ต้องกังวลแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย?
แฮมินและมินชานนั่งรอ บาเรียให้หายไป อย่างน้อยพวกเขาก็ อยากเห็นศพ ซึ่งมันเป็นมารยาท
“หัวหน้า เรารอเขาอีกสักครู่ละกันนะครับ”
“ฉันก็ว่างั้น”
“ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้เวลานานแต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเอาชีวิตรอดจากป่านั่นได้”
“ฉันก็ว่างั้น”
“..........หรือว่าพวกเขา เคลียร์ดันเจี้ยนได้”
คำพูดของแฮมินทำให้มินชาน หน้าสดใสขึ้นแปปนึง ก่อนจะกลับไปบึ้งตึงอีกครั้ง
“เขาเป็นโครแมนเซอร์ เขาสามารถเรียกลูกน้องมา ฆ่า คร็อกโคไดล์ ได้แต่ตัวเขาเองนั้นไม่อาจหนีจากบึงได้”
“อืม .. หัวหน้า พูดถึงบึง..”
ในส่วนต่างๆของบึงนี้นั้น สำหรับบึงเป็นกับดักที่เหมือนไว้ทำลายนักสู้ระยะไกลเลย เพราะบึงนั้นจำกัดการเคลื่อนไหว... และยังมีมอนเตอร์สองขนิดอยู่ที่บึงแห่งนี้
มีทั้ง ลิง ฟูโก้ และไข่อนาคอนด้า
ลิงฟูโก้นั้นจะปา ผลไม้ฟูโก้ใส่ศัตรูของพวกมัน และการเคลื่อนไหวในน้ำนั้นค่อนข้างลำบาก ทางเดียวที่จะโจมตีพวกมันได้คือ ใช้เวทย์ระยะไกล
มินชานนั้นมีข้อมูลของสองคนนั่นน้อยเกินไป แม้ว่า ผู้มีพลัง โฮง-ซังกูจะมีพลังเปลวไฟ แต่ว่า ลิงฟูโก้นั้นชอบโจมตีเป็นหมู่ ไม่มีทางที่ซังกูจะจัดการมันได้ทั้งหมด
เมื่อจำกัดลิงไปแล้วยังมีอนาคอนด้า ที่พร้อมจะโจมตีแบบเงียบๆอีก
“เฮ้อ.... ฟังดูยากแหะ”
“มันเป็นเรื่องยากมาก”
นี่เป็นเหตุให้ เกิดการรวมทีมขึ้นสำหรับ ดันเจี้ยน 4 ดาว
==บูม==
ลูกไฟมากมาย โจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ลิงพวกนี้หลบลูกไห อย่างเหนื่อยแรง เพราะเมื่อพวกมันหลบลูกไฟก็มี ธนูน้ำแข็ง ยิงมาใส่พวกมันทำให้พวกมันเคลื่อนที่ช้าลง
==บูม==
ในขณะที่ป่าถูกเผา ก็มีสายฟ้าเข้าไปโจมตีพวกลิง
==ปั้คคค==
วูชิน มองอย่างสนุกสนาน เมื่อเขาเห็นพวกลิงร่วง เหมือนใบไม้
“ฮ่าๆ เช็ดมันออกสะ”
“..............”
หน้าของซังกู ดูน่ากลัวมากหยั่งกะดูหนังสมองขวัญ
ป่าแห่งนี้ถูกเผา ..ถ้ามันเป็นดันเจี้ยนใต้ดิน นี่คงต้องลงข่าวแน่ๆ
วูชินนั้น มี ทหารโครงกระดูกเวทย์มนต์ 40 ตัวอยู่ด้านหลัง
บางตัวยิง ไฟร์บอล บางตัวยิงธนูน้ำแข็ง
อย่างน้อยเขาก็สบายใจ เพราะว่าลูกไฟของเขา ยัง แข็งแกร่งกว่าลูกไฟของทหารโครงกระดูกเวทย์มนต์
ซังกูนั้นไม่เคยเห็นการล่าที่โหดร้ายและป่าเถื่อนเช่นนี้
วูชินนั้นมี ทหารโครงกระดูกเวทย์มนต์เป็นลูกน้อง ดังนั้นเขาจึงเผาป่าทั้งหมดนี่ เหมือนกับการล้างบางเลย
นี่เป็นเหมือนห้องอาหารสำหรับนักเวทย์
“หุหุ.... ฉันเลเวลอัพอีกแล้ว”
“............”
