ตอนที่ 3 การ์ดสีเขียวระดับหายาก
แค่เพียงวันแรกของการฝึกทหารใหม่ก็ได้ท้าประลองปืนกับหัวหน้าครูฝึก!
เรื่องนี้เป็นเหมือนการขว้างระเบิดมือลงไปในสระน้ำจนเกิดระลอกคลื่นเขย่าฐานฝึกทหารใหม่ทั้งหมด
ยิ่งกว่านั้นผู้ที่ท้าทายยังเป็นเพียงทหารเกณฑ์ที่เป็นลมแดดเมื่อช่วงเช้า ถึงกับกล้าท้าทาย จ่าสิบเอกซึ่งเป็นครูฝึกทหารอาชีพในระดับหัวหน้า ดังนั้นเรื่องนี้จึงทำให้ผู้คนในฐานเกิดความรู้สึกเหมือนแผ่นดินไหว
ทั้งทหารและเจ้าหน้าที่อื่น ๆ หลังจากได้ยินเรื่องนี้ต่างพากันตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันได้ยินมาว่า หัวหน้าเบรนต์ เคยแข่งขันยิงปืนและยังติดหนึ่งในสามของผู้แข่งขันทั้งหมด”
“ไอ้หมอนั่นกล้าท้าทาย หัวหน้าเบรนต์ นี่มันไม่บ้าไปหน่อยเหรอ?”
“การใช้แต่อารมณ์ของตนเองเป็นที่ตั้ง สุดท้ายแล้วก็คงจบลงอย่างขายขี้หน้าพร้อมกับถูกโยนกลับบ้านในฐานะหมาขี้แพ้”
ไม่ว่าในกรณีใดๆ นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนครื้นเครง เกือบจะถึงเวลานัดหมาย เกือบทุกคนในฐานฝึกอบรมได้ไปที่สนามยิงปืนเพื่อหวังว่าจะได้เห็นความพ่ายแพ้ของ พลทหารไคล์
“ ไคล์ นายมันห่ามเกินไป” สตีฟ ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ นายยังไม่เคยยิงปืน แล้วแบบนี้จะไปเทียบกับครูฝึกในกองทัพได้อย่างไร? ตอนนี้ยังพอมีเวลาให้นายย้อนกลับไปและขอโทษ หัวหน้าเบรนต์ บางที..... ”
“ผ่อนคลายเข้าไว้หลังจากเดิมพันครั้งนี้จะไม่มีใครมาดูถูกพวกเราได้อีก” ไคล์ ยังคงสงบและไม่มีทีท่าว่าจะมีความตึงเครียดเลยแม้แต่น้อย
เพราะเขาได้รับ “การ์ด” ที่สามารถควบคุมชัยชนะในเกมนี้เอาไว้แล้ว!
สนามฝึกซ้อมยิงปืน
บนอัฒจรรย์สองฝั่งข้างของสนามยิงปืนในตอนนี้มันหนาแน่นไปด้วยเหล่าทหารที่ได้รับการบรรจุ พวกเขาต่างก็สวมหมวกเหล็กสีเขียว และเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมากซึ่งต่างก็สวมเครื่องแบบทหารกำลังดูมีชีวิตชีวาเช่นกัน
หัวหน้าเบรนต์ เป็นคนแรกที่เข้ามาในสนามยิงปืนพร้อมกับหญิงสาวที่ยังคงถือเอกสารอยู่ในมือ หลังจากเห็น สตีฟ นำ ไคล์ เข้ามาในสนามยิงปืน หัวหน้าเบรนต์ ก็ไปที่โต๊ะเพื่อจัดเตรียมอาวุธปืนที่จะใช้ในการประลอง:“ มีปืนไรเฟิลทุกรุ่นที่ใช้ในกองทัพสหรัฐฯ อยู่ที่นี่นายสามารถเลือกด้วยตนเองได้ตามใจชอบ”
ไคล์ พยักหน้าแต่ไม่ได้ไปที่โต๊ะ เขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม:“ ฉันไม่รู้ว่าปืนที่ คุณคาเตอร์ ใช้ ช่วยให้ฉันยืมหน่อยจะได้ไหม?”
