
1797 วันที่แล้ว
ปากต่อปากสิน่ะหึ หึ หึ????????
"นั้น...บาเรียหายไปแล้ว "
" เอ้ย...นั้นมันบ้าจริงๆ "
นักข่าวมารวมกันที่ หน้า ทางออกที่ 6 สถานี โซล เมื่อได้ยินว่า บาเรีย หายไป
โดยปกติแล้ว เวลาเฉลี่ยนในการ เคลียร์ ดันเจี้ยน 5 ดาวคือ 8 ชั่วโมง แต่ วูชินและซังกูกลับออกมาจากดันเจี้ยน โดยใช้เวลา แค่ 4 ชั่วโมง
" รีบเขียนบทความเร็วเข้า " .
" พวกเราต้อง พยายามที่จะสัมพาษณ์พวกเขานะ... "
" หรือว่าระดับของเขา เทียบเท่า คิม-เกียงชู"
หาก เลือกผู้มีพลังที่แข็งเเกร่งที่สุดในเกาหลี ทุกๆคนคงตอบ ว่าคิม-เกียงชู
" นั้นพวกเขาออกมาแล้ว "
ในตอนนี้ ข่าวของวูชิน นั้น ดังสุดแล้ว เพราะว่าเขา ผ่านดันเจี้ยน 5 ดาว ด้วย ตัวคนเดียว
ข้อมูลของ เขา ยังคงคลุมเครือและยังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก
" คุณคัง-วูชินครับ ได้โปรดให้สัมพาษณ์พวกเราด้วย"
นักข่าว ที่อยู่ใกล้ๆวูชินได้พูดขึ้น
"ฉันยังอารมณ์ไม่ดี ทำไหมพวกนายไม่ออกไปละ "
เสียงของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ โมโห และเกรี้ยวกราด ทำให้นักข่าวถอยไป
แต่อย่างไรก็ตามมีนักข่าวมากกว่า 20 คนตรงนั้น นักข่าวที่อยู่หลังๆก็ตะโกนขึ้นมา
" เฮ้..คัง-วูชิน ช่วยชี้แจงกับเราด้วย"
" . . . . . . . "
วูชินมองดูรอบๆแล้วเห็นไมโครโฟนอยู่ข้างเขา เขาจึงพูดออกไป
" ออกไป...." .
" . . . . . . . "
หลังจากที่ทุกคนได้ยินเสียงวูชิน พวกนักข่าวก็ไม่กล้าที่จะสบตา กับเขา
' โอ้ว..ทำไหมเขาเป็นแบบนี้ '
เมื่อวูชินเดินออกไป พวกนักข่าวก็เข้าไปรุมล้อม ซังกู
" คุณโฮง-ซังกู...คุณเจอวูชินได้ยังไงคับ"
" หากเทียบกันกับ คิม-เกียงชู คุณคิดว่าใครดีกว่ากัน"
คำถามมากมายถูกถาม อย่างรวดเร็วกับซังกู
" เฮ้...พวกคุณนี่ไม่พูดเยอะไปหน่อยเหรอ....คุณคิดว่า ดันเจี้ยนเป็นสนามเด็กเล่นเหรอ ขณะที่พวกเรากลับมาอย่างมีชีวิต และพึ่งออกมาจากดันเจี้ยน พวกคุณ ก็มารุมถามพวกเราอย่างนี้เหรอ"
" . . . . . . . "
เมื่อนักข่าวไม่พูดอะไรต่อ ซังกูก็พูดต่อด้วยความโมโห
" พวกคุณทำแบบนี้กับทีมอื่นๆด้วยรึเปล่า..ก็ไม่ทำนิ...พวกคุณคิดว่าเราเจราง่ายๆ อย่างนั้นรึไง "
สำหรับ นักข่าวอย่างพวกเขานั้น พวกเขาไม่สามารถที่จะ ขอสัมพาษกับทีมดังๆในกิลด์ใหญ่ๆได้เพราะว่าการ กั้นนักข่าวนั้นเป็น 1 ในหน้าที่ของทีม ซัพพอต
" ถอยไป "
เมื่อซังกู พ้นจากพวกนักข่าวไป เขาก็วิ่งไปข้างหน้าวูชิน แล้วคุกเข่าต่อหน้าเขา
" พี่...ผมขอโทษสำหรับเรื่องก่อนหน้านี้ด้วยครับ "
" เฮ้ "
"ครับ " .
" พอเถอะ "
" ครับ พี่ "
" นายต้องระมัดระวังตัวกว่านี้.."
