ตอนที่ 26 สอนบทเรียน!
เหนือน่านฟ้าตอนกลางคืน
ท่ามกลางสายฝนฟ้าร้องและฟ้าผ่าร่างของ ไคล์ ตกลงมาราวกับลูกกระสุน
ใบหน้าของเขาคว่ำลงและร่างกายที่กำลังร่วงหล่นจะถึงพื้นในอีกไม่กี่นาที ลมยามค่ำคืนกระทบเสื้อผ้าของเขาจนเกิดเสียงดังวิ้ว! วิ้ว! อยู่ตลอดเวลา!
การที่เขาเลือกมากับ สตีฟ หนึ่งก็เพื่อที่จะทดสอบความแข็งแกร่งของเขาหลังจากที่ร่างกายได้รับการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมยีน
และข้อที่สอง มีรางวัลมากมายที่เขาจะได้รับจากสงคราม ดังนั้นมันจึงไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่มา!
สตีฟ ที่อยู่ด้านล่างไม่ไกลได้กางร่มชูชีพออกแล้วส่วน ไคล์ ยังคงประเมินระยะห่างจากพื้นดินชั่วครู่ จากนั้นไม่นานเขาก็กางร่มชูชีพออก
พวกเขาทั้งสองคนค่อยๆลดระดับความสูงลงไปในถิ่นทุรกันดาร!
'ปัง ปัง ปัง ปัง! '
หลังจากลอยลงมาในระดับความสูง 100 เมตร ทหารข้าศึกที่อยู่ด้านล่างก็ตรวจพบร่องรอยของพวกเขา โดยไม่รอช้าพวกมันยิงปืนขึ้นฟ้าในทันที
“ ฉันจะดึงดูดความสนใจของพวกมัน” สตีฟ ตะโกนเขากลัวว่า ไคล์ จะถูกยิง ดังนั้นเขาจึงควบคุมร่มชูชีพเข้าบดบังกระสุนปืนและบังคับร่มชูชีพให้ตกลงสู่พื้นเบื้องล่างให้เร็วขึ้น
ฉันยังต้องการให้นายปิดกั้นลูกกระสุนให้?
ไคล์ ส่ายหน้าและเผยรอยยิ้ม มือซ้ายดึงมีดกรุตข่าที่เอวแล้วโบกสะบัดตัดเชือกร่มชูชีพที่อยู่ข้างหลังเขา!
ไคล์ ตกลงสู่พื้นดินจากระดับความสูงที่มากกว่า 90 เมตรอย่างรวดเร็ว!
คนที่ได้เห็นฉากนี้ไม่ได้มีแค่ สตีฟ คนเดียวเท่านั้น แต่ยังมีทหารเยอรมันอีกไม่กี่นายที่ได้เห็นฉากนี้ด้วยเช่นกัน
“มันต้องการฆ่าตัวตาย?”
ความคิดของทหารเยอรมันผุดขึ้นมา หลังจากที่เห็น ไคล์ ตกจากระดับความสูงที่มากกว่า 90 เมตร
เมื่อ ไคล์ ตกลงมาเขาก็กลิ้งตัวบนพื้นโคลนเพื่อลดแรงกระแทกจากนั้นก็ยืนขึ้นอย่างช้าๆ
“ ขาค่อนข้างชา แต่ว่าฉันก็ทำได้แล้วในสิ่งที่คนธรรมดาไม่กล้าทำหรือทำไม่ได้” ใบหน้าที่เย็นชาของ ไคล์ เผยรอยยิ้ม
ในตอนนี้ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาเกินกว่าระดับมนุษย์ สำหรับทักษะการต่อสู้หลายร้อยทักษะที่ได้รับจากการ์ดเป็นเหมือนการได้พบกุญแจของรถสปอร์ตสุดหรู และเขาสามารถขับขี่ไปได้ทุกที่ด้วยความเร็วเต็มพิกัด
“ พวกแกจะมัวรออะไรฆ่ามัน!”
