ตอนที่ 17 ออกจากคลังแสง!
หน้าคลังแสงแห่งที่ 2 ภายในฐานใหญ่ของกองทัพเยอรมัน
ทหารเยอรมันเกือบ 100 นายซึ่งมีอาวุธครบมือ ยืนเรียงแถวเตรียมพร้อมอยู่ด้านหน้าคลังแสงแห่งที่ 2
“ ไม่สามารถติดต่อ ผู้บัญชาการลีโอ ได้ ขอย้ำไม่สามารถติดต่อกับ ผู้บัญชาการลีโอ ได้”
“ ท่านครับเราจะนำกำลังบุกเข้าไปตรวจค้นด้านในคลังแสงหรือไม่”
"แน่นอน! อีกฝ่ายมีเพียงแค่คนเดียว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปกลัวมันในเขตพื้นที่ของเรา แต่ก็ควรระมัดระวังให้มากไว้คลังแสงแห่งนี้เต็มไปด้วยระเบิดและวัตถุไวไฟซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่มันจะเกิดระเบิดเมื่อถูกประกายไฟเพียงเล็กน้อย เพราะฉะนั้นอย่ายิงให้ใช้ดาบปลายปืนเข้าจัดการมัน”
เมื่อรองผู้บัญชาการสั่งการเสร็จสิ้นเขาก็โบกมือให้ทหารที่อยู่ใกล้กับประตูทำการเปิดประตูคลังแสงทันที
ประตูคลังแสงถูกเปิดออกอย่างช้าๆ จากนั้นหน่วยลาดตระเวนหลายนายเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พวกเขาอาศัยไฟฉายบนหมวกส่องไปทางซ้ายและขวาอย่างช้าๆ
ตุบ! ตุบ! ตุบ! ตุบ!
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามากมายจากด้านบน ไคล์ ก็รู้ว่าทหารศัตรูเข้ามาในคลังแสงแล้วซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับการดึงการ์ดพลังงานใบสุดท้ายของเขาก็เสร็จสิ้นลงพอดี
การ์ดพลังงานสีฟ้า 25 ใบถูกเก็บไว้ในพื้นที่มิติการ์ด
“ได้เวลาแห่งการทำลายล้าง” ไคล์ ยังไม่รีบออกไปข้างนอก เขามองไปที่ ผู้บัญชาการลีโอ ที่ตอนนี้กลายเป็นกองเนื้อเลอะเลือน จากนั้นก็เปลี่ยนสุนัขกลับไปเป็นการ์ด
สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมาะกับมัน
อย่างไรก็ตาม การ์ดไบโอ ทั่วไปสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ ยกเว้น การ์ดไบโอแบบพิเศษเช่น ต่อพิษร้ายแรง ที่สามารถใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว ดังนั้นการจะใช้ การ์ดไบโอแบบพิเศษแต่ละครั้งต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุด
“ ฉันไม่รู้ว่า การ์ดไบโอ ระดับสูงกว่าสีเขียวจะเป็นอย่างไร มันจะสามารถเรียกสัตว์ประหลาดอย่าง พวกอสูร หรือ ก๊อตซิลล่า ได้ไหม?”
ความคิดที่ตลกๆนี้พุ่งผ่านจิตใจของ ไคล์ และออกจากสมองไปในไม่ช้า โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นความจริงในอนาคตอันใกล้นี้
ในเวลานี้ทหารเยอรมันจำนวนมากกำลังเดินมาที่ทางเข้าของชั้นใต้ดิน
“เปิดประตูและโยนระเบิดควันลงไป”
เมื่อได้รับคำสั่งทหารสองนายเตรียมระเบิดควันเอาไว้ในมือพร้อมที่จะโยนลงไปในห้องใต้ดินด้านล่าง
ขณะที่พวกเขาเปิดประตูสู่ห้องใต้ดินและกำลังจะโยนระเบิดควันลงไป แต่แล้วจู่ๆก็มีหมอกสีดำพุ่งสวนออกมาจากห้องใต้ดิน ทำให้ระเบิดควันที่ดึงสลักออกแล้วหลุดจากมือและตกอยู่นอกห้องใต้ดินจนเกิดควันฟุ้งโขมงไปทั่วทั้งบริเวณ
“ แค๊ก แค๊ก เวรเอ้ย นั่นมันอะไร?”
ทหารเยอรมันนายหนึ่งสำลักควันพร้อมกับชี้หมอกสีดำที่พุ่งออกมาจากห้องใต้ดิน เมื่อเหล่าทหารเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขา มันทำให้ทหารทุกนายต่างพากันสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บและใบหน้าที่ซีดขาวก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่หมอกสีดำ แต่มันคือตัวต่อสีน้ำตาลเข้มหลายร้อยตัว แต่ละตัวมีขนาดใหญ่เท่ากับหัวแม่มือ
“ ตัวต่อ! มีต่อพิษอยู่ข้างใน!”
"พระเจ้าช่วย! วิ่ง! ออกไปจากที่นี่ เร็วๆ!”
