ตอนที่ 14 สินค้า!
ฐานทัพขนาดใหญ่นาซีเยอรมนี
ด้วยตาข่ายเหล็กที่มีความสูงมากกว่าสามเมตรจึงทำให้ฐานขนาดใหญ่แห่งนี้ดูแข็งแรง และมีเพียงประตูทางเข้าหลักเท่านั้นที่ไม่มีตาข่ายเหล็กป้องกัน นอกจากนี้ยังมีป้อมปราการที่ติดตั้งอุปกรณ์ครบครันเกือบ 30 แห่งอยู่รอบๆฐาน
ในช่วงเวลานี้ทหารยามหลายนายหาวเล็กน้อย ในขณะเดียวกันแสงไฟจากรถบรรทุกและเสียงเครื่องยนต์ดังมาจากระยะไกลและมาถึงทางเข้าหลักในเวลาไม่นาน
“ หยุดรถ!”
แม้จะเห็นว่าเป็นรถบรรทุกของพวกเขา แต่ทหารยามยังคงหยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ
“ขนอะไรมา” หัวหน้าทหารยามที่มีหนวดเครารกรุงรังเดินถือปืนไปที่หน้าต่างรถบรรทุกพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
หน้าต่างรถบรรทุกถูกเปิดออกเป็นช่องเล็กๆซึ่งสามารถมองเห็นผู้ขับขี่ที่สวมหมวกปีกแบนและในมือถือบัตรทหารส่งผ่านหน้าต่างรถออกมา จากนั้นคำตอบที่เหนื่อยล้าและเสียงแหบในภาษาเยอรมันก็ดังขึ้น:“เป็นเสบียงอาหาร”
“ไปตรวจสอบหลังรถ” หัวหน้าทหารยาม โบกมือของเขาและทหารสามสี่นายเดินไปข้างด้านหลังรถบรรทุกเพื่อตรวจสอบพัสดุในตู้คอนเทรนเนอร์ทันที
ใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งนาทีทหารก็กลับไปที่หัวหน้าด้วยท่าทางตกใจเล็กน้อยพร้อมกับกระซิบใกล้ๆหูของหัวหน้าทหารยามเบาๆ
เมื่อเห็นท่าทางของคนทั้งคู่ ไคล์ ที่ปลอมตัวเป็นพลละขับก็ยกคิ้วขึ้นและลดหมวกลงโดยไม่รู้ตัว
หรือว่าพวกมันพบเห็นพิรุธ?
สีหน้าของ ไคล์ นั้นยังคงเรียบเฉย แต่ร่างกายอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม หากทหารเยอรมันรับรู้ถึงตัวตนของเขา เขาก็จำเป็นต้องลงมือและทำการหลบหนีให้เร็วที่สุด
หัวหน้าทหารยามโบกมือให้ทหารที่ตรวจสอบถอยกลับไปยังตำแหน่งเดิม โดยที่เขายังคงยืนที่ข้างหน้าต่างรถเพียงลำพัง
ในขณะที่ ไคล์ ตื่นตัวอย่างลับๆใบหน้าที่จริงจังของหัวหน้าทหารยามก็เผยรอยยิ้ม จากนั้นก็นำบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขาแล้วส่งมันให้ ไคล์ แล้วพูดว่า:“ นี่พี่ชายดึกขนาดนี้ก็ยังช่วยส่ง “ของ” ให้ท่านผู้บัญชาการ มันช่างลำบากคุณจริงๆ”
ไคล์ รับม้วนบุหรี่และตอบด้วยน้ำเสียงที่เฉยชา:“นี่คือสิ่งที่ฉันควรทำ แล้วในตอนนี้ฉันเข้าไปได้หรือยัง?”
