ตอนที่ 32 จัดทีม
ไคล์ ประเมินว่า คาร์เตอร์ และ สตีฟ คงใกล้จะทานข้าวเสร็จแล้วดังนั้นเขากับ ฮาเวิร์ด จึงพากันออกจากบาร์บอลรูมที่ชั้นล่าง
“ ไคล์ เมื่อพูดถึงธุรกิจขนาดใหญ่นี้คุณจะเริ่มลงมือทำเลยรึไม่?” ฮาเวิร์ด พูดกับ ไคล์ หลังจากการสนทนาสั้น ๆ ตอนนี้ทั้งสองได้เริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ในการเป็นหุ้นส่วนและคุ้นเคยกันมากขึ้น
"ใช่." ไคล์ ยิ้มจากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า “ แต่คุณก็รู้ว่าผมมันยากจนและยังไม่ได้รับเงินเดือนของทหาร ผมไม่รู้ว่า บิ๊กบอส ของสตาร์ก อินดัสทรีส์ อย่างคุณจะให้เงินปันผลในเดือนนี้มาก่อนได้รึไม่”
“ คุณนี่จริงๆเลย….” ฮาเวิร์ด ส่ายหน้าเขามีความรู้สึกขุดหลุมฝังตัวเอง แต่เขาก็ยังหยิบหยิบการ์ดที่สวยงามสีทองและเช็คออกจากกระเป๋าเงิน:
“ การ์ดใบนี้เป็นบัตร VIP ถาวรของโรงแรมแห่งนี้ มีเงินฝาก 20,000 ดอลลาร์ อยู่ในนั้น คุณควรใช้มันก่อน นอกจากนี้นี่คือเช็คจำนวน 100,000 ดอลลาร์ซึ่งสามารถนำไปขึ้นเงินสดจากธนาคารกลางของเมืองใหญ่ ๆได้ แต่ควรนัดหมายก่อนล่วงหน้าไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถรับเงินได้มากขนาดนั้น”
หากต้องการทราบเงินเดือนเฉลี่ยของทหารอเมริกันสามัญ จะได้รับเพียงแค่ 60 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ตอนนี้เขาได้รับมามากถึง 120,000 ดอลลาร์
ไคล์ ยื่นมือรับและเอ่ยออกมาอย่างสุภาพ "ผมไม่คิดเลยว่าเงินปันผลรายเดือนจะสูงมากถึงเพียงนี้ ขอบคุณนะครับบอส"
ฮาเวิร์ด ก็เอ่ยขึ้นว่า:“คุณไม่ต้องขอบคุณฉันนี่คือสิ่งที่คุณต้องได้รับ และคุณต้องส่งรายการที่สองให้ฉันโดยเร็วที่สุด จากนั้นฉันจะให้ทนายร่างข้อตกลงเพื่อโอนหุ้นให้คุณ หลังจากลงนามคุณจะเป็นหุ้นส่วนของ สตาร์ก อินดัสทรีส์ “”
"ไม่มีปัญหา." ไคล์ พยักหน้าช้าๆ, รายการที่สองอยู่ในการ์ด, แต่มันไม่สะดวกที่จะเอามันออกมาต่อหน้าผู้คน
รายการที่สองของการลงทุนคืออะไร? ในความเป็นจริงมันเป็นชิประบบข้อมูลของซูเปอร์คอมพิวเตอร์
มันเป็นการ์ดไอเทมสีเขียวที่ไร้ประโยชน์มากกว่าโทรศัพท์มือถือ แต่ถ้าคุณต้องการที่จะพัฒนาไปสู่ด้านปัญญาประดิษฐ์มันจำเป็นต้องมีข้อมูลจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ก่อนเพื่อเป็นแนวทางที่ดีสำหรับการพัฒนา
