px

เรื่อง : ปราณเทวะ เทพหยวน
ตอนที่ 29 น้ำตกหยกวิญญาณ


บริเวณภูเขาด้านหลังของสำนักวังต้าโจวนั้น จะมีภูเขาที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี อีกทั้งยังมีน้ำตกไหลตรงลงมาเบาๆจากภูเขานั้น

 

โจว หยวน ซู โหยวเหว่ย และคนอื่นๆในสำนักแรกนั้น อยู่ใกล้ปลายน้ำตก อีกทั้งพวกเขายังพบลำธารทะเลสาบที่มีน้ำใสราวกับกระจก

 

"นี่คือน้ำตกหยกวิญญาณ รึ ?! "

 

ดวงตาอันงดงามของ ซู โหยวเหว่ยจับจ้องไปที่น้ำตก ใบหน้าของนางพลันปรากฏความสงสัยขึ้น

 

ด้านข้างนั้น ซ่ง ชิวชุ่ยก็พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า "นี่คือสมบัติปฐพีบ่มเพาะ ของสำนักวังต้าโจวเรา น้ำตกหยกวิญญาณ เพราะต้นน้ำตกนั้นมีเศษเสี้ยวธุลีหยกม่วงวิญญาณอยู่ ซึ่งน้ำที่ไหลผ่านเศษธุลีหยกม่วงวิญญาณนั้นจะมีปราณธุลีหยกอันบริสุทธิ์ติดมาตามกระแสน้ำ ซึ่งปราณนั้นมันทำให้กระแสน้ำทรงพลังมาก เมื่อมันกระทบกับร่างกาย ปราณธุลีหยกจะมีส่วนช่วยในการเบิกชีพจรอย่างมาก."

 

"ที่สำคัญที่สุด เป็นเพราะปราณธุลีหยกวิญญาณนั้นบริสุทธิ์มันจึงไม่ทำลายเส้นชีพจร ดังนั้นเมื่อทะลวงชีพจรถึงขีดจำกัดในทุกๆวันแล้ว ก็จะสามารถมาฝึกในน้ำตกหยกวิญญาณแห่งนี้ต่อได้โดยไม่มีปัญหาอะไร "

 

ซู โหยวเหว่ยได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มกว้าง เพราะเส้นชีพจรนั้นมีขีดจำกัด ดังนั้นการทะลวงชีพจรจึงมีการจำกัดครั้งเช่นกันและน้ำตกวิญญาณหยกนี้นั้นหลังจากถึงขีดจำกัดแล้ว เราสามารถใช้มันในการช่วยทะลวงชีพจรโดยไม่ส่งผลเสียต่อเส้นชีพจรอีกด้วย ตรงจุดนี้น้ำตกหยกวิญญาณนับว่ามีค่ามหาศาล

 

โจว หยวนยิ้มแล้วพยักหน้าและเหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือทุกๆวันหลังจากทะลวงชีพจรแล้วเขาสามารถใช้น้ำตกนี้ในการทะลวงจุดชีพจรต่อได้

 

ด้วยสิ่งนี้มันจะเพิ่มความเร็วในการฝึกตนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

 

"ธุลีหยกม่วงวิญญาณนั้นมันจะดูดซับปราณฟ้าดิน และสามารถแปลงเป็นปราณธุลีหยกได้ ดังนั้นมันจึงต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญสองคนเพื่อเปิดใช้มัน "

 

หยาง จ้าย มองไปยัง โจว หยวน และ ซู โหย่วเว่ยพลันหัวเราะแล้วกล่าวว่า: "โชคของพวกเจ้านั้นนับว่าดีนักที่ได้เข้าร่วมกับสำนักแรก "

 

โจว หยวนมองไปยังน้ำตกที่มีสีม่วงจางๆพร้อมกล่าวถามว่า: "แล้วเราจะแบ่งกันใช้น้ำตกหยกวิญญาณนี่อย่างไรหรือ "

 

น้ำตกหยกวิญญาณนั้นมีแค่ 1 แต่สำนักวังต้าโจวนั้นมีสำนักย่อยถึง 5 ดังนั้นเหล่าศิษย์หลายร้อยคนย่อมต้องเข้าไปใช้น้ำตกหยกวิญญาณ แน่นอนว่ามันต้องมีการแบ่งช่วงเวลากัน

