โคร่มมม
ณ ห้องแห่งหนึ่ง ดวงตาทั้ง 2 ของ ฉี เยว่ แดงก่ำ ขณะที่อาละวาดกวาดมือทำลายข้าวของเพื่อระบายโทสะอยู่เป็นเวลาพักใหญ่ๆ ก่อนเขาจะหยุดมือพร้อมหายใจหอบอย่างรุนแรง ทว่าใบหน้าของเขามันยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธ
"โจว หยวน " ฉี เยว่ ทุบลงไปบนโต๊ะ เสียงดังลั่น
ข้างๆนั้น ก็มีหลิว ซีเดินเข้ามาประชิด แล้วกล่าวปลอบเขาว่า: "ฉี เยว่ อย่าได้อารมณ์เสียไป ครั้งนี้โจว หยวน ก็แค่โชคดี หากต้องสู้กันจริงๆมันไม่มีทางสู้เจ้าได้แน่นอน แม้มันจะใช้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็คงมิอาจช่วยอะไรได้ "
ฉี เยว่ กัดฟันแน่น เขารู้ว่าหากปะทะกันจริงๆ โจว หยวน หรือจะสู้เขาได้ แต่การที่เขาต้องแพ้เดิมพัน นอกจากนี้ยังแพ้ต่อหน้าเหล่าบรรดาศิษย์สำนักวังต้าโจว มากมาย
ทำให้ชื่อเสียงที่เขาสั่งสมมายาวนาน ต้องพังทลายจนแทบหมดสิ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนัก 2 ที่สามารถฝึกตนในน้ำตกหยกวิญญาณได้ สองชั่วยาม แต่ตอนนี้ต้องสูญเสียไปถึง หนึ่งชั่วยามครึ่ง แม้ว่าคนอื่นๆจะไม่กล่าวอะไร แต่มีหรือที่พวกเขาจะยอมรับเรื่องนี้ได้
ยิ่งเห็นสายตาและท่าทางที่เปลี่ยนไปของคนเหล่านั้น มันก็ทำให้ ฉี เยว่ เกือบจะกระอักเลือด
"ทดสอบสำนักนั้นเหลือเวลาไม่นาน รอให้ถึงตอนนั้น เจ้าจะสามารถจัดการเขาต่อหน้าผู้คนอย่างเป็นทางการได้ เจ้าต้องทำให้ผู้คนได้รู้ถึงความต่างระหว่างมันกับเจ้า และเมื่อถึงเวลานั้นทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับเป็นเหมือนเดิม " หลิว ซี กล่าว
ฉี เยว่สูดหายใจลึกๆ แล้วพยายามข่มความโกรธที่สุมในอก แล้วกล่าวช้าๆว่า: "วางใจเถอะ ถึงเวลานั้นข้าจะเอาคืนให้สาสม "
"เขานั้นเป็นคนที่แปลกประหลาดมาก ดังนั้นข้าจึงมิอาจนิ่งเฉยได้ ข้าจะเร่งฝึกฝน และไม่ยอมเปิดโอกาสให้เขาตามทันได้ "
เมื่อได้ยินที่ ฉี เยว่กล่าว หลิว ซี ก็พยักหน้า ฉี เยว่แม้จะโกรธแต่ก็ไม่ได้ขาดสติ และนางก็เชื่อว่าด้วยพรสวรรค์ของ ฉี เยว่ โจว หยวนไม่มีทางที่จะเอาชนะเขาได้
เมื่อสิ้นปีนมาถึง ในการทดสอบสำนัก ฉี เยว่ จะเป็นผู้ที่เฉิดฉายที่สุด
ฝ่ามือของฉี เยว่นั้นกำเข้าหากันอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาเป็นประกายโหดเหี้ยมแล้วกล่าวว่า
"โจว หยวน เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน "
. . . . . .