" ครับผมจะระวังครับ "
วูชินยิ้มเมื่อเห็นซังกูทำหน้าเศร้าๆ เขาคิดว่า ซังกูยังอ่อนต่อโลกเกินไป และเมื่อเขาได้เผชิญหน้ากับความตาย เขาก็จะเติบโตขึ้น
" นายดูเป็นลูกผู้ชายขึ้นนะ.. " .
" ครับ... "
"เฮ้ กล้าๆ..หน่อยสิ นายดู ทรมานนะ "
อ่าา..นี่มันไม่ยุติธรรมเลย เขาได้รับกำลังใจจากคนที่ดุด่าเขาตลอดเนี้ยนะ
" ครับ ! "
" งั้นเราไปกันเถอะ "
เมื่อซังกูและวูชินเข้าไปในรถ ...วูชินก็โทรหาคิม-แฮมิน
[คุณวูชิน...ไม่สิ ท่านประธาน ..คุณออกมาแล้วเหรอครับ ]
" ...อื้มม...พวกคุณทำอะไรกันอยู่แล้วหัวหน้าจางละ "
[หัวหน้าจางเขากลับบ้านไปแล้วครับหลังจากที่เขาเขียนสัญญาเสร็จ...เขาบอกว่าเดียวเขากลับไปเช็ครายละเอียดอีกที เพื่อที่จะได้ส่งให้ทันในวันพรุ้งนี้ ]
" แล้วนายอยู่ที่ออฟฟิตเหรอ "
[ ครับประธานต้องการเสร็จสัญญาเหรอครับ]
เขาต้องการอ่านเหรอ....ไม่ใช่ว่าเขาควรที่จะต้องพักผ่อนหรอกเหรอ( แฮมินคิด)
" แล้วเจอกันในวันพรุ้งนี้..นายส่งที่อยู่นายมาให้หน่อย"
[ ครับ..เดียวผมส่งไปให้ในข้อความ]
เมื่อวูชิน วางโทรศัพท์ลง ข้อความที่อยู่ก็เข้ามา เขากดไปที่ ข้อความที่ถูกส่งเข้ามาเพื่อดู แผนที่
"อื้ม...ใกล้ละ "
เมื่อได้ยินคำพูดวูชิน..ซังกูก็ถามขึ้น
" นี่มันเหมือนประกาศสงครามกับกิลด์ค้อนเลย "
" ทำไม ? "
" ถ้าเราเปิดกิลด์ขึ้น ก็เหมือนกับเราไปท้าชนตรงๆกับกิลด์ค้อนเลยนะครับ "
เมื่อมี ดันเจี้ยนเกิดขึ้น มีโอกาสมากที่กิลด์ที่อยู่ใกล้ๆจะไปถึงก่อน ซึ่ง กิลด์ต่างๆ นั้นมีการแข่งขันกันสูงมาก
ในตอนเเรก เขาตั้งกิลด์ขึ้นเพื่อ หลีกเลี่ยงกองทัพ แต่ว่ากิลด์ค้อนคงไม่คิดแบบนั้น
บ้านแจมินนั้นอยู่ใกล้ๆดังนั้น เขาจึงมาถึงในเวลาไม่นาน
" แล้วเจอกันที่ออฟฟิต ในวันพรุ้งนี้”
" ครับพี่... "
" ขอบคุณพี่มากครับที่ช่วยชีวิตผมไว้"
" ไม่เป็นไร
วูชินโบกมือและเข้าไปบ้านแจมิน
*
เมื่อวูชินกลับมา ดูเหมือนว่าแจมินจะยังอยู่ที่กวดวิชาและยังไม่กลับมา
" เมี้ยวว..นายท่านดูแข็งเเกร่งขึ้นอีกแล้ว เมี้ยวว "
วูชิน ยิ้ม ให้บีบี ที่ทักทายเขา
"บีบี..เธอจำลูกน้องของ ทราเน็ตได้ไหใ "
" เมี้ยวว...มอนเตอร์ตัวไหนละเมี้ยว.. "
" ฉันคิดว่า พวกดันเจี้ยนพวก นี้ถูกสร้างโดย ทราเน็ต เพื่อที่มันจะโจมตีโลก และมันน่าจะทำอะไรสักอย่างกับ อุโมงค์มิติ เพียงแต่ว่าเรายังไม่เจอ สัญญาณ ลูกน้องของพวกมันเท่านั้นเอง "
" เมี้ยวว..พวกเรายังมีเวลา”
สำหรับพวก แร็ควี่ และดราบิด พวกมันเป็นมอนเตอร์ระดับต่ำ ไม่ถือว่าเป็นมอนเตอร์ของทัพทราเน็ต ด้วยซ้ำ
"ฉันหมายถึง พวกลูกน้องจริงๆของทราเน็ตนะ "
ถ้ากองทัพของทราเน็ตโผล่มาตอนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่โลกจะต่อต้าน กองทัพของทราเน็ตได้
10อันดับผู้มีพลังของเกาหลี ที่มีระดับA พวกเขามีความสามารถประมาณ เลเวล 60 เท่านั้นเอง.