เมื่อวูชินเลเวลขึ้น เขาเอาแต้มไปเพิ่มให้กับเวทย์มนต์และการควบคุมอย่างละ 5 แต้ม
เมื่อลิงตาย วูชินก็เรียกทหารโครงกระดูกเวทย์มนต์ ออกมาจากศพพวกมัน....
‘อาชีพขั้น 2 ของเขานี่มันดีจริงๆ’
เมื่อวูชินเลเวลอัพ แต้มอัพสถานะของเขาเพิ่มขึ้นมาจาก 5 แต้ม เป็น 10 แต้ม ขึ้นมาสองเท่า แม้แต่สกิลโบนัสของเขาก็เพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 2 แต้ม
ตอนนี้เลเวลของเขา 14 แล้ว
แต้มของเขาถูกใช้ไปกับเวทย์มนต์และการควบคุมเป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่เหลือนั้นเขาเอาแต้มไปอัพ ค่าการฟื้นฟู ทำให้สถานะของเขานั้น
เวทย์มนต์ 40 การฟื้นฟู 14 และการควบคุม 55
ตอนนี้ทหารโครงกระดูกเวทย์มนต์ของวูชินนั้น มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทำให้ป่านั่น เจอเผาไวมากพวกมอนเตอร์ ต่างวิ่งหนีตายกันอย่างสุดชีวิตเลย
เลเวลของเขา อาจจะแค่ 14 แต่แค่สถานะของเขานั้นเทียบได้กับเลเวล 40 เลย
*
*
แฮมินสั่งอาหารเดลิเวอรี่ จากร้านอาหารใกล้ๆดันเจี้ยนนี้มากิน
“หัวหน้า นี่อาหารเย็นครับ”
มินชานและแฮมินนั้น นั่งกินเส้นก๋วยเตี๋ยวไปพร้อมกับตั้งคำถาม
“เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว”
“4 ชั่วโมงแล้วครับ”
“อื้ม ..ในนั้นคง 16 ชั่วโมงแล้ว”
สำหรับดันเจี้ยน 4 ดาวนั้น เวลาในดันเจี้ยนจะไวกว่าด้านนอก 4 เท่า มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหลบซ่อนอยู่ในนั้นเป็นเวลา 16 ชั่วโมง
เอาเถอะ เผื่อเกิดไรขึ้น เรารอพวกเขาอยู่ที่นี่แหละ
*
ไฟยังไหม้อยู่เรื่อยๆในป่าแห่งนี้
ซังกูนั้น ได้เก็บผลไม้ และเห็นที่ไม่ถูกเผาไว้
“พี่ ...ผมเก็บพวกนี้ได้”
“อืม ..ดีมาก”
วูชินหยิบผลไม้จากซังกูมา เพื่อตรวจสอบ
“ผลไม้บางชนิดกินได้ เมื่อปอกเปลือก บางชนิดมีพิษ บางชนิดกินได้เมื่อเผาไฟ”
วูชินอธิบาย เรื่องพวกนี้ให้ซังกูฟัง ซังกูรู้สึกเสียใจมาก เขาอยากจะจดมันไว้ในโน้ตบุ้คมากกว่าที่จะนั่งจำ
“พี่ชาย ทำไมพี่รู้เรื่องพวกนี้ล่ะครับ”
“เอ่อ คือว่า...”
