px

เรื่อง : ข้ามเวลาล่าฝัน!
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 7 ตอนที่ 1


ตอนนั้นเองที่มารุเห็นว่าสมาชิกชมรมการแสดงทั้งสามคนหันไปมองที่คนดั้งแหมบ ราวกับว่าพวกเขานั้นตั้งใจฟังทุกคำพูดของเด็กหนุ่ม ใครจะไปคิดล่ะว่าเด็กคนหนึ่งจะสามารถทำให้เพื่อนของตัวเองมีท่าทีแบบนี้ได้

 

 ‘เขาอาจจะมีบทบาทสำคัญในชมรมกว่าผู้หญิงคนที่สองนั่นก็ได้’ มารุคิดในใจ

 

คนพวกนี้ดูน่าสนใจจริง ๆ คนดั้งแหมบนั้นดูท่าทีจะเป็นคนที่ชอบมองการณ์ไกล แต่ทำไมคนแบบนั้นถึงได้มาเป็นผู้กับกำเวทีล่ะ? เขาเองก็น่าจะมีเรื่องของตัวเองเหมือนกัน และด้วยจำนวนคนในชมรมแค่ 4 คน มันคงเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยน แม้ว่าพวกเขาจะอยากสับเปลี่ยนตำแหน่งกัน

 

 “เพราะงั้นมาลองดูก่อนนะ เดี๋ยวจะอธิบายอะไรต่าง ๆ ให้ฟังอีกที” เด็กหนุ่มกล่าว

 

ทั้งสี่คนโค้งตัวลงขอบคุณ น่าเสียดายที่คนในห้องดูไม่ค่อยจะสนใจชมรมนี้เลย

 

 “ไม่ใช่ทางว่ะ” เด็กคนหนึ่งกล่าวหลังทั้งสี่เดินออกจากห้องไป

 

 “มันจะยากขนาดไหนกัน? ถึงขนาดที่มาเตือนตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าแบบนี้น่ะ”

 

 “ขอของง่าย ๆ ดีกว่า”

 

ดูเหมือนว่าคนทั้งสี่จะไม่สามารถดึงความสนใจของใครไปได้ และเมื่อมารุหันไปดู เขาก็เห็นว่าทั้งสี่คนกำลังพยายามให้กำลังใจกันเองอยู่ พวกเขาคงคิดจะทำแบบนี้ไปให้ครบทุกห้อง

 

“ว่าไง มารุ” โดจินถาม มารุหันมามองที่หน้าเพื่อนของตัวเอง

 

 “ว่า?”

 

 “ดูน่าสนุกดีนะ ว่าไหม?”

 

 “ชมรมการแสดงอะนะ?”

 

 “ใช่”

 

 “จะเข้าเหรอ?”

 

 “ยังไม่รู้ว่ะ…”

 

ขณะที่โดจินกำลังจะพูดต่อ ครูภาษาอังกฤษของพวกเขาก็เคาะที่กระดานหน้าห้องเบา ๆ

 

 “เอาล่ะ ๆ ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง เปิดไปหน้า 15 วันนี้วันที่เท่าไหร่นะ?”

 

 “วันที่ 11 ครับครู”

 

 “งั้นเลขที่ 11 ยืนขึ้นอ่านบรรทัดแรก”

 

การเรียนการสอนดำเนิดต่อไป โดจินเองก็รีบปิดปากเงียบทันทีและหันไปสนใจการเรียนแทน มารุเหลือบสายตาไปมองที่รายชื่อชมรมที่ด้านหน้า ‘ชมรมการแสดง’ ตัวอักษรอื่น ๆ ในกระดาษค่อย ๆ เล็กลง ๆ จนจางหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงคำว่า ‘ชมรมการแสดง’

 

‘ชมรมการแสดง’ มารุครุ่นคิด

 

รายชื่อนั้นอยู่ติดกับชมรมวิจารณ์ภาพยนตร์ ชมรมที่ถ้าเข้าไปแล้วเขาคงได้มีชีวิตสบาย ๆ

 

 ‘สบาย ๆ’ สบาย เขาพูดคำเดิมซ้ำ ๆ กับตัวเอง ชีวิตในวัย 45 ปีของเขาเป็นยังไงกันนะ? คำถามเดิมผุดขึ้นมาในหัวของเขา เขาอยากจะใช้ชีวิตนี้ยังไง?

 

 “…สนุก” คำตอบหลุดออกมาจากปากของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว

* * *

 

 ‘ดูสภาพอย่างกับซอมบี้’ มารุคิดหลังเห็นสภาพห้องในตอนนี้

 

สภาพของห้องเรียนในคาบเรียนที่ 5 นั้น ราวกับว่าพวกเขาเป็นเหล่าซอมบี้ที่พยายามจะลืมตาตื่นไว้ สมเป็นวิชาภาษาอังกฤษ ช่างแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่ายานอนหลับใด ๆ

 

 “ไง มารุ อยากลองไปดูชมรมการแสดงปะ?” โดจินถาม

 

 “หมายถึงห้องชมรมเขาน่ะเหรอ?”

 

 “พวกนั้นบอกว่าจะไปดูก็ได้ใช่ไหมล่ะ? แกเองก็บอกว่ายังไม่ได้เลือกชมรมนี่?”

