ตอน 3-1 : สิ้นสุดบทบาท
วันถัดมาหลังจากเหตุการณ์ที่ห้องนอน ฉันรู้ตัวแล้วว่าความสุขกำลังจะสิ้นสุด ฉันเดินทางไปเยี่ยมท่านปู่ที่คฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ ณ ชานเมืองหลวง
“ท่านปู่ลอนาร์ด”
“รอนย่า ดีใจนักที่หลานมาเยี่ยม”
ฉันกระโดดเข้าไปสวมกอดท่านในทันที ท่านปู่ประคองฉันด้วยทั้งสองมืออย่างอ่อนโยน จากนั้นจึงพา ฉันนั่งอยู่บนพื้นตรงหน้าของท่านและเริ่มเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น อาทิ การเรียนรู้เวทมนตร์ หนังสือที่ได้อ่าน และความสนใจล่าสุดของฉันก็คือการทำสัญญากับภูติ
ในดินแดนแห่งนี้มี ภูติ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ สัตว์ในเทพนิยายรวมถึงเทวดา พวกเขามักจะรับฟัง ‘คำขอ’ ของมนุษย์และใช้พลังของตนช่วยเหลือ คำภาวนาของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป
การทำสัญญากับภูติจะทำให้มนุษย์สามารถขอความช่วยเหลือ และก็ต้องตอบแทนกลับคืนด้วย ในเมื่อสัญญาทำได้ไม่ยากเย็น ผู้สูงศักดิ์หลายคนจึงมักอยู่ในระหว่างสัญญาอย่างน้อยหนึ่งพันธะ
นอกจากนี้ สถาบันซานคริสเตียนให้นักเรียนทุกคนทำการทดสอบการทำสัญญากับภูติอย่างน้อยคนละหนึ่งพันธะ ซึ่งเป็นธรรมเนียมมาอย่างช้านาน
เมื่อได้ลงนามแล้ว จิตวิญญาณของพวกเขาจะสามารถขอพรจากภูติได้ทุกครั้งตามแต่ที่ตนต้องการ ผู้สูงศักดิ์บางคนพยายามอย่างหนักเพื่อเติมเต็มคำขอของตนเอง เมื่อบรรลุคำขอพรแล้วพวกเขามักจะตัดการเชื่อมจิตไปเสีย ทว่าฉันไม่ได้ทำเช่นนั้น
โชคดีที่การทำสัญญากับภูติประจำตัวของฉัน คำขอของพวกภูติมิได้ยากที่จะบรรลุนัก ดังนั้นฉันจึงมีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเทวภูติ
“รอนย่า… หลานต้องการให้ปู่ช่วยหรือ?” ท่านปู่เริ่มพูดพร้อมกับส่งยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาเอียงหัวโดยทันที
ดูเหมือนว่า… เจตจำนงของฉันถูกเปิดเผยเสียแล้ว ฉันตอบท่านปู่อย่างช้า ๆ
“ถ้าหาก… การหมั้นหมายของหลานกับชไนเดอร์ถูกยกเลิก… หลานถูกไล่ออกจากสถาบันและคฤหาสน์ของตระกูล ท่านปู่จะโกรธหลานหรือไม่เจ้าคะ?” ฉันวางมือทั้งสองลงบนตักของท่าน และพูดด้วยท่าทีร่าเริงที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ทำไมเล่า… เจ้ากับชไนเดอร์มีปากเสียงกันหรือ?” ท่านปู่มีท่าทีกังวลใจ ฉันจึงตอบท่านด้วยการพยักหน้าอย่างช้า
“บางที… มันอาจแย่ลงไปอีก” ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ตั้งใจพูดออกมา แต่คงไม่มีคำตอบไหนที่ดีกว่านี้แล้ว