ทหารเยอรมันสามสี่นายยังคงจ้องมอง ไคล์ อย่างงุนงงและเสียงตะโกนจาก หัวหน้าทีม ได้ช่วยดึงสติพวกเขากลับคืนมา จากนั้นพวกเขาก็รีบยกปืนขึ้นแล้วยิงทันที
ปฏิกิริยาตอบสนองของ ไคล์ นั้นรวดเร็วมากและเขาก็ไม่ถอย เขาถือมีดไว้ที่มือซ้ายจากนั้นวิ่งเข้าหาทหารเยอรมันอย่างรวดเร็ว
'ควับ! '
ไคล์ วิ่งโยกหลบไปทางซ้าย กระสุนผ่านไหล่ขวาของเขา เมื่อทหารเยอรมันเห็นเช่นนั้นก็หันปากกระบอกปืนไปทางซ้ายตาม ไคล์ ก็ขยับหลบไปทางขวาอย่างรวดเร็ว
เทคนิคการเคลื่อนไหวทางซ้ายและขวาเป็นการเคลื่อนที่เพื่อหลบหลีกการยิงและสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือเขาใช้ความเร็วที่เหนือชั้น!
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของนักวิ่งโดยประมาณคือ 100 เมตร/10 วินาที ส่วนการวิ่ง 100 เมตรของ ไคล์ ใช้เวลาเพียงแค่ 3 หรือ 4 วินาที!
'ฉั๊วะ!
แม้แต่การยิงปืนนัดที่สองก็ยังไม่มีโอกาสได้ยิง บริเวณลำคอของทหารเยอรมันมีรอยเลือดปรากฏออกมาจากนั้นร่างของเขาก็ทรุดลงไปกองกับพื้น
จากนั้น ไคล์ ก็ยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างเยือกเย็น
สีหน้าของ หัวหน้าทีม เต็มไปด้วยความสยองขวัญแต่เขาก็ดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาตั้งสติได้เขาก็ยกปืนยาวในมือของเขาเล็งไปที่ ไคล์ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ลั่นไก มีดในมือของ ไคล์ ก็โบกสะบัดเข้ามาอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าก็มีรอยเลือดจางๆปรากฏขึ้นที่ลำคอของเขา จากนั้นหัวของหัวหน้าทีมก็หลุดออกจากบ่าแล้วกลิ้งหลุนๆไปตามพื้น
“สัตว์ประหลาด!”
ทหารที่อยู่ด้านหลังของหัวหน้าทีมตะโกนออกมาด้วยความกลัวและเตรียมที่จะหลบหนี แน่นอน ไคล์ ไม่คิดที่จะปล่อย เขาพุ่งตรงไปข้างหน้าและเหยียดมือขวาจับไปที่ด้านหลังคอแล้วหักทิ้งด้วยมือเพียงข้างเดียว
“ ไอ้เวรเอ้ยแกมันไม่ใช่คน!” ทหารอีกคนกรีดร้องด้วยความสับสนเขาเล็งปืนไปที่ ไคล์ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ยิงจู่ๆก็มีเงาร่างหนึ่งตกลงมาใส่เขาแล้วเหยียบเขาไว้ใต้ฝ่าเท้า!
“นายมาช้า” ไคล์ หัวเราะเบาๆ จากนั้นโยนศพทหารเยอรมันที่เขาหักคอ ไปที่ด้านข้างราวกับโยนขยะชิ้นหนึ่ง
“ ไคล์, ความเร็ว, ความแข็งแกร่งของนาย?, นี่มันอะไรกัน?” สตีฟ มองเขาด้วยท่าทางตกใจ
ใบหน้าของ ไคล์ ยังคงสงบ เขาไม่เคยคิดที่จะปกปิดความแข็งแกร่งของเขาต่อหน้า สตีฟ ท้ายที่สุดความแข็งแกร่งของเขาจะต้องถูกเปิดเผยออกมาในไม่ช้าก็เร็ว
“ฉันไม่ได้บอกนายเพราะฉันพึ่งจะได้รับพลังความแข็งแกร่งนี้มา” ไคล์ ถอนหายใจพร้อมกับอธิบายด้วยท่าทางที่จริงจังกับ สตีฟ:“ นายคงจำภารกิจจู่โจมของฉันเมื่อสิบวันที่แล้วได้ ที่ฐานศัตรูในคลังแสงฉันพบหลอดที่บรรจุน้ำยาบางอย่างอยู่ด้านในจากผู้บัญชาการของข้าศึก ฉันต้องการนำมันกลับไปที่ฐานเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ทำการวิจัย แต่น่าเสียดายที่หลอดน้ำยานั้นแตกในขณะที่ฉันกำลังหลบหนี และของเหลวที่เป็นน้ำยานั่นก็ไหลเข้าสู่บาดแผลของฉัน "
