จางเทีย ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นกับ ดั๊ก ไปแล้ว ตอนที่เขามาถึงร้านของชำ พรุ่งนี้ ดั๊ก คงต้องกลายเป็นตัวตลกของเพื่อนในองค์กรอย่างแน่นอนหลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา เขาอาจจะไม่กล้าทำแบบนี้ต่อไปเลยก็ได้
ในตอนที่ จางเทีย มาถึง ดอนเดอร์ นั้นกำลังคุยกับลูกค้าที่อยู่ในร้านอยู่ ดังนั้น จางเทีย เลยแค่ไปยืนอยู่ข้างๆเฉย ๆ หลังจากที่ ลูกค้าออกไปแล้ว เขาก็เดินไปด้านหลังเคาเตอร์แล้วหยิบไม้กวาดขึ้นมาทำความสะอาดร้าน หลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จ เขาก็ได้ใช้ลูกคิดเพื่อคำนวณบัญชีในวันที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ จางเทีย ได้มาทำงานที่นี่ เขารู้สึกว่า ดอนเดอร์ น่ะขี้เกียจขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะคิดบัญชีเสร็จและมันก็เป็นแบบนี้ทุกวัน
เมื่อเห็น จางเทีย เริ่มทำงานแล้ว ดอนเดอร์ ก็ลากเก้าอี้ออกไปนอนหน้าร้านอย่างเช่นเคย
ในตอนที่ จางเทีย จำใบชานั่นได้ เขาก็เริ่มถาม ดอนเดอร์ ขึ้นามา
“ บอส คุณรู้จักมั้ยว่าใบชาคืออะไร ? “
“ ใบชา ? “ - เมื่อได้ยินแบบนั้น ดอนเดอร์ ก็หันหน้ากลับมาแสดงสีหน้าแปลกๆ เขามองมาที่ จางเทีย – “ นั่นน่ะเป็นของมีค่าอย่างมากและเป็นเครื่องดื่มหายากด้วย มีแต่พวกรวยๆและมีอำนาจเท่านั้นแหละที่ชอบทำตัวมีสไตล์ใช้ใบชานั่นมาอวดคนอื่น ! “
“ ไม่ใช่เครื่องดื่ม ฉันเห็นคนอื่นเอามันเข้าปากไปเลย “
“ โง่ ใบชาน่ะต้องเอาไปต้มกับน้ำร้อนๆ มีเรื่องเกี่ยวกับใบชาตั้งเยอะ ! “ - ดอนเดอร์ ขึ้นเสียง – “ มีแต่พวกที่โคตรรวยเท่านั้นแหละที่เอาใบชาไปใช้ลดกลิ่นปาก ! “
“ คุณจะบอกว่ามันแพงสินะ ! “
“ ไม่ใช่แค่แพง แต่โคตรแพงต่างหาก ถุงชาคุณภาพต่ำสุดก็น่าจะราคา... ! “ – ดอนเดอร์กางนิ้วทั้งห้าออกมา – “ สำหรับของคุณภาพสูงแกไม่มีวันเห็นหรอก ! “
“ 5 เงิน ! “ – นั่นมันแพงอย่างมากสำหรับ จางเทีย
“ ห้าเงิน... “- ดอนเดอร์ ยิ้มแห้งๆ – “ 5 เงินน่ะแกแค่ได้ดมกลิ่น 5 ทอง ! อาจจะแพงกว่านี้ด้วยซ้ำ ! “ - จางเทีย ช็อค ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม แบร์ลี่ ถึงห่อมันมาอย่างดี คนธรรมดาซื้อมันไม่ได้นี่เอง
“ แพงจัง ทำไมถึงปลูกมันในเมืองแบล็คฮ็อตไม่ได้ ? ไม่งั้นเราคงทำเงินได้เยอะ ! “
“ ไม่มีวันเป็นแบบนั้นหรอก มันโตแค่ในด้านทิศตะวันออกของทวีป ใบชานี่ถือเป็นการค้าส่งที่ทำเงินได้จำนวนมาก ! “
“ ครูบอกเราว่ามีคนตั้งหลายประเทศอาศัยอยู่ในทิศตะวันตกของทวีป ประเทศที่มีอำนาจหลายประเทศก็อยู่ที่นั่น ! บางประเทศน่ะมีเมืองแบบแบล็คฮ็อตเป็นพันๆเมือง... ! ”
