Chapter 17: ทลายกำแพงแก่นวิญญาณ
ใบหน้าของเสียนเควียนเอ๋อบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธ ตัวเล็กของเธอเริ่มขยายขึ้นและเสียงโซ่ที่ร่างกายส่วนล่างของเธอก็เริ่มดังขึ้นด้วย กระดูกขานั้นทะลุออกมาจากชุดของเธอยาวเหยียดจนถึงพื้นและดิ้นไปมา
เกราะกระดูกนั้นโผล่ออกมาจากในตัวของเธอทะลุผิวหนังด้านหลังของเธออกมาจนทำให้เธอดูกลายเป็นโครงกระดูกไป กระดูกตรงแขนและมือนั้นทะลุออกมาจากผิวเผยให้เห็นถึงเล็บอันคมกริบแทนที่นิ้วธรรมดา !
มีเดือยงอกออกมาจากด้านหลังหัวของเธอ ใบหน้าของเธอได้เปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่บรรยายถึงความน่ากลัวได้
ร่างกายของเธอนั้นเริ่มหนาขึ้นจนระทั่งมันคล้ายกับกิ้งก่ายักษ์ที่ก่อตัวขึ้นมาจากกระดูก !
“ เข้ามาข้างในเดี๋ยวนี้ ! ” เธอตะโกนออกมาด้วยเสียงผู้หญิงนับไม่ถ้วนที่พูดขึ้นพร้อมกัน
ฉินมู่มองไปที่กระดูกพวกนั้นและแสดงสีหน้าตกใจออกมาก่อนจะส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ไม่ ”
สัตว์ประหลาดนั้นตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ขาของมันนั้นลากไปกับพื้นพยายามวนเวียนเพื่อที่จะออกมาจากวัดให้ได้ แต่ทุกครั้งที่มันวิ่งออกมา ทั้งเกาะนั้นจะสั่นสะเทือนราวพร้อมกับโซ่ที่พันอยู่ที่พระพุทธรูปนั้นก็สั่นสะเทือนตามไปด้วย
ฉินมู่รีบมองไปที่โซ่แล้วมองไปที่แม่น้ำ โซ่นั้นมันลากยาวมาตั้งแต่ชายฝั่งจนมารัดที่พระพุทธรูป ปลายอีกด้านของโซ่นั้นพันเข้าที่ตัวของสัตว์ประหลาด
โซ่นั้นมีตัวล็อคสีทองที่ล็อคเข้าที่ตัวของสัตว์ประหลาด ทุกครั้งที่มันพยายามจะพุ่งออกมาจากวัด โซ่นั้นจะดึงมันกลับไป
ไม่ว่ามันจะพยายามมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่อาจจะก้าวออกมาจากเขตวัดได้เลย
ฉินมู่ยังคงใจเย็นและนั่งเผชิญหน้ากับมันพร้อมกับบ่มเพาะทักษะร่างราชันย์สามวิญญาณเพื่อฟื้นฟูแรงของตน
หลังจากนั้นสักพัก ทุกอย่างก็ได้หยุดลง ด้วยการที่ไม่สามารถทำลายโซ่ได้ สัตว์ประหลาดได้หันหลังไป ตะโกนใส่พระพุทธรูป “ เจ้าพระหัวล้านเฮงซวย ! เจ้าคือคนที่ทำให้ข้าต้องอยู่ที่นี่ ! เจ้าอยากให้ข้าอดตายอย่างนั้นรึ ? เด็กนี่ไม่มีธูปมาด้วยซ้ำ ทำไมเจ้าไม่ปล่อยให้ข้ากินเขา ? ”
