่งไปแล้วอีกด้วย ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนมั่นใจถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”
"นี่ช่างสมแล้วที่ศิษย์พี่เขาเป็นศิษย์สายนอกอันดับ 1 ของนิกายกระบี่ 7 ดาวเรา! ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก!"
"ท่านต้องทำได้แน่! ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน!"
เลือดในร่างของศิษย์สายนอกทั้งหลายที่ชมดูเรื่องราวๆรอบๆ ถึงกับเดือดพล่าน เพราะความกล้าหาญของต้วนหลิงเทียน
"ศิษย์น้องต้วนหลิงเทียน...นี่เจ้าต้องการให้ข้าออกไปก่อนจริงหรือ?" ศิษย์สายในบังเกิดความลังเลไม่น้อย “หากข้าออกไปจากกรงแล้ว ถึงแม้เจ้าจะเอาตัวรอดได้เกิน 10 ลมหายใจมันก็ยังมิได้หยุดมือให้เจ้าหรอกนะ... แน่ใจหรือว่าเจ้ามิต้องการความช่วยเหลือจากข้าเพื่อสยบมัน?”
"ข้าไม่ต้องการ"ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
ศิษย์สายในคนนั้นพยักหน้ายอมรับ แต่จะอย่างไรมันก็ยังหันไปมองอาวุโสคุมสอบเจียงหวยด้วยความไม่กล้าทำอะไรพลการ และหลังจากอาวุโสเจียงหวยพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ ตัวมันก็เดินออกจากกรง
"เจ้าหนุ่มคนนี้!" เจียงหวยมองไปยังร่างของต้วนหลิงเทียนอยู่ครู่หนึ่ง ยิ่งมองมากเท่าไรความพึงพอใจก็ปรากฏมากขึ้นในสายตา ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มพึงใจ "กล่าวได้ว่ายามนี้นิกายกระบี่ 7 ดาวเรา ได้พบสิ่งล้ำค่าอย่างแท้จริงแล้ว!... เมื่อต้วนหลิงเทียนเติบโต เขาจักต้องกลายเป็นตัวตนอันน่าเกรงขามมิต่างอันใดกับบุตรแห่งสวรรค์! ทอดตามองทั่วอาณาจักรพนาครามไร้ผู้ต้าน! "
บุรุษผู้เป็นดั่งบุตรแห่งสวรรค์อันน่าภาคภูมิใจของยุคสมัยนี้
ตัวตนที่เรียกขานกันว่าบุตรแห่งสวรรค์อันน่าภาคภูมิใจนั้น เป็นตัวตนของอัจฉริยะที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในอาณาจักรพนาคราม
นั่นแสดงให้เห็นว่าความคาดหวังของเจียงหวยที่มีต่ออนาคตต้วนหลิงเทียนนั้น มากมายเพียงใด...
หลังจากศิษย์สายในเดินออกไป ต้วนหลิงเทียนก็เดินก็ไปลั่นดาล ปิดล็อคกรงขังเอาไว้อย่างแน่นหนา!
ภาพนี้ล้วนทำให้หนังศีรษะของทุกผู้คนล้วนด้านชา
"เอ่อนั่น...ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนคิดทำอันใด?"
"สวรรค์ เขาคงมิคิดที่จะปะทะกับวานรโหดถึงชีวิตหรอกนะ?"
เหล่าศิษย์สายนอกทั้งหลายล้วนตะลึงงันอย่างแท้จริง พวกมันไม่อาจทำความเข้าใจการกระทำนี้ของต้วนหลิงเทียนได้
เพราะสำหรับพวกมันแล้ว การทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการปิดตายหนทางหลบหนีของตัว!
"อ๋าววววู!" ภายในกรงที่ปิดล็อคอย่างแน่นหนา วานรโหดคลั่งใช้ดวงตาคู่โตแดงก่ำราวกับฆ้องสีชาด จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนเขม็ง พร้อมกู่ร้องคำรามข่มขู่ออกมา
ต้วนหลิงเทียนเพียงยืนนิ่ง รอยยิ้มบางๆเผยขึ้นมาบนใบหน้า ทีท่าของเขายังคงสงบไร้แยแส ราวกับต่อให้ขุนเขาไท่ซานจะพังลงตรงหน้าก็หาได้มีอะไร
ในสายตาของคนอื่นๆ ยามนี้ล้วนมองต้วนหลิงเทียนเป็นดั่งขุนเขา ตระหง่านไร้หวั่นไหว!
ราวกับว่าตรงหน้าเขาหาใช่วานรโหดอันเป็นสัตว์อสูรระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 ไม่! แต่เป็นลูกแมวน้อยเชื่องๆตัวหนึ่ง!
"วานรโหดมันคิดลงมือแล้ว!" ศิษย์สายในทั่งจับจ้องภายในกรงอย่างจดจ่อ เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา
ทันใดนั้นทุกคนก็มองไปยังวานรโหด
"อ๋าวววววววว!" วานรโหดที่อยู่ในกรงพลันขยับ มันทุบอกอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนที่จะพุ่งร่างใหญ่โตออกไปด้วยความเร็ว พร้อมทั้งเหวี่ยงฟาดแขนทรงพลังของมันออกไป
แขนที่เหวี่ยงออกมานี้ มาพร้อมกันกับพละกำลังระดับ 120 ช้างแมมมอธโบราณ!