คาร์เตอร์ เงยหน้าขึ้นมองด้วยใบหน้าที่สวยงามของชาวยุโรปและชาวอเมริกันริมฝีปากสีแดงระเรือซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์
หลังออกจากห้องทำงานของ หัวหน้าเบรนต์ ไคล์ ก็รู้ชื่อของหญิงสาวจาก สตีฟ ซึ่งเธอก็คือ เอเจ้นท์ คาร์เตอร์ หรือ เพ็กกี คาร์เตอร์ หญิงสาวที่สวยงามที่เขาเห็นในภาพยนตร์
"แน่นอน. แต่คุณแน่ใจหรือว่าจะใช้ปืนของฉันในการประลอง?” คาร์เตอร์ พูดอย่างเย็นชาพร้อมกับถือปืนพกที่ละเอียดอ่อนเอาไว้ในมือของเธอ
“ เฮ้ พลทหารไคล์ นี่นายล้อเล่นใช่ไหม? นายจะใช้ปืนพกมาประลองกับปืนไรเฟิลของฉันเนี่ยนะ”
แม้ว่าเป้ายิงจะอยู่ห่างเพียง 50 เมตรแต่ความแม่นยำของปืนพกจะมาสู้ปืนยาวได้อย่างไร?
“ ขอให้ผมได้ยืมปืนของคุณหน่อย” ไคล์ ยืนยันที่จะใช้ปืนพกจาก คาร์เตอร์ ปืนพกที่ละเอียดอ่อนดูเหมือนจะเหมาะสำหรับผู้หญิง แต่ตัวปืนเป็นประกายเงางามเมื่อต้องแสงจากดวงอาทิตย์ มันเป็นปืนของนักฆ่าอย่างไม่ต้องสงสัย และยังเป็นสุดยอดอาวุธ
“ ปืนที่ดี” ไคล์ ชื่นชมพร้อมกับควงปืนพกไปมาทำความคุ้นเคยกับมัน
“เราจะประลองกันสามนัด ฉันไม่ต้องการเสียลูกกระสุนปืนของกองทัพเพราะนาย” หัวหน้าเบรนต์ กล่าวพร้อมกับถือปืนไรเฟิลไว้ในมือแล้วเดินไปที่แท่นยิง
“ตกลง สามนัดก็สามนัด เชิญหัวหน้าเริ่มก่อน” ไคล์ ยิ้มและพูดราวกับสุภาพบุรุษ
“ คนหนุ่มสาวที่อาศัยอยู่แต่ในเรื่องเพ้อฝัน ฉันจะแสดงให้นายได้เห็นว่าโลกแห่งความจริงมันเป็นยังไง”
หัวหน้าเบรนต์ เหนี่ยวไกปืนด้วยความเร็วที่รวดเร็วอย่างยิ่ง หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เป้าที่อยู่ในระยะ 50 เมตรก็มีรูกระสุนปืนสามนัดเรียงกันอยู่ตรงกลางเป้าพอดิบพอดี
หลังจากยิงปืนออกไปเขายืนขึ้นด้วยความพึงพอใจกระสุนปืนไรเฟิลยิงเข้าเป้าหมายในระยะ 50 เมตรนี่เป็นรากฐานรวมทั้งประสบการณ์การยิงปืนในกองทัพมานานกว่า 20 ปีซึ่งถือเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
ในไม่ช้าครูฝึกตรวจเช็คเป้ายิงอย่างละเอียดแล้วเอ่ยขึ้นว่า:“ ยิงเข้าเป้าในระยะ 50 เมตรมีหนึ่งนัดยิงเข้าวงแหวนรอบนอกของจุดกลาง และมีสองนัดยิงเข้าจุดตรงกลางรวมคะแนนทั้งหมด 29 คะแนน!”
