px

เรื่อง : เถ้าแก่ขั้นเทพ!
ตอนที่ 23-24


ตอนที่ 23 : เหล่าไป่เข้าร้าน 

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่เมตตา!” 

พบเห็นจันทราสีเงินเลือนหายกลางอากาศ เหล่าไป่จึงปาดเช็ดคราบเหงื่อกาฬจากหน้าผาก จากนั้นจึงประสานมือให้แก่ลั่วฉวน 

ลั่วฉวนเพียงพยักหน้ารับบางเบา 

แม้เขายังไม่ได้ออกไปนอกร้านจากศึกเมื่อครู่ กระนั้นก็สัมผัสได้ว่าชายชราตรงหน้าคือผู้ที่เปิดม่านอาคมคุ้มกัน 

จากมุมมองของเขา ตัวตนของชายชราในนครจิ่วเหยาย่อมไม่ต่ำต้อย บางทีอาจต้องเกี่ยวกับทางราชวงศ์ 

สำหรับร้านที่เปิดในนครจิ่วเหยา อย่างไรก็ต้องโอนอ่อนต่อทางราชวงศ์บ้าง 

ลั่วฉวนไม่คิดสนใจเหล่าไป่อีก ขณะนี้เดินกลับไปนอนเอกเขนกที่หน้าประตูอีกครั้งหนึ่งแล้ว 

ทว่ามีเรื่องหนึ่งที่ลืมกล่าวถึง ฉู่หยุนเฟยเมื่อครู่ได้แปรเปลี่ยนเป็นเถ้าธุลีเลือนหายครั้งดวงจันทราสีเงินร่วงหล่นแล้ว อย่างไรเมื่อครู่ก็มีแต่พลังงานอันรุนแรงผันแปรอัดแน่น ดังนั้นอีกฝ่ายที่เป็นเพียงขอบเขตสัมผัสวิญญาณจึงไม่อาจต้านรับ 

ท่าทีของลั่วฉวนเป็นผลให้เหล่าไป่ต้องตกอยู่ในภวังค์ 

หลังพิจารณาอีกครั้งอย่างถี่ถ้วน เหล่าไป่จึงกัดฟันเดินเข้าไปในร้านของลั่วฉวน 

กับบุรุษทรงอำนาจซึ่งเปิดร้านในตรอกไกลห่างผู้คนในนครจิ่วเหยา นอกจากปลื้มปิติภายในใจแล้ว เหล่าไป่ยังต้องรู้สึกหวาดกลัวอยู่ที่ก้นบึ้งหัวใจ 

กับเถ้าแก่ร้านที่มีตัวตนเฉกเช่นนี้ หากมีคนของทางการเข้ามาสร้างปัญหาให้ละก็… 

ไม่นึกถึงความเป็นไปได้นั้นจะดีเสียกว่า! 

กระนั้นก็ต้องกล่าว ว่าการที่มีบุคคลแข็งแกร่งเพียงนี้มาเปิดร้านที่นครจิ่วเหยา ทว่าทางราชวงศ์กลับไม่ทราบเรื่อง นับว่าเป็นเรื่องราวแปลกประหลาดจนเกินไป 

“ร้านต้นตำรับ… ต้นตำรับ… วาจาใหญ่โตนัก!” 

พบเห็นป้ายที่ทางเข้าร้าน เหล่าไป่จึงหันมองที่ลั่วฉวนด้วยความนับถือใจ 

นี่จึงเป็นผู้มีกำลังอย่างแท้จริง 

หากเป็นสามัญชนเปิดร้านและตั้งชื่อเช่นนี้ อย่างนั้นก็ถือเป็นการคุยโตแล้ว! 

“ผู้อาวุโส” 

เหล่าไป่เรียกหาลั่วฉวนด้วยความสุภาพ 

ลั่วฉวนที่นอนเอกเขนกพลันโบกมือกล่าวคำเบา “ข้าจึงไม่อาวุโส นามลั่วฉวน เรียกหาเป็นเถ้าแก่ก็พอ” 

“ทราบแล้ว ทราบแล้ว!” เหล่าไป่เร่งรีบรับคำ 

เขายังทราบว่าตัวตนทรงอำนาจที่ซ่อนเร้นตัวตนมักแปลกประหลาดเช่นนี้ เถ้าแก่ร้านเช่นลั่วฉวนยิ่งหาได้ยาก 

“ข้าคือผู้อุทิศตนให้แก่ราชวงศ์ นามว่าไป่หง ขอทราบได้หรือไม่ว่าเถ้าแก่คิดทำอะไร?” 

เหล่าไป่พิจารณาไปครู่หนึ่งก่อนจะถามอย่างระมัดระวัง 

ความนับถือ? 