มันเป็นความแข็งแกร่งสูงสุดของระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9!
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าต้วนหลิงเทียนต้องเคลื่อนร่างหลบการจู่โจมอันเกรี้ยวกราดนี้ ทว่าภาพอันน่าตื่นตระหนกกับบังเกิดขึ้น
ต้วนหลิงเทียนเพียงก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ โดยที่ไม่ได้หลบเลี่ยงแต่อย่างไร!!
และไม่เพียงเท่านั้น เมื่อก้าวออกไปข้างหน้าแล้วร่างของเขาพลันหยุดดั่งขุนเขาตั้งตระหง่านตรงหน้าวานรโหด ก่อนที่จะเหวี่ยงแขนออกไป!
วู้มมม!
แขนของต้วนหลิงเทียนที่เหวี่ยงฉีกผ่านอากาศส่งเสียงดังหวีดหวิว จนทำให้ทุกผู้คนอดคิดไม่ได้ว่า ที่เหวี่ยงออกไปหาใช่แขน แต่เป็นหางของงูเหลือม ...!
แขนที่ทะยานผ่านฟ้านี้แข็งแกร่งรงพลังไม่ต่างอะไรกับหางของงูเหลือมยามเหวี่ยงฟาดทำลายร่างศัตรู!
เหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 110 ตัวฉายชัดออกมา!
นั่นหมายความว่าแขนที่เหวี่ยงฟาดออกมานี้มีความแข็งแกร่งเพียง110 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น!
"เสียสติไปแล้วหรือไร!" ในพริบตาที่ต้วนหลิงเทียนเหวี่ยงแขนออกไปหมายต้านรับการจู่โจมของวานรคลั่ง อดไม่ได้ที่ศิษย์สายในทุกคนจะคิดกันเช่นนี้อย่างพร้อมเพรียงในใจ!
เดินหน้าเข้าหาวานรโหดและใช้กำลัง 110ช้างแมมมอธโบราณ หมายต้านกำลัง 120 ช้างแมมมอธโบราณ....
เรื่องนี้ยังหลงเหลือเหตุผลอีกหรือ?
นอกจากศิษย์สายนอกบางคนที่มีความคิดแตกต่างไปอีกอย่างแล้ว เหล่าศิษย์สายในและผู้อาวุโสทั้งหลายล้วนประหลาดใจกันอย่างถึงที่สุด...
ปงงงงง!
ภายใต้ทุกสายตาที่จับจ้องแขนของต้วนหลิงเทียนที่เหวี่ยงออกไป ได้ฟาดปะทะกับแขนมหึมาของวานรโหดอย่างรุนแรง มวลบอากาศระเบิดออกคลื่นพลังแผ่ซ่านจนรงขังสั่นไหว!
ทันใดนั้นที่เท้าของต้วนหลิงเทียนและวานรโหดล้วนบังเกิดรอยแตก ฝุ่นธุลีปลิวคละคลุ้งเพราะแรงปะทะ!
"มาได้ดี!" ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนเผยรอยยิ้มสะใจ และเริ่มรู้สึกว่าเลือดในกายเขากำลังเดือดพล่าน ...
เหวี่ยงแขนออกไปทานรับการทุบฟาดของวานรโหดที่กำลังคลั่งตรงๆ!
ผู้ฝึกยุทธ์ที่ยังมีระดับบ่มเพาะไม่ถึงระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นแรก อาจหาญกระทำเช่นนี้ได้อย่างไร?
ในตอนนี้เองแขนของต้วนหลิงเทียนที่ปะทะกับวานรโหดอยู่ ก็สัมผัสได้ถึงกำลังมหาศาลที่วานรโหดส่งออกมา พลังทำลายของมันพยายามทะลวงฝ่าพลังงานต้นกำเนิดที่คุ้มครองร่างของเขา แน่นอนว่ามันย่อมทำได้สำเร็จ...
อย่างไรก็ตามพลังทำลายนี้กลับถูกพลังงานต้นกำเนิดที่กำลังสั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงขึ้นเรื่อยๆสลายหายไปในพริบตา!!