ทหารเยอรมัน ในคลังแสงวิ่งออกไปด้วยความกลัวและก็หวังว่าพวกเขาคงไม่ได้ไปรบกวนพวกมันเข้า แต่สิ่งที่หวังมักจะนำมาซึ่งความผิดหวังอยู่เสมอโดยเฉพาะกับ ตัวต่อพิษ ของ ไคล์ หลังจาก ตัวต่อ ออกจากห้องใต้ดิน พวกมันก็ทำการไล่ล่าเหล่าทหารเยอรมันในทันที
ในเวลาเพียงครู่เดียว ทหารหลายสิบนายวิ่งหนีออกจากคลังแสง บางคนที่หนีไม่ทันก็ถูกตัวต่อต่อยล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดพวกเขาเอามือกุมใบหน้าซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกต่อยพร้อมกับเกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนพื้นด้วยความทุกข์ทรมาน
ไคล์ ออกมาจากห้องใต้ดินหลังจาก ตัวต่อ ทำการไล่ล่าทหารและเมื่อเขาเห็นฉากเหล่านี้ เขาก็พึมพำออกมาเบาๆ:“ สมแล้วที่เป็น การ์ดไบโอสีเขียวที่หายาก ผลลัพธ์ุของมันช่างน่าทึ่งจริงๆ”
“ แต่ตอนนี้เวลาตามกำหนดการในภารกิจจู่โจมได้มาถึงแล้ว ฉันไม่ควรเสียเวลาอยู่ที่นี่และต้องออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด "
โดยไม่สนใจทหารเยอรมันเหล่านี้ ไคล์ ถือมีดกรุตข่าไว้ในมือและหายตัวไปอย่างรวดเร็วในความมืด
ภายใต้สถานะ ปกปิดซ่อนเร้น บวกกับความโกลาหลครั้งใหญ่ภายในฐาน ไคล์ สามารถวิ่งกลับไปที่รถบรรทุกได้อย่างง่ายดายโดยไม่ถูกพบเห็น
เขาเปิดประตูเหล็กตู้คอนเทรนเนอร์ของรถบรรทุก และเห็นว่ามีเพียงหกศพนอนอยู่หน้าประตูเหล็ก เขาจึงรีบกระโดดขึ้นไปบนตู้คอนเทรนเนอร์พร้อมกับกวาดสายตามองเข้าไปด้านในตู้ เมื่อเขาพบหญิงสาวที่กำลังนอนหลับอยู่ในกรงไม้ เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ อย่าเอาแต่นอน เร็วเข้าฉันจะพาคุณออกไปจากที่นี่!” ไคล์ ปลุกเธอให้ตื่นพร้อมกับพยุงร่างกายให้ลุกขึ้น แต่หญิงสาวไม่เพียงแต่ไม่ตื่น แต่ร่างกายที่อ่อนแอของเธอก็ทรุดลงไปนอนกับพื้น
หรือว่าเธอตายแล้ว?
ไคล์ วางนิ้วของเขาบนจมูกของหญิงสาวและรู้สึกว่ายังมีลมหายใจเบาๆ ซึ่งแสดงว่าเธอยังไม่ตาย แค่เพียงหมดสติไปเท่านั้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากพาเธอที่หมดสติไปด้วย อันตรายจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
ไคล์ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดก็กัดฟันของเขา “เอาเถอะ! ใครใช้ให้ฉันไปรับปากกับคุณกันล่ะว่าจะพาคุณออกไปจากที่นี่...”
เขานำหญิงสาวขี่บนหลังของเขาพร้อมกับมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนาเพื่อกันไม่ให้เธอตก เมื่อร่างกายของเธอสัมผัสกับแผ่นหลังของเขามันให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มราวกับผ้าห่มคุณภาพดี
“ยังดีที่น้ำหนักของเธอนั้นเบา”
เมื่อเตรียมการทุกอย่างเสร็จสิ้น ไคล์ ก็หันหน้าไปทางประตูเหล็กและเดินออกไป เพียงแค่เท้าของเขาเพิ่งมาถึงขอบประตูเหล็กของตู้คอนเทรนเนอร์ เขาก็ถอยกลับหลังอย่างรวดเร็วพร้อมกับปิดประตูเหล็ก
'ปัง ปัง ปัง! ! ! '
วินาทีต่อมาประตูเหล็กของตู้คอนเทรนเนอร์ถูกยิงถล่มอย่างหนาแน่น!
ไคล์ ที่ถอยกลับไปด้านในสุดของตู้ก็เผยใบหน้าที่บูดบึ้ง จริงๆแล้วมีหน่วยลาดตระเวนสามหรือสี่หน่วยดักรออยู่นอกรถ
“ ใครมันจะยอมติดกับอยู่ที่นี่กัน!” ไคล์ คิดหาวิธีรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างรวดเร็ว เขายกเท้าถีบประตูเหล็กออกข้างหนึ่งแล้วโยนศพออกไปเผชิญกับห่ากระสุน
'ปัง ปัง ปัง! '
ศพถูกเข้าใจผิดว่าเป็นศัตรูที่พยายามหลบหนี ดังนั้นทหารเยอรมันจึงยิงกระสุนออกไปอย่างดุเดือดจนทำให้ศพนั้นถูกแยกออกเป็นชิ้นๆในอากาศ
นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น.
ในไม่ช้าร่างที่สองก็ถูกโยนออกมา และทหารเยอรมันก็ยิงไปที่ร่างนั้นอีกครั้ง
ในช่วงเวลาที่ทหารเยอรมันยังไม่ทันได้บรรจุกระสุนปืนร่างที่สามก็ถูกโยนออกมา!
ลูกกระสุนที่ตกลงบนร่างศพ ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดและในช่วงเวลาที่ศพกำลังจะตกลงสู่พื้นดิน เงาร่างหนึ่งก็พุ่งออกจากตู้คอนเทรนเนอร์และวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับทหารเยอรมัน!
ซึ่งมันก็คือ ไคล์!
เขาใช้ร่างกายของศพ 3 ศพรับลูกกระสุน โดยหลอกล่อให้ทหารเยอรมันยิงกระสุนไปที่ศพ จุดประสงค์ก็เพื่อให้กระสุนในรังเพลิงของศัตรูหมด และใช้โอกาสอันน้อยนิดนั้นทำการหลบหนีให้เร็วที่สุด ก่อนที่ลูกกระสุนชุดใหม่จะถูกบรรจุลงในรังเพลิง!