ตอนที่ 47 หนี!
เปลวไฟเผาผลาญอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินแคบ ๆ มันมีพลังสังหารที่น่าอัศจรรย์กว่าอาวุธพลังงานอย่างไม่ต้องสงสัย
ไคล์ ถอยหลังไปยังระยะปลอดภัยพร้อมกับปิดกั้นเปลวไฟที่ถาโถมเข้ามา
หากเป็นอาวุธพลังงาน เขาสามารถใช้เกราะแขนปิดกั้นเลเซอร์ได้โดยตรง แต่กับเปลวเพลิงขนาดใหญ่ที่ถาโถมเข้ามาเช่นนี้เกราะแขนไวเบรเนี่ยมของเขายากที่จะป้องกัน
เวนอม ที่กลายเป็นชุดรบของเขา
แม้แต่กระสุนปืนและเลเซอร์มันก็ไม่เกรงกลัวเพราะมันสามารถฟื้นฟูตนเองได้ด้วยของเหลวสีดำ แต่ภายใต้การคุกคามของเปลวไฟที่มีอุณหภูมิสูงมันจึงเกิดความกลัวโดยสัญชาตญาณ
“ เอาล่ะ เด๋วฉันจัดการมันเอง”
ไคล์ ปลอบโยน เวนอม ด้วยวาจาพร้อมกับยกดาบที่อยู่ในมือเตรียมที่จะขว้างเข้าใส่ศัตรู แต่ทันใดนั้นเสียงตะโกนคำรามดังขึ้นและวัตถุบางอย่างบินผ่าน ไคล์ ไป
โล่ทรงกลมกระแทกหัวของทหารไฮดราที่ถือปืนไฟอย่างแม่นยำ จากนั้นโล่ก็ย้อนกลับไปหาผู้ที่เป็นเจ้าของของมัน
“ โล่อดาแมน?”
ไคล์ รีบหันกลับไปมองและเห็นชายหนุ่มร่างสูงกำลังวิ่งเข้ามารับโล่ซึ่งคนผู้นั้นก็คือ สตีฟ นั่นเอง
“ สตีฟ นายไม่ได้อยู่จัดการกับทหารไฮดราเหรอ?” ไคล์ เอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ
คำตอบที่หนักแน่นของ สตีฟ ดังขึ้น:“ ทหารไฮดร้ามีทหารอเมริกาคอยจัดการอยู่แล้วและฉันจะปล่อยให้นายจัดการกับมันเพียงลำพังคนเดียวได้อย่างไร”
“.........”
“เอางั้นก็ได้ พวกเรารีบไล่ตามผู้นำของไฮดราก่อนแล้วค่อยว่ากัน…”
ในขณะที่พูด ไคล์ ก็รีบวิ่งไปที่ปลายอุโมงค์
“ ไม่มีปัญหา…เฮ้ รอฉันก่อน!” สตีฟ วิ่งตาม ไคล์ มาติดๆ
ทั้งสองวิ่งผ่านส่วนสุดท้ายของอุโมงค์ใต้ดินอย่างรวดเร็ว
นอกอุโมงค์
ด้านหน้าของพวกเขาคือจัตุรัสฐานใต้ดินที่กว้างใหญ่และมีทหารไฮดราหลายร้อยนายยืนถืออาวุธพลังงานรออยู่ที่นี่
“ชักจะยุ่งแล้วสิ” ไคล์ กระชับดาบที่อยู่ในมือ ส่วน สตีฟ ยังถือโล่ไว้อย่างแน่นหนา ชายหนุ่มทั้งสองคนพุ่งเข้าหาศัตรูต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เผชิญหน้ากับทหารไฮดราทั้งร้อยนายอย่างไม่เกรงกลัว อย่างไรก็ตามหากเรื่องนี้จัดการได้ล่าช้าเกินไปเกรงว่า หัวหน้าของไฮดราคงหนีรอดไปได้
'ตูม! ตูม! ตูม! '
ในเวลานี้ อุโมงค์ใต้ดินในทิศทางต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับจัตุรัสใต้ดิน มีทหารอเมริกาได้หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก พวกเขาสาดกระสุนปืนยิงใส่ทหารไฮดราอย่างรวดเร็ว
หนึ่งในกองกำลังนำโดย ฟิวรี เขาอยู่แถวหน้าของทีมและโบกมือให้ ไคล์ ด้วยรอยยิ้ม “ ไคล์ คุณต้องการกำลังเสริมหรือไม่”
ไคล์ พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “มาได้เหมาะเจาะ!”
และทันใดนั้นอีกด้านหนึ่งได้มีหญิงสาวโผล่ออกมาจากอุโมงค์พร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา“ ไม่เพียงแค่เขา ฉันก็มา”
สตีฟ มองผู้หญิงที่มีเสน่ห์แล้วพูดติดตลก:“ คาร์เตอร์ คุณเกือบจะสายแล้ว”
“ไม่ใช่เกือบ แต่สายไปแล้วต่างหาก” ไคล์ ยักไหล่และเอ่ยขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปที่ คาร์เตอร์
“ ฮ่าฮ่าฮ่างั้นฉันก็คงเป็นคนที่มาช้าที่สุด” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง
ในขณะที่แสงไฟยังคงส่องสว่าง รถที่สวยงามถูกขับเข้ามาและจอดอยู่ด้านหน้าพวกเขา ฮาเวิร์ด ที่นั่งคนขับโบกมือให้พวกเขาพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมา
“ แผนกกลยุทธ์ด้านวิทยาศาสตร์อย่างคุณมาที่นี่ได้อย่างไรและยังขับรถเข้ามาที่ฐานของศัตรูอีกด้วย” ไคล์ เลิกคิ้วเอ่ยถามขึ้น
ฮาเวิร์ด ยิ้มและพูดว่า“ นี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของสงครามในยุโรป ฉันต้องมาอย่างแน่นอนเพราะพวกเราคือทีม!”