“ถึงแม้ว่า หลานจะทำทุกวิถีทางแล้วเพื่อให้ชไนเดอร์รักหลาน แต่หลานก็รู้ดี… เราทั้งสองคนคงไม่จบแบบบริบูรณ์”
ฉันทำทุกอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้ได้รับการยอมรับทั้งจากสถาบันซานคริสเตียนและตัวชไนเดอร์เอง
เพราะคำชื่นชมของชไนเดอร์ฉันจึงสามารถไปต่อได้
เพราะการสนับสนุนของชไนเดอร์ฉันควรอดทนกับทุกสิ่งในตอนนี้
ทว่า…
“ได้โปรดท่านปู่ช่วยหลานด้วย… หลานอยากหนีไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขให้ไกลจากที่นี่” ท่านปู่ลูบหัวฉันที่สูญสิ้นหนทางอย่างอ่อนโยน พร้อมกับพยักหน้า
“รอนย่า ปู่เข้าใจแล้ว” มือที่เหี่ยวย่นของเขาลูบมาที่แก้มของฉันอย่างอ่อนโยน
อืม นี่ช่วยให้ฉันผ่อนคลายขึ้น ท่านปู่รับฟังคำอ้อนวอนของฉัน ท่านเป็นคนเดียวในตระกูลที่รักฉันและฉันสามารถรักตอบได้อย่างบริสุทธิ์ใจ
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านปู่… ข้ารักท่านปู่เหลือเกิน”
จากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของท่านปู่ ฉันได้พบกับบ้านที่แสนวิเศษ มันอยู่ ณ เมืองเล็ก ๆ ที่ห่างไกลเมืองหนึ่ง ฉันนำเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตยกให้แก่ท่านปู่ เพื่อให้ท่านนำไปซื้อบ้านหลังนั้นภายใต้ชื่อของท่าน
ชีวิตการเรียนของฉันยังคงดำเนินต่อไป ฉันเริ่มหาข้อมูลและเรียนรู้การทำร้านกาแฟ รวมไปถึงเรียนรู้วิธีการชงกาแฟและทำอาหาร ในขณะเดียวกัน เฮนเซลชี้แนะแนวทางการทำการค้า และช่วยหาแหล่งวัตถุดิบที่จำเป็นให้แก่ฉัน
“เดี๋ยวนี้เจ้าทำขนมได้หลากหลายรูปแบบและอร่อยอีกด้วย!”
“ขอบใจนะ เฮนเซล”
ในปากของเฮนเซลเต็มไปด้วยครัวซองต์รสน้ำเชื่อมแตงโม พร้อมกับจิบน้ำกาแฟลาเต้หวานน้อย
ในงานเลี้ยงน้ำชามีเฮนเซลคนเดียวที่เข้าร่วม นับตั้งแต่เหตุการณ์แมงมุมอวบอ้วนตกลงมาบนโต๊ะน้ำชา บรรดาลูกสาวของผู้สูงศักดิ์ยุ่งอยู่กับการรับมือและแก้แค้นมิโนซ่า แม้ว่าฉันจะพยายามหยุดการแก้แค้นของพวกเธอ ทว่าฉันก็ทำได้ไม่ดีนัก และที่มากไปกว่านั้น ชไนเดอร์ยังหลบหน้าและคอยอยู่ให้ห่างจากฉัน ซึ่งฉันก็ทำตัวปกติ
ในที่สุด แม้แต่เฮนเซลก็ไม่มางานเลี้ยงน้ำชาเพราะเขาต้องคอยช่วยเหลือการค้าของตระกูล รวมถึงเพื่อนคนอื่นของฉันเช่นกัน เหลือเพียงฉันคนเดียว
นี่เป็นสมาคมเดียวในสถาบันที่ฉันสมัคร และฉันก็สบายใจมากที่ได้จิบชาคนเดียวอย่างสงบสุข ซึ่งในขณะนี้ ชไนเดอร์อยู่กับมิโนซ่า เขาพยายามจะทำให้บรรดาสตรีสูงศักดิ์เหล่านั้นให้หยุดกลั่นแกล้งเธอ พูดได้ว่ามิโนซ่าดูมีความสุขและชไนเดอร์ก็ยิ้มให้เธอจากขั้วหัวใจ ฉันรู้ดีว่าฉันชื่นชอบชไนเดอร์ ทว่าฉันก็ไม่ได้แสดงมันออกไปให้ชไนเดอร์รู้มากเท่ามิโนซ่า รู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่เขาปกป้อง