ผ่านมาอีก 10 กว่าวัน เหล่าศิษย์สำนักแรก ต่างเพลินเพลิดไปกับเวลาที่ใช้บ่มเพาะในน้ำตกหยกวิญญาณ ที่เพิ่มขึ้นจาก 3 ชั่วยาม เป็น 4 ชั่วยาม ทำให้เหล่าศิษย์นั้นต่างพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทั้งบางคนถึงกับเบิกชีพจรได้สำเร็จ
ศิษย์สำนักสองที่เคยทำท่าทีโอหัง ในตอนนี้พวกเขาเวลาเจอคนสำนักแรกต่างรีบหันหน้าหนีไม่กล้ากล่าววาจาใดๆ ด้วยเรื่องนี้มันทำให้เหล่าศิษย์สำนักแรก พอใจอย่างมาก เป็นเพราะวีรกรรมของ โจว หยวน กล่าวได้ว่าส่งผลดีต่อศิษย์สำนักแรกมากมายนัก ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกเคารพนับถือ โจว หยวนมากยิ่งขึ้น
ซู่ววว
ในน้ำตกหยกวิญญาณ ดวงตาทั้ง 2 ของโจว หยวนยังคงหลับลง และต้านทานกระแสน้ำพร้อมดูดซับปราณธุลีหยกเช่นเคย
เมื่อโจว หยวนกำลังฝึกฝนอย่างเงียบๆนั้นก็ได้ยินเสียงแสดงความยินดีมาจากบนฝั่ง
"โหยวเหว่ย แข็งแกร่งยิ่งนักเจ้าเชื่อมต่อชีพจรเส้นที่ 5 ได้สำเร็จแล้ว "
โจว หยวน ได้ยินเช่นนั้นก็ลืมตาขึ้นเล็กน้อยพร้อมมองผ่านกระแสน้ำไปยัง ร่างของซู โหยวเหว่ยที่ถูกรายล้อมด้วยเหล่าศิษย์สำนักแรก
"หืม? โหยวเหว่ย เชื่อมชีพจรเส้นที่ 5 แล้วหรอ ช่างรวดเร็วยิ่งนัก " โจว หยวน อดที่จะกล่าวขึ้นไม่ได้ ด้วยพรสวรรค์ของ ซู โหยวเหว่ย แม้จะไม่มีทรัพยากรบ่มเพาะล้ำค่าช่วยส่งเสริม แต่นางเติบโตก้าวหน้าได้
"วิเศษ โหยวเหว่ย เจ้านั้นช่างมีพรสวรรค์จริงๆ " ชู เทียนหยาง ยิ้มขณะที่มองไปยัง ซู โหยวเหว่ย เพราะเท่ากับว่าตอนนี้ สำนักแรก มี 3 คนที่เบิก 5 ชีพจรได้
ซู โหยวเหว่ยยิ้ม ดวงตาคู่งามของนางมองไปยังน้ำตกหยกวิญญาณ และก็ได้เห็นร่างที่คุ้นเคยกำลังส่งยิ้มและยกนิ้วให้นาง
นั้นทำให้มุมปากของนางก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มทรงพระจันทร์
"โหยวเหว่ยเชื่อม 5 ชีพจรแล้ว ข้าคงไม่อาจนิ่งเฉยโดนนางทิ้งไว้เบื้องหลัง เห็นทีข้าคงต้องเร่งมือซะแล้ว "
ใจของโจว หยวนยังคงสงบนิ่ง หลายวันมานี้ เขารู้สึกว่า เขานั้นเข้าใกล้จะเบิกชีพจรจุด 4 มากแล้ว และการจะเชื่อมต่อมันนั้นก็ใช้เวลาอีกไม่มาก
ดวงตาของ โจว หยวน ค่อยๆหลับลงอย่างช้าๆ ก่อนจะเริ่มการดูดซับปราณธุลีหยกอีกครั้ง
ครั้งนี้ เขาก็ได้หลับตาลงเป็นเวลา 2 ชั่วยามเลยทีเดียว
เมื่อดวงตะวันเริ่มตกดิน แสงอาทิตย์อุทัยยามเย็นก็ได้ส่องประกายมายังน้ำตกหยกวิญญาณ ทำให้น้ำตกหยกวิญญาณกลายเป็นสีแดง
ในน้ำตกนั้น ยังคงมีร่างของ โจว หยวน นั่งสั่นเล็กน้อยราวกับกำลังทุกทรมานกับความเจ็บปวดอยู่
ในร่างของโจว หยวนนั้นปราณธุลีหยก กำลังทะลวงกับ ชีพจรเส้นที่ 4 อย่างต่อเนื่อง
ฉึก!
