ด้านหน้าน้ำตกหยกวิญญาณ โจว หยวนและ ฉี เยว่นั้นได้ทำข้อตกลงการเดิมพันเอาไว้ และด้วยข้อตกลงนี้ มันทำให้เหล่าศิษย์สำนักวังต้าโจว ต่างทยอยมารับชมมากขึ้นเรื่อยๆ
มันเป็นเพราะการเดิมพันครั้งนี้ สำหรับทั้ง 2 ฝ่ายนับเป็นเรื่องใหญ่มาก
เวลาฝึกตนในน้ำตกหยกวิญญาณหนึ่งชั่วยามครึ่ง ต้องรู้ว่านอกจากสำนักหนึ่งและสอง สำนักอื่นๆมีเวลาใช้เพียงสำนักละ หนึ่งชั่วยามเท่านั้น
"ปลากินเบ็ดแล้ว!" หลิวซี ยิ้มขึ้นพร้อมกล่าวในใจ เพราะนางอยากจะเห็นภาพที่โจว หยวนพ่ายแพ้ หลังจากนี้
ด้านข้างนั้น สู่ หง นั้นเองก็มองไปยัง โจว หยวนด้วยประกายเย็นชา เขาคิดว่า โจว หยวน นั้นช่างไร้เดียงสายิ่งนัก เขาจะเอาพลังที่ไหนมาสู้กับฉี เยว่ได้
เหล่าศิษย์สำนักสองนั้น เมื่อเห็นฉี เยว่ได้เดิมพันเช่นนี้ก็พลันตื่นเต้น เพราะพวกเขารู้ว่าฉี เยว่นั้นแข็งแกร่ง แม้ว่าจะไม่ได้ต่อสู้ด้วยวรยุทธ์ แต่โอกาสที่ฉี เยว่ จะแพ้นั้นแทบจะไม่มี
ดังนั้น เวลาหนึ่งชั่วยามครึ่งของสำนักแรกก็เท่ากับเข้ามาอยู่ในมือพวกเขาแล้ว
เมื่อเทียบกับสำนักสองแล้ว สำนักแรกรู้สึกตึงเครียด ศิษย์หลายๆคนต่างก้มหน้าตาเพราะพวกเขารู้ฝีมือของ ฉี เยว่ดี
"โจว หยวน เจ้ามั่นใจหรือไม่ ? " ชู เทียนหยางถามเบาๆด้วยแววตากังวล
"ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ .” โจว หยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ชู เทียนหยางมองเห็นรอยยิ้มเขาก็พลันใจเย็นลง เขานั้นรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นๆ อีกฝ่ายนั้นเตรียมการมาอย่างดีเยี่ยม และคงไม่ยอมลามือแน่นอน ดังนั้นการเดิมพันครั้งนี้จึงทำได้เพียงตอบรับ
"ท่านต้องชนะให้ได้นะ " ซู โหยวเหว่ยกำหมัดแน่นและทำท่าทางให้กำลังใจโจว หยวน
"โจว หยวน อนาคตของสำนักแรกของเราขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว " ซ่ง ชิวชุ่ยนั้นมองไปยังโจว หยวนด้วยสายตาคาดหวัง เพราะสถานการณ์เช่นนี้มันมิอาจหลีกเลี่ยงไปได้ หากต้องเสียเวลาหนึ่งชั่วยามครึ่งไป บางที สำนักแรกอาจจะไม่มีใครเบิก 6 ชีพจร ไปอีกนาน
ดังนั้นการเดิมพันครั้งนี้นั้นกล่าวได้ว่า เหล่าศิษย์สำนักแรกนั้นต่างเป็นกังวลอย่างมาก
เมื่อได้เห็นความคาดหวังของพวกเขาแล้ว โจว หยวนก็ไม่ได้กล่าวอะไรเพียงพยักหน้าเท่านั้น.