พวกเรา? ทีม?…
ไคล์ ชะงักกึกมองไปรอบ ๆ ฟิวรี คาร์เตอร์ และ สตีฟ ที่กำลังเผยรอยยิ้มที่มุมปาก
ใช่! ฉันไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พวกเราเป็นทีม ซึ่งเป็นทีมของชนชั้นสูงที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดคุยกัน เรด สกัลล์ ต้องการหนีโดยอาศัยเครื่องบิน!” จู่ๆ สตีฟ ก็นึกขึ้นได้ พร้อมกับชี้นิ้วไปยังส่วนท้ายของจัตุรัสใต้ดิน
ที่นั่นมีเครื่องบินขับไล่ขนส่งขนาดใหญ่ที่กำลังขยับอย่างช้าๆจากนั้นมันเคลื่อนไปยังทางออกนอกฐาน โดยไม่จำเป็นต้องเดาให้เสียเวลาดูก็รู้ได้ในทันทีว่าผู้ที่อยู่ข้างในเครื่องบินนั้นคือ เรด สกัลล์
ฮาเวิร์ด พูดอย่างรวดเร็ว:“ ฉันจะขับไปส่งพวกคุณสองคนเอง!”
ไคล์ และ สตีฟ ไม่ลังเลที่จะกระโดดเข้าไปในรถโดยตรงและ ฮาเวิร์ด ก็เหยียบคันเร่งทันที เครื่องยนต์ส่งเสียงดังกระหึ่มจากนั้นรถก็พุ่งทะยานไปยังทิศทางของเครื่องบินในทันที
“ต้องชนะ!” คาร์เตอร์ กำหมัดของเธอเอาไว้แน่นด้วยความกังวลและเฝ้าดูแผ่นหลังของชายหนุ่มทั้งสองจนรถหายไปในส่วนท้ายของจัตุรัสใต้ดิน
บนรันเวย์ในชั้นใต้ดิน
ปีกร่อนทั้งสองข้างนั้นถูกยกสูงจากพื้นถึง 20 เมตรแล้วในตอนนี้ และไม่ไกลออกไป รถยนต์ที่มีชายหนุ่มสามคนนั่งอยู่กำลังขับไล่ตามมาด้วยความเร็วเต็มพิกัด
“ เครื่องบินกำลังจะบินขึ้น ด้วยความเร็วของเราในตอนนี้เกรงว่ามันจะไม่ทัน!” สตีฟ ขมวดคิ้วและมองไปยังเครื่องบินที่อยู่ด้านหน้าโดยไม่วางตา
ไคล์ ไม่มีความกังวลใด ๆ เขามองไปที่ ฮาเวิร์ด ซึ่งยังคงสงบนิ่งอยู่บนเบาะคนขับดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นว่า:“คุณมีอะไรที่อยากจะโชว์ไหม? ถ้ามีก็รีบๆใช้เลย!”
“ก็ได้! จัดให้ตามคำขอ” ฮาเวิร์ด ยิ้มและกดปุ่มใต้พวงมาลัย ท่อไอเสียตรงท้ายรถมีเสียงระเบิดพร้อมกับเปลวไฟสีฟ้าโพยพุ่งออกมา
ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นอยากรวดเร็ว ในตอนนี้มันวิ่งได้มากกว่า 100 กม./ชม.จนทำให้ ไคล์ และ สตีฟ จับเบาะรถเอาไว้แน่น
ระยะห่างระหว่างรถและเครื่องบินใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งยังมีระยะห่างอีกประมาณ 10 เมตร และล้อของเครื่องบินก็ค่อยๆยกระดับขึ้นจากพื้นเช่นกัน
“ เครื่องบินกำลังจะบินขึ้นแล้ว! สตีฟ ส่งฉันก่อน!”
ไคล์ ตะโกนพร้อมกับยืนขึ้นจากรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูง สตีฟ ดูเหมือนจะรู้ว่าเพื่อนของเขากำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงนั่งยองๆบนเบาะรถจากนั้นก็ยกโล่ขึ้น
ไคล์ หายใจเข้าลึกๆเหยียบเท้าไว้บนโล่กลมแล้วกระโดดไปข้างหน้าด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี
สตีฟ ยังดันโล่ไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มพลังในการกระโดด
'ฟุบ! '
ไคล์ กระโดดขึ้นสูงและข้ามพื้นที่ 10 เมตรอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาอยู่ห่างจากเครื่องบินเพียงเล็กน้อย เขาได้ใช้ดาบยาวที่ถือด้วยมือซ้ายของเขาแทงไปที่โครงล้อของเครื่องบิน
“ไคล์!” สตีฟ ตะโกนลั่นจากนั้นก็กระโดดตามขึ้นไป เมื่อ ไคล์ เห็นเช่นนั้นเขาก็ยื่นมือขวาออกคว้าจับแขนของ สตีฟ แล้วดึงขึ้นไปบนล้อเครื่องบิน
บนรันเวย์สนามบิน
ฮาเวิร์ด ขับรถตามไปจนถึงหน้าผา เขามองดูเครื่องบินขนส่งที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้า และชายสองคนที่ยืนอยู่บนล้อเครื่องบินจากนั้นก็พึมพำขึ้นว่า“ ฉันหวังว่าพวกคุณจะประสบความสำเร็จในการต่อสู้ และทันทีที่พวกคุณกลับมาฉันจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับพวกคุณ!”
สิ่งสำคัญคือพวกคุณต้องกลับมา!