เม็ดยาสีแดงไหลลงเข้าไปอยู่ช่วงท้อง ทำให้กลิ่นอายที่รุนแรงแผ่ซ่านออกมาจากภายในร่างของ ฉี เยว่ ก่อนที่จะผลสำฤทธิ์จะแล่นไปบริเวณหน้าผาก
โอสถนี้มีนามว่า ยาขยายวิญญาณ ช่วยเพิ่มพลังวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้ระยะสั้นๆ แต่ก็เพิ่มได้เพียงเล็กน้อย ภายหลังจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ย่อมต้องเหือดแห้ง
ทว่าในตอนนี้ ฉี เยว่ หาได้สนใจเรื่องเหล่านี้ไม่
เมื่อจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขยายตัว หน้าผาก ฉี เยว่ ก็มีแสงส่องสว่าง ก่อนที่แสงจะกลายเป็นพล่าเลือน จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่พลังเพิ่ม แน่นอนว่ามาจากผลของยาขยายวิญญาณ จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของ ฉี เยว่ จึงก้าวสู่ขอบเขต เที่ยงเท็จ
เมื่อจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก้าวเข้าสู่ขอบเขต เที่ยงเท็จ ก่อนหน้า ฉี เยว่ ที่ไม่เคยสัมผัสได้ ก็รู้สึกได้ถึง ปราณธุลีหยก ในกระแสน้ำตกหยกวิญญาณที่เทลงมาอย่างต่อเนื่อง จากช่วงบริเวณที่ โจว หยวน อยู่
" แบบนี้นี่เอง! ที่เจ้าสามารถทนอยู่ในน้ำตกหยกวิญญาณได้นานเช่นนี้ เพราะเจ้าใช้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์! " แววตาฉี เยว่ หดแคบ บัดนี้ เขาได้ล่วงรู้ความลับที่ โจว หยวน ซ่อนไว้ ซึ่งเป็นสิ่งช่วยเขา
" หึ! ดีนะข้าได้เตรียมการณ์เอาไว้ มิฉะนั้น แผนการคงได้ล่ม! "
ฉี เยว่ ที่ผิวซีดเซียว จู่ๆบริเวณหน้าผากค่อยๆมีรูปแบบก่อเกิดปรากฏ รูปแบบนี้ชื่อว่า ' เข็มทะลวงวิญญาณ ' เป็นรูปแบบก่อเกิดระดับ 1 เขาได้ให้ผู้ที่ชำนาญจารึก ทำให้สัมผัสของจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เฉียบคมแม่นยำ และยังใช้ในการโจมตี
โดยปกติแล้ว จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จะใช้ในการโจมตีได้ อย่างน้อยๆก็ต้องเข้าสู่ขอบเขต เที่ยงเท็จขั้นกลาง ปัจจุบัน ฉี เยว่ ใช้ยาขยายวิญญาณ แม้จะไม่ได้อยู่ในขอบเขต เที่ยงเท็จจริงๆ แต่เขาก็สามารถพึ่งพลังจากภายนอกในการใช้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์โจมตี
เนื่องจากอยู่ท่ามกลางน้ำตกจึงไม่สามารถลงมือได้ตรงๆ ที่ทำได้จึงมีเพียงใช้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์โจมตีเช่นนี้
วูบบบบ
พริบตา รูปแบบเข็มทะลวงวิญญาณ ก็ถูกกระตุ้นการทำงาน จะเห็นว่าบริเวณหน้าผากของ ฉี เยว่ มีแสงพุ่งออกมา ก่อนที่จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นเข็มมุ่งตรงไปยัง โจว หยวน
เมื่อจิตวิญญาณศักสิทธิ์ที่กลายเป็นเข็มพุ่งเข้ามา โจว หยวน ก็พลันรับรู้ได้ " ไม่นึกเลยว่าจะใช้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์โจมตี ? เหตุใด จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของ ฉี เยว่ จึงแข็งแกร่งเช่นนี้ได้! "
การใช้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์โจมตี แม้แต่ ปัจจุบัน โจว หยวน ก็ยังไม่สามาถทำได้
ขณะที่ประหลาดใจ โจว หยวน ก็ไม่กล้าที่จะเพิกเฉย เนื่องจาก การโจมตีจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ภายนอกจะไม่มีร่องรอยหรือแสดงอาการบาดเจ็บออกมาให้เห็นตามร่างกาย แต่จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จะได้รับความเสียหายที่รุนแรง
หากจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้รับความเสียหาย การที่จะฟื้นฟูรักษาด้วยวิธีเดียวกับร่างกายมันเป็นไปได้ยากกว่า
ฉะนั้น โจว หยวน จึงชะงักการดูดซับปราณธุลีหยก รวบรวมจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มายังบริเวณหน้าผาก เพื่อเสริมการป้องกัน
ฉึก!
