px

เรื่อง : อัศวินดำโค่นอำนาจ(黑骑)
ตอนที่ 39 การทดสอบ


รถกระบะสีเหลืองขับผ่านถนนกว้างขวาง เคลื่อนไปตามเส้นทางซับซ้อน บ้านทั้งสองฝั่งถนนไหววูบอย่างรวดเร็ว คนเดินถนนกระจัดกระจายอยู่ทั่วทางเท้าสะอาด ไร้คนหิว หน้าร้านต่างๆเต็มไปด้วยสีสัน ผ่านประตูร้านค้า คุณสามารถเห็นบรรยากาศที่ดี พวกเขาร่วมกันสร้างฉากไม่ซ้ำซากจำเจในเมืองเล็กๆ

อู่ฉีนั่งอยู่ในรถที่สั่นสะเทือนเล็กน้อย ดวงตาเขาเหม่อมองไปนอกหน้าต่างตลอดเวลา เสียงเครื่องยนต์ดังก้องอยู่ในหูเขา หลังผ่านไปประมาณสิบนาที เสียงเครื่องยนต์ก็เบาลง และรถกระบะก็ค่อยๆหยุด  อู่ฉีมองไปด้านหน้าซึ่งเป็นถนนสีเทากว้าง25เมตร ทั้งสองฝั่งถนนมีแนวพุ่มไม้สีเขียวและต้นไม้สูง หลังคาเขียวชอุ่มขยับตามลมอ่อนโยน ที่ปลายสุดถนน50เมตรคืออาคารสูง จากความสูงของหน้าต่างรถ คุณสามารถเห็นได้แค่ทางเข้าของอาคารบนชั้นหนึ่ง

“อู่ฉี ไปกันเถอะ”หวังเซิ่งตะโกน เปิดประตูรถก้าวลงไป

หยางตงเฉินออกจากรถทางซ้าย อ้อมมาแทนที่หวังเซิ่ง เขาหันมายิ้มให้อู่ฉีที่ยังนั่งข้างคนขับ”นายกังวลเกี่ยวกับจิ้งจอกน้อยนี่ใช่ไหม?ไม่ต้องห่วง กระเป๋าและสัตว์เลี้ยงนายจะอยู่ในรถกับฉัน”

 

อู่ฉีพยักหน้า มองฉีเยวี่ยที่นั่งอยู่เบาะหลังอย่างเชื่อฟัง ดวงตาดำมันดูเหมือนจะมีอารมณ์ของมนุษย์ หลังสบตากันสักพัก อู่ฉีก็เปิดประตูรถและก้าวขาขวาออกไปก่อน

เมื่อก้าวไปบนถนนสีเทา อู่ฉีก็รู้สึกถึงสัมผัสที่แตกต่างผ่านพื้นรองเท้าแข็งเขา มันแข็งแรงมั่นคง นี่ไม่ใช่สัมผัสของถนนขรุขระเต็มไปด้วยหลุมหรือดินโคลนของป่าชื้น ไม่มีกลิ่นป่าในสายลมที่พัดจากตะวันออก มันบริสุทธิ์และจืดชืด

เมื่อยืนอยู่ในสถานที่เช่นนี้ อู่ฉีก็พลันมีความรู้สึกปลอดภัย

หวังเซิ่งจัดเสื้อผ้าเขาให้เข้าที่ จากนั้นก็เดินมาหาอู่ฉี ยืนห่างจากเขาครึ่งก่อนและเดินนำเขา อู่ฉีแหงนหน้ามองตลอดทาง สายตาเขามองตามตึกสูงตระหง่านกว่า 60 เมตรไปจนถึงท้องฟ้าสีเทา 

ไม่มีกระจกสีน้ำเงินเข้มด้านบนสุดของตึก  มันแทนที่ด้วยตัวอักษรเหล็กสีเทาเข้มว่า’องค์กรทหารรับจ้างซีเรียส’ ยังมีสัญลักษณ์เหล็กตรงด้านหน้าซึ่งก็คือหัวหมาป่า หมาป่ายักษ์เชิดหัวสูงและหันหน้าไปทางซ้าย เส้นขอบของหัวหมาป่าเป็นสีขาวสว่าง ส่วนด้านในมืดและโปร่งใสเหมือนจักรวาล จุดแสงสีฟ้าอยู่ตรงกลางของสัญลักษณ์ เหมือนดาวซีเรียสและจักรวาล(ซีเรียสหรือซิริอัส)

อู่ฉีเดินตามหวังเซิ่งขึ้นบันไดหยกขาวห้าขั้น เดินไปจนถึงทางเข้าหลักที่สูงสามเมตร กว้างสี่เมตร ประตูชั้นแรกทำจากกระจกกันกระสุน เต็มไปด้วยรูปแบบของยุคอารยธรรม ทั้งสองฝั่งของทางเข้ามียามสี่คนจากองค์กรซีเรียส พวกเขาสวมชุดเครื่องแบบสีเทาเข้ม มีปุ่มวงกลมสีขาวหกอันโดดเด่นบนเครื่องแบบทรงเรียว ไหล่ซ้ายของเครื่องแบบยังมีสัญลักษณ์ขององค์กรอยู่

กลุ่มยามล้วนยังหนุ่มสาว ประกอบไปด้วยชายสองหญิงสอง พวกเขาไม่ได้ถืออาวุธปืนใดๆ แต่อู่ฉีสามารถรู้สึกได้ถึงกลิ่นอันตรายที่เล็ดลอดจากตัวพวกเขา กลิ่นนี้คล้ายกับหวังเซิ่ง7-8ส่วน มันคือกลิ่นของทหารเสริมพันธุกรรม

