px

เรื่อง : Seoul Station’s Necromancer จบแล้วอ่านฟรี!!!
Chapter 28 – Same place


ต้องกังวลแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย?

แฮมินและมินชานนั่งรอ บาเรียให้หายไป อย่างน้อยพวกเขาก็ อยากเห็นศพ ซึ่งมันเป็นมารยาท

“หัวหน้า เรารอเขาอีกสักครู่ละกันนะครับ”

“ฉันก็ว่างั้น”

“ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้เวลานานแต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเอาชีวิตรอดจากป่านั่นได้”

“ฉันก็ว่างั้น”

“..........หรือว่าพวกเขา เคลียร์ดันเจี้ยนได้”

คำพูดของแฮมินทำให้มินชาน หน้าสดใสขึ้นแปปนึง ก่อนจะกลับไปบึ้งตึงอีกครั้ง

“เขาเป็นโครแมนเซอร์ เขาสามารถเรียกลูกน้องมา ฆ่า คร็อกโคไดล์ ได้แต่ตัวเขาเองนั้นไม่อาจหนีจากบึงได้”

“อืม .. หัวหน้า พูดถึงบึง..”

ในส่วนต่างๆของบึงนี้นั้น สำหรับบึงเป็นกับดักที่เหมือนไว้ทำลายนักสู้ระยะไกลเลย เพราะบึงนั้นจำกัดการเคลื่อนไหว... และยังมีมอนเตอร์สองขนิดอยู่ที่บึงแห่งนี้

มีทั้ง ลิง ฟูโก้ และไข่อนาคอนด้า

ลิงฟูโก้นั้นจะปา ผลไม้ฟูโก้ใส่ศัตรูของพวกมัน และการเคลื่อนไหวในน้ำนั้นค่อนข้างลำบาก ทางเดียวที่จะโจมตีพวกมันได้คือ ใช้เวทย์ระยะไกล

มินชานนั้นมีข้อมูลของสองคนนั่นน้อยเกินไป แม้ว่า ผู้มีพลัง โฮง-ซังกูจะมีพลังเปลวไฟ แต่ว่า ลิงฟูโก้นั้นชอบโจมตีเป็นหมู่ ไม่มีทางที่ซังกูจะจัดการมันได้ทั้งหมด

เมื่อจำกัดลิงไปแล้วยังมีอนาคอนด้า ที่พร้อมจะโจมตีแบบเงียบๆอีก

“เฮ้อ.... ฟังดูยากแหะ”

“มันเป็นเรื่องยากมาก”

นี่เป็นเหตุให้ เกิดการรวมทีมขึ้นสำหรับ ดันเจี้ยน 4 ดาว

==บูม==

ลูกไฟมากมาย โจมตีอย่างบ้าคลั่ง

ลิงพวกนี้หลบลูกไห อย่างเหนื่อยแรง เพราะเมื่อพวกมันหลบลูกไฟก็มี ธนูน้ำแข็ง ยิงมาใส่พวกมันทำให้พวกมันเคลื่อนที่ช้าลง

==บูม==

ในขณะที่ป่าถูกเผา ก็มีสายฟ้าเข้าไปโจมตีพวกลิง

==ปั้คคค==

วูชิน มองอย่างสนุกสนาน เมื่อเขาเห็นพวกลิงร่วง เหมือนใบไม้

“ฮ่าๆ เช็ดมันออกสะ”

“..............”

หน้าของซังกู ดูน่ากลัวมากหยั่งกะดูหนังสมองขวัญ

ป่าแห่งนี้ถูกเผา ..ถ้ามันเป็นดันเจี้ยนใต้ดิน นี่คงต้องลงข่าวแน่ๆ

วูชินนั้น มี ทหารโครงกระดูกเวทย์มนต์ 40 ตัวอยู่ด้านหลัง

บางตัวยิง ไฟร์บอล บางตัวยิงธนูน้ำแข็ง

อย่างน้อยเขาก็สบายใจ เพราะว่าลูกไฟของเขา ยัง แข็งแกร่งกว่าลูกไฟของทหารโครงกระดูกเวทย์มนต์

ซังกูนั้นไม่เคยเห็นการล่าที่โหดร้ายและป่าเถื่อนเช่นนี้

วูชินนั้นมี ทหารโครงกระดูกเวทย์มนต์เป็นลูกน้อง ดังนั้นเขาจึงเผาป่าทั้งหมดนี่ เหมือนกับการล้างบางเลย

นี่เป็นเหมือนห้องอาหารสำหรับนักเวทย์

“หุหุ.... ฉันเลเวลอัพอีกแล้ว”

“............”