เวลานั้นเกิดเสียงดังขึ้นเล็กน้อย จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งเป็นกำแพงอยู่เบื้องหน้า โจว หยวน ได้ปะทะกับจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เข็มที่พยายามจะเจาะทะลวง เข้าช่วงหน้าผาก
ฉึก ฉึก!
ศีรษะโจว หยวน รู้สึกเจ็บแปล๊บ เนื่องจากจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เข็มมันได้เจาะทะลวงจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ป้องกันของเขา
" เป็นเพราะเจ้ารนหาที่ตาย ข้าก็จะช่วยสงเคราะห์! " แววตา โจว หยวน ส่อประกาย มุมปากยกสูงขึ้นหากปะทะกันด้วยมือเท้า เขาในตอนนี้ย่อมไม่ใช่คู่มือ ฉี เยว่ แต่ถ้าจะประลองด้วยจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ . .เห็นทีคงต้องสอนให้รู้สำนึก!
ภายใต้การเร่งจิตวิญญาณ มันทำให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เข็มเฉียบคมชะงัก พอเวลาผ่านไปชั่วครู่ จู่ๆเขาก็สลายการป้องกัน
" เสร็จแน่! "
ฉี เยว่ รู้สึกได้ จึงแสดงอาการผ่านทางสีหน้าก่อนจะแสยะยิ้ม
ฟึบ!
ทันใดนั้น ภาพที่ปรากฏตรงหน้าเขาก็เปลี่ยนแปลงไป ภายในหูได้ยินเสียงฟ้าร้องดังอึกทึกเลื่อนลั่น จนแววตาต้องแปรเปลี่ยน ร่างกายลอยแคว้งท่ามกลางท้องฟ้าดาราที่ไร้จุดสิ้นสุด
เปรี้ยง!
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้ผิวพรรณของ ฉี เยว่ พลันเปลี่ยนไปอย่างหนัก เสียงที่ดังขึ้น ทำให้เขาเงยหน้าด้วยแววตาที่ปรากฏความแตกตื่น ท่ามกลางโลกที่วุ่นวายไร้ขอบเขต จู่ๆก็มีศิลายักษ์ค่อยๆปรากฏกลางท้องฟ้า
ทำให้ความกลัวที่ไม่มีที่สิ้นสุด ปะทุขึ้นภายในจิตใจ
เมื่อ ศิลามหึมาปรากฏขึ้น เขาก็รู้สึกราวกับว่าจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ มันกำลังจะแตกสลาย
เพล๊ง!
โจว หยวน ได้ยินเสียงมาจากบริเวณหน้าผาก กระจายออก พร้อมๆกับที่ เข็มจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของฉี เยว่ มันนิ่งชะงักก่อนจะสลายไป มันเป็นผลมาจาก บัญญัติเจตจำนงค์เทพ ที่ ฉาง หยวน ถ่ายทอดให้ ฉะนั้นการโจมตีด้วยจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ โจว หยวน จึงไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย ตราบใดที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาภายในจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนมันย่อมต้องถูกทำลายจนสิ้น
อ๊ากกก!