สัตว์ประหลาดได้เดินวนรอบพระพุทธรูปด้วยท่าทีหงุดหงิด เธอทำลายกองกระดูกที่อยู่ด้านหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่รูปปั้นนั้นก็ยังไม่เคลื่อนไหวใด ๆ
ฉินมู่มองไปที่ด้านหลังเขา จากนั้นก็รีบหันหลังกลับด้วยความช็อค กระดูกพวกนั้นคือกระดูกของมนุษย์ ! บอกไม่ได้เลยว่ามีกี่คนที่ต้องมาตายที่วัดแห่งนี้
ไม่นานสัตว์ประหลาดก็ใจเย็นลงก่อนจะหยิบกระดูกเก็บไปซ่อนด้านหลังรูปปั้นตามเดิม จากนั้นมันจึงได้กลับมาที่ทางเข้าแล้วมองฉินมู่ด้วยสายตากระหายเลือด
“ ไอ้พระหัวโล้น เนื้อนี่มาอยู่ตรงหน้าประตูแล้วแท้ ๆ เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? เนื้อมาอยู่ตรงหน้าประตูแล้ว... ” มันพูดขึ้นพร้อมมองไปที่ด้านหลังหัวของฉินมู่ พร้อมกับน้ำลายที่ไหลออกมาจากปาก
สักพักมันก็ได้เปลี่ยนกลับไปเป็นเด็กสาวตัวน้อย เสียนเควียนเอ๋อ มันถกเสื้อลงข้างหนึ่งแล้วหัวเราะออกมา “ มาสิหนุ่มน้อย มาทำอะไร ๆ น่าอายด้วยกัน --- ! ”
ฉินมู่นั้นมีจิตใจที่เข้มแข็ง ดังนั้นเขาจึงปิดการได้ยินลงไป ในตอนที่แรงและพลังฉีของเขาฟื้นฟูกลับมา เขาก็รู้สึกว่าผลของการบ่เพาะในวันนี้ได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก
หัวใจของฉินมู่นั้นเต้นรัวและเขาคิดว่าเขาอาจจะรวบรวมพลังฉีและใช้มันทำลายกำแพงแก่นวิญญาณได้อีกครั้ง
“ $%#$%#$%#$%^#$%.... “
ในตอนที่พลังฉีของเขาพุ่งเข้าใส่กำแพงแก่นวิญาณ ก็ได้มีเสียงอึมครึมดังออกมาจากข้างในวัด ลำแสงสีเลือดวิ่งผ่านทองแดงตรงใบไม้ของพระพุทธรูป ลำแสงพวกนั้นเข้าห่อหุ้มใบไม้ทำให้มันปลดปล่อยแสงสีทองออกมา !
ตูมมมมมมม--- !
ในตอนที่เกิดการระเบิดนั้น พระพุทธรูปได้ลืมตาขึ้นและเปล่งออร่าออกมา อยู่ ๆ ก็เกิดเสียงตะโกนอันน่าตกใจดังขึ้นในหูของฉินมู่
“ เส้นทางของปีศาจ ! เจ้ากล้าดียังไงถึงกล้าอวดดีท่องบทปีศาจต่อหน้าข้า ! เจ้านั้นช่างทำตามอำเภอใจและไม่ได้รับการสั่งสอน ! ข้าจะท่องบทสวดของพระพุทธเจ้าในการเอาชนะเจ้า ! “
สีหน้าอันหงุดหงิดของสาวน้อยเปลี่ยนเป็นแสดงความเหลือเชื่อออกมา พระพุทธรูปจับเข้าไปที่โซ่และดึงสัตว์ประหลาดเข้าหาตัวเอง
ตึง !