คะแนน 29 คะแนนเกือบสมบูรณ์แบบ!
ผู้ชมในสนามยิงปืนต่างก็พากันอุทานออกมาและ หัวหน้าเบรนต์ก็พอใจกับผลงานตนเอง แต่การแสดงออกของเขายังคงจริงจัง เขาส่ายหน้าแล้วพูดว่า“ การปรับศูนย์เล็งยังไม่ดีพอมิฉะนั้นการยิงให้เข้าเป้าทั้งสามก็ง่ายมาก”
“โอ้ ถึงตาผมแล้ว” ไคล์ ยักไหล่แล้วเดินไปที่แท่นยิง
เขาอาศัยอยู่ในยุคที่สงบสุขในชีวิตที่ผ่านมาของเขายิ่งไม่ต้องพูดถึงการฝึกยิงปืนพก ซึ่งเขาไม่เคยแตะต้องมันเลยแม้แต่น้อย แต่ในเวลานี้เขามีระบบการ์ดและมีการ์ดทักษะการใช้ปืนพก ดังนั้นปืนพกที่อยู่ในมือของเขาจึงให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อมองไปที่เป้าหมายในระยะไกลการเคลื่อนไหวของ ไคล์ ไม่ค่อยราบรื่น แต่เขายังคงยกแขนขึ้น ในเวลาน้อยกว่าครึ่งวินาที เขาเล็งไปที่เป้าพร้อมกับลั่นไกยิงลูกกระสุนสามนัดออกไปที่เป้าทันที!
“ ครั้งนี้ฉันคงได้แต่ส่งนายกลับบ้านจริงๆ” หัวหน้าเบรนต์ ส่ายหน้า ระยะ 50 เมตรมันเป็นเป้ายิงสำหรับปืนไรเฟิล
หาก ไคล์ ต้องการที่จะเอาชนะเขาจริงๆก็ต้องยิงให้เข้าเป้าตรงกลางทั้งสามนัดซึ่งโอกาสเช่นนั้นมันเกือบจะเป็นศูนย์สำหรับทหารเกณฑ์ใหม่เช่น ไคล์
ครูฝึกตรวจสอบเป้ายิงในระยะ 50 เมตรพร้อมกับรายงานดังๆว่า:“ พลทหารไคล์ ยิงไม่เข้าเป้าแม้แต่นัดเดียวคะแนนรวม 0 คะแนน”
ในช่วงเวลาที่ยิงปืนทั่วทั้งสนามต่างพากันเงียบกริบ หลังจากคำประกาศของครูฝึกดังออกมาสนามยิงปืนทั้งสนามก็ดังขึ้นและดังขึ้น
หัวหน้าเบรนต์ นั้นรู้สึกอึดอัดเช่นกัน เขาคิดว่า ไคล์ ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจจะทำได้ดีกว่านี้ แม้ว่ามันจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้ แต่อย่างน้อยเขาก็จะต้องยิงให้ถูกเป้า แต่นี่อะไร? มันกลับล้มเหลวทั้งสามนัด
“สุดท้ายแล้วมันเป็นแค่เพียงเรื่องตลก ไคล์ นายต้องเก็บข้าวของและออกไปจากที่นี่ซะ” หัวหน้าเบรนต์ ส่ายหน้า แต่ ไคล์ ยังคงยืนอยู่บนแท่นยิงพร้อมกับตะโกนขึ้นว่า“ ครูฝึกโปรดตรวจสอบเป้ายิงในระยะ 100 เมตร”
“ เป้ายิงระยะ 100 เมตร? นี่นายยังขายหน้าไม่พอรึไงยังจะมาเล่นมุขตลกอยู่อีก!” ในที่สุด หัวหน้าเบรนต์ ก็อดที่จะโกรธไม่ได้เขายกปืนไรเฟิลที่อยู่ในมือชี้ปากกระบอกปืนไปที่หัวของ ไคล์ แล้วพูดขึ้นว่า“ เชื่อหรือไม่ฉันจะยิงหัวนาย!”