 

"น้ำตกหยกวิญญาณจะเปิด 8 ชั่วยามและ พวกเราสำนักแรก จะได้ใช้ 3 ชั่วยาม สำนักชั้น 2 จะได้ใช้ 2 ชั่วยามส่วนที่เหลือพลัดกันอีก 3 ชั่วยาม เพราะพวกเราคือสำนักแรก จึงได้เวลามากที่สุด " หยาน จ้าย กล่าว

 

โจว หยวนพยักหน้าพร้อมกล่าวขึ้นว่า: "3 ชั่วยามเท่านั้นรึ "

 

หยาง จ้าย หัวเราะ หึหึ แล้วกล่าวต่อทันทีว่า: "3 ชั่วยามนับว่ามากเกินพอแล้ว นอกจากนี้ไม่มีใครทนได้นานหรอก "

 

"หืม?"โจว หยวนอุทานขึ้น

 

หยาง จ้าย หัวเราะ แล้วไม่กล่าวอะไรมาก เขากล่าวขึ้นเพียงว่า: "เดี๋ยวเจ้าจะรู้เอง "

 

"อย่าพึ่งกล่าวไรสาระ ไปเตรียมตัวในห้องและจารึกรูปแบบก่อเกิดเสีย " ชู เทียนหยาง ปรบมือแทรกการสนทนาของผู้คน แล้วชี้ไปที่ห้องไม้ไผ่ ขนาดใหญ่ 2 ห้องไม่ไกลจากน้ำตก

 

"จารึกรูปแบบก่อเกิดไว้ด้วยรึ " โจว หยวน และ ซู โหยวเหว่ยได้ยินเช่นนั้นก็ประหลาดใจ

 

"อืม การฝึกในน้ำตกนั้น สำนักวังต้าโจวนั้นจะมอบรูปแบบก่อเกิดให้กับเหล่าอาจารย์ให้แต่ละครั้ง และจารึกรูปแบบที่มอบให้กับเหล่าศิษย์นั้นคือรูปแบบก่อเกิดระดับ 1 ซึ่งรูปแบบก่อเกิดนั้นจะทำให้ร่างกายดูดกลืนปราณธุลีหยกได้ดีขึ้น " ซ่ง ชิวชุ่ยกล่าว

 

จากที่พวกเขากล่าวนั้น ห้องไม้ก็ได้เตรียมไว้แล้ว และที่มันมี 2 ห้องก็เป็นเพราะต้องแยกระหว่างชายหญิง และบางครั้งก็จะมีศิษย์ใจกล้าไปแอบสองส่องห้องของสตรีเช่นกัน

 

และในเวลาสั้นๆ ก็ถึงคราวของโจว หยวน เมื่อเขาเข้าห้องไม้ไผ่ไป ก็พบอาจารย์คนหนึ่งที่ถือแปรงก่อเกิดเอาไว้ และบอกให้เขาถอดเสื้อออกจากนั้นเขาก็วาดพู่กันลงบนหลังของโจว หยวน ปรากฏเป็นรูปแบบก่อเกิด เมื่อเสร็จสิ้นการจารึกรูปแบบก่อเกิด โจว หยวนก็สัมผัสได้ว่าหลังของเขานั้นประกายแสงออกมาชั่วครู่แล้วก็หายไป และด้วยรูปแบบก่อเกิดนี้ มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงปราณฟ้าดินดียิ่งขึ้น

 

"รูปแบบก่อเกิดนี้ ประสิทธิภาพต่างจากหยกก่อเกิดรวมปราณไม่มากนัก แต่มันมีระยะเวลาสั้น " โจว หยวน สวมเสื้อคลุมคารวะอาจารย์คนนั้นแล้วเดินจากไป

 

พูดถึง จี้หยกก่อเกิดรวมปราณ โจว หยวน ก็มองไปที่สร้อยที่ห้อยจี้หยกไว้บนคอของเขา ครั้น ซู โหยวเหว่ย ทราบว่าเขาสามารถเบิกชีพจรได้ นางก็รีบคืนมันให้กับเขาทันที

 

ซึ่งเขาก็รู้ว่านางนั้นดื้อรั้นมากดังนั้นจึงไม่ได้ฝืนใจบังคับ

 

