px

เรื่อง : ปราณเทวะ เทพหยวน
ตอนที่ 10 มอบโอกาส


เสียงที่ได้ยินมันดังกึกก้องกังวาลภายในใจอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่มันจะค่อยๆเลือนหายไป แต่ โจว หยวน ก็รู้สึกว่า”บัญญัติเจตจำนงเทพ”เคล็ดวิชาฝังจิตวิญญาณได้จารึกในจิตเขา

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ความรู้สึก ฉะนั้นโจว หยวน จึง ลืมตาทั้งสองข้าง ขณะที่ยิ้มแล้วแสดงความเคารพไปยังชายชราชุดดำ”ขอบคุณท่านอาจารย์ที่เมตตา!”

 

เขารับรู้ได้ลางๆ ไม่ว่าจะเป็น เคล็ดวิชาชี้นำปราณ หรือ เคล็ดวิชาฝังจิตวิญญาณ ทั้งสองต้องไม่ใช่ระดับธรรมดา ซ้ำชายชราชุดดำยังลึกลับ บางทีเขาอาจจะได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่

 

ชายชราชุดดำล้วงมือไปในแขนเสื้อ จากนั้นก็ค่อยๆชักมือกลับออกมาพร้อมๆกับพู่กันสีดำ ตัวขอบเป็นสีทอง ท้ายด้ามมีสายสีแดงม่วง เสมือนเป็นพู่กันที่ผ่านสมรภูมิมาหลายปี สัมผัสได้จากกลิ่นอาย

 

พู่กันสีดำให้สัมผัสเย็นยะเยือก ไม่ส่องประกาย เสมือนกับจะสูญเสียจิตวิญญาณ

 

ชายชราชุดดำ ยื่นพู่กันสีดำด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ให้กับ โจว หยวน พร้อมกับพูดว่า”นี่ถือเป็นของขวัญชิ้นแรกที่อาจารย์มอบให้เจ้า”

 

โจว หยวน คำนับ พร้อมกับยื่นมือรับพู่กันสีดำ ที่ค่อนข้างจะมีน้ำหนัก เขามองไปที่พู่กันโบราณ ขณะที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายปราณอำนาจที่รุนแรง

 

“นี่คือ แปรงก่อเกิด ?!”โจว หยวน เอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย

 

“มันไม่ได้เป็นแค่ แปรงก่อเกิด แต่ยังเป็นศาสตราก่อเกิด”ชายชราชุดดำกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

โจว หยวน ยังคงจับจ้องด้วยความสงสัย แปรงก่อเกิด เป็นสื่อกลางในการใช้รูปแบบก่อเกิด แต่ศาสตราก่อเกิดคืออาวุธที่ใช้สู้รบห่ำหั่น มันจะสามารถรวมอยู่ในที่เดียวได้ยังไง ?

 

นอกจากนี้พู่กันสีดำยังดูค่อนข้างจะเปราะบาง มันจะสามารถสร้างบาดแผลให้ศัตรูได้งั้นรึ ?

 

“เห้อ คงจะกำลังดูถูกมันสินะ”ชายชราชุดดำมอง โจว หยวน ขณะที่อดพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มไม่ได้”นามของพู่กันด้ามนี้คือ พู่กันปฐมสวรรค์ เป็น ศาสตราก่อเกิด ศักดิ์สิทธิ์”

 

“ศาสตราก่อเกิด ศักดิ์สิทธิ์!!!”โจว หยวน ถึงกับสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ขณะที่มองพู่กันโบราณสีดำ ด้วยแววตาตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อ

 

เหนือผืนฟ้าใต้หล้า ศาสตราก่อเกิด จะถูกแบ่งระดับขั้น สามัญ , แก่นแท้ , สวรรค์ , ศักดิ์สิทธิ์ 4 ขั้น ซึ่ง โจว หยวน ก็จำได้ว่า ในราชวงศ์โจว มีศาสตราก่อเกิดที่แข็งแกร่ง มันคือ ทวนเก้าเพลิง ที่บิดาเขาครอบครอง แต่ว่านั้นก็เป็นเพียงแค่ศาสตราก่อเกิด แก่นแท้!

 

ซึ่งศาสตราก่อเกิดศักดิ์สิทธิ์เป็นเสมือนตำนาน ความแข็งแกร่งของมันเหนือสุดคำบรรยาย มันสามารถบดขยี้ขุนเขาแหวกมหาสมุทรนที สร้างความหวาดกลัวให้แก่ปถุชน

 

แต่ยามนี้ ความแข็งแกร่งที่ว่ามันอยู่ที่พู่กันสีดำในมือของ โจว หยวน ไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็น ศาสตราก่อเกิด ศักดิ์สิทธิ์ ?