และในตอนนั้นมันก็พลันเกิดเสียงประหลาดดังขึ้น โจว หยวน ก็พลีนลืมตาขึ้นมา ขณะที่ปราณฟ้าดินทะลักไหลเข้าสู่ร่างเขาราวกับน้ำตก
วูบบบ วูบบบบ
เลือดลมของเขานั้นเดือดพล่าน กระดูกของเขานั้นก็พลันเกิดเสียงเล็กน้อยคล้ายกับเป็นดอกไม้ไฟที่กำลังระเบิดอยู่ภายใต้การชะล้างของพลังปราณ ส่งผลให้พลังกายภาพของโจว หยวน ทวีสูงขึ้น
ความร้อนได้ไหลแทรกไปตามข้อต่อต่างๆตลอดจนกระดูก
ชีพจรจุด 4 ในที่สุดก็ได้เชื่อมต่อเป็นที่เรียบร้อย กระแสปราณที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างของ โจว หยวน มันทำให้เขารู้สึกได้ว่า พลังของเขาเพิ่มสูงขึ้น ด้วยสิ่งนี้มันก็ทำให้เขาอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้จริงๆ
หลังจากทรมานตนเองมานับเดือนในที่สุด ก็สามารถเชื่อมต่อชีพจรจุดที่ 4 ได้สำเร็จ
"ด้วยการเบิกชีพจรจุด 4 นี้ แม้แต่ฉี เยว่ก็มิอาจเอาชนะข้าได้ง่ายๆ ในการทดสอบบางที ฉี เยว่ อาจจะเบิกชีพจรจุดที่ 7 ได้ ฉะนั้นแค่ 4 ชีพจร นับว่ายังไม่น่าวางใจ " โจว หยวน กล่าวกับตนเอง
ตอนนี้เขาเริ่มไล่ตามฉี เยว่ ทันแล้ว เพราะในการทดสอบสำนักเขาต้องเอาชนะฉี เยว่ ให้ได้ ซึ่งนั้นจะต้องใช้พลังอย่างมาก และ ฉี เยว่ ก็คงไม่นิ่งเฉยรอเขาอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆอีกฝ่ายคงอาจจะเบิก 7 ชีพจรได้ในเร็ววัน
โจว หยวน นั้นรับรู้ถึงปัญหาบางอย่าง เมื่อเชื่อมต่อกับชีพจรจุดที่ 4 แล้ว เขารู้สึกได้ว่าผลที่ได้รับจากน้ำตกหยกวิญญาณมัน ลดลงไปมาก ราวกับว่าร่างของเขาต้องใช้ปราณธุลีหยกมากกว่านี้
ดังนั้นการจะเชื่อมต่อกับชีพจรจุดที่ 5 บางทีอาจจะใช้น้ำตกหยกวิญญาณช่วยไม่ได้
เมื่อ โจว หยวน คิดเช่นนั้นก็ถึงกับเอามือก่ายหน้าผาก
"ดูเหมือนว่าข้าจะต้องหาหนทางอื่นซะแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป บางทีข้าคงมิอาจเชื่อมชีพจรจุดที่ 5 ทันการทดสอบสำนักก็เป็นได้. . . "
จบตอน 37