เมื่อออกจากห้องไม้ไผ่ เขาก็เห็น ซู โหยวเหว่ย เดินไปไวๆเท่านั้น เขามองไปที่หลังของนางก็พบแสงประกายของรูปแบบก่อเกิดออกจากร่างของนาง

 

"อย่ามองอะไรมั่วซั่วสิ " เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของโจว หยวน ซู โหยวเหว่ย ก็จ้องเขาเขม็งด้วยหน้าแดงก่ำ

 

โจว หยวน ยิ้มแล้วมองไปยังห้องไม้ไผ่ฝั่งสตรีแล้วกล่าวขึ้นว่า: "ไม่ใช่ว่าทางเจ้าก็มีอาจารย์ผู้ชายหรอกหรือ "

 

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆมันนับว่าเสียหายมาก

 

ซู โหยวเหว่ย เริ่มมีโทสะ กระทืบไปที่เท้าของโจว หยวนแล้วกล่าวว่า"ท่านไร้สาระเกินไปแล้ว มันก็ต้องเป็นสตรีสิ!"

 

การจารึกรูปแบบก่อเกิดจะต้องถอดเสื้อส่วนบน หากให้อาจารย์ผู้ชายเป็นคนลงมือเกรงว่าจะไม่เหมาะสม

โจว หยวน หัวเราะอย่างชั่วร้าย จากนั้นทั้ง 2 ก็สนทนากันไปเรื่อยๆจนสักพักเหล่าศิษย์สำนักแรก ก็มารวมตัวกันครบ ชู เทียนหยาง เห็นเช่นนั้นก็มองส่งสัญญาณให้กับคนที่อยู่ตรงน้ำตกทันที

 

ซู่!!!!

 

น้ำตกขนาดยักษ์ได้ทะลักลงมาราวกับมังกรกระโจนทะยาน ด้วยแรงดันของกระแสน้ำที่ตกลงไปยังลำธารก่อให้เกิดคลื่นลูกยักษ์ขึ้นบนท้องฟ้า

 

ชู เทียนหยาง จุดธูปหอมและปักใส่ก้อนหินด้านข้างพร้อมมองไปยังเหล่าศิษย์ด้วยสายตาจริงจังพร้อมกล่าวว่า "เตรียมตัวให้ดี พวกเจ้ามีเวลาเพียง 3 ชั่วยาม หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้สูญเปล่า "

 

กล่าวเช่นนั้น เขาก็มองไปยัง โจว หยวน ซู โหยวเหว่ย ต่อจากนั้นก็หันไปมองศิษย์เก่าพร้อมกล่าวว่า: "พวกเจ้าไปลองก่อน "

 

ทั้ง 3 พยักหน้าพร้อมมองพวก หยาง จ้าย และ ซ่ง ชิวชุ่ย ใบหน้าของพวกเขานั้นปรากฏความกลัวเล็กน้อยในขณะมองไปยังน้ำตกหยกวิญญาณ ในที่สุดพวกพวกเขาก็ถอนหายใจแล้วเดินไป

 

ซู่!!!

 

กระแสนน้ำอันรุนแรง ถาโถมมาที่ร่างของพวก หยาง จ้าย ที่ยืนอยู่บนเนินหิน ขณะที่ต้องคอยรับแรกกระแทกจากกระแสน้ำอันหนักหน่วง

 

น้ำตกมวลมหาศาลนี้ มันเป็นกระแสน้ำที่รุนแรงมาก แม้หยาง จ้าย และพวกจะใช้พลังต้านอย่างเต็มที่ แต่ร่างของพวกเขาก็ยังต้องสั่นเทา

 

พวกเขากัดฟันแน่ พลังของกระแสน้ำที่โถมเข้ามานั้นโถมเข้าใส่ร่างของพวกเขาราวกับแส้ แม้ใบหน้าของพวกเขาก็ได้รับผลกระทบ

 

ในตอนนั้นรูปแบบก่อเกิดที่หลังของพวกเขาก็พลันส่องแสงออกมา ต่อจากนั้นกระแสปราณสีม่วงก็ได้ไหลเข้าไปในร่างของพวกเขา

 

ปังงงง!