แน่นอน เขามีความรู้เกี่ยวกับมัน สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ระบบนิเวศทั่วๆไปที่เขาเคยอาศัยอยู่เกือบ 20 ปี
“อื้ม ..ทำไมนายไม่ฟังที่ฉันพูดละ”
“ขอโทษครับ ผมจะไม่ถามมันอีกแล้ว”
“ไปตัดหญ้าตรงหน้ามา มันสามารถกินกับเนื้อได้ และยังกินคู่กับเห็ดบางชนิดได้อีกด้วย”
“ครับผม แล้วเมนูนี้ล่ะครับ”
“เนื้องู... มันอร่อยมาก แต่ฉันเบื่อเนื้อละ เราไปกินคั่วเห็ดกันดีกว่า”
ซังกูรู้สึกแปลกใจมาก ทุกๆอย่างที่วูชินทำนั้น มันอร่อยมาก
*
มินชานกินอาหารของเขาหมดแล้ว
เวลาปัจจุบันคือ 07:45
ตอนนี้ซังกู อยู่ในดันเจี้ยนเป็นเวลา 4 ชั่วโมง 20 นาทีแล้ว
แฮมินไปเอาผ้าห่มมาให้มินชาน
“หัวหน้าครับ... อากาศเริ่มเย็นแล้ว”
“โอ้ววว ขอบคุณมาก”
“หัวหน้า.. พวกเราไม่สามารถรอวูชินและซังกู ได้นะครับ”
“หัวหน้าคิดว่าไงถ้าเราสลับกันเฝ้าจะดีกว่า”
“เราต้องส่งรายงานให้ท่านประธานไหมครับ”
“ก็ต้องส่งแหละ แต่เขาไม่สนใจหรอก”
“อะไรนะ?”
ถ้าไม่ใช่คำสั่งของท่านประธาน ทำไมพวกเขาต้อง พยายามมากขนาดนี้
“เฮ้ ..แฮมิน”
“ครับ หัวหน้า”
“รู้อะไรไหม 5 ปีที่ผ่านมา สายตาฉันไม่เคยผิดพลาด”
มินชานนั้นเกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนตั้งแต่สมัย ดันเจี้ยนปรากฎแรกๆ เขาไม่ใช่สมาชิกของกิลล์ค้อน แต่เขามีชื่อเสียงมาก
กิลล์ค้อนนั้น มีผู้มีพลังระดับ A สองคน หนึ่งในนั้นคือ ปาร์ค จินวู ซึ่ง จาง มินชาน เป็นคนค้นพบ
“ฉันรู้สึกถึงพลังจากไอบ้า วูชินนะสิ”
“เขามีศักยภาพที่คล้ายคลึงกัน”
“นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่อยากเสียเขาไป”
“นี่คือเหตุผลที่ผมต้องการให้พวกเขากลับมาแบบมีชีวิต ฉันไม่สนหรอก ถ้าเขาไม่เข้าร่วมกับกิลล์ค้อน”
“.....หัวหน้า.....”
แฮมินมองหน้าเจ้านายของเขา ถึงแม้เจ้านายจะดูงี่เง่าบ้างในบางครั้ง แต่สำหรับวันนี้แล้ว เขาเท่ห์มาก
“เราอธิษฐานกันไหมครับ หัวหน้า บางทีพวกเขาอาจจะปลอดภัย”
“คงยากแหละ”
“.....?”
“ไอ้พวกที่เฝ้าหินเวทย์มนต์กลับออกดันเจี้ยนนั้นโหดมาก”
“......”
“ถึงแม้ว่าพวกนั้นจะตาย...”
“......”
“เขาก็จะเอาศพ พวกนั้นกลับไป”
*
“พี่...เราเจอหินเวทย์มันกลับออกดันเจี้ยนแล้วครับ มันอยู่ตรงนี้”
หลังจากที่วูชินเผาป่าจนวอดวาย เขาก็เจอหินเวทย์มนต์ที่ลอยอยู่ตรงกลางแท่นหิน
ขณะที่ซังกูกำลังวิ่งเข้าหาหินเวทย์มัน วูชินก็ดึงซังกูกลับมาอย่างรวดเร็ว
กับดักไม้ไผ่เฉียดหน้า ซังกูไปนิดเดียวเท่านั้น ถ้าวูชินไม่ดึงเขาไว้ ป่านนี้เขาได้ตายไปแล้วแน่ๆ แต่ก่อนที่ซังกูจะได้พูดนั้น เขาก็เห็นสิ่งหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า มันทำให้เขาหมดคำที่จะพูด
By… Mheeezaa ได้เวลาซัดบอสสแล้ว