สัตว์ประหลาดนั้นล้มลงไปต่อหน้าพระพุทธรูป มันขยับไม่ได้และเริ่มที่จะหมอบเมื่อต้องเจอความกดดันของพระพุทธรูปเข้า
พระพุทธรูปเริ่มท่องบางอย่างออกมา
“ %^$%#$#$%#$%$%^ .... “
เมื่อได้ยินเสียงของพระพุทธรูป สัตว์ประหลาดก็รู้สึกได้ถึงแรงที่มองไม่เห็นนั้นบดขยี้วิญญาณของมันทำให้มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ด้านนอกวัด บทสวดของพระพุทธรูปนั้นทำให้ฉินมู่กระเด็นออกไปและเขาก็เริ่มที่จะตื่นตระหนกขึ้น แต่ในตอนนั้นเองพลังฉีภายในของเขาเพิ่งไปถึงกำแพงแก่นวิญญาณ ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงของเทพดังขึ้นมาราวกับว่าพระเจ้าได้ท่องบทสวดนั้นด้วยตัวเอง
เสียงของพระเจ้าและเสียงของพระพุทธรูปนั้นดังก้องในหัวของฉินมู่พร้อมกัน ทั้งสองเสียงเข้าไปปะทะกันและลดความกดดันให้กับพลังฉีภายในของฉินมู่
“ ช่างเป็นโอกาสที่ดีจริง ๆ ! ” เขาคิด
เมื่อมาถึงจุดนี้ ฉินมู่ได้เริ่มตะโกนบทสวดของปีศาจขึ้นมา
“ %$%$##$%$%$#$%#$% ! $%#$%@#$%#$%^#$%^#$%^ ! ”
พระพุทธรูปเริ่มเปล่งเสียงดังขึ้นอีก “ $%#$%^#$%^#$%^#$%^&* ! ”
ในเวลาเดียวกัน เสียงของพระเจ้าจากสรวงสวรรค์ที่อยู่ตรงหว่างคิ้วของฉินมู่เองก็เริ่มดังขึ้นเช่นกัน “ $%#$%^#$%^#$%^#$%^&* ! ”
เพราะเสียงทั้งสามนั้นผสมรวมกัน ทำให้แรงดันที่ผลักพลังฉีภายในของเขาตรงกำแพงแก่นวิญญาณนั้นได้หายไป !
ในตอนที่เกิดการระเบิดของพลังานนี้เอง ฉินมู่ก็ได้ใช้ทักษะร่างราชันย์สามชีวิตรวบรวมพลังฉีทั้งหมดส่งตรงเข้าไปที่กำแพงแก่นวิญญาณ !
ฟึซ --- !
เหมือนกับคลื่นยักษ์ที่คอยถาโถมชายฝั่ง เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงเข้าที่กำแพงแก่นวิญญาณของฉินมู่ มันถล่มลงมาอย่างแรกและพลังฉีภายในของเขาก็ไหลเข้าไปในจุดแก่นวิญญาณสวรรค์
ทันใดนั้นพลังฉีจากจุดแก่นวิญญาณสวรรค์ก็ไหลปะทุออกมาก่อนจะแผ่ไปทั่วร่างกายของเขา การปะทุของพลังฉีนี้แผ่ไปทั้งเส้นผมและผิวหนังของเขาทำให้ขนทุกเส้นบนล่างกายลุกขึ้นมา !
กำแพงแก่นวิญญาณนั้นได้ถล่มไปแล้ว !
ทำลายกำแพงสำเร็จแล้ว !
ผลลัพธ์ที่ได้นี้ทำให้ฉินมู่อึ้งและเขาก็หยุดสวดบทสวดปีศาจลงไป เสียงของพระเจ้าในหัวเองก็ได้หยุดไปด้วย และเมื่อไม่มีศัตรูแล้วเสียงของพระพุทธรูปข้างในวัดเองก็ได้หยุดลงไปด้วยเช่นกัน พระพุทธรูปกลับไปหยุดนิ่งไม่ขยับดังเดิมเหลือทิ้งไว้เพียงสัตว์ประหลาดที่นอนอยู่หน้ารูปปั้นนั้น
กำแพงที่มองไม่เห็นตรงหว่างคิ้วของเขาที่กันไม่ให้เขาปลุกจุดแก่นวิญญาณสวรรค์ในที่สุดก็โดนทำลายลงไป ไม่มีอะไรปิดกั้นไม่ให้เขาเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในอีกแล้ว !