ไคล์ พูดอย่างใจเย็น:“ ก่อนที่คุณจะยิงผม คุณควรรอให้ครูฝึกตรวจสอบและรายงานเป้ายิงในระยะ 100 เมตรก่อนดีกว่าไหม?”
"นายมันบ้า? อยากให้ฉันยิงหัวนายจริงเหรอ?!” หัวหน้าเบรนต์ วางนิ้วบนไกปืน ในขณะเดียวกันครูฝึกก็รีบรายงานหลังจากตรวจสอบเป้ายิงในระยะ 100 เมตร:
“ รายงาน! รายงาน! พลทหารไคล์ ยิงเข้าเป้าตรงกลางในระยะ 100 เมตรทั้งสามนัดคะแนนรวมทั้งหมด 30 คะแนน!”
ยิงเข้าเป้าตรงกลางทั้งหมดในระยะ 100 เมตร!
บรรยากาศภายในสนามก่อนหน้าเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเยาะเย้ย มันก็เงียบลงอีกครั้ง
สีหน้าของ หัวหน้าเบรนต์ เต็มไปด้วยความตกตะลึงและไม่เชื่อดังนั้นเขาจึงเอ่ยถามครูฝึกอีกครั้ง หลังจากครูฝึกยืนยันผลจากการตรวจสอบ เขาก็ลดปืนที่อยู่ในมือลงทันที
“ ในเมื่อเป็นเช่นนี้การประลองในครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายชนะ หัวหน้าคงไม่ว่าอะไรถ้าผมจะฝึกฝนอยู่ที่ค่ายทหารนี้ต่อไป” ไคล์ ก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก การถูกปืนจ่อหัวนี่มันไม่ใช่เรื่องตลก
อย่างไรก็ตามผลที่ได้คือเขาชนะ เพราะฉะนั้นมันจะไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับเขา
หลังจากเอ่ยกับ หัวหน้าเบรนต์ ไคล์ ก็เดินออกจากแท่นยิงพร้อมกับมุ่งหน้าไปยัง คาร์เตอร์ และส่งปืนพกคืนให้เธอ
คาร์เตอร์ มองเขาด้วยความประหลาดใจและพูดด้วยอารมณ์:“ ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะสามารถเอาชนะได้ด้วยปืนพก”
“ คุณเองก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน” ไคล์ ยิ้มและตอบกลับ
"คุณรู้ได้อย่างไร?" คาร์เตอร์ อดไม่ได้ที่จะถาม
“ก็แค่เดา แต่วันนี้คุณคือเทพธิดาแห่งชัยชนะของผม ครั้งต่อไปถ้ามีโอกาสผมอยากจะเลี้ยงข้าวคุณเพื่อเป็นการขอบคุณ” หลังจากพูดจบ ไคล์ ก็เดินออกจากสนามยิงปืน
…………………...
ด้านนอกสนามยิงปืนเมื่อ สตีฟ เห็น ไคล์ เดินออกมา เขาก็วิ่งเข้าไปสวมกอดพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า:“เฮ้ นายทำให้ฉันกลัวจริงๆ!”