ทันทีที่ โจว หยวน ทำลายเข็มจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ห่างไปไม่ไกล ก็มีเสียงอันน่าเวทนากรีดร้องขึ้น
เสียงโอดครวญอันน่าเวทนาที่ดังมาจากบริเวณน้ำตกหยกวิญญาณ มันได้ดึงดูดความสนใจของทุกคน ทันทีที่มองแววตาของพวกเขาก็ต้องปรากฏความแตกตื่น เนื่องจากร่างของ ฉี เยว่ ถูกกระแสน้ำตกซัด จนร่วงลงไปในทะเลสาบที่เย็นยะเยือก
" เป็นไปได้ยังไง ?!!! " ผิวของ สู่ หง พลันซีดเซียว จ้องมองร่างของ ฉี เยว่ ที่พัดขึ้นจากน้ำ
หลิว ซี ที่อยู่ใกล้ๆ ถึงกับอ้าปากค้าง
ส่วนศิษย์สำนักชั้นสอง ไม่ได้เอ่ยปากกล่าวคำใดๆ ได้แต่ยืนหน้าซีด
แน่นอนว่าทางด้าน ชู เทียนหยาง ซู โหยวเหว่ย และ ศิษย์สำนักแรกคนอื่นๆ ต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจ เพราะผลที่ออกมา มันอยู่นอกเหนือความคาดหมายของพวกเขา
คนที่อยู่รอบๆน้ำตกหยกวิญญาณทั้งหมด ต่างพากันเงียบสนิท
ช่วงที่ผู้คนพากันมองน้ำตกหยกวิญญาณ จู่ๆก็มีเงาของคนก้าวเท้าออกมาจากกระแสน้ำตก แน่นอนว่านั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก โจว หยวน
เขาจ้องมาที่ สู่ หง หลิว ซี และคนอื่นๆ ที่ใบหน้าบิดเบี้ยว พร้อมเอ่ยขึ้นว่า " ใครแพ้ ใครชนะ ผลคงเป็นที่รู้กันแล้ว ? "
ศิษย์ที่ยืนรายล้อมทะเลสาบ ต่างก็พากันหน้าซีด แววตาปรากฏความหวาดกลัว ขณะที่ดูมีท่าทางผิดหวัง
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เหล่าบรรดาผู้คนสับสน เห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดผลลัพธ์ถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้
" นี่มัน . . . จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เขาได้รับความเสียหาย " สู่ หง ที่เข้าไปตรวจสอบอาการผิวก็พลันเปลี่ยนแปลง
หลิว ซี ที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยินเช่นนั้นก็ชี้ไปที่ โจว หยวน ก่อนจะตวาดใส่ว่า " ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าจะใช้วิธีโกงสกปรก "
ศิษย์มากมายเองก็มองไปที่ โจว หยวน ด้วยท่าทางประหลาดใจ
" โกงงั้นรึ " โจว หยวน แค่นเสียง ก่อนจะชี้ไปยังหน้าผาก ฉี เยว่ ที่ตอนนี้ยังเหลือแสงจางๆเป็นร่องรอยรูปแบบก่อเกิด " หากข้าดูไม่ผิด คงจะเป็นรูปแบบก่อเกิด ระดับ 1 รูปแบบ เข็มทะลวงวิญญาณ "
" หากเขาไม่คิดจะโจมตีข้าด้วยจิตวิญญาณ ก็คงไม่ต้องประสบกับชะตากรรมเช่นนี้ "
ได้ยินเช่นนั่้น รอบๆก็เกิดความโกลาหลก่อนที่ผู้คนจะพากันมองไปยังหน้าผากของ ฉี เยว่ ซึ่งยังมีร่องรอยรูปแบบก่อเกิดหลงเหลือ และนี้จะต้องเป็นฝีมือของผู้เชี่ยวชาญที่จารึกรูปแบบก่อเกิดนี้
" ฉี เยว่ เห็นอยู่ชัดๆว่าแข็งแกร่งกว่าองค์ชาย โจว หยวน ทำไมถึงได้ใช้วิธีต่ำช้าเช่นนี้! " แววตาของหลายๆคนต่างก็เปลี่ยนไป
เมื่อเห็นท่าทางและแววตาเหล่านั้น ใบหน้าของ หลิว ซี ก็พลันขาวซีด ภายในดวงตาแทบจะมีไฟพวยพุ่ง โดยไม่สามารถกล่าววาจาใดๆ เนื่องจากนางไม่รู้ว่าจะแก้ตัว เรื่องที่ ฉี เยว่ ทำไมต้องใช้ รูปแบบ เข็มทะลวงวิญญาณ ?
หากว่านางยังโต้แย้ง บางทีผู้คนอาจจะรู้ว่านางสมคบคิด
เสียงสนทนาของผู้คน ทำให้คนสำนักชั้นสองจำนวนมากต่างหันมามองหน้ากันด้วยความตกใจ แต่ละคนสีหน้าล้วนดูไม่จืด ก่อนจะมองไปที่ ฉี เยว่ เหมือนกับจะตำหนิ
เนื่องจาก ฉี เยว่ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ สำนักชั้นสองของพวกเขาจะต้องสูญเสียเวลาบ่มเพาะในน้ำตกหยกวิญญาณไปถึง 1 ชั่วยามครึ่ง จนเหลือเวลาเพียง ครึ่งชั่วยาม
ทำให้สำนักชั้นสองของพวกเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก
" ทุเรศชะมัด ไปท้าทายผู้อื่นแท้ๆ ก็นึกว่าจะแน่ ขนาดเล่นสกปรกก็ยังแพ้ " ทันใดนั้นก็มีบางคนที่อดไม่ได้ กล่าวขึ้น
หลิว ซี ได้ยินแบบนั้นก็เกิดโทสะ ได้แต่พยายามกวาดตามอง แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร จึงได้แต่กัดฟันด้วยความโกรธ
" ฮ่าฮ่า อาจารย์ใหญ่ สู่ สำนักชั้นสองยกเวลาบ่มเพาะในน้ำตกหยกวิญญาณ หนึ่งชั่วยามครึ่ง ให้กับเราเช่นนี้ ต้องขอบคุณน้ำใจจริงๆ " ชู เทียนหยาง หัวเราะร่า ขณะที่มอง สู่ หง ที่ยืนเงียบ
บางทีเรื่องนี้อาจเป็นสิ่งที่ สู่ หง ไม่เคยนึกหวังไว้ เดิมเขาตั้งใจว่าจะสร้างปัญหาให้กับสำนักแรกแต่ดันกลายเป็นว่าสำนักชั้นสองของพวกเขาต้องมาโดนซะเอง
ความโกรธของ สู่ หง มันสุมอยู่เต็มอก แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจแสดงมันออกมาได้ จึงจำเป็นต้องแสร้งยิ้มให้กับ ชู เทียนหยาง และ โจว หยวน แล้วกล่าวว่า " จะมีความสุขตอนนี้มันยังเร็วเกินไป อีกไม่ช้าก็จะถึงเวลาสอบสำนักเมื่อเวลานั้นมาถึง สำนักชั้นสองของเราจะต้องเอาคืนสำนักแรกเป็นสองเท่า! "
เมื่อกล่าวจบ เขาก็ไม่คิดจะอยู่ต่อได้แต่สะบัดแขนหันหลังจากไป
หลิว ซี และศิษย์สำนักชั้นสองมากมาย ที่มีท่าทางราวกับอมทุกข์ได้แต่เดินตาม ด้วยความเจ็บแค้น
เมื่อพวกนั้นจากไป คนสำนักแรกต่างก็พากันส่งเสียงยินดี แต่ละคนล้วนใคร่ปรารถนาอยากจะจับ โจว หยวน โยนฉลอง
โจว หยวน รีบยกมือห้ามอย่างรีบร้อน ก่อนจะมองไปยังศิษย์จากสำนักอื่นๆแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า " ด้วยชัยชนะครั้งนี้ทำให้สำนักแรกเรามีเวลาเพิ่ม 1 ชั่วยามครึ่ง ฉะนั้นเวลาครึ่งชั่วยามเราขอแบ่งให้กับอีกสามสำนัก เพื่อเป็นการขอบคุณที่ทุกท่านให้การสนับสนุน "
คำพูดดังกล่าว ทำให้ศิษย์จากสำนักทั้งสาม ต่างเงยหน้าขึ้นด้วยความละอาย พวกเขาทั้งสามสำนักที่มาในวันนี้ก็เพื่อบีบคั้นให้สำนักแรกปรับเปลี่ยนเวลา แต่ โจว หยวน ไม่เพียงไม่คิดแค้นเอาความ แต่ยังแบ่งเวลาครึ่งชั่วยามให้กับพวกเขา การทำดีกับผู้ที่คิดร้ายมันทำให้พวกเขารู้สึกละอายใจ
" ขอบพระทัย องค์ชาย! " บรรดาศิษย์มากมาย ต่างกุมมือผสานเพื่อเป็นการแสดงความสำนึกขอบคุณต่อ โจว หยวน
ชู เทียนหยาง ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เวลาต่อมาแววตาของเขาก็มองไปที่ โจว หยวน ด้วยความเลื่อมใส การกระทำของเขาสามารถครองใจผู้คน จากนี้ไป ภายในสำนักวังต้าโจว ชื่อเสียงของ โจว หยวน คงจะเหนือกว่า ฉี เยว่ เป็นไหนๆ . . . .
นอกจากนี้สิ่งที่ โจว หยวน ทำยังเป็นประโยชน์ในภายภาคหน้า หากสำนักชั้นสองคิดจะสร้างปัญหา คงไม่มีใครเอาด้วย
ฉิน เสียว และ อาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆ ต่างมอง โจว หยวน ด้วยแววตาที่ซับซ้อน บัดนี้พวกเขาตระหนักแล้วว่า องค์ชาย ผู้นี้นั้นไม่ธรรมดา หากยังกล้าก่อเรื่อง นั้นคงเป็นความคิดที่ผิดมหันต์. . . .
จบตอน 36