ดังนั้นในสายตาของทุกผู้คน จะเห็นว่าต้วนหลิงเทียนสามารถทานรับการจู่โจมของวานรโหดได้อย่างสูสี ไม่เพลี่ยงพล้ำ ยากที่จะหาผู้แพ้ชนะระหว่างทั้งสอง
และอันที่จริงแล้วนี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
"สวรรค์!ต้วนหลิงเทียนสามารถต้านทานการโจมตีของวานรโหดเอาไว้ได้ หาได้ด้อยกว่าไม่!”เหล่าศิษย์สายในที่ชมดูล้วนตื่นตะลึง
"อา...ดูเหมือนว่าเรื่องราวที่บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ ว่าต้วนหลิงเทียนมีวิธีเอาชนะผู้ที่แข็งแกร่งกว่าทั้งๆที่ตัวอ่อนด้อยกว่าได้...จักมิใช่เรื่องเหลวไหลซะแล้ว" เจียงหวยคิดในใจ
"อ๋าวววววว!" ภายในกรง วานรโหดที่กำลังคลั่งเมื่อมิอาจจู่โจมมนุษย์ตัวกระจ้อยได้สำเร็จ กระทั่งถูกอีกฝ่ายต้านรับเอาไว้ได้ มันก็บังเกิดโทสะหนักหนาแล้ว มันรีบใช้แขนอีกข้างเหวี่ยงฟาดมาทางต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราด หมายทุบทำลายศีรษะมนุษย์น่าตายให้แหลกเหลวป่นปี้!
ซู่มมม!
แขนของวานรโหดที่ทุบมาหมายฟาดระเบิดศีรษะต้วนหลิงเทียน แหวกฝ่าอากาศด้วยความเร็วสูงจนบังเกิดเสียงอากาศแตกออก
มันคงกำลังนึกภาพศีรษะต้วนหลิงเทียนระเบิดออกจนตกตาย ยามกำปั้นนี้ฟาดทุบลงไป!
"ฝันไปเถอะ ข้าขี้เกียจละเล่นกับเจ้าแล้ว" รอยยิ้มเย็นชาเผยอขึ้นที่มุมปากของต้วนหลิงเทียน เผชิญหน้ากับแขใหญ่โตที่ทุบฟาดลงมาอย่างเกรี้ยวกราดของวานรโหด ต้วนหลิงเทียนเพียงกำหมัดแน่น ควบรวมพลังงานต้นกำเนิดที่แผ่ซ่านออกมาด้วยความเร็วสูง
วู้มมมมม ฟู่มมมม!
เขาซัดหมัดพุ่งออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ สกัดกั้นกำปั้นที่ฟาดทุบลงมาของวานรโหดตรงๆ!!
แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมใช้พลังงานสั่นสะเทือนอย่างแยบยลยากที่จะมีใครมองเห็น ...
ปงงงงงง!
พริบตาต่อมาหมัดของต้วนหลิงเทียนก็ซัดปะทะกับกำปั้นของวานรโหดอย่างรุนแรง! หนึ่งกำปั้นขนาดเล็กกลับต้านรับกำปั้นมหึมาที่ทุบฟาดลงมาได้อย่างอัศจรรย์!!
ทันใดนั้นเอง!สีหน้าของวานรโหดพลันเปลี่ยนไปชั่วพริบตาหนึ่ง ราวกับว่ามันสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่างจากสัญชาตญาณ ร่างมหึมาของมันรีบพุ่งถอยห่างออกจากต้วนหลิงเทียนในพริบตา!
เรื่องราวตรงหน้าทำให้ทุกผู้คนงงงวยแล้ว
"เกิดอะไรขึ้นกัน?"
“วานรโหดล่าถอยแล้ว!”
ศิษย์สายในทั้ง 8 คนยามนี้เผยใบหน้าตื่นตะลึงออกมา กระทั่งศิษย์สายนอกที่เตรียมใจมาแล้ว ยังอดไม่ได้ที่จะขยับร่างอย่างสะท้าน
"ความสามารถของศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนน่ากลัวยิ่งนัก"
"มิผิด วันก่อนเขาก็ใช้ความแข็งแกร่งเพียง 100 ช้างแมมมอธโบราณสังหารศิษย์พี่ฉีฮ่าวที่มีความแข็งแกร่งสูงถึง 120 ช้างแมมมอธโบราณได้ไม่ยาก .... วันนี้แม้วานรโหดจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าเขาแต่จะอย่างไรก็แค่เพียง10 ช้างแมมมอธโบราณ ย่อมหาได้ระคายศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน "
ทว่าพริบตาต่อมาภาพเรื่องราวที่น่าตกใจพลันบังเกิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้ใบหน้าของเหล่าศิษย์สายนอกทั้งหลายยิ่งอึ้งค้าง ทั้งราวกับหัวใจกระโดดขึ้นมาจุกที่ลำคอ กระทั่งเสียงยังไม่กล่าวออก แม้จะเนิ่นนานผ่านไป
"ไอลิงจ๋อ เจ้าเองก็ฉลาดไม่เบานี่ รู้จักหลบหนีเมื่อพบเจอเภทภัย" ร่างของต้วนหลิงเทียนสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่จะพุ่งวูบไปยังร่างของวานรโหด และในชั่วพริบตานั้นแขนที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานสั่นสะเทือนพลันคว้าจับไปยังขาของวานรโหดจนร่างมันไม่อาจจะขยับไปไหนได้อีก ...ที่มุมปากเริ่มเผยรอยยิ้มออกมา
รีวิวของคุณ
คุณจะให้ดาวนิยายเรื่องนี้หรือไม่