“เฮ้ๆนายออกห่างๆไปเลยฉันไม่ใช่เกย์นะ”แม้ว่า ไคล์ จะพูดอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วเขาก็ตบไปที่ไหล่ผอมบางของ สตีฟ เบาๆ
“ฉันไม่คิดเลยว่านายจะยิงปืนได้เก่งมากๆถึงขนาดนั้น เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ต่อไปนายต้องสอนฉัน” สตีฟ พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“แน่นอนก็ใครใช้ให้ฉันเป็นเพื่อนของนายกันล่ะ”
ชายหนุ่มทั้งสองคนพากันเดินเคียงบ่าเคียงไหลไปที่โรงอาหาร
ส่วนผู้ชมที่อยู่ในสนามยิงปืนไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำปรบมือและในไม่ช้าเสียงปรบมือก็ดังสนั่นไปทั่วทั้งสนามยิงปืน
ผู้คนที่เคยหัวเราะเยาะเย้ยก่อนหน้านี้ต่างก็อับอายและโค้งคำนับลงอย่างช่วยไม่ได้
ยิงเข้าเป้าทั้งสามนัดในระยะ 100 เมตรด้วยปืนพก กับยิงเข้าเป้าในระยะ 50 เมตรด้วยปืนไรเฟิล! แน่นอนผลของการประลองมันชัดเจน! ด้วยการยิงที่แม่นยำรวมทั้งระยะการยิงที่ไกลมันก็มีค่าพอสำหรับเสียงปรบมือและความเคารพจากทุกคนในค่ายทหาร
“อาหารของกองทัพนั้นมีโภชนาการเพียงพอต่อร่างกาย แต่รสชาติยังใช้ไม่ได้” หลังอาหารเย็น ไคล์ กลับไปที่หอพักทหาร หลังจากการประลองในครั้งนี้จบลง ทัศนคติของเหล่าทหารเกณฑ์ในหอพักก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือ สตีฟ ต่างก็ถูกกลั่นแกล้งเยาะเย้ยถากถาง แต่ว่าตอนนี้มันแปรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
นี่คือประโยชน์จากการแสดงความแข็งแกร่งและพรสวรรค์
ในตอนนี้ ไคล์ เพลิดเพลินไปกับการคว้าการ์ดที่อยู่รอบๆตัวเขาเพื่อปรับปรุงความแข็งแกร่งของตนเอง
ในห้องพักมีเกือบ 20 คน เขาเป็นเหมือนฟองน้ำแห้งที่คอยซึมซับการ์ดทุกชนิดที่อยู่รอบตัวเขาอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามทหารเกณฑ์เหล่านี้ยังเด็กและยังเยาว์วัย แม้ว่าพวกเขาจะมีการ์ด แต่ส่วนใหญ่จะจำกัดอยู่ที่การ์ดสีขาวและการ์ดสีเขียวจางๆ ซึ่งถือว่าเป็นระดับธรรมดาทั่วไป
มันก็ยังดีที่ก่อนหน้านี้เขาได้รับการ์ดสีเขียวจาก คาร์เตอร์ ซึ่งมีการ์ดสีเขียวมากกว่า 20 ใบ มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นว่าเขาจะสกัดการ์ดเขียวเสร็จสิ้นเมื่อไหร่
ไคล์ ที่รวบรวมการ์ดเหล่านั้นมากำลังนั่งครุ่นคิดอยู่บนเตียง เมื่อ สตีฟ เห็นเช่นนั้นเขาก็เอ่ยถามอย่างสงสัยว่า“ ไคล์ นายกำลังคิดอะไรอยู่?”
ไคล์ ที่กำลังครุ่นคิดอยู่เพลินๆก็เอ่ยขึ้นว่า“ฉันกำลังนึกถึง คุณคาเตอร์”
“ อ๊ะ เอเจ้นต์ คาเตอร์” ทันทีที่ สตีฟ ได้ยินชื่อใบหน้าของเขาก็แข็งทื่อ
“ใช่ เอเจ้นต์ คาเตอร์” ไคล์ ยิ้มและเอ่ยต่ออีกว่า “มั่นใจได้เลยฉันไม่คว้าผู้หญิงที่นายหมายปองหรอกน่า”
“นายพูดอะไร….ฉัน..” อารมณ์สนุกของ สตีฟ หายไปอย่างรวดเร็ว “ ฉันควรเลิกใฝ่ฝัน เธอเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ฉันไม่มีอะไรที่จะไปเทียบกับเธอได้เลย”