“ เหอะ แบล็คฮ็อตไม่ได้มีค่าอะไรถ้าไปเทียบกับเมืองใหญ่ๆพวกนั้น แกจะเข้าใจเอง ถ้าแกได้ไปที่นั่น มีประเทศที่จีนไปยึดได้ด้วย ตอนฉันยังเด็ก... “ – ดอนเดอร์ เริ่มนึกถึงเรื่องสมัยก่อนและเล่าให้ จางเทีย ฟังและเขาเองก็ฟังอย่างตั้งใจ สิ่งที่ชายอ้วนคนนี้พูดนั้นน่าจะเป็นจริงเพราะเขาพูดถึงตอนที่เขาไปด้านทิศตะวันตกและความรู้ต่างๆ หลังจากนั้นเขาบอกว่าเขาได้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับนักสู้เก่งๆและได้ร่วมมือกันออกจัดการพวกปีศาจและได้สมบัติมามากมาย ซึ่งเรื่องพวกนี้น่าจะมาจากนิยาย ดังนั้น จางเทีย จึงเลิกสนใจไป
ในตอนที่ ดอนเดอร์ กำลังโม้ถึงโลกดิน และพูดถึงสาวสวยที่อยากแต่งงานกับเขาก็ได้มีลูกค้าสองคนเดินเข้ามา พวกนั้นอายุประมาณ 30 ปี พวกนั้นสวมรองเท้าหนังพร้อมกับกำไลข้อมือทองแดงและมีเกราะใส่อยู่ที่ส่วนบนของตัวด้วย พวกนั้นยังมีดาบยาวห้อยอยู่ที่เอวและมีซองธนูเหน็บไว้ที่หลัง เกราะที่ไหล่เองก็ดูเข้ากันดีกับผ้าคลุมกันลม พวกนี้ดูเหมือนนักสำรวจจริงๆ ระหว่างการทำงานหลายปีในร้านนี้ จางเทีย มีประสาทในการตัดสินคนที่แหลมคม พวกนี้ต้องเป็นนักสำรวจมือใหม่เพราะ จางเทีย บอกได้จากอุปกรณ์ที่พวกนี้มี นักสำรวจมือใหม่นั้นมักจะสวมเสื้อผ้าอย่างกับพวกมืออาชีพ พวกเขามักจะซื้อชุดใส่เป็นเซ็ตๆไปเลย
“ ให้ช่วยอะไรมั้ยครับ ? “ – จางเทีย ถามออกมาด้วยความสุภาพและเป็นมืออาชีพ
พวกนั้นมองมาที่ จางเทีย และมองไปรอบๆ จากนั้นจึงพยักหน้าให้กัน คนที่สูงกว่าเดินเข้ามาหา จางเทีย แล้วก้มตัวลงพร้อมกับพูดเสียงเบาๆ – “ เจ้านายแกอยู่ไหน ? เรามีธุระจะมาตกลงด้วย ! “
เขาเคยเจอลูกค้าแบบนี้เสมอ ร้านของ ดอนเดอร์ น่ะไม่ได้ขายแค่สินค้าแต่ยังรับซื้อด้วย คิดจากท่าทีของพวกนี้แล้ว ดอนเดอร์ จึงลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอามือถูกันแล้วไขว้ไว้ที่หลังก่อนจะเดินเข้ามาหาชายทั้งสอง
“ ฉันเป็นบอส มีอะไร ! “
ทั้งสองมองไปที่เขาสักพักก่อนจะมองหน้ากันแล้วพยักหน้า
“ นายรับซื้อของมั้ย ? “
“ รับ ถ้ามันผ่านการประเมินนะ ถ้าสินค้าพวกนายแพงเกินไป ฉันคงซื้อมันไม่ได้ ฉันแนะนำคนให้นายได้นะแต่ฉันจะได้ค่านายหน้า 5% ! “ – ในที่สุดนักสำรวจสองคนก็ฟังคำหว่านล้อมของ ดอนเดอร์ ทั้งสองคนมองไปด้านนอกและพบว่าไม่มีใคร คนหนึ่งได้ก้มตัวลงมาเพื่อกันสายตาจากด้านนอก อีกคนเอาแร่เหล็กขนาดประมาณกำปั้นออกมาจากกระเป๋าหนังและวางลงที่เคาเตอร์
แร่นี่มันส่องแสงเหมือนกับสีทองออกมา ดูเหมือนว่ามันจะแพงอย่างมาก จางเทีย อ้าปากค้างแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาแค่พยักหน้าเท่านั้น
“ นี่... “ – นักสำรวจคนหนึ่งมองไปที่ ดอนเดอร์ ด้วยท่าทีเคร่งขรึม – “ นายเสนอให้เท่าไหร่ ? เราอาจจะร่วมงานกันได้นานถ้านายเสนอราคาดีๆให้ ! “
“ 1 ทองแดงต่อ 5 กก. ! “ - ดอนเดอร์ เสนอไป
“ อะไรนะ ? ล้อเล่นรึไง ? “ - สองคนนั้นตาเบิกกว้างและมองไปที่ ดอนเดอร์ ด้วยความไม่พอใจ
“ ฉันก็บอกไปแล้ว 1 ทองแดงต่อ 5 กก. ! “ - ดอนเดอร์ พูดช้าๆโดยไม่สนใจสีหน้าของทั้งคู่ ชายที่ถือโล่หงุดหงิดขึ้นมาและเอามือจับดาบข้างๆเอว
“ พวกนายคงเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็นแร่ทอง มันสวยเหมือนกับแร่ทองจริงๆแหละ ! “ - เมื่อได้ยินแบบนั้น ทั้งสองคนก็ช็อคและพยักหน้า ชายคนที่จับดาบได้คลายมือลงเล็กน้อย
“ โฮ่โฮ่ แร่ทองมันก็คล้ายกับก้อนนี่จริงๆ แต่น่าเสียดายที่นี่ไม่ใช่แร่ทองแต่เป็นแร่ไพไรต์ต่างหาก นั่นแหละฉันถึงได้เสนอ 1 ทองแดงต่อ 5 กก. ! “
“ แร่ไพไรต์ ? “ – นักสำรวจคนหนึ่งมองไปที่แร่ในมือตัวเองและดูเหมือนไม่เชื่อคำพูดที่ว่ามันเป็นแค่ขยะ นักสำรวจอีกคนดูเหมือนจะสงสัยในคำพูดของ ดอนเดอร์ เมื่อเห็นสีหน้าของพวกนั้น ดอนเดอร์ ก็ไม่ได้พูดอะไร เขากลับพูดกับ จางเทีย แทน – “ เอาตัวอย่างแร่ไพไรต์ของร้านออกมา ! “ - จางเทีย หันหน้ากลับไปลากถุงที่อยู่ในมุมร้าน
เขาวางมันลงที่พื้นแล้วโชว์ให้สองคนนั้นดู สินค้าประมาณ 10 กก. ถูกเทออกมาซึ่งดูเหมือนแร่ที่อยู่บนเคาเตอร์ พวกนั้นหยิบแร่ขึ้นเทียบกับของตัวเอง สีหน้าของพวกนั้นได้แสดงความผิดหวังออกมาทันที
“ มีหุบเขาเรดไฮแลนด์ทีอยู่ห่างจากทิศใต้ของแบล็คฮ็อตไป 100 กม. พวกนายได้มาจากที่นั่นเหรอ ? พวกมันจะดูคล้ายแร่ทอง ในอดีตมีนักสำรวจที่ทำเหมือนพวกมันเป็นแร่ทองและนั่นทำให้พวกเขากลายเป็นตัวตลก แต่ช่างเถอะเดี๋ยวพวกนายก็ได้เห็นเอง ไม่มีใครรู้ทุกอย่างไปซะหมดหรอก ! “ – ดอนเดอร์ อธิบาย นี่เป็นคำพูดที่ทำลายความหวังของสองคนนั้นอย่างสิ้นเชิง พวกเขายืนขึ้นและขอบคุณ ดอนเดอร์ พวกเขารู้สึกราวกับตัวเองขายหน้า พวกเขาเดินออกไปก่อนจะหันกลับไปมองแร่ของตัวเองพร้อมกับด่าออกมา เขาโยนมันลงที่พื้นถนนหน้าร้านทันที
“ แร่ไพไรต์ธรรมดา มีหน้าโง่สองคนที่อยากโกงอีกแล้ว... “ – เมื่อเห็นสองคนนั้นจากไป ดอนเดอร์ ก็ส่ายหน้าและถอนหายใจออกมาก่อนจะกลับไปที่ม้านั่งตัวเอง
หลังจากนั้นก็มีลูกค้าเข้ามาอีกหลายคนและ ดอนเดอร์ ก็ได้เงินไปมากกว่า 10 ทอง ก็อย่างเช่นเคยตอนที่ ดอนเดอร์ พูดขึ้นมาว่า – “ ...ฉันจะไม่เลี้ยงข้าวเย็นแกหรอกนะตามที่เราตกลงกันไว้ไง ! “ - นี่คือตอนที่ จางเทีย รู้ว่าได้เวลากลับแล้ว
“ ดั๊ก กับ แบร์ลี่ จะทำอะไรอยู่นะ ? “ - จางเทีย คิดกับตัวเองตอนที่เดินออกจากร้าน
เมื่อตกเย็นพวกคนจุดไฟก็เริ่มสั่นกระดิ่งและทำหน้าที่ของตัวเองตามท้องถนน เมื่อเดินมาได้สิบก้าว จางเทีย ก็ได้หยุดเพราะเห็นบางอย่างที่ส่องแสงออกมาตรงมุมหนึ่งของกำแพงที่อยู่ตรงหน้าเขา
โอ้มันคือแร่ไพไรต์ที่คนโง่สองคนนั่นทิ้งไว้ มันได้แตกออกเป็นสองส่วน จางเทีย เดินเข้าไปอีกสองก้าว....
โอ้มีบางอย่างอยู่ข้างในแร่นั่นด้วยน มันส่องแสงออกมานิ สีของมันแตกต่างจากแร่ไพไรต์ธรรมดาเมื่อโดนไฟ จางเทีย สงสัยและเข้าไปใกล้อีก เข้าก้มตัวลงไปทำท่าผูกเชือกรองเท้า ในตอนที่เขาเห็นว่าไม่มีคนอยู่รอบๆ เขาก็หยิบแร่สองก้อนนั่นมาและเก็บเข้าใส่กระเป๋า มีบางอย่างอยู่ข้างในจริงๆด้วย ! ความตื่นเต้นที่เขามีเริ่มเพิ่มขึ้นมา....