" เมี้ยว บางทีพวกมันอาจจะ ขาด พลังก็ได้ "
" พลัง ? "
"ดูฉันสิเมี้ยว..ฉันไม่มีร่างกาย จริงๆในโลกนี้แต่ฉันก็ยังติดอยู่ที่นี่.. "
ทันใดนั้นก็เหมือนมีประกายแสงสว่างให้วูชิน
" อ่า..เจ้าพวกนั้นไม่มีพลังงานพอที่จะเกิดบนโลกสินะ "
" เมี้ยว..ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ "
" แล้วทำไหมดันเจี้ยนถึงถูกปลดปล่อย ภายใน 30 วันด้วยละ"
" เมี้ยวว..บางทีมัน.."
" เธอหมายถึงอะไร"
" ดูเหมือนกองทัพของทราเน็ตจะ เพิ่มขึ้นทุกเดือน... ”
" . . . . . . . "
" นายท่านเคยบอกว่า พวกมันจะออกมาทุกสิ้นเดือนอย่างนั้นใช่ไหม "
" ใช่ ฉันพูดแบบนั้น”
บีบี อาจจะมีหน้าเหมือนแมวแต่ น้ำเสียงเธอตอนนี้ดูจริงจังมาก
"สิ่งหนึ่งที่ฉันแน่ในคือ กลิ่นของทราเน็ต แข็งเเกร่งขึ้น เมื่อดันเจี้ยนถูกปลดปล่อย ออกมา "
เขาสามารถเคลียดันเจี้ยนได้ แต่นั้นยังไม่ใช่ ความคิดที่ดี มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ แต่เขายังคิดไม่ออก
"อ้ออใช่...ถ้านายท่านกลับเข้าไปในห้องอัญเชิญ...นายท่านจะเจอโกเลมเหล็ก " ( tln : dolsae = หินเหล็ก )
"เมี้ยวว..."
นี่คือสมาชิกในครอบครัวของเขาคนที่ 2
บีบีมีความสุขมากเมื่อเห็น โกเลม เหล็กปรากฏตัวขึ้น
" เมี้ยวว..งั้นฉันขอตัวไปเล่นกับโกเลมในห้องอัญเชิญก่อนนะเมี้ยวว "
" ก็ได้... "
" นายท่าน ถ้านายท่านไปดันเจี้ยนครั้งหน้า เรียกฉันด้วยนะ... "
" ได้ๆ..ฉันเข้าใจแล้ว "
ทันใด้นั้นบีบีก็หายไป เธอดูมีความสุขมากเมื่อ มีโกเลม ปรากฏตัวที่ห้องอัญเชิญเป็นเพื่อนเธอ
" ตอนนี้ฉันควรจะ ศึกษา เรื่องสังคมสินะ "
เขากดรีโมต เพื่อดูทีวี และเขาก็เริ่มส่งข้อความหาแจมิน
[ ถ้านายเข้ามาฝากซื้อส้มถุงหนึ่ง นะ ]
ปิ้ง.
เขาตอบกลับมาในทันที
[ ผมจะถึงบ้านแล้ว]
" หือ ? "
ก่อนที่วูชินจะตอบสนอง ประตูหน้าบ้านก็ถูกเปิดขึ้น
" เฮ้..นายไปซื้อให้หน่อยสิ "
" ได้...ฉันขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนละกัน "
" หือ ? "
วูชิน รู้สึกงงๆกับคำพูดของแจมิน (ทำไหมเอ็งใช้งานจังวะ)
" เดียวผมกลับมานะ".