ลั่วฉวนมองทางเหล่าไป่ด้วยความสงสัย 

อย่างไรแล้ว ด้วยเพราะเป็นขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่แปด กำลังอีกฝ่ายอย่างไรก็ยอดเยี่ยม… 

ขณะนี้ยอดฝีมือขอบเขตทดสอบเต๋าเพียงต้องตาลั่วฉวนอยู่บ้าง เขาไม่ทราบว่าควรู้สึกอย่างไรต่อชายชราผู้นี้ดี 

“ก็ไม่ทำอะไร” ลั่วฉวนโบกมือตอบกลับอย่างเฉยชา 

ลั่วฉวนไม่คิดสนใจอีกฝ่าย ทว่าไปสนทนากับระบบอยู่ภายในใจ 

ลั่วฉวน : “ระบบ หากขอให้บุคคลอื่นช่วยโฆษณาร้านในนครจิ่วเหยาได้หรือไม่?” 

ระบบ : “ไม่ได้! เจ้าของร้านต้องเชื่อมั่นในตนเอง ภารกิจที่มอบให้ต้องสำเร็จงานด้วยกำลังของตนเอง!” 

เช่นนี้ลั่วฉวนจึงไร้ซึ่งคำจะกล่าว 

พบเห็นลั่วฉวนไม่สนใจตนเอง เหล่าไป่จึงหันสายตามองภายในร้าน 

เหล่าไป่ค่อนข้างสงสัย ว่าร้านที่เปิดโดยผู้แข็งแกร่งนั้นขายอะไร 

หลังจากได้เห็นเครื่องแก้วหลากสีสันภายในร้าน ดวงตาเหล่าไป่พลันต้องเบิกกว้างตื่นตะลึง 

กระนั้นเมื่อนึกถึงกำลังของลั่วฉวน เขาก็เข้าใจว่าเป็นปกติธรรมดา 

กับตัวตนเช่นนี้ มีเครื่องแก้วหลากสีสันมากมายแทบไม่นับเป็นเรื่องใหญ่แต่อย่างใด 

หลังพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เหล่าไป่จึงกล่าวคำถามต่อลั่วฉวน “เถ้าแก่ ขอข้ารับชมสินค้าได้หรือไม่?” 

ลั่วฉวนที่กำลังสนทนากับระบบอยู่ภายในใจ ขณะนี้หันกลับมาสนใจทางด้านนี้พร้อมพยักหน้ารับ “เชิญดูตามสบาย” 

และลั่วฉวนคล้ายตระหนักอะไรขึ้นได้ 

แม้ไม่อาจใช้เหล่าไป่โฆษณาร้านของตนเองโดยตรง ทว่าใช้วิธีการทางอ้อมเพื่อให้อีกฝ่ายรู้จักผลิตภัณฑ์ของร้านและนำไปพูดกล่าวปากต่อปากได้! 

 

 

 

ตอนที่ 24 : จำกฎของร้านไว้ให้ดี 

เมื่อเข้ามาในร้าน รับชมสรรพคุณของโคล่าและแท่งเครื่องเทศบนชั้นวาง เหล่าไป่จึงอดไม่ได้ที่จะสะท้านลมหายใจดังเฮือก 

สิ่งที่ให้ผลลัพธ์เช่นนี้ถึงกับนำมาขาย ทั้งยังราคาเพียงหนึ่งร้อยผลึกวิญญาณ ให้กล่าวออกนั้นราคานี้มันต่างอะไรกับให้โดยไม่มีมูลค่า?! 

สายตาพลันต้องหันมองลั่วฉวนที่ประตูทางเข้า เหล่าไป่ขณะนี้พยายามสะกดความสงสัยไว้ภายใน 

ตัวตนทรงอำนาจเช่นนี้ มีของเช่นนี้วางขายก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจแต่อย่างใด! 

ส่วนว่าสรรพคุณของโคล่าและแท่งเครื่องเทศเป็นจริงหรือไม่นั้น… 

เหล่าไป่ไม่คิดมีข้อสงสัย! 

ตัวตนผู้แข็งแกร่งย่อมมีความถือดี เหล่าไป่ไม่เชื่อว่าลั่วฉวนจะเบื่อหน่ายขนาดมาหลอกลวงผู้อื่นเช่นนี้ 

“เถ้าแก่ ขอข้ารับประทานแท่งเครื่องเทศที่นี่ได้เลยหรือไม่?” เหล่าไป่กล่าวถามต่อลั่วฉวน มือนั้นขณะนี้คว้าห่อแท่งเครื่องเทศออกจากชั้นวาง 

“เชิญเลย” ลั่วฉวนตอบกลับมาอย่างเนิบนาบ 

หลังแท่งเครื่องเทศอยู่ในมือ เหล่าไป่จึงนำสิบผลึกวิญญาณอกจากแหวนมิติไปวางไว้ที่โต๊ะรับชำระ 

