ตอนที่ 7 เข้าสู่สนามรบ
ปี พ.ศ. 2486 ในสงครามโลกครั้งที่สอง
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำสูงสุดของเยอรมันส่งกองทัพเข้ารุกรานยุโรป
ไคล์ ถูกส่งตรงไปยังหน่วย 102 กองกำลังนาวิกโยธินที่ 6 ในแนวหน้า
ในช่วงบ่ายเฮลิคอปเตอร์ทหารมาที่ฐานฝึกอบรมเพื่อรับคน ไคล์มาถึงแถวหน้าประมาณ 09:00 น. เมื่อเฮลิคอปเตอร์มาถึงค่ายชั่วคราวของหน่วยรบเขาก็รู้ได้ในทันทีว่าทำไมเขาถึงถูกส่งมาที่นี่อย่างเร่งรีบ
เมื่อมองลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ภายใต้แสงไฟสลัวๆ เต็นท์ทหารในค่ายชั่วคราวถูกสร้างขึ้นอย่างไม่เป็นระเบียบ เจ้าหน้าที่และทหารต่างก็วิ่งกันขวักไขว่ราวกับมดบนหม้อไฟ มันเป็นภาพที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
“ **ไอ้พวกเวรนั่นยังคงผลักดันเข้ามาเรื่อยๆพวกเราต้องการปืนใหญ่ช่วยยิงสนับสนุนอย่างเร่งด่วน!”
เสียงจากวิทยุสื่อสารดังขึ้นมาเป็นระยะๆ
“ มาช่วยฉันหน่อย เรียกหมอมาที!”
“เฮ้นายเป็นอะไรไหม? หมอ! หมอ! ที่นี่มีคนเจ็บ!”
บริเวณโดยรอบก็วุ่นวายไม่น้อยเช่นกัน
“ ทุกหน่วยเตรียมเสริมทัพในเขตสู้รบ! ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกมันเหยียบย่ำดินแดนของพันธมิตรเราได้อีกต่อไป!”
หัวหน้าหน่วยทหารตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ดังกึกก้อง ทหารทุกคนพกอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ที่เพิ่งมาจากเฮลิคอปเตอร์ และทะยอยเข้าไปนั่งในรถลำเลียงทหารที่เต็มไปด้วยดินโคลนหลังจากนั้นรถก็มุ่งเข้าไปในเขตสู้รบ
กองทัพสหรัฐฯซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของระเบียบวินัยที่เข้มงวดพวกเขาเตรียมความพร้อมในการสู้รบอย่างเต็มที่
"เฮ้ ทหาร! นายเป็นทหารใหม่ที่ถูกส่งมาช่วยในภารกิจใช่ไหม?” เจ้าหน้าที่ที่มีเครารกครึมและมีเหงื่ออยู่เต็มหน้าเอ่ยถาม ไคล์ หลังจากเห็นเขาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ทหาร
“ครับ ผมพลทหารไคล์ มารายงานตัวครับผม” ไคล์ ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ มีแค่นาย? เอาล่ะไม่จำเป็นต้องมากพิธี ตอนนี้เรามีคนไม่พอนายเตรียมอาวุธและมุ่งหน้าไปที่สนามรบโดยตรง!” เจ้าหน้าที่หนวดเคราพูดอย่างเร่งรีบและเอากระเป๋าเป้ของ ไคล์ ขว้างเข้าไปในเต็นท์ค่ายทหาร
มันเป็นความจริงที่ว่าทหารเกณฑ์ยังไม่มีประสบการณ์ในการสู้รบ และการไปยังสนามรบครั้งแรกนั้นโดยทั่วไปจะไม่มีใครรอดกลับมา!
"เข้าใจแล้ว." ไคล์ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นสวมชุดต่อสู้ และสวมหมวกเหล็กพร้อมกับชุดเกราะ เขาถือปืนไรเฟิลจู่โจมแล้วกระโดดขึ้นไปบนรถบรรทุกลำเลียงเสบียงและยุทโธปกรณ์
นี่คือภารกิจของเขาคือการคุ้มกัน รถบรรทุกลำเลียงคันนี้.