"โอ้! แน่นอน รีบๆเปิดประตูเร็วเข้า!” หัวหน้าทหารยามตะโกนสั่งทหารให้เปิดประตูทางเข้าหลักของฐาน ไคล์ ไม่ต้องการเสียเวลาเขาขับรถบรรทุกเข้าไปในฐานทันที
ฐานขนาดใหญ่นั้นไม่เหมือนกับฐานบัญชาการในเขตสู้รบ โดยเฉพาะฐานทัพของนาซีเยอรมันซึ่งมีชื่อเสียงด้านวินัยทางทหารที่เข้มงวด สองฝั่งข้างถนนมันเป็นบ้านที่สร้างจากไม้และเต็นท์ผ้าใบที่ดูแข็งแรงทนทาน
แม้แต่ในฐานยังมีแสงไฟส่องสว่างอยู่ทุกที่และหน่วยลาดตระเวนก็ลาดตะเวนเป็นระยะระยะเช่นกัน
ไคล์ ขับรถผ่านหน่วยลาดตระเวนเข้าไปในส่วนลึกของฐานซึ่งเป็นที่จอดรถบรรทุกโดยเฉพาะ
บริเวณอู่รถบรรทุกนั้นเงียบสงบและว่างเปล่า
ไคล์ ไม่ได้รีบเข้าสู่สถานะซ่อนตัว แต่รีบตรงไปที่ด้านหลังของรถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์
“ฉันดันลืมตรวจสอบสิ่งที่รถบรรทุกคันนี้ขนมา ขอดูหน่อยสิว่ามันขนอะไร ถึงกับทำให้หัวหน้าทหารยามต้องประจบประแจง..... "ไคล์ พึมพำกับตัวเองพร้อมกับดึงมีดออกมาอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ปลดล็อคประตูเหล็กของตู้คอนเทรนเนอร์
'อี้ๆ...'
เมื่อประตูเหล็กถูกเปิดออกมันก็มีเสียงร้องดังออกมาจากข้างใน
"นี่มันอะไรกัน?" ไคล์ มองเข้าไปข้างในพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้น...
เด็กผู้หญิงผิวขาวผมสีทองที่มีอายุประมาณ 16 ปี อยู่ภายใน และใบหน้าที่บอบบางของเธอเหมือนตุ๊กตาพอร์ซเลน
เธอสวมชุดสีขาวบางๆ ร่างกายที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเริ่มแสดงความงาม และร่างกายถูกมัดด้วยเชือก ที่ปากก็ถูกปิดด้วยเทปกาวซึ่งในตอนนี้เธอนอนขดตัวอยู่ในกรงไม้ขนาดใหญ่
กรงไม้ขนาดใหญ่มีฉลากสีขาวเขียนด้วยภาษาเยอรมันว่า“สินค้าที่จับได้ในยุโรปส่งมอบให้ ผู้บัญชาการลีโอ”
“ ไอ้พวกสัตว์นรกเหล่านี้”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ไคล์ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและภายในหัวใจของเขามันเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธ
เขาไม่ได้เกลียดสงคราม แต่เขาเกลียดการฉุดคร่าผู้หญิงไปเป็นทาสที่สุด
เมื่อสาวผมบลอนด์ในกรงไม้เห็นคนเปิดประตูเหล็กออก ดวงตาสีฟ้าอันงดงามของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตาพร้อมกับตื่นตระหนกและหวาดกลัว เนื่องจากปากของเธอถูกปิดด้วยเทปกาวจึงทำให้มีแค่เสียง 'อู้อี้ อู้อี้' เท่านั้น
“ อย่าได้กลัวเลย” ไคล์ เอ่ยขึ้นพร้อมกับเข้าไปใกล้ๆ แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับหวาดกลัวมากขึ้น
“เอ่อ” ไคล์ รู้ทันทีว่ามันเป็นเพราะอะไรเธอถึงกลัว เขาจึงฝืนยิ้มอย่างขมขื่นและเปลี่ยนภาษาพูดเป็นภาษาอังกฤษ:“ ไม่ต้องกังวล ฉันเป็นทหารอเมริกัน ฉันจะไม่ทำร้ายคุณ”
เขาคิดว่าแค่เพียงคำพูดมันคงไม่เพียงพอ ไคล์ จึงถอดหมวกออกและเผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา คราวนี้หญิงสาวก็ผ่อนคลายท่าทีลงในที่สุด
ไม่ว่ายุคสมัยใดใบหน้าคือก็คือหน้าต่างของหัวใจ
“ คุณอย่าพึ่งพูดอะไรในตอนนี้ ฉันจะช่วยคุณออกมาก่อน” ไคล์ เอ่ยขึ้นพร้อมกับทำลายกรงไม้และใช้มีดตัดเชือกที่มัดหญิงสาวเอาไว้ เมื่อสาวผมบลอนด์เป็นอิสระเธอก็อดไม่ได้ที่จะโผเข้าไปกอดเอวของ ไคล์ อย่างอ่อนแอและร้องไห้ออกมา.