แจมินวางกระเป๋าของเขาและเปลี่ยนเสื้อผ้าในทันที จากนั้นเขาก็ออกไป
" หื้อ..เขาไม่ได้ขอเงินฉันงั้นเหรอ "
ไม่นานแจมินก็กลับมาพร้อมถุงส้ม ในมือเขาและยื่นมันให้กับวูชิน
" เฮ้...เกิดอะไรขึ้นที่ โรงเรียนรึเปล่ามีคนกวนนายเหรอ "
" ไม่มีครับ...ผมควรจะขอบคุณพี่มากกว่า..ขอบคุณครับ "
แจมินก้มศีรษะ ขอบคุณ วูชิน...นั้นทำให้วูชิน มองไปรอบๆด้วยความแปลกใจ นี่ไม่ใช่แจมินที่เขารู้จัก
"นายต้องใช้เงินไหม "
"ไม่เป็นไรครับพี่ เงินที่พี่ให้มา ทำให้ผมอยู่ได้สักพัก”
"หื้อ..ทำไหมวันนี้ เขาดูจิงๆจังๆแปลกๆ"
" ผมต้องไปอ่านหนังสือแล้วนะ...นี่มันช่วงสอบ.. " .
" เอ่อ....อาเคร "
เมื่อเขาเห็น แจมินซีเรียส เขาก็เรียกแจมิน มา
" เฮ้ เกิดอะไรขึ้นกับนาย นายแตกเนื้อหนุ่มเหรอ... "
" มันไม่ใช่อย่างนั้น . . . . . . . "
หน้าของแจมินรู้สึก เหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ ทันใดนั้น วูชินก็ยิ้ม
" เฮ้...นายบอกฉันได้นะ "
" . . . . . . . ."
" พี่ "
" อื้ม "
" จำตอนที่ผมบอกเรื่องความฝันของผมได้ไหม "
" เอ่อ . . .นายต้องการเข้าร่วมกิลด์สินะ"
" ใช่ " .
" นายบอกว่ามันทำเงินได้มาก "
" เรื่องของพี่นั้นเต็มไปหมดเลยแต่ก่อนผมไม่คิดว่าพี่จะเป็นคนที่ ดีขนาดนี้"
เขาข่มขู่ . . . .ไม่สิเขายืมเงิน แต่อย่างไรก็ตามใครจะคิดว่า วูชินจะเป็นคนที่ ดีขนาดนี้
"งั้น นายโกรธที่ฉันไม่ได้บอกนายเหรอ "
" ไม่ ครับ..ผมได้ยินว่าพี่จะสร้างกิลด์ "
วูชินยิ้ม
" ฉันก็อยากใส่นายเข้ามาในกิลด์ฉันนะ แต่คนที่วุฒิภาวะไม่ถึง เข้าไม่ได้ นาย ผิดหวังเหรอ"
" ไม่ "
เขาไม่ได้ผิดหวัง แต่ . . . . . . .
" ความฝันของผมคือ เข้าร่วมกิลด์ ที่มีชื่อเสียงในเกาหลี และได้รับยา ดังนั้นผมจึงตั้งใจเรียน"
" ยา "
" มันไม่สามารถซื้อด้วยเงินได้...มันจะได้ก็ต่อเมื่อ เข้ากิลด์ "
" ยาอะไร ? "
"มันสามารถฟื้นฟูสภาพของพี่สาวผมได้"
" อ่าสำหรับพี่สาวนายสินะ... "
" . . . . . . . "
แจมินกัดปากแน่น
เมื่อเร็วๆนี้ แจมินได้ค้นหา ชื่อ วูชิน ตอนที่เขาเบื่อ เขาพบว่า วูชินถูกเปรียบเทียบกับ คิม-เกียงชู
มันจะเป็นไปได้เหรอ ? ...แต่เค้าไม่กล้าที่จะถามวูชิน....
กริ้งงๆ
โทรศัพท์ ในมือแจมิน ดังขึ้นทำให้บรรยากาศที่อึดอัดหายไป
" ผมต้องออกไปข้างนอกสักแปบนะ.."
"อ่ออ..อื้ออ "
แจมิน รีบใส่เสื้อโค้ทและรีบออกไป...ทันใดนั้นวูชินก็ยิ้ม
" พวกเขาทั้งคู่เติบโตขึ้นแหะ”
แจมินเรียนอย่างหนักก็เพื่อพี่สาวของเขา ในขณะเดียวกัน พี่สาวของเขาก็ทำงานหนักเพื่อน้องชายของเธอเช่นกัน . .
เขาคิดว่า ทั้งคู่เป็นพี่น้องที่น่ารักมาก
" เฮ้อ...ถ้านายอยากจะขอร้องฉันก็ บอกสิ "
วูชินหัวเราะ และเปิดร้านค้า ส่วนตัวของเขาขึ้น
By Mheeezaa เอาละวุ้ย นางเอกจะมาแล้ว
ปากต่อปากสิน่ะหึ หึ หึ????????