 

“ตาเฒ่าจะบอกว่ามันเคย เป็นศาสตราก่อเกิดศักดิ์สิทธิ์”ชายชราชุดดำถอนหายใจเบาๆและกล่าวอีกว่า”พู่กันปฐมสวรรค์ นี้ได้ท่องยุทธภพข้างกายตาเฒ่า ในการต่อสู้ครั้ง มันก็ได้ถูกทำลาย”

 

และ โจว หยวน ก็เข้าใจ แท้จริงมันเป็น ศาสตราก่อเกิด ศักดิ์สิทธิ์ ที่เสียหาย

 

ชายชราชุดดำที่เห็นท่าทางของ โจว หยวน ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า”เจ้าคงไม่คิดว่าตาเฒ่าให้ของห่วยๆหรอกนะ ? แม้ว่า พู่กันปฐมสวรรค์จะเสียหาย แต่มันก็เคยเป็นถึงศาสตราก่อเกิดศักดิ์สิทธิ์ ยังหลงเหลือวิญญาณ ตราบใดที่เจ้าคอยฟูมฟักมันทุกคืนวัน ผ่านร้อนผ่านหนาว มันก็จะฟื้นคิืน”

 

“จริงรึ ?!”โจว หยวน มองศาสตราก่อเกิดด้วยความตกตะลึง ?

 

ชายชราชุดดำ ชี้ไปที่พู่กันสีดำ และพูดอีกว่า”เห็น 9 รูปแบบก่อเกิดหรือไม่ ?”

 

โจว หยวน ก้มหัวลง และเขาก็พบว่า ในตัวพู่กันสีดำมี 9 อักขระ รูปแบบก่อเกิดโบราณที่ซับซ้อนลางๆ ไม่ชัด

 

“9 รูปแบบก่อเกิด มันคือหัวใจสำคัญความแข็งแกร่งของพู่กันปฐมสวรรค์ หากเจ้าสามารถทำให้แสง 9 รูปแบบก่อเกิิดสว่างครบทั้งหมด เจ้าก็จะสามารถเรียกพลังของศาสตราก่อเกิดศักดิ์สิทธิ์ กลับคืนมา”

 

“ทำให้แสงส่อง ?”โจว หยวน ถึงกับอุทาน หากว่าเขาสามารถเรียกพลังของศาสตราก่อเกิดศักดิ์สิทธิ์คืนมา มันจะต้องเพิ่มพลังให้กับเขาอย่างมหาศาล

 

“ยังมีวิธีง่ายๆ พู่กันปฐมสวรรค์นี้มีพลังลึกลับ เจ้าสามารถหล่อเลี้ยงมันด้วยวิญญาณสัตว์อสูรปราณ วิธีนี้จะช่วยทำให้พลังของมันค่อยๆกลับคืนมา”

 

“แน่นอน ว่าหากเป็นวิญญาณของสัตว์อสูรปราณ ชั้นสูง ก็จะให้ผลลัพธ์ที่สูง”

 

“แต่สำหรับ พู่กันปฐมสวรรค์ มันเป็นทั้งอาวุธและเครื่องมือในสงคราม เมื่อเจ้าปลดปล่อยแสงบนรูปแบบก่อเกิดแรกได้ เจ้าก็จะรู้”ชายชราชุดดำกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

แม้รู้ว่าการจะทำให้พลังของศาสตราก่อเกิดศักดิ์สิทธิ์กลับคืนจะไม่ง่าย เนื่องจากพู่กันปฐมสวรรค์เป็นอาวุธขั้นสูง แต่โจว หยวน ก็ใช้ปลายนิ้วหมุนพู่กันปฐมสวรรค์ ก่อนจะเก็บมัน แล้วกล่าวกับชายชราชุดดำ”ขอบคุณท่านอาจารย์ ที่เมตตา แต่ปัจจุบันศิษย์ยังไม่ทราบนามของท่าน ?”