มือนั้นค่อยฉีกห่อแท่งเครื่องเทศ กลิ่นหอมจึงเตะจมูกเข้าโดยพลัน 

ร่องรอยความประหลาดใจฉายชัดผ่านดวงตาเหล่าไป่ ตัวเขาพบเจอยาวิเศษช่วยเพิ่มกำลังในระยะเวลาอันสั้นมาก็มาก ทว่าไม่เคยได้พบเจอใดที่หอมกลิ่นเครื่องเทศเย้ายวนผู้คนเช่นนี้มาก่อน 

เหล่าไป่กลืนน้ำลาย จากนั้นจึงนำแท่งเครื่องเทศที่สีแดงมันวาวออกจากห่อ ปากนั้นยื่นเข้าไปกัดอย่างไม่คิดลังเล 

“กลิ่นนี่…” 

ดวงตาเหล่าไป่เบิกกว้างประหนึ่งได้รู้แจ้ง 

มันราวกับอัคคีเพลิงเบ่งบานภายในช่องปาก พลังวิญญาณทั้งร่างกายขณะนี้โคจรเร็วรี่ 

มันเป็นการเพิ่มความเร็วโคจรพลังขนาดพบเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ ตัวเขาจึงได้เข้าถึงระดับที่เก้า! 

ดวงตานั้นหลับลงพร้อมพิจารณาถึงความเปลี่ยนแปลงทางวิญญาณในร่างกาย เมื่อได้สติกลับคืน เหล่าไป่จึงเบิกตากว้างพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึก 

หนึ่งนาที! 

พลังวิญญาณของระดับที่เก้านั้นคงอยู่เต็มชั่วระยะเวลาหนึ่งนาที! 

หลังสิ้นฤทธิ์ของแท่งเครื่องเทศ เหล่าไป่ก็ไม่พบว่าร่างกายจะเกิดความผิดปกติอันใด 

ด้วยเพราะอุทิศตัวแก่จักรวรรดิเทียนชิง เหล่าไป่นึกถึงกองทัพขึ้นมา 

หากเจ้าสิ่งนี้ถูกนำไปใช้ในกองทัพได้ละก็… 

ราคาของมันแทบไม่นับเป็นอะไรสำหรับเหล่าไป่ ทว่าหากเทียบผลลัพธ์ที่ใช้ได้กับกับกองทัพ เช่นนั้นก็ชวนสะพรึงแล้ว 

อย่างไรแล้วหากมีแต่ระดับเบื้องบนของกองทัพที่ใช้งานได้ มันก็มากพอที่จะเสริมความแข็งแกร่งโดยภาพรวมได้อย่างมหาศาล! 

ที่ทวีปเทียนหลันแห่งนี้ กำลังถือเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การยกย่อง 

ผู้ฝึกตนแข็งแกร่งย่อมเป็นหนึ่งต้านร้อยได้ และระดับแม่ทัพของกองทัพก็เป็นเช่นเดียวกันนั้น  

แม้ยังไม่ได้ทดลองโคล่า เหล่าไป่ก็เชื่อหมดใจแล้วว่าข้อมูลที่ทราบไม่มีใดผิดพลาด 

“เถ้าแก่ แท่งเครื่องเทศและโคล่าในร้านนี้พอจะขายเป็นเสบียงทัพแก่จักรวรรดิเทียนชิงในปริมาณมากได้หรือไม่?” 

เหล่าไป่กำลังตื่นเต้นยินดี เพราะตนสามารถเพิ่มพูนพลังได้ในพริบตา ของเฉกเช่นนี้กล่าวได้ว่าหายากมากล้ำ 

ทว่าคำของลั่วฉวนก็ต้องทำเหล่าไป่ผิดหวัง 

“ร้านของรามีกฎ หนึ่งคนสามารถซื้อหาของได้อย่างละชิ้นต่อวันเท่านั้น” 

นี่เป็นครั้งที่สองของวันที่ลั่วฉวนกล่าวคำนี้ออก 

“ข้าทราบแล้ว! เป็นข้าละอายนักที่ถามเช่นนั้นออกไป” 

เหล่าไป่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ภายในมีแต่ความเสียดายไม่รู้จบ 

แต่แล้วเขาก็โล่งใจ เพราะดูลั่วฉวนไม่คล้ายใส่ใจที่ต้องกล่าวอันใดมากนัก 

หากจักรวรรดิเทียนชิงได้เสบียงทัพเหล่านี้ เช่นนั้นร้านจะยังเปิดขายไปทำอะไร? 

คำตอบก็เห็นกันได้อย่างชัดเจน 

ในมุมมองของเหล่าไป่ กฎของร้านลั่วฉวนนี้แปลกและไม่ค่อยธรรมดา 

นอกจากนี้เจ้าของร้านยังมาเปิดกิจการในนครจิ่วเหยา ผลประโยชน์ที่มีต่อจักรวรรดิเทียนชิงอย่างไรก็ต้องย้อนกลับเข้ามาหาตัวร้าน 

 

 

……

 ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ : https://bit.ly/32ciG6V

รีวิวผู้อ่าน