เมื่อรถบรรทุกเคลื่อนที่มันก็มุ่งหน้าเข้าไปในเขตสู้รบด้านหน้าอย่างรวดเร็วและแสงไฟที่อยู่ด้านหน้ารถก็สาดส่องเข้าไปในความมืด
ไคล์ จับปืนยาวพร้อมกับเงี่ยหูฟังเสียงระเบิดและเสียงปืนที่ดังอยู่ด้านหน้ารถลำเลียงและมันก็ดังชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
“ภายในจิตใจของฉันไม่มีความหวาดกลัว - แต่มันกลับตื่นเต้น?” ไคล์ พึมพำกับตัวเอง อาจเป็นเพราะเขาใช้การ์ดที่เกี่ยวข้องกับจิตใจมากกว่าหนึ่งโหลมันก็เลยทำให้เขาสงบและไม่มีความหวาดกลัว
ช่างมันเถอะ! เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
สายตาของ ไคล์ มองไปทางด้านหลังของรถลำเลียง ทันใดนั้นชื่อรายการสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในกล่องอย่างแน่นหนาก็ลอยปรากฏอยู่เหนือกล่อง
[ชุดปฐมพยาบาล]
[ชุดแพทย์ฉุกเฉิน]
[อาหารกระป๋อง]
[ระเบิดมือ]
[ปืนไรเฟิลจู่โจม]
[กระสุนปืนไรเฟิลขนาดกลาง]
......
สิ่งเหล่านี้เป็นการ์ดไอเท็มสีขาวจำนวนมากรวมถึงการ์ดไอเท็มสีเขียวบางการ์ดอย่างเช่น [ระเบิดแรงสูง], [ปืนไรเฟิลแรงสูง] และ [จรวดสั้นประทับบ่า].....
และมีบางอย่างเป็นการ์ดรายการ!
การ์ดรายการเหล่านี้มีความแตกต่างจากที่ผ่านๆมาซึ่งมันสามารถสกัดและนำมาใช้งานได้!
“มันแตกต่างไปจากเดิม” ดวงตาของ ไคล์ เป็นประกายพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง: "เป็นแบบนี้นี่เอง...ฉันจะไม่สามารถได้รับการ์ดจากสิ่งที่เป็นของคนอื่นได้ แต่ยุทโธปกรณ์เหล่านี้ไม่มีกรรมสิทธิ์ในการครอบครองชั่วคราวดังนั้นฉันจึงได้รับการ์ดและสามารถนำมาใช้ได้อย่างอิสระ”
ไคล์ เริ่มดึงการ์ดไอเท็มและบางส่วนมันก็เป็นการ์ดรายการพร้อมกับทดลองใช้
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่า “การ์ดไอเท็มสีเขียว” น่าจะใช้เวลาในการสกัดนานกว่าสามนาทีเหมือนกับ “การ์ดความสามารถสีเขียว” แต่ผิดคาดมันใช้เวลาเพียงแค่สามวินาทีเท่านั้น
ปัง! ปัง! ปัง! วีดดด ตูมมม!
ในขณะที่ ไคล์ กำลังทดสอบระบบการ์ดไอเท็มอยู่นั้น เสียงปืนก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน พลละขับและทหารที่นั่งอยู่ข้างๆก็ส่งเสียงกรีดร้องจากนั้นรถลำเลียงเสบียงก็กระแทกเข้ากับสิ่งกีดขวางพร้อมกับหยุดลง
ข้าศึก!
ไคล์ ตอบสนองรวดเร็วมากและบังคับร่างกายให้อยู่ในสถานะเตรียมพร้อม เขาถือปืนอย่างเงียบ ๆ และเอนตัวพิงกะบะด้านหลังคนขับพร้อมกับฟังเสียงที่อยู่ด้านนอก
'ตุบ..ตุบ..ตุบ...'
เสียงฝีเท้ามากมายเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ไคล์ เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าพวกข้าศึกจะไม่ต้องการทำลายรถบรรทุกแต่พวกมันต้องการปล้น
“ พวกมันไม่คิดที่จะทำลายเสบียงและอุปกรณ์บนรถ นี่เป็นโอกาสของฉัน” ไคล์ สงบมากและทักษะการฝึกฝนที่ได้รับจากการ์ดความสามารถนับร้อยก็ประดังขึ้นมาในหัวของเขาในขณะนี้
เขาถือปืนไว้ในมือขวาส่วนมือซ้ายของเขาเลื่อนขึ้นลงในอากาศ แผงรายการไอเท็มโปร่งแสงถูกเลื่อนขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
การ์ดความสามารถและทักษะนั้นแตกต่างจากการ์ดรายการและการ์ดไอเท็ม ซึ่งมันสามารถหลอมรวมเข้ากับร่างกายและกลายเป็นความสามารถติดตัวโดยตรง แต่การ์ดรายการและการ์ดไอเท็มนั้นมันจะปรากฏเป็นแผงรายการให้เขาเลือกนำมาใช้งาน
“ ระมัดระวัง”
“ อย่าได้ผ่อนคลายตื่นตัวเข้าไว้”
ทหารข้าศึกทั้งสองกระซิบเป็นภาษาเยอรมันและเดินไปที่ด้านหลังของรถบรรทุกซึ่งมีผ้าสีเขียวคลุมเอาไว้ เมื่อพวกเขากำลังจะแหวกผ้าคลุมด้วยปืนปลายดาบ ทันใดนั้นก็มีวัตถุสีดำถูกโยนออกมาจากด้านใน
“ระเบิดมือ!”