เมื่อวูชินเลเวลขึ้น เขาเอาแต้มไปเพิ่มให้กับเวทย์มนต์และการควบคุมอย่างละ 5 แต้ม

เมื่อลิงตาย วูชินก็เรียกทหารโครงกระดูกเวทย์มนต์ ออกมาจากศพพวกมัน....

‘อาชีพขั้น 2 ของเขานี่มันดีจริงๆ’

เมื่อวูชินเลเวลอัพ แต้มอัพสถานะของเขาเพิ่มขึ้นมาจาก 5 แต้ม เป็น 10 แต้ม ขึ้นมาสองเท่า แม้แต่สกิลโบนัสของเขาก็เพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 2 แต้ม

ตอนนี้เลเวลของเขา 14 แล้ว

แต้มของเขาถูกใช้ไปกับเวทย์มนต์และการควบคุมเป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่เหลือนั้นเขาเอาแต้มไปอัพ ค่าการฟื้นฟู ทำให้สถานะของเขานั้น

เวทย์มนต์ 40 การฟื้นฟู 14 และการควบคุม 55

ตอนนี้ทหารโครงกระดูกเวทย์มนต์ของวูชินนั้น มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทำให้ป่านั่น เจอเผาไวมากพวกมอนเตอร์ ต่างวิ่งหนีตายกันอย่างสุดชีวิตเลย

เลเวลของเขา อาจจะแค่ 14 แต่แค่สถานะของเขานั้นเทียบได้กับเลเวล 40 เลย

*

*

แฮมินสั่งอาหารเดลิเวอรี่ จากร้านอาหารใกล้ๆดันเจี้ยนนี้มากิน

“หัวหน้า นี่อาหารเย็นครับ”

มินชานและแฮมินนั้น นั่งกินเส้นก๋วยเตี๋ยวไปพร้อมกับตั้งคำถาม

“เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว”

“4 ชั่วโมงแล้วครับ”

“อื้ม ..ในนั้นคง 16 ชั่วโมงแล้ว”

สำหรับดันเจี้ยน 4 ดาวนั้น เวลาในดันเจี้ยนจะไวกว่าด้านนอก 4 เท่า มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหลบซ่อนอยู่ในนั้นเป็นเวลา 16 ชั่วโมง

เอาเถอะ เผื่อเกิดไรขึ้น เรารอพวกเขาอยู่ที่นี่แหละ

*

ไฟยังไหม้อยู่เรื่อยๆในป่าแห่งนี้

ซังกูนั้น ได้เก็บผลไม้ และเห็นที่ไม่ถูกเผาไว้

“พี่ ...ผมเก็บพวกนี้ได้”

“อืม ..ดีมาก”

วูชินหยิบผลไม้จากซังกูมา เพื่อตรวจสอบ

“ผลไม้บางชนิดกินได้ เมื่อปอกเปลือก บางชนิดมีพิษ บางชนิดกินได้เมื่อเผาไฟ”

วูชินอธิบาย เรื่องพวกนี้ให้ซังกูฟัง ซังกูรู้สึกเสียใจมาก เขาอยากจะจดมันไว้ในโน้ตบุ้คมากกว่าที่จะนั่งจำ

“พี่ชาย ทำไมพี่รู้เรื่องพวกนี้ล่ะครับ”

“เอ่อ คือว่า...”