ไคล์ และ ฮาเวิร์ด เพิ่งกลับไปที่ห้องโถงใหญ่บนชั้นแรกของโรงแรมและเห็น คาร์เตอร์ นั่งอยู่คนเดียว
"สตีฟ ล่ะ?” ไคล์ เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
คาร์เตอร์ เหลือบมองเขาแล้วเอ่ยขึ้นว่า“ คุณสองคนไปไหนมา? สตีฟ ออกไปตามหาพวกคุณตอนนี้ยังไม่กลับ”
“เอ่อ.…” ไคล์ อึกอักที่จะตอบ ฮาเวิร์ด ที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะ ฮ่าๆ และเอ่ยขึ้นว่า“ คุณไม่ต้องถามหรอก ผู้ชายมักจะมีที่บรรเทิงหย่อนใจสำหรับผู้ชาย”
คำตอบของเขานั้นชวนให้คนอื่นคิดไปไกล
ไคล์ แอบไอแค๊กๆออกมา แต่ คาร์เตอร์ ก็ไม่คิดอะไรมาก จากนั้นเธอก็พูดอย่างจริงจังว่า:“ นายพลเชสเตอร์ มีคำสั่งมาให้ฉันพาพวกคุณกลับไปที่ฐานฝึกอบรมพร้อมกับแจ้งภาระกิจให้พวกคุณทราบในระหว่างทาง”
“นี่ยังไม่ทันได้พักผ่อน ก็ต้องกลับไปทำงานอีกแล้วเหรอ” ฮาเวิร์ด ส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง
“ มันน่าจะเกี่ยวข้องกับแผนที่โรงงานผลิตอาวุธของเยอรมัน” ไคล์ เผยแววครุ่นคิด เขาเคยเสนอให้ทำการโจมตีโรงงานเหล่านั้น แต่ก็ไม่เคยคิดว่าส่วนกลางจะตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
“ไคล์!” เสียงเรียกของ สตีฟ ดังมาจากด้านหลัง
“ในเมื่อมาครบกันแล้วพวกเราก็ไปกันเถอะ”เมื่อเห็น สตีฟ กลับมาแล้ว ไคล์ ก็ส่งบัตร VIP ในกระเป๋าของเขาให้กับ เจ้าหน้าที่ของโรงแรม:“ชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มครับ”
“ ไคล์ ฉันไม่คิดเลยว่านายจะร่ำรวยมากถึงเพียงนี้” สตีฟ รู้สึกทึ่ง ต้องรู้ก่อนว่าทุกอย่างที่อยู่ในโรงแรมสุดหรูแห่งนี้ ไม่ว่าจะอาหาร เครื่องดื่ม มันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถจ่ายได้
คาร์เตอร์ ก็รู้สึกประหลาดใจยิ่งกว่า เธอเคยได้อ่านประวัติของ ไคล์ และรู้ว่าสถานะทางบ้านของเขาเป็นยังไง แล้วบัตร VIP ของโรงแรมมาจากไหน?
สองคนนี้ไปทำอะไรมากันแน่?
คาเตอร์ มองที่ ไคล์ และ ฮาเวิร์ด อย่างสงสัย
……………………....
บนเครื่องบินที่กำลังบินกลับฐานฝึก
คาร์เตอร์ แจ้งชายทั้งสามคนด้วยสีหน้าจริงจังเกี่ยวกับคำสั่งของ นายพลเชสเตอร์
“ ไคล์ และ สตีฟ คุณสองคนเป็นหัวหน้าทีมยกกำลังทหารเข้าโจมตีโรงงานผลิตอาวุธของเยอรมันทั้งหกแห่ง ตราบใดที่ฐานโรงงานผลิตอาวุธเหล่านั้นถูกทำลาย เยอรมนีก็จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อยุโรปอีก!”