ขณะที่ฉันนึกถึงอนาคต ฉันเริ่มเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อจากเขาไป ต้นไม้แห่งความรักที่ถูกเลี้ยงดูด้วยความรักจากฝ่ายเดียวมันไม่สามารถเติบโตต่อไปได้ ทว่าต้นไม้แห่งความรักจะแข็งแกร่งมากหากฉันมักจะได้รับกำลังใจที่ดีจากชไนเดอร์ ทว่าฉันไม่เคยทำเช่นนั้นให้เขาเลย จากนั้นฉันได้ตัดสินใจว่าจะจากเขาไป เพื่อความสบายใจของฉันเอง… ฉันและเขาควรจบกันได้แล้ว…
ถึงฉันจะไม่เคยรังแกหรือราวีอะไรมิโนซ่าเลย ทว่ามุมมองของเธอได้มองต่างออกไป เธอคิดว่าฉันร้ายตามในเนื้อเรื่องนิยายที่เคยอ่าน
เมื่อเธอพบว่าบรรดาลูกสาวผู้สูงศักดิ์แก้แค้นเธอเพราะเรื่องแมงมุมตัวนั้น เธอก็ได้ทรมานบรรดาสตรีพวกนั้นอย่างไม่ปรานี แน่นอน… เธอปกปิดสิ่งที่เธอทำมิให้ผู้ใดรู้ การทรมานของมิโนซ่ามิใช่การทำให้เจ็บตัว ทว่าเธอเสกให้บรรดาสตรีพวกนั้นเกิดภาพหลอนเห็นกองทัพแมลงน่ากลัวอยู่บ่อยครั้ง บรรดาสตรีสูงศักดิ์กรีดร้องและหลั่งน้ำตาเพื่อขอความเมตตาจากมิโนซ่า ทว่าเธอไม่แยแสและไม่ยอมหยุดเสกคาถานั้นจนกว่าเธอจะได้คำตอบที่เธอต้องการ
และคำตอบที่บรรดาสตรีพูดออกไปคือ ฉันเป็นคนสั่งให้พวกเธอกลั่นแกล้งมิโนซ่า
เรื่องราวเกิดขึ้นตามแบบเนื้อเรื่องในนิยาย และก็คงไม่แปลกที่มิโนซ่า
สุดท้ายก็ได้มาถึงวันแห่งโชคชะตา
มิโนซ่าเรียกฉันไปยังห้องโถงกลางของสถาบัน และที่นั่นก็เป็นสถานที่กว้างสำหรับใช้ในการรวมตัว
ฉันยืนอยู่ที่ชั้นหนึ่ง มิโนซ่ายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับบรรดาสตรีสูงศักดิ์ที่ยืนรายล้อมฉันและชไนเดอร์อยู่ พื้นที่ว่างทั้งหมดที่ชั้นหนึ่งรวมไปถึงชั้นสองมีบรรดานักเรียนยืนออกันอยู่เพื่อมองเหตุการณ์นี้
ฉันมั่นใจว่าเหตุการณ์เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น
“รอนย่า กาวิเซล่า การกระทำชั่วร้ายของเจ้าขณะนี้ได้ถูกเปิดโปงแล้ว!” มิโนซ่าป่าวประกาศอย่างมั่นใจ
เธอใส่ชุดสีแดงเข้มพร้อมกับจ้องเขม็งมาที่ฉัน
สีแดงเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ เหมือนกับว่าเธอเชื่ออย่างหมดใจว่าเธอมีชัยชนะ
การกระทำอันชั่วร้ายของฉันกำลังถูกมิโนซ่าเปิดโปง แปลว่าในตอนนี้ฉันกำลังจะถูกไล่ออกจากสถาบันและตระกูลกาวิเซล่า แม้ว่านี่จะเป็นการถูกกล่าวหาและไม่เป็นความจริงเลยก็ตาม
ท่านพี่และผู้คนในตระกูลคงตัดขาดจากฉันเมื่อจากตระกูลกาวิเซล่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ฉันเชื่อว่ามิโนซ่า ไม่ได้คิดถึงความสัมพันธ์ระยะยาวกับชไนเดอร์ และเขาก็รู้ตัวเองดี…