หวังเซิ่งแสดงใบอนุญาตทหารรับจ้างระดับสอง ยามทั้งสี่ไม่ได้ก้าวออกมาเพื่อหยุดเขา ยืนนิ่งอยู่ทั้งสองฝั่ง อู่ฉีจึงรีบเดินตามหวังเซิ่งเข้าไป

พื้นที่ของโถงที่สามารถเห็นได้จากทางเข้าอย่างเดียวก็นับว่ากว้างกว่าสองร้อยตารางเมตรแล้ว พื้นของโถงปกคลุมด้วยกระเบื้องสีขาวเย็น เช่นเดียวกับกำแพงและเพดาน 

โต๊ะประชาสัมพันธ์สีเทาเข้มรูปไข่’แบบโมเดิร์น’ตั้งอยู่ตรงกลางโถง โต๊ะประชาสัมพันธ์มีขนาดใหญ่พอให้พนักงานนั่งอยู่ในนั้นสามหรือสี่คน

 

“พี่ชายเซี่ยง เจอกันอีกแล้วนะ!”หวังเซิ่งทักทายชายที่ดูธรรมดาตรงโต๊ะประชาสัมพันธ์

จางเซี่ยงยืนขึ้นและกล่าวอย่างกระตือรือร้น”โอ้ กลับมาแล้วงั้นหรอ โอ้ เด็กข้างนายคือคนที่นายพูดถึงนะหรอ?”

จางเซี่ยงมองอู่ฉีข้างหวังเซิ่ง อู่ฉีสวมชุดสีดำสนิท ดูธรรมดามาก ในยุคอารยธรรม มันคือหินที่หากโยนลงไปในกลุ่มคน เขาคงหาไม่เจอ อู่ฉีถือดาบยาวที่ห่อด้วยหนังสัตว์ไว้บนมือขวา จากรูปลักษณ์ภายนอก เขาเห็นแค่ว่ามันเป็นแท่งอะไรยาวๆ แต่ทว่า หน้าตาของอู่ฉีก็ทำให้สีหน้าจางเซี่ยงดูดีขึ้นเล็กน้อย

ผิวของอู่ฉีดูละเอียดอ่อนกว่าทุกคนในโถง ยังสวยยิ่งกว่าพนักงานต้อนรับสาวสองคนข้างจางเซี่ยงเสียอีก เค้าโครงหน้าประณีตเหมือนถูกแกะสลักอย่างดี ดวงตาดำคู่งามเขาเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้ามืด ทั้งงดงามและลึกลับ แก้มและปากแดงๆหมายความว่าเขามีสุขภาพดี  ไหลกว้างและแขนแข็งรองรับเสื้อผ้าธรรมดา โดยรวมแล้ว เขาแข็งแรงและมีสัดส่วนที่ดี

จางเซี่ยงคือที่ปรึกษาแผนกต้อนรับขององค์กร เขาเห็นคนมามาก เขาจะไม่มองคนที่ภายนอก แต่เป็นอารมณ์ของคิ้ว หวังเซิ่งตอนนี้เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น แต่คิ้วกลับเผยให้เห็นถึงความเย็นชาของศึกที่ผ่านมา ส่วนคิ้วของอู่ฉีกลับให้ความรู้สึกใสสะอาดและสดชื่น ด้วยใบหน้าคล้ายดอกไม้ในสวน ผู้คนคงคิดว่ามันคือชายหนุ่มที่ไม่เคยสัมผัสกับโลกที่แท้จริง แต่กลิ่นอายเบื้องหลังความสะอาดนี้ มันกลับสงบเกินไป สงบจนน่ากลัว

มันเป็นครั้งแรกที่จางเซี่ยงไม่สามารถตัดสินอารมณ์และรูปลักษณ์แท้จริงของคนหนุ่มได้ หรือบางทีคำตอบที่เขาได้รับจากประสบการณ์จะน่าเหลือเชื่อเกินไป แต่จางเซี่ยงไม่แปลกใจเลย เพราะเขาเชื่อว่าตราบเท่าที่อู่ฉีผ่านการทดสอบ ทุกอย่างจะปรากฏออกมาเอง

 

จางเซี่ยงยิ้มและกล่าว”เป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นดี อยากทดสอบตอนนี้เลยไหม?”
อู่ฉีและหวังเซิ่งมองหน้ากัน จากนั้นหวังเซิ่งก็กล่าวแทนอู่ฉี”เอาเลย ขอฝากพี่ชายเซี่ยงด้วย”

“ไม่มีปัญหา ไปกันเถอะ”จางเซี่ยงเปิดประตูจากด้านข้างโต๊ะประชาสัมพันธ์และเดินออกมา ทำท่าให้อู่ฉีเดินตามไป

อู่ฉีและหวังเซิ่งเดินตามจางเซี่ยงออกจากโถงต้อนรับขององค์กรซีเรียส เดินไปตามทางเดินซับซ้อน กำแพงทั้งสองฝั่งของทางเดินขาวสะอาด ยังมีภาพวาดสีน้ำมันแบบสมจริง ภาพบุคคล คำพูดที่มีชื่อเสียงของคนดังในยุคอารยธรรมและยุคมืดตลอดทาง

 

รีวิวผู้อ่าน