“นายอย่าดูถูกตัวเองไป สตีฟ นายต้องเชื่อมั่นในพรสวรรค์และอนาคตของนาย” ไคล์ ตบไหล่ของ สตีฟ เบาๆ
ท้ายที่สุด สตีฟ คือ กัปตันอเมริกา! ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองของ มาร์เวล มันเป็นตัวชูโรงที่เหมาะสม
“ ขอบคุณน่ะ ไคล์” สตีฟ ฝืนยิ้มพร้อมกับพยักหน้าและเดินกลับไปที่เตียงของเขา
ฉันจะต้องฝึกฝนตนเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก แม้ว่าฉันจะมีความสามารถของระบบการ์ดที่ช่วยให้ฉันแข็งแกร่งก็ตาม
ไคล์ มองตามหลัง สตีฟ พร้อมกับครุ่นคิดถึงวิธีการฝึกฝนของเขา
นอกเหนือจากการ์ดสีขาวที่มีความสามารถมากกว่าร้อยใบที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ตอนนี้เขาใช้การ์ดสีเขียวไปเพียงห้าใบ
[เชี่ยวชาญการใช้ปืนไรเฟิล]
[เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ]
[เชี่ยวชาญมวยทหาร]
[เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยา]
[เชี่ยวชาญการใช้ปืนพก]
ในหมู่การ์ดสีเขียวทั้งห้าใบ การ์ด[เชี่ยวชาญการใช้ปืนพก] นั้นน่าทึ่งกว่าการ์ดสีเขียวอีกสี่ใบ
[เชี่ยวชาญการใช้ปืนพก]: มีความเชี่ยวชาญในทักษะปืนสั้นที่สมบูรณ์แบบ ระดับการ์ดสีเขียวหายาก
นี่คือการ์ดที่มีค่าที่สุดของ ไคล์ ซึ่งได้จาก คาร์เตอร์ ด้วยการ์ดหายากใบนี้เขาสามารถเอาชนะ หัวหน้าครูฝึก ที่มีความสามารถด้านปืนไรเฟิลได้อย่างง่ายดาย
มิฉะนั้นแล้วหากเขาใช้ การ์ดความเชี่ยวชาญการใช้ปืนไรเฟิล ไปประลองกับ หัวหน้าเบรนต์ ผลสุดท้ายคงได้แต่เสมอกันโอกาสชนะมีเพียง 50-50
“ การ์ดสีเขียวหายาก การ์ดสีเขียว และ การ์ดสีขาว”
“ การ์ดความสามารถสีเขียวนั้นหายากกว่าการ์ดสีขาวและข้อกำหนดนั้นสูงกว่ามาก ระยะเวลาในการสกัดก็มีมากกว่าเช่นกัน”
“ ตอนนี้การ์ดสีเขียวที่ยังไม่ได้สกัดไม่ค่อยจะมีประโยชน์มากนัก สิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดคือ การ์ดความสามารถสีเขียวที่สามารถยกระดับความแข็งแกร่งทางร่างกาย!”
ร่างกายนี้เป็นลมตั้งแต่วันแรกของการฝึกฝนดังนั้นการที่จะปรับตัวให้เข้ากับการฝึกที่ดุเดือดของค่ายทหารเขาต้องเปลี่ยนแปลงร่างกายก่อนเป็นอันดับแรก
เขาต้องดึงความสามารถของคนอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องทางด้านร่างกายเช่น การ์ดสีเขียว[การฝึกทหารแบบพิเศษ], การ์ดสีเขียว[การวิ่งแบบพิเศษ], การ์ดสีขาว [การว่ายน้ำแบบพิเศษ] เป็นต้น ซึ่งการ์ดเหล่านี้สามารถปรับปรุงร่างกายได้.
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ การ์ดสีขาว เพิ่มความสามารถได้ไม่มาก และมีเพียง การ์ดความสามารถสีเขียวเท่านั้นที่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายได้ในระดับหนึ่ง
“ พรุ่งนี้มองหาการ์ดความสามารถต่อไป มุ่งเน้นไปที่การ์ดสีเขียวที่ช่วยเพิ่มความสามารถทางร่างกาย”
ตาของ ไคล์ เป็นประกายฐานฝึกทหารทั้งหมดคือเป้าหมายของการล่าการ์ดของเขา!