 

เหล่าบรรดาศิษย์ทั้งหลายที่ต้องทนอยู่ภายใต้กระแสน้ำนั้น พวกเขาก็ทนได้เพียง สิบนาที ต่อมาก็เริ่มที่จะทนไม่ไหวได้แต่แหกปากร้องลั่นออกมา และก็มีบางคนนั้นถึงกับล้มลงไปในลำธารทะเลสาบเลยก็ว่าได้

 

ณ ปัจจุบันนี้ หยาง จ้าย และ ซ่ง ชิวชุ่ย นับว่าทนได้นานที่สุด พวกเขาทนได้ถึง 20 นาที ก่อนจะร่วงลงไปในลำธาร

 

เมื่อพวกเขาตกลงในลำธารทะเลสาบผิวหนังของพวกเขาก็พลันเป็นสีเขียวราวกับโดนเฆี่ยนตีมาอย่างหนักจนบอบช้ำ แค่มองด้วยตาก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เหนือคณานับ

 

และนั่นก็ทำให้โจว หยวนเข้าใจว่าเหตุใดพวกเขาทั้งรักทั้งชัง น้ำตกหยกวิญญาณ แม้มันจะช่วยเบิกชีพจรให้กับพวกเขา แต่ในแต่ละครั้งที่ก้าวเข้าไป มันก็ราวกับต้องทนรับการเฆี่ยนตีจากกระแสน้ำจนสภาพดูไม่จืด

 

"ต่อไป ถึงตาพวกเจ้าทั้ง 3 แล้ว " ชู เทียนหยาง มองไปยังพวกโจว หยวน แล่วกล่าวขึ้น

 

"หึหึ รีบเข้าไปรับประสบการณ์ครั้งแรกดูสิ " หยางจ้าย กล่าวด้วยเสียงหัวเราะ

 

โจว หยวนและ ซู โหยวเหว่ยต่างมองหน้ากันแล้วก้าวเข้าไปทันที พวกเขานั้นหยุดลงที่ใต้น้ำตก และมองกระแสน้ำที่ไหลลงมา ในไม่ช้าทั้ง 2 ก็เลือกที่จะกัดฟันเดินเข้าไปในกระแสน้ำตกที่เททะลักลงมา

 

เมื่อเข้าไปแล้วนั้น โจว หยวน ก็สัมผัสได้ แม้จะเล็กน้อยแต่ผิวหนังเขาก็เสมือนกับรากไม้ที่ซึมซับน้ำเข้ามา ต่อจากนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังกระแสน้ำอันมหาศาลที่ไหลร่วงลงมาบนร่างของพวกเขา

 

"ช่างหนักหน่วงจริงๆ "

 

มวลกระแสน้ำจำนวนมากกระแทกใส่ โจว หยวน ถึงกับต้องกัดฟันทนด้วยความเจ็บปวดทุกช่วงลมหายใจ

 

อย่างไรก็ตามภายใต้แรงดันของกระแสน้ำ โจว หยวนก็รู้สึกได้ว่ารูปแบบก่อเกิดนั้นกำลังดูดปราณร้อนและเย็นเข้ามาที่ร่างของเขา

 

ปราณเย็น และ ร้อน เหล่านี้ มันช่วยบรรเทาความเจ็บปวดบนร่างของ โจว หยวน ให้ลดลง

 

"นี่คือปราณธุลีหยก รึ " ในใจของโจว หยวน พลันสั่นไหว เพราะเขานั้นรู้สึกได้ว่าสิ่งที่ปิดกั้นชีพจรจุดที่ 3 อยู่มันบางลง

 

ความรู้สึกนี้ทำให้จิตวิญญาณของ โจว หยวน เดือดพล่าน เขานั้นยึดอกรับแรงกระแทกจากมวลน้ำด้วยความโลภที่ปรารถนาต่อปราณธุลีหยก

 

เมื่อโจว หยวน กัดฟันแน่น เขาก็ได้ยินเสียงรุ่นเยาว์จากคนที่ 3 นั้น ร้องออกมา ก่อนจะตกลงไปในแม่น้ำลำธาร

 