สตีฟ ไม่สงสัยเกี่ยวกับคำพูดของ ไคล์ และเขาเอ่ยถามอย่างเร่งด่วน:“ น้ำยา น้ำยาที่นายบอกมันเป็นสีฟ้าหรือไม่”
ไคล์ พยักหน้าตรงๆ:“ ใช่ ของเหลวนั่นถูกหลอมรวมเข้ากับเลือดในขณะที่ฉันหมดสติ หลังจากตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนความแข็งแกร่งและความเร็วเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป”
“ฉันขอแสดงความยินดีกับนายด้วย ไคล์ ดูเหมือนว่านายจะได้รับเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์และมันได้หลอมรวมเข้ากับร่างกายของนายได้สำเร็จ” สตีฟ พูดอย่างมีความสุข
“ เซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์?” ไคล์ แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ
"ใช่ไม่ผิดแน่ นายโชคดีมากที่ได้มันมา”ในตอนนี้ สตีฟ รู้สึกมีความสุขมากหลังจาก ไคล์ เสียสละและมอบโอกาสในการทดลอง เซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์ให้แก่เขา ทำให้เขารู้สึกผิดและถือเป็นแผลในใจของเขาจนถึงทุกวันนี้
ไคล์ รู้ว่าเรื่องราวที่เขาปั้นแต่งขึ้นนั้นค่อนข้างหยาบ แต่เป็นเพราะ สตีฟ เชื่อใจเขาจึงทำให้เรื่องที่เขาแต่งขึ้นมานั้นสมบูรณ์ 100% แต่เรื่องโกหกนี้ก็สามารถพิสูจน์ได้เช่นเดียวกัน
“ก่อนหน้านี้ฉันยังรู้สึกกังวล แต่ตอนนี้นายเป็นสุดยอดทหารแถมยังมีประสบการณ์การต่อสู้มากกว่าฉัน ดังนั้นการลอบเข้าไปในโรงงานอาวุธของศัตรูเพื่อช่วยเหลือเหล่าทหารนั้นโอกาสสำเร็จก็มีมากขึ้น!” สตีฟ พูดออกมาอย่างตื่นเต้น
“การพานายแอบเข้าไปข้างในปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน” ไคล์ เอ่ยขึ้นจากนั้นก็พูดกับ สตีฟ อย่างมีความหมาย:“ ก่อนอื่นฉันจะให้บทเรียนฉบับง่ายๆในสนามรบ....”
พูดยังไม่ทันจบ ไคล์ ยกเท้าซ้ายเหยียบลงไปที่หัวของทหารเยอรมันที่ถูก สตีฟ เหยียบเอาไว้ก่อนหน้านี้ ให้จมลงไปในโคลน
ทหารเยอรมันนายนั้นพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ก็เป็นการดิ้นรนที่สูญเปล่า ในไม่ช้าลมหายใจของเขาก็ขาดห้วงและเสียชีวิตลงโดยที่หัวยังจมอยู่ในพื้นดิน
“ ในสนามรบไม่มีความเมตตาต่อศัตรู นายต้องฆ่ามันหากนายไม่ฆ่ามัน มันก็จะฆ่านาย ในฐานะทหาร การฆ่าศัตรูไม่ใช่เรื่องอยุติธรรม แต่มันคือความยุติธรรม” ไคล์ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
"ฉันเข้าใจ." สตีฟ พยักหน้าอย่างลังเล
แม้จะมีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้น แต่ยังเป็นมือใหม่ในสนามรบ มันจำเป็นที่จะต้องค่อยๆปรับ…..ไม่ ไม่ใช่ค่อยๆปรับแต่มันต้องสอนเป็นบทเรียน!
“นายตามฉันไปที่ประตูทางเข้าหลักของโรงงาน! ศัตรูที่ลาดตระเวนถ้าสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องฆ่าให้เงียบที่สุด! อย่าเปิดโอกาสให้พวกมันได้ส่งสัญญาณแจ้งเตื่อน!
ไคล์ เอ่ยขึ้นในขณะที่มุ่งหน้าไปยังโรงงานอาวุธโดยมี สตีฟ ติดตามอยู่ด้านหลัง
ทั้งสองคนหายไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายฝนยามค่ำคืน