“หลบ!”
ตูมม!
ทันทีที่เสียงระเบิดจางหายไป ร่างของทหารเยอรมันสองนายที่อยู่ข้างหน้าก็ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ก้อนกรวดและเศษเนื้อกระเด็นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณหลังจากนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งทะยานออกมาจากด้านหลังรถ
“ มีข้าศึก!”
ทหารเยอรมันที่เหลืออีกสามคนซึ่งอยู่ไม่ไกลต่างก็ร้องตะโกนขึ้นจากนั้นก็สาดกระสุนออกไปทันที
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ตูม! ตูม!
ฟุบ!
ภายใต้การกระหน่ำยิงราวกับห่าฝนและระเบิดมือที่ถูกขว้างเข้ามา ไคล์ หลบหลีกเข้าไปในที่กำบังอย่างรวดเร็วพร้อมกับหาจังหวะตอบโต้
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นจากเงามืดและทหารเยอรมันคนแรกถูกยิงที่ตรงกลางระหว่างคิ้วจากนั้นเลือดสีแดงผสมกับของเหลวสีขาวไหลออกมาจากรูกระสุน
เมื่อทหารเยอรมันอีกสองนายเห็นเช่นนั้นก็เกิดความกลัวขึ้นมาทันที พวกเขาหันไปยังทิศทางของกระสุนที่ยิงออกมาจากนั้นก็กระหน่ำยิงไปในทิศทางด้านนั้น
ปัง! ปัง!
ราวกับเสียงของพญามัจจุราชมันได้พรากชีวิตของทหารเยอรมันที่เหลืออีกสองนาย ร่างของพวกมันทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
"ผลลัพธ์ถือว่าไม่เลว." ไคล์ ออกมาจากหลังต้นไม้และมองไปยังร่างของทหารเยอรมันที่นอนจมอยู่ในกองเลือด
การต่อสู้ครั้งแรกในชีวิตซึ่งมีศัตรูถึงห้าคนโดยเขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยและยังสามารถสังหารได้ทั้งหมดนับว่าเป็นการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบ
“เกิดมาพึ่งเคยฆ่าคนเป็นครั้งแรก”
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขมันไม่มีความเศร้าโศกเสียใจเลยแม้แต่น้อยเมื่อเขายืนอยู่ในสนามรบมันราวกับว่าเขาเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย
ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่า เมื่อต้องประสบกับการฆ่าคนอื่นเป็นครั้งแรกรวมทั้งฉากนองเลือดอย่างมากที่ปรากฏต่อหน้าเขาอย่างน้อยก็ต้องอาเจียนออกมา
แต่แล้วหัวใจของเขากลับไม่มีความรู้สึกนั้นเลย ภายในใจของเขามันคอยพร่ำเตือนตนเองอยู่เสมอว่าหากเขาไม่ฆ่าพวกมันพวกมันก็จะฆ่าเขา บางทีบุคคลที่นอนจมอยู่ในกองเลือดอาจจะไม่ใช่พวกมันแต่เป็นเขาเอง
“ ไม่ใช่เพื่อมนุษยธรรมของอเมริกาในการปกป้องประเทศพันธมิตร แต่เพื่อตัวฉันเอง และฉันจะมีชีวิตอยู่บนสมมุติฐานของโลกใบนี้และจะยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุด” ไคล์ พูดอย่างเฉยเมยต่อศพที่อยู่บนพื้นดิน “ฉันได้แต่บอกกับพวกนายว่า..โชคของพวกนายมันไม่ดีเมื่อต้องมาเจอฉัน”