“ สตีฟ ต่อจากนี้ไปตำแหน่งของคุณคือ สิบโท” คาร์เตอร์ พูดมาถึงตรงนี้สายตาของเธอก็มองมาที่ ไคล์:“ สำหรับคุณยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม”
“ไม่มีปัญหา” ไคล์ พยักหน้าเข้าใจ ตราประจำตำแหน่งยศจ่าสิบเอกของเขายังไม่ร้อนและการสะสมการ์ดทักษะการทหารก็มีมากอยู่แล้วดังนั้นเขาจึงยังไม่รีบ
คาร์เตอร์ พูดต่ออย่างจริงจัง:“ สตาร์ค คุณต้องติดตั้งสุดยอดอาวุธและชุดเกราะที่เป็นงานวิจัยของคุณให้กับพวกเขาทั้งสองคนด้วย”
“โอ้.” ฮาเวิร์ด ที่กำลังขับเครื่องบินหันกลับมามองด้วยสีหน้าตกใจ:“ คุณว่าอะไรน่ะ สองคน?!”
“ ใช่ ไคล์ ได้กลายเป็นสุดยอดทหารแล้วเช่นกัน” สตีฟ ตอบคำถามแทน คาเตอร์ ซึ่งเรื่องนี้ ไคล์ ไม่ได้ปิดบัง เขาได้รายงานไปยังส่วนกลางหลังจากกลับมาจากสงครามก่อนหน้านี้
คาร์เตอร์ จ้องไปที่ ไคล์ และพูดขึ้นว่า:“ ต่อไปฉันต้องรับผิดชอบในการดูแลจดบันทึกและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุดยอดทหารจากคุณด้วย”
"ก็ได้." ไคล์ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อยๆและพึมพำว่า:“ นี่ฉันต้องตกอยู่ภายใต้การดูแลของผู้หญิงจริงๆเหรอ? ให้ สตีฟ เป็นหนูตัวน้อยๆของคุณเพียงคนเดียวไม่ได้รึไง”
คาร์เตอร์ แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินและสีหน้าของเธอยังคงเย็นชา
เมื่อ สตีฟ รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆเขาจึงพูดขึ้นทันทีว่า“ถ้าจะให้จัดตั้งทีมผมอยากได้ลูกทีมที่ได้รับการช่วยเหลือเมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเขาต่อสู้อยู่ในแนวหน้ามานานและพวกเขามีประสบการณ์ในการใช้อาวุธพลังงานใหม่ของเยอรมัน"
"ใช่พวกเขาเหมาะสมและคงอยากจะแก้แค้นหลังจากถูกจับไปเป็นเฉลย เมื่อคืนพวกเขาไม่ได้ระบายออกมาอย่างเต็มที่ และผมก็อยากจะเสนอใครบางคนจากหน่วย 102 มาร่วมทีมในครั้งนี้ด้วย” ไคล์ กล่าวเสริม
"ใคร?" คาร์เตอร์ เอ่ยถามขึ้น ในหมู่พวกเขามีเธอเพียงคนเดียวที่มีอำนาจโยกย้ายได้
“ ชื่อของเขาคือ นิค ฟิวรี จ่าสิบเอกที่มีความฉลาดและยังมีประสบการณ์ในสนามรบมามากมาย” ไคล์ พูดพร้อมกับยิ้ม
นี่เป็นโอกาสที่จะได้รับการฝึกฝนอย่างรวดเร็วจากกองทัพ และเขายังจะได้เป็นหัวหน้าทีมของ ฟิวรี อีกด้วย
'ฮัดเช่ย! '
เต๊นท์ชั่วคราวในสนามรบแนวหน้าเจ้าหน้าที่ทหารที่มีตาเดียวคนหนึ่ง จามออกมาและจับหัวโล้นๆของเขาอย่างแปลกใจ
“ อากาศก็ไม่ได้หนาว ทำไมฉันรู้สึกไม่ค่อยดี”
ฟิวรี พึมพำกับตัวเอง แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีการสู้รบในแนวหน้า แต่คงจะไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าการได้อยู่ที่แนวหน้าเช่นนี้อีกแล้ว