px

เรื่อง : กล่องจักรวาล(Universe Storage Box)
USB:บทที่ 3 เริ่มงานวันแรก


USB:บทที่ 3 เริ่มงานวันแรก

ในเวลาเดียวกันนั้น ในขณะที่เครื่องบินที่มีเทคโนโลยีล้ำลึกกำลังบินอยู่เหนือท้องฟ้า เด็กหนุ่มลักษณะตัวอ้วนกลมเล็กน้อย กำลังนั่งอยู่บนโซฟา พลางจิบไวน์แดงแก้วหนึ่ง ขณะที่ฟังชายวัยกลางคนที่พูดพล่ามเรื่อยเปื่อย 

เกี่ยวกับรองเท้าหนังในมือคู่หนึ่ง มันเป็นรองเท้าหนังสีดำเงาวับ ดูธรรมดา ชายวัยกลางคนกำลังสาธยายเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ของรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสุด เขาพูดขึ้นว่า


 

“ นายน้อยบรูซ รองเท้าของผมใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ดูจากภายนอกแล้ว...มันดูเหมือนรองเท้าหนังธรรมดา ๆ แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่ใส่มัน ก็จะสามารถวิ่งได้เร็ว ราวกับพายุ” ชายวัยกลางคนถือรองเท้าของเขา 

และพูดกับชายหนุ่มว่า“ อีกอย่างรองเท้านี้ ทำจากเทคโนโลยี พวกมันจะไม่สกปรก เนื่องจากผิวสัมผัสที่ทำให้คราบสกปรก ไม่สามารถจับตัวได้บนพื้นผิวนี้ และมันยังสามารถเปลี่ยนขนาดรองเท้าได้โดยอัตโนมัติ ตามขนาดของผู้ที่สวมใส่ได้ เรียกได้ว่ารองเท้าคู่นี้ สามารถคงอยู่ได้ตลอดชีวิต....ตราบเท่าที่คนใช้ต้องการ”

"หืม.....คุณคิดว่า ฉันเป็นคนแบบไหนกัน ที่ใส่รองเท้าคู่เดียวไปตลอดชีวิตน่ะ?" ชายหนุ่ม ตรงหน้าที่ถูกเรียกว่า นายน้อยบรูซ เขามองไปยังชายวันกลางคน และขมวดคิ้ว จากนั้นชายคนนั้นเมื่อได้ยินแบบนี้ เขาจึงละลักละล่ำว่า

"ไม่แน่นอน......ไม่แน่นอน" ชายวัยกลางคนรีบอธิบาย

"เอาล่ะ...เก็บรองเท้าคู่นี้ไว้ แล้วไปหาพนักงานบนเครื่องบิน เพื่อรับเงินของคุณ" นายน้อยบรูซ โบกมือขัดจังหวะคำพดของชายวัยกลางคน 

“ขอบคุณมากครับ...นายน้อยบรูซ” ชายวัยกลางคนยืนขึ้นด้วยสีหน้ามีความสุข และกล่าวในใจว่า ดีจริง ๆ ที่ไม่ต้องเปลืองแรงมากมาย ในการขายรองเท้าคู่นี้ ดังนั้นเขาจึงพอใจที่สามารถขายสินค้าได้ในราคาดี

นายน้อยบรูซ เหล่ตาและมองไปที่รองเท้า ที่เขาใช้เงินจำนวนมากในการได้มันมา ไม่มีร่องรอยความพึงพอใจเป็นพิเศษในสายตาของเขา และไม่น่าแปลกใจเท่าไร เนื่องจากรองเท้าที่เขาใส่มักจะเป็นรองเท้าแบบพิเศษที่สั่งทำโดยเฉพาะ ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในร้านธรรมดาๆ แต่รองเท้าที่อยู่ตรงหน้าเขานั้น ดูธรรมดามาก เช่นเดียวกับรองเท้าในท้องตลาด ที่หาซื้อได้อย่างง่ายดาย


 

อย่างไรก็ตาม ตัวเขาเองก็ค่อนข้างเทอะทะ ไม่สามารถวิ่งได้คล่องตัว ขนาดแค่เดินเขายังรู้สึกว่ามันเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน สำหรับเรื่องนี้ เขาถูกคนในแวดวง หัวเราะเยาะเย้ยเป็นอย่างมาก 