 

ชายชราชุดดำได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ”ฉาง หยวน นี่คือนามของอาจารย์ นอกจากนี้อาจารย์ยังมีศิษย์อีก 2 คน เป็นศิษย์พี่ของเจ้า หากมีโอกาสสักวันอาจจะได้พบกัน ถ้าพวกเขาไม่ด่วนจาก”

 

ฉาง หยวน กล่าวโดยไม่ได้มองที่ โจว หยวน แต่หันหน้าไปทางหญิงสาวชุดฟ้า ที่กัดริ้มฝีปาก น้ำตาเอ่อคลอ ภายในดวงตาเผยให้เห็นความโศกเศร้า

 

ตั้งแต่ที่นางยังจำความได้ นางก็อาศัยอยู่กับ ฉาง หยวน สำหรับนางแล้ว ฉาง หยวน คือคนที่ใกล้ชิดผูกพันธ์กับนางมากที่สุด ดังนั้น แค่คิดว่าจะต้องจาก มันก็ทำให้นางเศร้า

 

“เห้อ เจ้าเด็กโง่ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา”ฉาง หยวน ถอนหายใจเบาๆออกมาก่อนที่จะเงียบ แล้วดึงจี้หยกออกมาจากอก จี้หยกเส้นนี้มีแสงส่องออกมา เนื้อผิวเป็นรูปดอกบัวอัคคี 9 กลีบ แต่ละกลีบนั้นจะมีสีต่างๆ

 

“เหยาเหยา ข้ารู้ว่าเจ้ามีหลายสิ่งที่อยากถาม แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา หากอนาคตมีโอกาส บางทีเจ้าอาจจะได้รู้”

 

“จำไว้ ต้องเก็บจี้หยกบัวอัคคีไว้ให้ดี เพราะพวกมันอาจจะตามหาเจ้า! "

 

“พวกมันเป็นใคร ? ทำไมถึงต้องตามหาข้า ?”เหยาเหยา กล่าวด้วยน้ำเสียงกังวล

 

ภายในหัวใจของนางเต็มไปด้วยปริศนา พวกมันที่ว่าคือใคร ทำไมถึงต้องตามหานาง ที่ผ่านมาปู่ดำของนางอยู่ที่นี่เพียงลำพังเหมือนกับต้องคอยหลบๆซ่อนๆ

 

ฉาง หยวน เงียบไม่ได้ตอบคำของ เหยาเหยา เอาแต่มองไปที่จี้หยกในมือเหยาเหยา ก่อนจะมองไปที่ โจว หยวน และกล่าวด้วยเสียงจริงจังว่า”โจว หยวน จงจำไว้ ห้ามให้เหยาเหยาแก้ผนึก ใช้พลังปราณ เด็ดขาด มิเช่นนั้นจะเกิดหายนะขึ้น”

 

โจว หยวน ถึงกับใจสั่น ขณะที่มองไปยังหน้าผากของเหยาเหยา ที่มีแสงส่อง นั้นคงจะเป็นผนึก ที่ เหยาเหยา ไม่สามารถใช้พลังปราณ มันเป็นเพราะ ผนึก . . .

 

แล้วทำไมถึงต้องทำเช่นนี้ ?

 

ในใจของโจว หยวน พลันเกิดความสงสัยขึ้น แต่ก็ไม่ได้ถาม ทั้ง ฉาง หยวน และ เหยาเหยา คงจะมีความลับที่ไม่อาจบอกใคร บางทีความลับ นั้นอาจอยู่ในร่าง ไม่ก็อาจเป็นอย่างอื่น

 

นอกจากนี้ ความลับสำคัญเช่นนี้ ด้วยสถานะของเขา ย่อมไม่สมควรรับรู้

 

“ข้าจะจดจำคำพูดของอาจารย์”โจว หยวน กล่าวด้วยท่าทางจริงจัง

 

ฉาง หยวน พยักหน้าและพูดว่า”ในวันหน้าหากเจ้าประสบปัญหาด้านการบ่มเพาะ จงขอคำชี้แนะจาก เหยาเหยา นางติดตามข้ามาหลายปี หลายสิ่งอาจารย์ได้ถ่ายทอดให้นาง แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของนาง”

 

โจว หยวน ได้ยินเช่นนั้น ก็ใช้แววตาสุกสกาวจ้องไปที่หญิงสาวชุดฟ้า เดิมเขากังวลเรื่องที่จากนี้ต้องบ่มเพาะคนเดียว แต่บัดนี้ กลับได้รู้ว่ามีพี่สาวที่คอยให้คำชี้แนะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องห่วงอีก เห็นทีจากนี้คงต้องประจบเอาใจกันหน่อย

 

อย่างไรก็ตาม หญิงสาวชุดฟ้ายังคงจมอยู่กับความเศร้า ไม่มีเวลามามัวสนใจเขาแต่อย่างใด

 

“เจ้าไปเถอะ "

 

ฉาง หยวน จับมือของหญิงสาวชุดฟ้า ก่อนจะพูดขึ้นช้าๆ

 

“ไปตอนนี้ ?”โจว หยวน ยามนี้จะสามารถคงความเด็ดเดี่ยว แน่วแน่ ได้รึ ?