ท่ามกลางสายตาที่จับจ้อง โจว หยวนและ ฉี เยว่ก็ตรงไปยังน้ำตกหยกวิญญาณทันที
"ฝ่าบาท จะดีกว่าหากท่านยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้ มิฉะนั้นท่านจะต้องขายหน้าอย่างแน่นอน " ฉี เยว่กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม
"เรื่องนี้เก็บไว้บอกตัวเจ้าเองเถอะ” โจว หยวน กล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำๆ โดยไม่ได้มองไปยังเขา
"ดูเหมือนว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ หากเป็นเช่นนั้นข้าจะจัดการสั่งสอนให้เอง " ฉี เยว่แสยะยิ้มที่มุมปาก เขาไม่กล่าวอะไรมาก และเดินตรงเข้าไปในสายน้ำตกหยกวิญญาณทันที
โจว หยวนและ ฉี เยว่นั้นต่างเลือกที่คนละฝั่งของน้ำตก ก่อนจะสบตาอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตาแข็งกร้าว
ซู่มมม
ต่อมานั้น พวกเขาก็สูดหายใจเข้าลึก และก้าวเข้าไปในน้ำตกทันที
กระแสธาราที่มีพลังพอจะคร่าชีวิตคนได้อัดกระแทกลงมาที่ร่างของพวกเขา น้ำหนักของมันนั้นคล้ายกับหินที่หล่นทับลงมาตามสายน้ำ
โจว หยวนหลับตาลงพร้อมกำหนดจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ไปบริเวณหน้าผาก เพื่อรองรับปราณธุลีหยกที่ไหลลงมาตามกระแสน้ำเพื่อลดอาการเจ็บปวด
ในขณะเดียวกัน ลวดลายก่อเกิดอัคคีน้ำแข็งนั้นก็ได้ส่องแสงขึ้น ทำให้เขานั้นรู้สึกได้ถึงความร้อนและเย็นที่ส่งผ่านเข้ามา ต่อจากนั้นลวดลายก่อเกิดอัคคีน้ำแข็ง ก็เริ่มดูดปราณธุลีหยกเข้ามาทันที
การดูดซับครั้งนี้มันเหนือกว่าลวดลายก่อเกิดอื่นๆเป็นอย่างมาก
"ลวดลายก่อเกิดอัคคีน้ำแข็ง ช่างส่งผลยอดเยี่ยมยิ่งนัก! " เมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง ใจของ โจว หยวนก็พลันเบิกบานขึ้น
ท่ามกลางกระแสน้ำที่ถาโถมมาใส่ร่างของทั้ง 2 ด้านนอกนั้นผู้คนต่างจับจ้องมาโดยไม่ขาดสาย
"ก่อนหน้านี้ ขีดจำกัดของโจว หยวนคือ 1 ชั่วโมง แต่ ฉี เยว่ ประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที " หลิว ซี จับจ้องไปยังทั้ง 2 ร่าง พร้อมกับขบคิดขึ้นในใจ ต่อมานางก็แสยะยิ้มแล้วกล่าวว่า: "ดังนั้น หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง มันก็จะถึงเวลาแห่งการตัดสิน "
นางคิดว่าตอนแรกๆนั้นอาจจะไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งโจว หยวนอาจจะผ่านไปได้ง่ายๆ แต่หากเป็นระยะยาวล่ะ มีหรือที่เขานั้นจะเทียบฉี เยว่ได้ บางทีในสายตาฉี เยว่นั้นโจว หยวนอาจจะเป็นเพียงขยะไม่มีค่าราคา
สู่ หง พยักหน้าเล็กน้อย เขามั่นใจในตัวฉี เยว่มาก กายภาพของคนเบิก 6 ชีพจร มันต้องทำให้เขาอดทนได้มากกว่าอยู่แล้ว
ศิษย์สำนักแรกทั้งหลายต่างยิ้มขึ้น พวกเขานั้นผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าฉี เยว่จะแข็งแกร่ง แต่โจว หยวน ก็ไม่ได้น้อยหน้า
กลับกันแล้วเหล่าศิษย์สำนักสองต่างเป็นกังวลอย่างมาก
เหยาเหยา มองไปยัง ซู โหยวเหว่ย พลันจับมือของนางพร้อมกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย "ไม่ต้องกังวลโจว หยวน ไม่มีทางแพ้แน่นอน! "