 

 “ใช่”

 

 “งั้นก็ลองไปกันดู”

 

โดจินมีท่าทีที่ค่อนข้างตื่นเต้น หรือเอาจริง ๆ เขาอาจจะตื่นเต้นมากก็ได้

 

 [เยี่ยม ขอบใจว่ะมารุ ทีนี้ก็ไม่ต้องไปคนเดียวแล้ว]

 

กล่องคำพูดลอยขึ้นบนหัวของโดจิน ก่อนจะหายวับไป

 

 “งั้นไว้ไปหลังเลิกเรียน” มารุบอก

 

 “ได้”

 

โดจินกำลังฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ ส่วนมารุนั้นเริ่มเข้าใจวิธีการทำงานของเจ้ากล่องคำพูดแล้ว

 

 ‘ต้องมองตาก่อน’

 

เขามักจะมองเห็นกล่องคำพูดหลังจากสบตากับคนอื่นเข้า เรื่องนี้น่าจะเป็นเงื่อนไขข้อแรก อย่างที่สอง คน ๆ นั้นต้องกำลังคิดถึงเขาหรืออย่างน้อย ๆ ก็เรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะความคิดของโดจินที่เขาเห็น ก็เป็นความคิดที่มีต่อเขา

 

 ‘ตอนเดมยังก็เหมือนกัน’ มารุนึกขึ้นได้

 

มารุเรียกโดจิน และจ้องเข้าไปในดวงตาของเขา โดจินดูจะงงอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้หันหน้าหนีไป หลังผ่านไปได้ประมาณ 10 วินาที…

 

 “มีไร?” โดจินถาม

 

 “เปล่า” มารุกล่าว พร้อมกับเอามือมาค้ำไว้ที่คางตัวเอง

 

โดจินคงกำลังคิดอะไรอยู่แน่ ๆ ประมาณว่า ‘อะไรของมัน?’ แต่คำพูดแบบนั้นกลับไม่ปรากฏออกมา

 

 “นี่โดจิน”

 

 “ว่า?”

 

 “ตอนที่ฉันมองอยู่แกคิดอะไรบ้างปะ?”

 

เด็กหนุ่มทำหน้างงกับคำถามนั้น แต่ก็ส่ายหัว

 

 “ไม่นะ จะไปคิดเรื่องอะไรล่ะ?”

 

อ่า ในที่สุดมารุก็เข้าใจ เพราะเพื่อนกันคงไม่คิดอะไรประมาณว่า ‘อะไรของไอ้เด็กนี่’ ใส่กันหรอก ไม่สิ เดิมทีแล้วคนเราเวลาใช้ชีวิตปกติคงไม่ได้คิดอะไรมากมายอยู่แล้ว มารุก้มลงมองที่มือของตัวเอง เขากำลังเล่นปากกาแดงอยู่ และแน่นอนว่าเขาคงไม่ได้คิดออกมาว่า ‘มาเล่นปากกานี้กันเถอะ’ หรอก เขาแค่ทำแบบนี้เพราะมันติดเป็นนิสัย

 

 “นี่ โดจิน” เขาถาม

 

 “ว่าไง?”

 

 “ลุกหน่อยดิ”

 

“อะไรของเอ็งวะ?” โดจินถาม แต่ก็ยังลุกขึ้นตามคำขอ

 

 “เมื่อกี้คิดอะไรปะ?”

 

 “คิดอะไร? ก็แค่ยืน”

 

 “เนอะ?”

 

 “อะไรวะ โกรธเรื่อง MP3 ปะเนี่ย?”

 

มารุหันไปมองโดจิน แต่ก็ไม่มีกล่องคำพูดออกมา หรือมันมีเงื่อนไขอย่างอื่นด้วย?

 

 [อ่า มันคงลำบากอยู่เหมือนกันสิเนี่ย อือ สงสัยต้องไปบอกแม่แล้ว]

 

กล่องคำพูดลอยขึ้นมา ทำให้มารุได้ข้อสรุปทันทีว่ากล่องคำพูดจะออกมาเมื่อคน ๆ นั้นคิดถึงเรื่องอะไรที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น

 

 “ไม่ต้องไปบอกแม่แกหรอก ฉันไม่เป็นไร” มารุตอบกลับ

 

 “ไม่ แต่ถ้ายังมอง… ด-เดี๋ยวนะ หะ? ทำไมแก…”

 

 “ทำไมถึงรู้? แค่เดาน่า”

 

 “…ความคิดฉันมันออกนอกหน้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

 “ไม่ต้องคิดมาก จะว่าไปขอลูกอมหน่อยดิ เรื่อง MP3 น่ะ ช่างมันเถอะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าแกยังคิดถึงมันอยู่อีก”

 

 “พ่อฉันสอนมาว่าถ้าอยากให้ความสำคัญกับใคร ก็ต้องปฏิบัติกับเขาด้วยความเคารพ แกน่ะเพื่อนฉัน แกสมควรได้รับมัน” โดจินพูดพลางโยนลูกอมมาให้

 

มารุรับไว้พร้อมรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าโดจินจะมีพ่อที่ดี เพราะตัวเขาเองก็เห็นด้วยกับคำพูดนั้นอย่างสุดใจ ยิ่งเห็นค่าในตัวใครมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งต้องเคารพเขาให้มากขึ้นเท่านั้น

 

 “ประโยคดี” เขากล่าว

 

 “ใช่เลย ยังไงก็เถอะ จะไปไหมเนี่ยชมรมการแสดงน่ะ?”

 

 “ไปสิ”

รีวิวผู้อ่าน