"คุณปลอดภัยแล้ว." ไคล์ ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนพร้อมกับพูดปลอบโยนเธอ
“ใครอยู่ข้างใน?”
เสียงตะโกนถามดังอยู่ด้านนอกรถ
เด็กผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของ ไคล์ หยุดร้องไห้แต่ร่างกายของเธอกลับสั่นเทาขึ้นมาแทน
“ อย่าพูดอะไร ฉันจะจัดการกับพวกมันเอง” ไคล์ กระซิบพร้อมกับมองเธออย่างอ่อนโยน จากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นไม่แยแสและแสงเย็นชาที่ควบแน่นออกจากดวงตาของเขา
เขาตอบเป็นภาษาเยอรมันออกไปว่า“ ฉันชื่อเบิร์น มีเสบียงที่ต้องส่งมอบให้กับ ผู้บัญชาการลีโอ อยู่ในรถพวกคุณเข้ามาช่วยฉันหน่อยจะได้ไหม”
"เข้าใจแล้ว." หัวหน้าหน่วยลาดตระเวน ที่อยู่นอกรถไม่ได้สงสัยอะไร เมื่อเขาได้ยินคำขอของ ไคล์ เขาก็พาทหารห้านายไปที่ด้านหลังของรถบรรทุกเพื่อช่วยขนย้ายเสบียง
หัวหน้าหน่วยลาดตะเวน พาทหารสองนายเข้าไปในตู้คอนเทรนเนอร์ของรถบรรทุก เมื่อไฟฉายในมือของพวกเขาส่องเข้าไปด้านใน พวกเขาเห็นหญิงสาวผมบลอนด์คนหนึ่งนอนหมอบอยู่กับพื้น
“เฮ้?” เสียงของความสงสัยของหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนดังขึ้น และนั่นคือเสียงสุดท้ายของเขา
'ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว!'
แสงจากมีดกรุตข่ากระพริบอยู่ในความมืดอย่างรวดเร็วและแม่นยำ คมมีดผ่านลำคอของทหารทั้งสามนายพร้อมกับเลือดสีแดงฉานไหลทะลักออกมา
ทันทีที่ฆ่าทหารทั้งสามนายบนรถ ไคล์ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดอยู่แค่นั้นเขาพุ่งเข้าหาทหารอีกสามนายที่กำลังวิ่งเข้ามาราวกับเสือชีตาห์ ที่กำลังล่าเหยื่อ
ระยะห่างสี่หรือห้าเมตรภายใต้ความเร็วของ ไคล์ เขาใช้เวลาแค่ครึ่งวินาทีเท่านั้นก็พุ่งไปถึงเป้าหมาย
มีดในมือของ ไคล์ ตัดหัวทหารเยอรมันคนที่สี่จนมันกระเด็นออกจากร่างแล้วกลิ้งหลุนๆไปอยู่ใต้ท้องรถ!
เมื่อทหารเยอรมันที่เหลืออีกสองนายเห็นเช่นนั้นดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างด้วยความกลัวและนั่นทำให้ปฏิกิริยาของร่างกายพวกเขาช้าลงไปมาก
พวกเขาต้องการยกปืนขึ้นยิงและเปิดปากตะโกนเรียกพวกมา แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่'ความคิด' ที่ไม่สามารถทำได้จริง..
มีดของ ไคล์ เจาะลึกเข้าไปในหัวใจของทหารนายหนึ่งส่วนมืออีกข้างจับไปที่คอของทหารคนสุดท้ายแล้วทุ่มลงไปบนพื้นอย่างหนักหน่วง จากนั้นดึงมีดออกจากหัวใจของอีกคน แล้วแทงมีดปลิดชีพทหารที่ถูกทุ่มลงกับพื้นในทันที
“ตายซะ!”
ภายใต้การลงมือของ ไคล์ ทหารทั้งสองนายไม่มีโอกาสที่จะขัดขืน พวกเขาเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว!