ตอนที่ 3 – บทแนะนำ 1
ใครก็ตามที่ปรารถนาอยากเป็นพระเจ้า ก็จงปีนหอคอยขึ้นมา!
* * *
[คุณได้เข้าสู่ชั้นที่ศูนย์ บทแนะนำผู้เริ่มต้น]
ซุ่ม!
ยอนอูขมวดคิ้วเนื่องจากแสงจ้าส่องเข้าตา
ดวงตาเขาพร่ามัว และวิสัยทัศน์ก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง ทั้งรู้สึกเวียนหัวคล้ายกับกำลังขึ้นเครื่องบินที่พุ่งทะยานสูง
[คุณสมบัติ ‘เลือดเย็น’ ช่วยให้คุณสงบนิ่งลง]
เขารู้สึกเวียนหัวเนื่องจากโลกหมุนก่อนหน้านี้ จากนั้นไม่นานอาการก็เริ่มหายไป
ยอนอูมองไปโดยรอบสะดวกสบายมากขึ้น
เขาพบตัวเองอยู่บนทางที่ยาวเป็นเส้นตรง
กำแพงทำจากหินที่แข็งแรง และเพดานถูกปูด้วยหินที่เปล่งแสงประกายระยิบระยับ
แต่โดยรวมแล้ว แสงสลัวเกินไป เขาจึงมองเห็นได้ไกลสุดเพียงสองเมตร
นอกเหนือจากนั้นก็เหลือเพียงความมืดมิด
‘เราเข้ามาแล้วจริง ๆ สินะ’
ยอนอูกำหมัดแน่น มันเป็นฉากเดียวกับที่เขาเห็นจากไดอารี่
หอคอยมีหน้าที่ทั้งเป็นประตูทางผ่าน และบททดสอบให้กับผู้เข้าร่วมที่ต้องการจะเป็นพระเจ้า โดยปกติแล้วหอคอยจะปฏิเสธทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ดังนั้นผู้ทดสอบต้องพิสูจน์ตนเองว่าเหมาะสมมากพอ
สถานที่ที่ใช้ทดสอบนั้นก็คือ โถงแนะนำ หรือมักเรียกกันว่า ‘ชั้นที่ศูนย์’
‘เหนือจากชั้นนี้ ก็จะได้เจอทุกคนที่เคยทำร้ายจองอูแล้วสินะ’
เพียงยอนอูปิดตาลง ภาพทุกฉากในไดอารี่ก็ปรากฏขึ้นทันที ทั้งเหล่าคนที่ทรยศจนทำให้น้องชายเขาต้องตาย
เขาไม่ได้ตื่นเต้นอะไร และควบคุมใจให้เย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้
‘รอกันไปก่อนเถอะ เดี๋ยวเจอกันแน่’
ในการที่จะเข้าสู่หอคอย สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือผ่านบททดสอบแนะนำด้วยคะแนนที่สูงมาก
มันไม่ใช่แค่สูงมากธรรมดา
‘ต้องสูงมากแบบขาดลอย เราต้องเป็นที่หนึ่ง’
แน่นอนว่ามันไม่ง่าย
หอคอยเชื่อมต่อกันหลายมิติ ทั้งโลกและจักรวาล ในสถานที่แห่งนี้มีเพียงคนที่มีความสามารถสูงเท่านั้น ที่จะได้รับโอกาสเข้าร่วมเป็นผู้เล่น
ถ้าเทียบกับคนบนโลก ยอนอูถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งเช่นกัน
แต่ในจักรวาลที่ไร้ขอบเขต และแข็งแกร่งนี้
ยอนอูมีแค่ความสามารถทางกายภาพ และประสาทสัมผัส เมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่นเขายังมีจุดอ่อนเยอะมาก หากยังพยายามผ่านบททดสอบนี้ เขาอาจตายทั้งที่เพิ่งเดินเกมเพียงไม่กี่ก้าว
แต่อย่างไรแล้ว
‘โถงแนะนำคือสถานที่ที่เราจะได้คุณสมบัติเหล่านั้น’
น้องชายเขามีร่างกายที่อ่อนแอมากก่อนที่จะปีนหอคอย ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้พิสูจน์ตนเองโดยการผ่านบททดสอบแนะนำ และจบมันด้วยการอยู่อับดับที่หก ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุดที่เคยมีมา
รอบแนะนำไม่ใช่เพียงการทดสอบทางกายภาพ มันทดสอบทุกความสามารถของผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการตัดสินใจ ว่องไว สติปัญญา และความเด็ดขาด มันจะสรุปผล และจัดอันดับผู้เล่นโดยอัตโนมัติ
ปกติแล้วมีผู้เล่นจำนวนมากตายไปในรอบนี้
พวกเขาส่วนใหญ่ทะเยอทะยานทั้งที่ความสามารถยังน้อยมาก ทั้งยังรีบร้อนเข้าสู่บททดสอบทำให้สุดท้ายต้องจบลงที่ความตาย
โชคดีที่ยอนอูตระหนักถึงอันตรายในรอบแนะนำ และเห็นคุณค่าสถานที่แห่งนี้
‘ชิ้นส่วนลับพบได้ทุกที่ เราต้องรวบรวมมันให้มากที่สุดเพื่อสิ้นสุดการสืบทอดสักที’
ในปัจจุบันร่างมังกรไม่สมบูรณ์ (5%) แสดงอยู่ในหน้าต่างสถานะของยอนอู
ความสำเร็จของน้องชายยังไม่ได้ถ่ายทอดมาให้เขาอย่างสมบูรณ์ ยอนอูจึงตั้งใจจะยกระดับร่างกายตนเองขึ้นให้ได้มากที่สุดเพื่อแทนที่คำว่า ‘ไม่สมบูรณ์’ เป็น ‘สมบูรณ์’
‘เราต้องทำร่างกายให้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้มุ่งเน้นไปที่เรื่องนี้ก่อนละกัน’
หลังจากจัดระเบียบความคิดตนเองเรียบร้อย ยอนอูก็นำหน้ากากสีขาวจากกระเป๋าเป้ขึ้นมาสวมลงใบหน้าอย่างรวดเร็ว
เขาต้องเผชิญหน้ากับผู้คนจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องปิดบังใบหน้าตนเอง แล้วเดินไปตามทางอย่างเชื่องช้า
* * *
ไม่มีใครรู้ว่าเขาเดินมานานเท่าไหร่แล้ว
ทันใดนั้นเอง
“อะ ฮะ ฮ่า ฮ่า แขกรับเชิญในช่วงเวลาเช่นนี้ ผมเกือบจะคลาดกับคุณซะแล้ว”
แสงสีฟ้าเปล่งประกายไปทั่วบริเวณ ประตูขนาดใหญ่เปิดออก แล้วมีใครบางคนหล่นลงมาจากที่นั่น
ด้วยสัญชาตญาณยอนอูถอยหลังกลับอย่างไว และกลับมาในท่าพร้อมสู้โดยถือมีดสั้นสองเล่มไว้ด้านหน้า
เป็นเพราะผู้บุกรุกที่ปรากฏตัวขึ้นมาแปลกประหลาด และกะทันหัน
มันสูงเท่าเอวเขา ผิวมันทั้งสกปรกชวนดูน่าขนลุก ตามันยาวและเอียง โดยเฉพาะเขี้ยวที่ยื่นออกมาจากริมฝีปากที่หนาของมันช่างแหลมคมยิ่งนัก
สายตามันทำให้เขารู้สึกรังเกียจ
อสุรกาย
มันคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าก็อบลิน
แต่มันก็ทำให้ยอนอูประทับใจที่มันดูแตกต่างจากก็อบลินที่เห็นในไดอารี่
เพราะก็อบลินปกติทั่วไปมักจะมีสติปัญญาต่ำ และทำตามแค่สัญชาตญาณของตนเองเท่านั้น แต่ก็อบลินที่อยู่ต่อหน้าเขาสวมแว่นตาข้างเดียว พร้อมกับชุดทักซิโด้ที่ดูดี
ความสุภาพของเขาทำให้บรรยากาศดูสง่างาม
“ไม่ว่าผมจะเป็นคนใจกว้างมากแค่ไหน แต่การที่คุณแสดงท่าทางแบบนั้น มันกำลังทำร้ายความรู้สึกผมอยู่นะ ทำไมคุณไม่วางมีดลงก่อนละครับ?”
ตรงกันข้ามกับคำพูดเขา ก็อบลินยิ้มอย่างยินดี และกะพริบตาข้างเดียว
จากนั้นยอนอูจึงทราบว่าก็อบลินที่อยู่ตรงหน้าเขาคือใคร
‘ผู้พิทักษ์’
พวกเขาคือผู้จัดการที่คอยดูแล และทดสอบของแต่ละชั้นในหอคอย
“สวัสดีครับ ผมคือผู้พิทักษ์ชั้นศูนย์ ชื่อยูกิครับ คงเป็นโชคชะตากำหนดถึงทำให้เราได้พบกันเช่นนี้ ทำไมคุณถึงดูไม่ยินดีเอาซะเลย? ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ยอนอูลดมีดทั้งสองลง
ผู้พิทักษ์ในหอคอยนี้ คือผู้ชี้นำทางให้ผู้เล่นตลอดบททดสอบ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องระแวงเขา
“โฮ่ว คุณเชื่อใจผมงั้นเหรอ?”
“ก็เพราะการทำตามคำแนะนำของผู้พิทักษ์เป็นความคิดที่ดี ถึงแม้มันจะฟังไม่ค่อยเข้าหูก็ตาม”
“โอ้! แหม ดูเหมือนคุณจะรู้เรื่องผมซะด้วยนะเนี่ย แต่ถ้าให้ผมเดา ว่าการที่คุณสวมหน้ากากแบบนี้คงเป็นคนขี้อายสินะ งั้นเราคงพูดคุยกันง่ายหน่อย”
ยูกิเริ่มอธิบายด้วยมุกตลกเล็กน้อย
“บทแนะนำจะถูกแบ่งออกเป็นเจ็ดด่าน จาก A ถึง F ในแต่ละด่านจะมีสภาพแวดล้อม และความท้าทายแตกต่างกันไป ส่วนคะแนนที่คุณจะได้รับนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการที่คุณใช้ผ่านด่านท้าทายภายในเวลาที่กำหนดครับ ช่วงท้ายของบทแนะนำ คะแนนทั้งหมดจะถูกรวบรวม และประกาศผลครับท่าน”
ต้องขอบคุณไดอารี่ ที่ทำให้ยอนอูพอรู้กฎมาบ้างแล้ว
แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการดึงดูดความสนใจจากผู้พิทักษ์มากเกินไป และเพื่อยืนยันกฎที่รู้ เขาจึงเอ่ยถาม
“ผมต้องผ่านทั้งเจ็ดด่านเลยงั้นเหรอครับ?”
“ไม่จำเป็นครับ โถงแนะนำเป็นเพียงสถานที่ที่คุณต้องพิสูจน์ตัวเองว่ามีคุณสมบัติพื้นฐานแค่นั้น ถ้าคุณคิดว่าตนเองมีคะแนนสูงมากพอแล้ว ก็สามารถหยุดได้เลย แต่มันจะดีกว่านะ หากผ่านทุกการทดสอบ เพราะคะแนนก็จะได้เพิ่มขึ้นมากด้วยครับ”
“แล้วการที่มีคะแนนสูงจะมีประโยชน์อะไรครับ?”
“ผู้เล่นจะได้รับรางวัลที่ดีขึ้นตามคะแนนของพวกเขาครับ ถ้าผู้เล่นมีแรงจริงใจ มันคงให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ใช่ไหม? แต่หอคอยและผู้พิทักษ์เองก็ระเบียบรอบคอบมากเหมือนกันนะครับ ฮึ ฮึ ฮึ ฮึ ”
“รอบแนะนำใช้เวลานานแค่ไหน?”
“ผู้เล่นจะได้รับเวลาสามสิบวัน ส่วนวิธีการจัดสรรเวลาที่ใช้ในแต่ละด่าน ก็แล้วแต่ผู้เล่นเลยครับ แต่ว่า…”
ยูกิยิ้มพร้อมกับขยับแว่น