 

“ใช่! พวกเจ้าต้องไปทันที!”ฉาง หยวน กล่าวกระแทกเสียง ด้วยน้ำเสียงดุดัน

 

โจว หยวน ไม่พูดให้มากความ เขาเพียงคุกเข่า คำนับ ฉาง หยวน ก่อนที่จะลุกขึ้นเตรียมจากไป ที่เขามาที่นี่ก็เพราะมีสิ่งที่ต้องทำ

 

ฉาง หยวน สบัดแขนเสื้อ จนพื้นดินหน้ากระท่อม ฝุ่นลอยคละคลุ้ง ก่อนที่อักขระโบราณจะปรากฏ เมื่อมองดูดีๆ จะพบว่านั้นคือ รูปแบบก่อเกิด

 

รูปแบบก่อเกิดแบบนี้ โจว หยวน เคยเห็นมันที่แท่นศิลารูปแบบก่อเกิด เห็นได้ชัดว่ามันเหมือนๆกัน

 

โจว หยวน มองไปที่ ฉาง หยวน ก่อนที่จะก้าวออกไป ยังทิศทางรูปแบบก่อเกิดที่ปรากฏ แต่ทว่า หญิงสาวชุดฟ้า กับสัตว์อสูรที่ชื่อ ถุนถุน กับยังมอง ฉาง หยวน

 

“ไปซะ! ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีวันได้พบกันอีก!”ฉาง หยวน พูดพร้อมกับสบัดมือ

 

แววตาหญิงสาวชุดฟ้าถึงกับตะลึงขณะที่กลายเป็นสีแดง แต่นางก็พยายามที่จะไม่ร้องไห้ ได้แต่ก้มโค้งไปยัง ฉาง หยวน ก่อนที่จะเดินเข้าไปในรูปแบบก่อเกิด ยืนข้างๆ โจว หยวน

 

ฉาง หยวน เห็นเช่นนั้น ก็พลันกรีดกรายนิ้วมือ พริบตาบริเวณรูปแบบก่อเกิดก็ปรากฏแสงสว่าง เมื่อแสงปรากฏมันก็เข้าครอบคลุม โจว หยวน และ เหยาเหยา

 

“โจว หยวน จำคำของอาจารย์เอาไว้ จงปกป้องนาง! "

 

แสงสว่างเวลานี้มันได้บดบังดวงตาวิสัยทัศน์ ก่อนจะพาพวกเขาเคลื่อนย้าย โจว หยวน จึงได้ยินเพียงน้ำเสียงที่สั่นเครือของ ฉาง หยวน อีกทั้งในเสียงนั้น ยังเต็มไปด้วยคำวิงวอน

 

“อาจารย์ โปรดวางใจ! ข้าได้รับความเมตตาจากท่าน ฉะนั้น ข้าจะต้องทดแทนพระคุณ!”

 

โจว หยวน หลับตา ภายในใจหวั่นไหว ก่อนที่กระท่อม นั้นจะมีแสงปกคลุม สัมผัสได้ถึงลมกรรโชกอย่างรุนแรง ต่อมา โจว หยวน และ เหยาเหยา ก็ถูกเคลื่อนย้ายหายไปภายในรูปแบบก่อเกิด แต่แสงสว่างยังคงปกคลุม จนทุกอย่างหายไปไม่เหลือ

 

ฉาง หยวน จ้องมองไปยังสถานที่พวกเขาหายไป ขณะที่มองเขาก็กล่าวเบาๆว่า”ตระกูลโจว . . .จริงๆแล้วการที่มีโอกาสได้รับศิษย์อีกครั้งนับเป็นวาสนาของตาเฒ่า แต่ในอนาคต ก็ขึ้นอยู่กับโชควาสนาของเขาเอง”

 

เขาส่ายหัว หลังจากปรับอารมณ์ได้ก็มองไปยังท้องฟ้า จากบนเก้าอี้

 

ภายใต้ผืนฟ้าปฐพีกลางความเงียบสงบ

 

หลังจากความสงบอยู่เพียงไม่นาน ฉาง หยวน ก็ลืมตาขึ้น ขณะที่แววตาเกิดประกายแสงแล่นผ่าน ก่อนที่จะมีเสียงดังขึ้น

 

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

 

ใต้ฟ้าทั่วหล้า ท่ามกลางลมพายุที่ก่อตัว สายฟ้าที่แผดเสียงคำรามไปทั่วท้องฟ้า สามารถมองเห็นเป็นสาย มันได้ทลายตัวลงมาถล่มพื้นดินทั่วอาณาบริเวณ

 

พื้นพสุธาแตกกระจาย ป่าอันเงียบสงบรอบๆก็พังพินาศ

 

“มาแล้วสินะ!”