ดังนั้น ด้วยบังเอิญ เขาพบว่าชายวัยกลางคนคนนี้ มีรองเท้าในแบบที่เขาอยากได้อยู่พอดี ดังนั้น เขาจึงนัดแข่งขันกับเพื่อนในแวดวงของเขา ว่าใครจะวิ่งได้รวดเร็วกว่ากัน

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ บรูซเองก็เผยรอยยิ้ม ราวกับว่าเขาสามารถมองเห็นสีหน้าตกใจ บนใบหน้าของเพื่อน ๆ เขาได้

 

บรูซวางแก้วไวน์ลงไปบนโต๊ะ แล้วหยิบรองเท้าขึ้นมาทดสอบดู พบว่ารองเท้าสามารถปรับขนาดได้ด้วยตัวของมันเอง และมีความสะดวกสบายอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะแย่กว่า รองเท้าคู่อื่น ๆของเขาก็ตาม

ยังไงซะ คนนั้นๆ ก็เป็นนักวิจัยเทคโนโลยี เขาไม่ใช่นักออกแบบ จึงไม่ได้ลงละเอียดมากนัก สำหรับความสะดวกสบาย ช่างมันเถอะ!


 

บรูซลองสวมรองเท้าและลุกขึ้นยืน  หลังจากสวมรองเท้าแล้ว เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาขึ้นมาก และเขาก็ไม่เหนื่อยอีกต่อไป เมื่อเขาออกวิ่งอีก นอกจากนี้ความเร็วของเขาก็ไม่ถือว่าช้าอย่างแน่นอน

บรูซถอดรองเท้าอย่างมีความสุข และมอบให้คนรับใช้ของเขา เอามันไปเก็บไว้ แม้ว่าความเร็วของรองเท้านั้นจะดีมาก แต่ตัวเขาก็ไม่อยากจะสวมรองเท้าที่มันดูธรรมดาๆ ราวกับรองเท้าในท้องตลาด มันจะทำให้เขาเสียภาพลักษณ์

ดังนั้นเขาจึงเก็บวันไว้ เพื่อสวมมันในวันพรุ่งนี้ ระหว่างการแข่งขัน

คนรับใช้วางรองเท้า ลงในชั้นวางรองเท้าส่วนตัวของบรูซ ภายในมีรองเท้าที่มีชื่อเสียงหลายแบบ และถ้าเขาใส่รองเท้าที่ดูธรรมดาแบบนี้ มันดูจะไม่เหมาะจริง ๆ


 

หลังจากคนรับใช้จากไป ก็เกิดสถานการณ์ประหลาด พบว่าชั้นวางรองเท้านั้น เกิดไฟสว่างวาบขึ้น รองเท้าไฮเทคที่เพิ่งสวมไปนั้น.....ได้หายไป แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที มันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เหมือนกับ ตอนที่เกิดขึ้น ที่บ้านเช่าของฮวงเฟิง และไม่มีใครเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ หลังจากนั้น รองเท้าคู่นั้นก็มีการเปลี่ยนแปลง สังเกตเห็นว่าพื้นผิวสัมผัส ดูเหมือนจะต่างออกไปนิดหน่อย

มันเป็นคืนที่เงียบสงบ และในเช้าของวันที่สอง ฮวงเฟิงนั้นตื่นแต่เช้า เพราะผู้จัดการหลิวได้สั่งเขาไว้แล้วว่า วันนี้เขาจะต้องไปทำงาน และเขาไม่สามารถไปทำงานสายได้ ดังนั้นแม้ว่า ผู้จัดการหลิวจะไม่ได้พูดอะไร แต่ฮวงเฟิงก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี และเขาจะต้องทำแบบนี้ไปอีกสามเดือน เพื่อที่จะผ่านการะประเมิณการทดลองงานและได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ


 

ฮวงเฟิงหยิบรองเท้าคู่หนึ่ง ที่เขาซื้อมาราคาร้อยกว่าหยวน ที่พึ่งซื้อเมื่อวานนี้ จากกล่องเก็บของ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาจับถือมันไว้ในมือ เขาก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง: รองเท้าของเมื่อวาน ดูแย่มาก ฝีมือก็แย่ มันรู้สึกค่อนข้างหยาบกระด้างเมื่อสัมผัส เมื่อกดแรง ๆ ก็ยิ่งเห็นได้ชัดมาก ว่ามันไม่ได้ทำมาจากหนังแท้

อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขาหยิบรองเท้าขึ้นมา เขาพบว่าพื้นผิวของพวกมันเงาวับ และเมื่อสัมผัสดู ก็รู้สึกสบาย ฝีมือดูเหมือนจะประณีตขึ้นมาก และเขาจำได้ว่าด้านข้างของรองเท้า มีการฝังลวดลายประดับไว้ แต่ตอนนี้กลับดูสะอาด

สะอ้านและเรียบเนียน ไร้ลวดลาย


 

"น่าแปลก ฉันพึ่งซื้อมันมาเมื่อวานแท้ ๆ ยังไม่ถึงวันดี และการออกแบบลวดลายก็หลุดไปแล้ว! ถ้าวันนี้ฉันไม่รีบ ฉันก็จะเอามันไปเปลี่ยนที่ร้านอย่างแน่นอน" ขณะที่ฮวงเฟิงสวมรองเท้าหนัง เขาก็พึมพำกับตัวเอง 

เขาไม่ได้สงสัยอะไรเลยด้วยซ้ำ เขารู้สึกว่า รองเท้าที่ซื้อเมื่อวานนั้น คุณภาพไม่ดีจริง ๆ เป็นเพราะมันไม่ได้ดูให้ละเอียด เลยทำให้ลวดลายนั้นหลุดลอกไปโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่ฮวงเฟิงสวมรองเท้าแล้ว เขาก็รู้สึกแปลกใจ พลางอุทานว่า

"อืม...รู้สึกดีมาก มันสบาย.... ดีกว่าที่เคยสวมเมื่อวานนี้ พอลองสวมวันนี้.........กลับรู้สึกสบายกว่าเมื่อวานนี้" เพราะเขาอยู่ในช่วงเวลาเร่งรีบ ฮวงเฟิงจึงไม่คิดมาก เกี่ยวกับเรื่องของรองเท้าหนัง

ขณะนี้เป็นเวลาที่ผู้คนเริ่มออกไปทำงาน จึงมีผู้คนและรถจำนวนมาก บนท้องถนน ป้ายรถเมล์เต็มไปด้วยผู้คน และด้วยร่างกายที่ค่อนข้างแข็งแรงของเขา ทำให้เขาสามารถเบียดเสียดผู้คนขึ้นรถไปได้


 

ด้วยบริษัทของเขาเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงของมณฑลเจียง และถือเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองชิง  แม้แต่ในระดับประเทศ มันก็ยังมีชื่อเสียงอยู่บ้าง

ด้วยการออกแบบที่สวยงาม แต่แน่นอนว่า ฮวงเฟิงนั้น ไม่เคยเห็นมันมาก่อน นอกจากนี้ภายในกลุ่มคนที่โดยสารรถเมล์ มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และด้วยความสวยงามและดูดีของสาวๆ ทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้ชายมากขึ้น 

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกคัดเลือกมาของบริษัท พวกเขาหลายคนมาที่นี่ด้วยความตั้งใจที่จะเอาชนะและสามารถบรรจุเป็นพนักงานประจำ พวกเขาจึงเริ่มสงบลง ด้วยเหตุนี้ฮวงเฟิงสังเกตุว่า มีพนักงานเช่นเดียวกับเขา

จำนวนมาก ที่ผ่านการสัมภาษณ์งาน และมาเริ่มงานพร้อมกันในวันนี้  มากจนฮวงเฟิงเอง ก็ประหลาดใจ ที่เขาก็เป็นในคนที่ได้รับการว่าจ้างด้วยเช่นกัน

"อ๊ะ....กระเป๋าตังค์...ของฉันหายไป! มีขโมยอยู่ที่นี่ ช่วยจับขโมยที!"

ในขณะที่ฮวงเฟิงลงจากรถบัส พร้อมกับฝูงชนผู้โดยสาร ที่อยู่ไม่ไกลจากเขา เสียงตะโกนออกมาจากผู้หญิงคนหนึ่ง ดึงดูดความสนใจของคนรอบข้างและ ฮวงเฟิงสังเกตเห็นว่า เมื่อมีผู้โดยสารตะโกน คนที่อยู่ใกล้ตัวเธอ

ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที ก่อนที่เขาจะรีบเดินไป อย่างรวดเร็ว

 

รีวิวผู้อ่าน