“ ข้าทำลายกำแพงได้จริง ๆ หรือ ? ”
ฉินมู่อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้และร้องออกมาด้วยความดีใจ
เขาได้ดื่มเลือดวิญญาณไปมากมาย แม้จะดื่มมันมานานแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้เขาปลุกร่างราชันย์ขึ้นมา ตอนนี้เขาสามารถทำลายกำแพงลงมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากการปะทะกันของเสียงพระพุทธรูป พระเจ้าและปีศาจ ตอนนี้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุด ฉินมู่ก็ใจเย็นลงและคิดกับตัวเอง
“ กำแพงแก่นวิญญาณ...จุดแก่นวิญญาณสวรรค์ เนื่องจากมันคือสมบัติสวรรค์ งั้นพระเจ้าคงต้องมีของล้ำค่าให้ข้าแน่ ๆ... “
เขาปิดตาลง ฉินมู่มองเห็นลำแสงสีทองตรงหว่างคิ้วของตัวอง เขาค่อย ๆ เข้าไปในจุดสวรรค์นั้น เขาเห็นว่าภายในจุดแก่นวิญญาณสวรรค์นั้นคือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยลำแสงสีทอง มันดูเหมือนสวรรค์ที่มีอยู่มาเนิ่นนาน
จุดแก่นวิญญาณสวรรค์นั้นเหมือนกับดินแดนเวทย์มนต์แห่งแสง เขาเดินทางลึกเข้าไปอีกและแสงที่มันส่องออกมาก็ทำให้เขารู้สึกสบายอย่างมาก
แต่แม้ว่าเขาจะเข้าไปที่นั่นเป็นเวลานานแต่เขาก็ไม่พบสิ่งใด
“ ไม่ใช่ว่านี่คือจุดแก่นวิญญาณสวรรค์หรอกหรือ ? ทำไมไม่มีสิ่งใดที่นี่เลย ? ไม่ใช่พระเจ้าเอาสมบัติข้าไปหรอกหรือ ? “
ฉินมู่สับสนเอามาก ๆ ตอนนี้จุดแก่นวิญญาณสวรรค์ได้ถูกเปิดออกแล้ว แล้วสมบัติสวรรค์นั้นอยู่ที่ไหนกัน ?
อยู่ ๆ ก็ได้มีรูปปั้นหอคอยหินโผล่ขึ้นมาตรงหน้า มันตั้งอยู่ใจกลายทะเลแสงแห่งนี้
“ ทำไมถึงได้มีรูปปั้นหินนี่ตั้งอยู่ในจุดวิญญาณสวรรค์ของข้า? เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันคือสมบัติสวรรค์ ? “
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ฉินมู่สับสน ในตอนที่เขาเข้าไปใกล้และลองสำรวจมัน เขาจึงรู้สึกได้ถึงบางอย่างแปลก ๆ เขาเข้าใจผิดว่ารูปปั้นนี่สร้างขึ้นมาจากหินที่ซึ่งที่จริงแล้วมันไม่ใช่
‘ รูปปั้นหิน ’ นี่ดูเหมือนจะทำขึ้นมาจากหิน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ มันเหมือนหยกแต่ก็ไม่ใช่หยก รูปปั้นนี่มีประกายไฟและดูโปร่งแสงแต่ก็ยังปลดปล่อยออร่าที่นุ่มนวลออกมา
สิ่งที่น่าสงสัยที่สุดของรูปปั้นนี่คือมันมีบางอย่างสลักไว้ซี่งหมายถึงตัวเขา
แต่มันหมายถึงฉินมู่ ในตอนที่เขายังเป็นเด็กเมื่อ 2-3 ปีก่อน !
“ นั่นคือรูปสลักของข้าในจุดแก่นวิญญาณสวรรค์อย่างงั้นหรือ ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าพระเจ้ารู้ว่าข้าหน้าตาเป็นยังไงเลยสลักสิ่งนี้ไว้และซ่อนไว้ในจุดแก่นวิญญาณสวรรค์ ? “
ความคิดนี้ทำให้ฉินมู่ตะลึง
จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ เข้าไปจับรูปปั้นนี่และเสียการควบคุม
สติของเขาเข้าไปในรูปปั้นนั้น !