อาจเป็นเพราะ จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของนางนั้นโดดเด่นจนไม่มีใครเทียบดังนั้นนางจึงสัมผัสได้ว่าพลังดูดซับ ของโจว หยวน นั้นมันสูงมาก อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากลวดลายก่อเกิดอัคคีน้ำแข็ง โจว หยวน ย่อมยืนหยัดทัดทานกระแสน้ำตกหยกวิญญาณได้อย่างสบายๆ
แต่ทางฉี เยว่นั้นด้วยพลังกายภาพอันแข็งแกร่ง แม้เขาจะต้านทานไว้ได้แต่ในไม่ช้าเขาก็ต้องมาถึงขีดจำกัด
ดังนั้นศึกครั้งนี้มันรู้ผลตั้งแต่ต้นแล้ว
แม้ว่า ซู โหยวเหว่ยจะไม่เข้าใจว่าทำไมเหยาเหยาถึงมั่นใจเช่นนั้น แต่มันก็ทำให้นางก็ผ่อนคลายดวงตาของนางพลันจับจ้องไปยัง น้ำตกอย่างไม่วางตา
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เวลาก็ได้เวลาก็ได้ล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว
10 นาที 30 นาที 50 นาที
ไม่นานเวลาก็ดำเนินจวนจะครบ 1 ชั่วโมง และที่ผู้คนประหลาดใจที่สุดคือ โจว หยวน นั้นไม่ได้มีท่าทีเจ็บปวดแต่อย่างใด อีกทั้งยังดูสบายๆ ราวกับว่ามันยังไม่ใกล้ขีดจำกัดของเขาแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นเช่นนั้น สู่ หง ก็พลันขมวดคิ้วบางๆมองไปยัง หลิว ซี ครั้งหนึ่ง แล้วกัดฟันกล่าวว่า: "แข็งแกร่งจริงๆ แต่ข้ารอคอยดูว่ามันจะทนได้อีกกี่น้ำกัน "
ดังนั้นเมื่อ 10 นาทีได้ผ่านไป ก็ได้เข้าสู่ 1 ชั่วโมงเต็มๆ
น้ำเสียงตกใจนั้นดังมาจากบนฝั่ง เพราะพวกเขาพบว่า แม้จะผ่านไป 1 ชั่วโมงแล้ว ทว่า โจว หยวน นั้นก็ไม่มีท่าทีใดๆ และยังสงบนิ่งราวกับหินผา
สู่ หงเห็นเช่นนั้นก็ประหลาดใจมาก ทางด้านหลิว ซี ใบหน้าของนางพลันร้อนผ่าว นางนั้นไม่กล้ากล่าวอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียว เพราะนางรู้สึกได้ว่าเหล่าศิษย์สำนักสอง ต่างจดจ้องมาที่นาง
"นี่เขายังทนได้อีกหรอ "
ในน้ำตกหยกวิญญาณนั้น เมื่อฉี เยว่เห็นโจว หยวนยังทนได้ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้น เพราะในตอนนี้ ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทา มันใกล้มาถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว
"ข้าอยากจะรู้นักว่า มันจะทนได้อีกนานแค่ไหน"
ต่อมาเวลาก็ผ่านไปอีก ครึ่งชั่วโมง
แต่โจว หยวนก็ยังไม่มีท่าทีใดๆเช่นเคย
ส่วน ฉี เยว่ ใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยว เขารู้สึกถึงขีดจำกัดที่ใกล้เข้ามา
"หมอนี้ ช่างเก็บอาการได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก " ฉี เยว่มองไปทางโจว หยวนที่อยู่ด้านข้างด้วยสายตาเย็นชา
"แต่ เจ้าคิดหรือว่าข้าจะไม่ได้เตรียมตัวไว้สำหรับสถานการณ์นี้ "
ฉี เยว่หลับตาลง เขานั้นรอให้เวลาผ่านไปเช่นเคย และแล้วก็ผ่านไปอีก 20 นาที ในตอนนี้เวลาได้ร่วงเลยมาถึง 1 ชั่วโมง 50 นาที ซึ่งเป็นขีดจำกัดของ
ฉี เยว่ ก่อนที่เขาจะเปิดตาทั้ง 2 ข้าง ที่ส่อประกายเย็นชา
"โจว หยวน เป็นเพราะว่าเจ้ามันโอหังมากเกินไป ดังนั้นอย่าได้ตำหนิข้า! "
เมื่อกล่าวจบ ลิ้นของเขานั้นก็ห่อขึ้น ก่อนที่เม็ดยาสีแดงขนาดเล็กจะหล่นมาในปาก จากนั้นเขาก็กลืนมันลงไปทันที
จบตอน 35