แน่นอน เขามีความรู้เกี่ยวกับมัน สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ระบบนิเวศทั่วๆไปที่เขาเคยอาศัยอยู่เกือบ 20 ปี

“อื้ม ..ทำไมนายไม่ฟังที่ฉันพูดละ”

“ขอโทษครับ ผมจะไม่ถามมันอีกแล้ว”

“ไปตัดหญ้าตรงหน้ามา มันสามารถกินกับเนื้อได้ และยังกินคู่กับเห็ดบางชนิดได้อีกด้วย”

“ครับผม แล้วเมนูนี้ล่ะครับ”

“เนื้องู... มันอร่อยมาก แต่ฉันเบื่อเนื้อละ เราไปกินคั่วเห็ดกันดีกว่า”

ซังกูรู้สึกแปลกใจมาก ทุกๆอย่างที่วูชินทำนั้น มันอร่อยมาก

*

มินชานกินอาหารของเขาหมดแล้ว

เวลาปัจจุบันคือ 07:45

ตอนนี้ซังกู อยู่ในดันเจี้ยนเป็นเวลา 4 ชั่วโมง 20 นาทีแล้ว

แฮมินไปเอาผ้าห่มมาให้มินชาน

“หัวหน้าครับ... อากาศเริ่มเย็นแล้ว”

“โอ้ววว ขอบคุณมาก”

“หัวหน้า.. พวกเราไม่สามารถรอวูชินและซังกู ได้นะครับ”

“หัวหน้าคิดว่าไงถ้าเราสลับกันเฝ้าจะดีกว่า”

“เราต้องส่งรายงานให้ท่านประธานไหมครับ”

“ก็ต้องส่งแหละ แต่เขาไม่สนใจหรอก”

“อะไรนะ?”

ถ้าไม่ใช่คำสั่งของท่านประธาน ทำไมพวกเขาต้อง พยายามมากขนาดนี้

“เฮ้ ..แฮมิน”

“ครับ หัวหน้า”

“รู้อะไรไหม 5 ปีที่ผ่านมา สายตาฉันไม่เคยผิดพลาด”

มินชานนั้นเกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนตั้งแต่สมัย ดันเจี้ยนปรากฎแรกๆ เขาไม่ใช่สมาชิกของกิลล์ค้อน แต่เขามีชื่อเสียงมาก

กิลล์ค้อนนั้น มีผู้มีพลังระดับ A สองคน หนึ่งในนั้นคือ ปาร์ค จินวู ซึ่ง จาง มินชาน เป็นคนค้นพบ

“ฉันรู้สึกถึงพลังจากไอบ้า วูชินนะสิ”

“เขามีศักยภาพที่คล้ายคลึงกัน”

“นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่อยากเสียเขาไป”

“นี่คือเหตุผลที่ผมต้องการให้พวกเขากลับมาแบบมีชีวิต ฉันไม่สนหรอก ถ้าเขาไม่เข้าร่วมกับกิลล์ค้อน”

“.....หัวหน้า.....”

แฮมินมองหน้าเจ้านายของเขา ถึงแม้เจ้านายจะดูงี่เง่าบ้างในบางครั้ง แต่สำหรับวันนี้แล้ว เขาเท่ห์มาก

“เราอธิษฐานกันไหมครับ หัวหน้า บางทีพวกเขาอาจจะปลอดภัย”

“คงยากแหละ”

“.....?”

“ไอ้พวกที่เฝ้าหินเวทย์มนต์กลับออกดันเจี้ยนนั้นโหดมาก”

“......”

“ถึงแม้ว่าพวกนั้นจะตาย...”

“......”

“เขาก็จะเอาศพ พวกนั้นกลับไป”

*

“พี่...เราเจอหินเวทย์มันกลับออกดันเจี้ยนแล้วครับ มันอยู่ตรงนี้”

หลังจากที่วูชินเผาป่าจนวอดวาย เขาก็เจอหินเวทย์มนต์ที่ลอยอยู่ตรงกลางแท่นหิน

ขณะที่ซังกูกำลังวิ่งเข้าหาหินเวทย์มัน วูชินก็ดึงซังกูกลับมาอย่างรวดเร็ว

กับดักไม้ไผ่เฉียดหน้า ซังกูไปนิดเดียวเท่านั้น ถ้าวูชินไม่ดึงเขาไว้ ป่านนี้เขาได้ตายไปแล้วแน่ๆ แต่ก่อนที่ซังกูจะได้พูดนั้น เขาก็เห็นสิ่งหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า มันทำให้เขาหมดคำที่จะพูด

By… Mheeezaa ได้เวลาซัดบอสสแล้ว

รีวิวผู้อ่าน