โจว หยวน เหลือบไปมองก็ได้พบว่า ซู โหยวเหว่ยนั้นยังคงกัดฟันยืนรับแรงกระแทกจากกระแสน้ำ เห็นได้ชัดว่านางนั้นทนได้ยากลำบาก

 

"ปราณธลุหยกนี้ ให้ผลลัพธ์มากมายจริงๆ แต่น่าเสียดายที่พวกเรานั้นอ่อนแอไป " จิตใจของโจว หยวน รู้สึกสลด แม้จะสามารถดูดซับปราณธุลีหยกได้ แต่ร่างของเขาก็มิอาจทนได้นานนัก

 

น้ำตกหยกวิญญาณนี้กว้างมาก แต่มีเพียงกระแสน้ำตรงกลางเท่านั้นที่มีสีม่วงจางๆ ตรงจุดนั้นเป็นไปได้ว่ามันจะมี ปราณธลุหยกมากที่สุด

 

เมื่อคิดถึงจุดนั้น โจว หยวนก็อดที่จะส่ายหน้าไปมาไม่ได้ บางที ปราณธลุหยกเหล่านี้ คนรุ่นเยาว์อาจจะไม่รู้ แต่นั่นก็มิอาจตำหนิพวกเขาได้ เพราะจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาเข้าสู่ระดับเที่ยงเท็จแล้วจึงสัมผัสถึงพลังได้ บางทีในการเบิกชีพจรนั้นคงไม่มีใครเหนือไปกว่าเขา

 

"มีแต่ต้องลอง "

 

โจว หยวนไม่ลังเล รีบปิดตาลงและเคลื่อนจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มาบริเวณหน้าผากทันที ต่อจากนั้นประสาทสัมผัสของเขาก็พลันเฉียบคมขึ้น มันสามารถทำให้เสียงน้ำเงียบสงบลงได้ ท่ามกลางน้ำทีอัดกระแทก โจว หยวนสัมผัสได้ถึง กระแสปราณสีม่วงที่ไหลแทรกผ่านกระแสน้ำ

 

"สัมผัสได้ถึงปราณธุลีหยกจริงๆด้วย "

 

โจว หยวนพลันปรากฏความประหลาดใจ ต่อจากนั้นท่าทีของเขาก็พลันดูจริงจัง พร้อมกับเคลื่อนจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ไปที่หน้าผากอีกครั้ง และหน้าผากของเขาก็พลันเกิดส่องแสงขึ้น และหากมีประสาทสัมผัสเฉียบคมก็จะเห็นเงาร่างหนึ่ง นั่งขัดสมาธิ์อยู่ข้างเขา และเงานั้นก็คือจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของ โจว หยวน

 

เงาของจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้นปล่อยแรงดูดออกมา แม้แรงดูดนี้จะไม่ได้แข็งแกร่ง แต่เป้าหมายของมันนั้นเน้นเฉพาะกระแสปราณม่วง

 

เมื่อ โจว หยวนขับเคลื่อนจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ให้ซึมซับ กระแสปราณม่วงโดยตรงมันก็เหลือเพียงกระแสน้ำที่ไหลกระแทกร่างของเขา ส่วนปราณสีม่วงก็พลันเปลี่ยนเป็นแสงสีม่วงไหลเข้าสู่ร่างกายเขาอย่างต่อเนื่อง

 

โจว หยวนหลับตาลง ในเวลานี้เขารู้สึกเป็นสุขอย่างเปี่ยมล้นเพราะในตอนนี้ปราณธุลีหยกที่ไหลเข้ามาสู่ตัวเขานั้นมากกว่าเดิมเป็นหลายสิบเท่า

 

"ผลของมันยอดเยี่ยมจริงๆ! "

 

เมื่อรู้สึกได้ว่า ชีพจรจุดที่ 3 กำลังถูกทะลวงอย่างต่อเนื่อง โจว หยวน ก็เผลอกระโดดขึ้น

 

ตู้ม

 

อย่างไรก็ตามการกระโจนพรวดพราดครั้งนี้ มันทำให้ร่างของเขาลอยขึ้นจากเนินหิน จนเป็นเหตุให้กระแสน้ำตกอัดกระแทกใส่ร่างเขา ร่วงลงไปในลำธารทะเลสาบทันที

 

จบตอนที่ 29

 

 

รีวิวผู้อ่าน