 

ฉาง หยวน จ้องไปยังผืนฟ้าใต้หล้าที่ถูกทำลาย ใบหน้าชราปกคลุมไปด้วยประกายแสง ก่อนจะตะโกน

 

“พักรบหลายปี กระดูกแก่ๆคงจะขึ้นสนิม ช่างเคลื่อนไหวลำบาก. . .”ฉาง หยวน ยิ้ม ขณะที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้าๆ

 

ร่างที่แก่ชรา แสดงอาการปวดเมื่อย ในขณะที่ลุกขึ้น ก่อนที่ชุดดำจะปลิวไสว เนื่องจากออร่าที่ปล่อยออกมา เสมือนมังกรพิโรธตื่นจากการหลับใหล โดยสมบูรณ์

 

ท้องฟ้าห่างไกลออกไปที่ถูกปกคลุมด้วยสายฟ้า มีร่างสามร่างลอยอยู่ท่ามกลางสายฟ้าที่ฟาดฟันออกมาจากร่างทั้งหมด ทั้ง 3 ลอยอยู่กลางเวหา แปล่งแสงครอบคลุมสวรรค์และปฐพี ประหนึ่งเทพก็มิปาน

 

ทั้งสามมีแววตาเย็นชา จับจ้องมายังร่างของ ฉาง หยวน

 

“ฮ่าฮ่า จักรพรรดิเหย เอาแต่ซ่อนตัวเหมือนหนูอยู่หลายปี ช่างทำให้ผู้คนทึ่งยิ่ง . .”เสียงที่ไร้อารมณ์พลันดังขึ้น จากเมฆที่ห่างออกไป กระจายไปทั่วบริเวณ

 

“ส่งคนมา! ไม่เช่นนั้นวันนี้ จักรพรรดิเหยคงต้องถูกฝังอยู่ที่นี่! "

 

ฉาง หยวน ได้ยินเสียงที่ดังสะท้อนไปทั่วสวรรค์ปฐพี คนที่กล่าวมุมปากยกขึ้นเป็นเส้นโค้ง ราวกับกำลังมีความสุข ตามด้วยเสียงหัวเราะที่ดังปานฟ้าคำราม

 

“ฮ่า ฮ่า มา เข้ามา เดี๋ยววันนี้ตาเฒ่าจะแสดงให้เห็น ว่าใครกันแน่ที่จะถูกฝังที่นี่!”

 

ฉาง หยวน ก้าวเพียงครั้งเดียว เสื้อที่สวมใส่ก็หลุดกระจาย เผยให้เห็นผิวหนัง บนร่างกายนั้นมันเต็มไปด้วยรูปแบบก่อเกิดโบราณ แต่ละรูปแบบก่อเกิด ล้วนแล้วแต่ซับซ้อนและน่าหวาดกลัว

 

ฟิ้ง ฟิ้ง

 

รูปแบบก่อเกิด ทั้งหมดพลันส่องแสงสว่างในเวลาต่อมา รอบๆตัวก็สว่างราวกับดวงตะวัน ในขณะที่มันหมุนรอบตัว ฉาง หยวน ร่างกายเขาก็ขยายตัวช้าๆ

 

เพียงไม่กี่อึดใจ ร่างอันใหญ่โต ก็ทะลวงสวรรค์ปฐพี ราวกับจะสามารถกวาดล้างทุกอย่าง

 

เมื่อเขาพุ่งขึ้นมา ก็แผดเสียงคำราม เสี้ยวนาทีต่อมา ร่างกายขนาดใหญ่ก็เคลื่อนไหว เปิดฉากพร้อมพลังอันไร้ขีดจำกัด แรงกดดันนั้นเสมือนมหาสมุทรถล่มลงมาจากหมู่เมฆกระแทกจนเกิดเสียงดัง

 

เปรี่้ยง เปรี้ยง ปั้ง!

 

พริบตาเดียว ท้องฟ้าทั่วอาณาบริเวณ ก็เริ่มแหลกสลาย

 

จบตอนที่ 10

 

รีวิวผู้อ่าน